ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวและภาพหลุดของโทรศัพท์มือถือจาก Dell ออกมาบ้างแล้ว รอบล่าสุดมาจากเว็บไซต์ Boy Genius Report เช่นเคย เป็นมือถือที่มีรหัสว่า Benzine และจะออกวางจำหน่ายที่ประเทศจีนในเร็วๆ นี้

สเปก

ระยะหลังๆ นี้ผู้ใช้โน้ตบุ๊กบ้านเราอาจจะรู้สึกว่าเอเซอร์ดูดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสินค้าในตระกูล Timeline นั้นดูบางดีเหลือเกิน แต่ผู้ผลิตรายอื่นๆ อย่างเดลล์เองก็พัฒนาสินค้าในตระกูลนี้มาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้ผลผลิตออกมาเป็น Inspiron Z แล้วในวันนี้

Inspiron Z จะมีจอขนาด 11.6 นิ้ว และใช้ซีพียูในตระกูล CULV ในตอนนี้ยังไม่มีสเปคอื่นๆ เพิ่มเติมเข้ามา แต่คงไม่ต่างไปจากเครื่องยี่ห้ออื่นๆ ที่ใช้ชิป CULV นัก

ที่มา - Engadget

หลังจากที่เดลล์ออกมาประกาศว่าจะเลิกวางจำหน่ายเน็ตบุ๊ครุ่นแรกของบริษัทตั้งแต่ปีที่แล้ว ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเดลล์จะเปลี่ยนใจซะแล้ว หลังจากที่พบว่า Dell Mini 9 กลับเข้ามาอยู่ในรายการผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์เดลล์อีกครั้ง

โดยมีราคาเริ่มต้นเท่าเดิมคือ $299 (ประมาณ 10,000) บาท และสามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้อีก

เพิ่มเติม : เน็ตบุ๊ครุ่นนี้สามารถลง OSX ได้อย่างสมบูรณ์ จึงทำให้ได้รับความนิยมมากเลยทีเดียว (เพราะตอนนี้แอปเปิลยังไม่ออกเน็ตบุ๊ค lol)

ที่มา - Engadget

ข่าวไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่แต่เห็นว่าเป็นของบริษัทเดียวกันเลยเอามาลงคู่เลย

หลายๆ คนน่าจะจำชื่อของ Adamo โน้ตบุ๊กหรูจาก Dell ได้ (ข่าวเก่า: Dell เตรียมออกโน้ตบุ๊ครุ่นหรู Adamo, Adamo by Dell มาแล้ว)

วันนี้ Dell ได้ลดราคาของ Adamo ลงมา โดย Adamo รุ่นล่างที่มีชื่อรุ่นย่อยว่า Admire สเปกคือ Core 2 Duo 1.2GHz, แรม 2GB, SSD 128GB ราคาลงมาอยู่ที่ 1,499 ดอลลาร์ เท่ากับราคาของ MacBook Air รุ่นล่าง (ซีพียูดีกว่าเป็น 1.83GHz, แรมเท่ากัน, ไม่มี SSD แต่ได้ฮาร์ดดิสก์ 120GB มาแทน)

IDC เปิดตัวเลขยอดขายพีซีประจำไตรมาสที่สองของปี 2009 เอาเฉพาะยอดขายในสหรัฐก่อน

• ยอดขายรวมหดตัว 3.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2008 ขายได้ทั้งหมด 15.9 ล้านเครื่อง
• เบอร์สอง HP มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจากเดิม 24.7% ในปีก่อน เป็น 26.0% ในปีนี้
• Dell แชมป์เก่า จากเดิมส่วนแบ่งตลาด 31.4% ยอดหดไปราวๆ 1 ล้านเครื่อง ลงมาเหลือ 26.3% ยังเป็นแชมป์อยู่แต่ใกล้โดน HP แซงแล้ว
• Acer อันดับสามเดิม โตขึ้นจาก 8.1% มาเป็น 12.6% ส่วนอันดับสี่ Toshiba เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
• Apple อันดับห้า เดิมมีส่วนแบ่ง 8.5% มาปีนี้ขายได้น้อยลง 1.7 แสนเครื่อง ลงมาเหลือ 7.6% อันดับตกมาอยู่ที่ห้า

