สงครามน้ำลายยังคงมีต่อเนื่องเมื่อ Andy Lark หัวหน้าฝ่ายการตลาดของกลุ่มสินค้าองค์กรขนาดใหญ่แห่งเดลล์บอกว่า ถึงแม้ iPad จะประสบความสำเร็จในตอนนี้แค่ไหน แต่มันจะล้มเหลวอย่างหนักกับตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร เขากล่าวว่าในระยะยาวนั้นระบบเปิด ยืดหยุ่น และมีราคาเหมาะสมจะเป็นผู้ชนะ ไม่ใช่ระบบปิด ขายแพง และมีความเฉพาะตัวอย่างที่แอปเปิลกำลังอยู่ตอนนี้ Lark ยอมรับว่าแอปเปิลทำได้ดีในตอนนี้ มีสินค้าที่ดี แต่จะเห็นว่าแอปเปิลก็กำลังถูกท้าทายหนักขึ้นเรื่อยๆจาก Android

กระแสเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก (microserver) ยังคงเป็นกระแสที่เริ่มได้รับความสนใจจากแบรนด์หลักอย่าง Dell เมื่อมีการเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ตระกูล Dell PowerEdge C ที่สามารถรองรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กได้ 12 เครื่องในตัวถังขนาด 3U

เครื่องที่เปิดตัวมาชุดแรกมีสองรุ่นคือ C5125 ที่ใช้ซีพียู AMD และ C5220 ที่ใช้ซีพียูอินเทล โดยเซิร์ฟเวอร์แต่ละตัวจะรองรับ UDIMMS 4 ช่อง, ฮาร์ดดิสก์แบบ 3.5" 2 ลูกหรือ 2.5" 4 ลูก, และพอร์ตแลนกิกะบิต 2 พอร์ต, พร้อมกับระบบจัดการเครีื่องแบบ IPMI และ iKVM

ตระกูล C5000 เป็นรุ่นที่สามของ PowerEdge C โดยแนวคิดคือการสร้างเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับซีพียูซ๊อกเก็ตเดียวและบีบขนาดให้เล็กที่สุด แล้วออกแบบตัวถังให้แชร์ระบบระบายความร้อนและระบบจ่ายพลังงานร่วมกัน

หลังจาก Dell แผ่วลงไปในตลาดพีซีโลกช่วง 2-3 ปีมานี้ และโดน Acer แซงขึ้นมาเป็นอันดับสองของผู้ผลิตพีซีโลก (อันดับหนึ่งคือ HP) แต่สถิติล่าสุดจากบริษัท iSuppli นับถึงสิ้นปี 2010 บอกว่า Dell กลับมาทวงอันดับสองคืนได้แล้ว

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Dell แซง Acer ได้อีกครั้งมาจาก "iPad" ที่ตีตลาดพีซีสำหรับคอนซูเมอร์ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของ Acer ส่วน Dell ไม่กระทบมากนักเพราะจับตลาดภาคธุรกิจและองค์กรเป็นหลัก

อันดับสี่เป็นของ Lenovo และอันดับห้าคือ Toshiba

ที่มา - AllThingsD

วันนี้ผมไปงาน Google Insight Innovation ที่จัดโดยกูเกิลประเทศไทย และได้คุยกับผู้บริหารของบริษัทฮาร์ดแวร์หลายท่าน เลยสรุปข่าวรวมๆ ของผลิตภัณฑ์ที่จะขายในไทยมาฝากดังนี้ครับ

เว็บไซต์ WPCentral และ Android Central ได้สไลด์แผนการออกสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจากค่าย Dell ตลอดปี 2011 ดังนี้ครับ เริ่มจากมือถือก่อน

เดลล์แถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 โดยมีงวดการเงินสิ้นสุดเดือนมกราคมตามวิธีนับของบริษัทมีรายได้สุทธิ 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นกำไรสุทธิถึง 927 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 334 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Michael Dell อธิบายว่าเป็นผลจากการที่เดลล์ลดการขายสินค้าที่ทำกำไรต่ำออกไป เพิ่มสินค้าที่มีกำไรดีเช่นอุปกรณ์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์พกพาทั้งหลาย รวมทั้งลูกค้าระดับองค์กรเริ่มมีการใช้จ่ายซื้อพีซีใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังได้ประโยชน์จากการที่ชิ้นส่วนอุปกรณ์หลายอย่างมีราคาถูกลง อาทิ จอ LCD และหน่วยความจำ

ที่มา: WSJ

Dell เปิดตัว Adamo โน้ตบุ๊กแห่งความรักในงาน CES 2009 แม้จะได้รับการยอมรับในแง่การออกแบบ แต่ราคาแพงหูฉี่ทำให้ Adamo ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก

หลังจากเอามาลดราคาล้างสต็อคเมื่อเดือนธันวาคม 2010 ตอนนี้ Dell ก็หยุดขาย Adamo อย่างเป็นทางการแล้ว

ส่วน Adamo XPS น้องชายของ Adamo นั้นเลิกขายไปก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ

ที่มา - CNET

Dell เปิดตัวแท็บเล็ตหน้าจอ 10" สำหรับภาคธุรกิจ โดยจะไม่ใช้แบรนด์ Streak และใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ออกวางขายช่วงกลางปี

ผู้บริหารของ Dell บอกว่าภาคธุรกิจยังต้องการวินโดวส์ แต่ก็บอกว่าในอนาคตแท็บเล็ตตัวนี้จะมีรุ่นที่รัน Android ด้วย แต่ก็ไม่ใช้แบรนด์ Streak เช่นเดียวกับรุ่น 5" และ 7" ที่เปิดตัวมาก่อนแล้ว