ยอดขายทั่วโลกเป็นดังนี้

หลังจากที่ชดใช้กรณีการตั้งราคาจอ 19 นิ้วผิดพลาดด้วยการให้คูปองลดราคา 1,000 ดอลลาร์ไต้หวันแก่ผู้ซื้อไปแล้ว เดลล์จึงจัดการปิดบริการสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์เดลล์ไต้หวันไปด้วย จนกว่าจะจัดการเรื่องนี้เรียบร้อย

โดยก่อนหน้านี้เดลล์เคยลงราคาผิดที่ไต้หวันมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งก็คือโน้ตบุ๊ค E4300 และเดลล์ได้ทำการแก้ไขโดยการจัดส่งคูปองส่วนลดราคา 20,000 ดอลลาร์ไต้หวันให้กับผู้ที่สั่งสินค้าที่ลงราคาผิด

งานนี้ไม่รู้ว่าคนที่ลงราคาผิดยังลอยนวลอยู่ไหม แต่การแก้ไขปัญหาของเดลล์ถือว่าสมเหตุสมผลดีแล้ว (ว่าไหม?)

ที่มา : Engadget

เมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมาทางเว็บเดลล์ได้ประกาศราคาจอ LCD ขนาด 19 นิ้วผิดพลาด ทำให้ราคาที่ควรจะอยู่ที่ 4800 ดอลลาร์ไต้หวันนั้นเหลือเพียง 500 ดอลลาร์ไต้หวันเท่านั้น

ข่าวที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วทำให้มีผู้สั่งจอในราคาดังกล่าวไปแล้วกว่า 26,000 คน รวมเป็นกว่า 140,000 จอภายในเวลาเพียง 8 ชั่วโมง โดยไม่มีความชัดเจนว่าเดลล์มีความตั้งใจขายสินค้าตามราคาที่แจ้งผิดพลาดไว้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคถึงกว่า 400 รายการจนต้องมีการออกมาเตือนให้เดลล์เคารพสิทธิของลูกค้าเช่นนี้

ทางคณะกรรมการแนะนำให้เดลล์ขายจอภาพให้กับลูกค้าทุกคนอย่างน้อยคนละหนึ่งจอในราคาที่ประกาศไว้ ส่วนคนที่ซื้อมากกว่าหนึ่งจอนั้นให้มีการชดเชยอย่างสมเหตุสมผล

Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวจากภายในบริษัท Dell ว่าทีมวิศวกรกำลังพัฒนา "อุปกรณ์พกพาสำหรับเล่นเน็ต" (ต้นฉบับใช้คำว่า pocket-sized device for tapping into the Internet)

ข้อมูลที่มีตอนนี้คือ

• ใช้ระบบปฏิบัติการ Android
• ขนาดใหญ่กว่า iPod touch เล็กน้อย ใกล้เคียงกับ iPhone แต่ไม่มีฟังก์ชันการโทรศัพท์
• อาจวางขายภายในสิ้นปีนี้ หรืออาจจะถูกยกเลิกโครงการไปเลยถ้าไม่เวิร์ค
• อาจจะใช้ซีพียูตระกูล ARM
• เริ่มพัฒนาโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2008 โดยโยกจากทีมที่เคยพัฒนาเครื่องเล่น MP3 เดิม

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า Dell กำลังพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ใช้ Android อีกเช่นกัน

เรารู้กันดีว่าไต้หวันเป็นศูนย์กลางการผลิตในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โลก (งานประชุมประจำปีของอินเทลยังต้องไปจัดที่ไต้หวันเลย) อย่างไรก็ตาม การผลิตส่วนมากเป็น OEM คือแปะตราแบรนด์อื่น ซึ่งผู้ผลิตชาวไต้หวันก็พบปัญหาว่าโดนกดราคาจากนายจ้างอย่าง HP, Dell และแอปเปิล

มีรูปภาพรูปหนึ่งซึ่งเบลอมากๆ แต่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นโทรศัพท์ ที่สำคัญคืออินเตอร์เฟซและตรายี่ห้อของโทรศัพท์เครื่องนั้น บ่งชี้ว่าเป็นโทรศัพท์ที่ใช้ระบบแอนดรอย์เครื่องแรกของเดลล์

แม้ว่าก่อนหน้านี้เดลล์จะมีการทดลองรันแอนดรอยลงบนเน็ตบุ๊คของตัวเองแล้ว แต่จากข้อความที่ทิ้งไว้ของคุณ mk

Dell ยังไม่เคยประกาศอะไรอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ Android เลย แต่นี่เป็นการบอกใบ้อะไรเรารึเปล่า?

ทำให้คิดได้ว่าการทดลองครั้งนั้นอาจจะการเช็กระบบแอนดรอยด์ก่อนนำมาใช้จริงในโทรศัพท์ก็ได้

ตัวอย่างที่เด่นชัดอันหนึ่งของการนำ Twitter มาส่งเสริมการขาย เมื่อกลางปี 2007 Stefanie Nelson พนักงานของ Dell ผู้รับผิดชอบโครงการ Dell Outlet (ขายคอมมือสองของ Dell เอง โดยรับประกันเท่ากับของมือหนึ่ง) ได้รู้จักกับ Twitter เป็นครั้งแรก เธอเริ่มใช้ Twitter กับ Dell Outlet (@DellOutlet) และมีคนติดตามพอสมควร

หลังจากที่ Dell ซื้อกิจการ Alienware เมื่อปี 2006 ก็มีข้อสงสัยกันมานานว่า ตลาดที่ซ้อนทับกันของ XPS กับ Alienware จะเป็นอย่างไร เวลาผ่านมาสามปีกว่า ตอนนี้มีคำตอบแล้วว่าจะเหลือแต่ Alienware เท่านั้น

Alienware จะเริ่มขยายตัวโดยเพิ่มประเทศที่ทำตลาดจาก 6 เป็น 35 ประเทศ (ซึ่งถ้าใช้ช่องทางการจำหน่ายของ Dell ที่มีอยู่แล้วก็คงไม่ยากอะไรนัก) และในงาน E3 สัปดาห์หน้า Alienware จะออก M17x โน้ตบุ๊กสำหรับเกมเมอร์ซึ่งมีสเปกดังนี้

เจ้าของแล็ปท็อปยี่ห้อ แอปเปิล, เดลล์, เอชพี ได้รวมตัวกันฟ้องบริษัท NVIDIA ในข้อหาละเมิดสิทธิ์กฏหมายคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องจากมีผู้ที่ซื้อคอมพิวเตอร์ของ แอปเปิล, เดลล์, เอชพี ไปใช้งานและได้รับความเสียหายอันเกิดเนื่องมาจากการ์ดจอซึ่งเป็นชิพเซ็ตของ NVIDIA ผู้เสียหายบางรายที่ซื้อ MacBook Proไปแจ้งว่าหลังจากที่ใช้งานไปซักพักคอมพิวเตอร์จะร้อนมาก และในบางครั้งจะชัทดาวน์ โดยไม่มีการเตือนหรือบางครั้งหน้าจอจะแสดงสีเทา หรือสีดำ

ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีความต้องการจากทุกสารทิศ ทำให้แรงผลิตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดปัญหาขยะตามมา ทางเดลล์จึงได้ตามเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการรีไซเคิลอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

ซึ่งผลการสำรวจพบว่าประเทศในกลุ่มสหราชอาณาจักรฯมีอัตราของผู้ที่ไม่นำอุปกรณ์ไปรีไซเคิลเกือบร้อยละ 50 ซึ่งหากนำไปเปรียบเทียบกับชาวเยอรมันแล้ว จะมากกว่าถึงร้อยละ 80

โดยในประเทศของกลุ่มสหราชอาณาจักรฯนั้น ประเทศที่มีอัตราสูงที่สุดคือแคว้นเวลส์ที่มีอัตราการไม่รีไซเคิลสูงถึงเกือบร้อยละ 20 และถ้าหากว่านำปริมาณขยะอิเล็กโทรนิกส์เหล่านี้มารวมกันจะพบว่ามีขนาดถึง 6 เท่าของสนามฟุตบอลเวมบลีย์

นอกจากที่เดลล์ทำการสำรวจแล้ว ทาง O2 ก็ได้สำรวจอุปกรณ์ที่ใช้ตามครัวเรือนโดยเฉลี่ยซึ่งมีรายงานดังนี้

วิศวกรของ Dell โชว์เครื่องเน็ตบุ๊ก Mini 10v ที่เพิ่งออกล่าสุด รันระบบปฏิบัติการลินุกซ์ 3 ตัว ได้แก่ Ubuntu รุ่นปกติที่เพิ่มอินเทอร์เฟซพิเศษลงไปอีกเล็กน้อย (ซึ่งมากับโน้ตบุ๊กของ Dell รุ่นที่ใช้ลินุกซ์อยู่แล้ว), Ubuntu Netbook Remix และที่สำคัญ Android Cupcake

วิดีโออันนี้ถูกโพสต์ลงในบล็อกอย่างเป็นทางการของ Dell คือ Direct2Dell ในวิดีโอบอกว่า Android นั้นมีขนาดเล็กและทำงานได้รวดเร็ว ส่วนในบล็อกเขียนว่าการปรับแต่งให้ Android ใช้งานเน็ตเวิร์คและเบราว์เซอร์ทำได้ไม่ยากนัก

Dell ออกเน็ตบุ๊ก Latitude 2100 มาจับตลาดนักเรียนประถม-มัธยมโดยเฉพาะ สเปกมีดังนี้

• Atom N270 (1.60 GHz)
• จอภาพ 10.1" WSVGA (1280 x 576) เลือกเป็นจอทัชสกรีนเพิ่มได้
• ใส่แรมได้สูงสุด 2GB เลือกเป็น SSD หรือฮาร์ดดิสก์
• Gigabit Ethernet, Wi-Fi n, Bluetooth
• USB x3, SD reader, กล้องเลือกเพิ่มได้ต่างหาก
• ระบบปฏิบัติการมี Vista Home Basic SP1, XP SP3 ผ่านการดาวน์เกรด และ Ubuntu 8.10 ให้เลือก
• หนัก 1.32 kg (ใส่แบต 3 เซลล์)

จุดขายของรุ่นนี้ได้แก่

กระแสการใช้ซีพียูความเร็วต่ำจำนวนมากในเซิร์ฟเวอร์ตัวเดียวนั้นเริ่มมาจากโครงการ Molecule ของบริษัท SGI แต่ก็เงียบไปเนื่องจากฐานะทางการเงินของบริษัทที่ย่ำแย่ แต่ล่าสุดทางเดลล์ก็เตรียมจะวางตลาดเซิร์ฟเวอร์แบบเดียวกันในชื่อว่า Dell DCS

Dell DCS นั้นเป็นการออกแบบเซิร์ฟเวอร์ให้เป็นโมดูลขนาดเล็กพอๆ กับดิสก์ 3.5 นิ้ว ทำให้ตัวถังขนาด 2U นั้นสามารถใส่เครื่องได้ถึง 12 เครื่อง

ตัวเครื่องแต่ละเครื่องนั้นมีสเปคดังนี้

ตอนเก่า: รีวิว Dell Studio 1555 ตอนที่หนึ่ง

ต่อจาก Dell Studio 1535 (ตอนที่ 1, ตอนที่ 2) เรามาดู Studio 15" อีกรุ่นที่โตขึ้นมาอีกนิด (นิดจริงๆ) นั่นคือ Dell Studio 1555

ตอนเก่า: รีวิว Dell Studio 1535 ตอนที่ 1

วันนี้ Dell ได้วางขาย Dell Inspiron Mini 10 แล้วในประเทศญี่ปุ่นด้วย แยกออกเป็นสองรุ่นคือรุ่นที่มี Office 2007 ติดมาด้วยอยู่ที่ราคา 64,980 เยน หรือประมาณ 23,400บาท และรุ่นที่ไม่มี Office Personal 2007 ราคา 49,980 เยน หรือประมาณ 18,000 บาท โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ Windows XP Home Edition Service Pack 3 ครับ

ที่มา - Dell Japan

เป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊กที่ Dell ประเทศไทยส่งมาให้รีวิวนะครับ จริงๆ ผมอยากได้ Mini 12 มาลองเล่นเหมือนกันแต่ว่าช้า... T_T เลยอดไป ได้ Dell Studio 15 สองตัวมาทดสอบแทน

เว็บไซต์ Notebooknews.de ของเยอรมนีได้เปิดเผย "สไลด์หลุด" ของ Dell เกี่ยวกับแผนการเน็ตบุ๊กที่จะวางขายในปีนี้

เน็ตบุ๊กในสไลด์ของ Dell มี 3 รุ่นได้แก่ Mini 1010v รหัส Bear, Mini 1010 รหัส Tiger และ Mini 1110 รหัส Argos ซึ่งความน่าสนใจก็อยู่ที่ตัวหลังสุดที่พอเดาได้จากเลขรุ่นว่าหมายถึงหน้าจอ 11"

สเปกของ Argos เท่าที่ระบุในสไลด์

• "Very thin and light"
• "Laptop like performance and keyboard"
• จอ 11.6"
• ฮาร์ดดิสก์ 250GB
• แรม 2GB
• Windows Vista
• ราคาเริ่มต้นที่ 499 ดอลลาร์ (17,000 บาท)

มีภาพเล็กๆ ให้ดูตามสไลด์อันนี้

หลังจากที่ซีอีโอของสองบริษัทนี้ได้ทำการพูดแขวะกันมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าพิษของเศรษฐกิจโลกทำให้ทั้งสองบริษัทอาจจะต้องหันหน้าเข้ามาดีกันจนได้ โดยต่อไปนี้บริษัท Dell จะเริ่มวางขายคอมพิวเตอร์่ส่วนตัวที่ทำการติดตั้ง Mac OS X ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป

นอกจากสิทธิในการติดตั้งและการขายคอมพิวเตอร์พร้อมกับ Mac OS X แล้ว แอปเปิลยังให้สิทธิ (เชิงบังคับ) ว่าคอมพิวเตอร์ที่ทำการติดตั้ง Mac OS X ของ Dell จะต้องทำการตลาดโดยใช้ชื่อว่า Mac หรือ MacBook อีกด้วย ซึ่งหมายความว่า Dell มีสิทธิขาย Mac แล้วนั่นเอง!

จากเว็บไซท์ของ Dell จะมีโน้ตบุคสามรุ่นแรกที่พร้อมวางจำหน่ายภายในเดือนมิถุนายนคือ MacBook Inspiron, MacBook Studio และ MacBook XPS

พอดีทางเดลล์ส่งคอมพิวเตอร์มาให้ผมทดสอบอยู่สี่ห้ารุ่นนะครับ หนึ่งในนั้นคือ Dell Mini 12 ผมเลยไม่ลังเลที่จะหยิบมันมาทดสอบเป็นเครื่องแรก ว่าแล้วก็เอาเลย