ที่มา - CNET, Direct2Dell

นอกจาก Dell Streak 7" แล้ว ในงาน CES ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกหลายตัว คัดมาเฉพาะตัวที่น่าสนใจนะครับ

มือถือ Dell Venue เป็นญาติผู้น้องของ Dell Venue Pro มือถือคีย์บอร์ดสไลด์ที่ใช้ WP7 เพียงแต่ Venue ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.2 (พร้อม Stage UI) แทน, หน้าจอเป็น AMOLED 4.1 นิ้ว พร้อม Gorilla Glass, กล้อง 8 ล้านพิกเซล, ตอนนี้ยังไม่ประกาศราคา

เมื่อปลายปีที่แล้วเพิ่งมีข่าวหลุดของ Dell Streak 7" วันนี้ข่าวอย่างเป็นทางการมาแล้ว สเปกของ Streak 7" มีดังนี้

คาดกันว่าปี 2554 ผลิตภัณฑ์ Android จะกรีฑาทัพเข้าบุกตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตก็ตาม ในฐานะปีเก่าที่เพิ่งล่วงเลยไป ทางเว็บ PC World ได้ระลึกเหตุการณ์สำคัญของผลิตภัณฑ์ Android ที่เกิดขึ้นตลอดปี 2553 ให้ทุกท่านรับทราบครับ

Nexus One

ประเดิมที่เดือนมกราคม 2553 กูเกิลจับมือค่าย HTC เปิดตัวสมาร์ทโฟน Nexus One ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 2.1 (Eclair) เป็นครั้งแรก ซึ่งตั้งใจทลายกำแพงการผูกขาดของบริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคม ตรงที่กูเกิลเลือกที่จะจำหน่าย Nexus One รุ่นปลดล็อคผ่านช่องทางเว็บไซต์ของตัวเอง

HTC Droid Incredible

Dell ลดราคา Adamo โน้ตบุ๊กสายบางเบาหรูหราลงมาอีกครั้ง จากที่ปีก่อนลดเหลือ 1,499 ดอลลาร์ คราวนี้ลงมาเหลือแค่ 899 ดอลลาร์ (ประมาณ 27,000 บาท)

Adamo ตัวนี้ใช้บอดี้ของรุ่นแรกสุด ไม่ใช่ Adamo XPS (อ่านรีวิวได้จาก รีวิว Dell Adamo: โน้ตบุ๊กที่มีไว้ให้ "ตกหลุมรัก") แต่ปรับสเปกขึ้นมาจากรุ่นเดิมอยู่บ้าง ใช้ Core 2 Duo SL9600 2.1GHz, RAM 4GB, หน้าจอ 13.4" 1366x768

ราคานี้มาพร้อมกับ Windows 7 Home Premium 64-Bit ใครที่เคยนอนฝันถึง Adamo นี่อาจเป็นโอกาสอันดี

Dell เปิดตัว Dell Venue พี่น้อง Dell Venue Pro ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้วบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7 โดยต่างกันเพียงแค่ Dell Venue ไม่มีคีย์บอร์ดจริง และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.2 เท่านั้น Dell Venue จะใช้ Stage UI เหมือนใน Dell Streak แต่เป็นหน้าจอแนวตั้ง คุณสมบัติคร่าวๆ ดังนี้

• จอ AMOLED ขนาด 4.1 นิ้ว ความละเอียด 800x480 กระจกเป็น Gorilla Glass แบบโค้ง
• CPU 1 GHz Snapdragon พิมพ์นิยม
• ROM 1 GB
• RAM 512 MB
• รองรับ micro SD 32 GB
• กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟส่อง LED
• ราคา 3,999 ฮ่องกงดอลล่าร์ (ประมาณ 15,500 บาท)

ดูรูปได้ท้ายข่าวครับ

เว็บไซต์ Engadget เผยสตอรี่บอร์ดของโฆษณาแท็บเล็ต Dell Streak 7" ที่หลุดออกมา ซึ่งเผยให้เราเห็นภาพแท็บเล็ตตัวนี้ที่ขยายมาจาก Streak 5" ตัวเดิม

ในข่าวระบุว่า Streak 7" จะใช้ Stage UI แบบเดียวกับรุ่น 5" และมีโปรแกรมอ่านอีบุ๊ก Blio รวมมาด้วย คาดว่าจะเปิดตัวในงาน CES 2011 เช่นเดียวกับแท็บเล็ตคู่แข่งตัวอื่นๆ ภาพทั้งหมดดูได้จากต้นฉบับครับ

ที่มา - Engadget

หลายบริษัทใหญ่ในโลกเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วย AMD, Dell, Intel, Lenovo, Samsung และ LG ตกลงปลงใจเลิกและไม่สนับสนุนการส่งข้อมูลไปใช้ในการแสดงผลผ่านสาย VGA หลังปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) หรือหลังจากนี้อีกประมาณ 5 ปีกว่าๆ

VGA เป็นการส่งสัญญาณแบบอนาล็อกซึ่งใช้มานานกว่า 20 ปีแล้ว ในขณะนี้เราก็มีเทคโนโลยี DisplayPort หรือ HDMI ซึ่งทั้งสองวิธีที่จะนำมาทดแทนนั้นมีประสิทธิภาพในการจัดการพลังงานที่ดีกว่า ขนาดที่เล็กกว่า และยังรองรับการแสดงผลที่ความละเอียดสูงๆ

ที่มา - Engadget

เอกสารจากคดีระหว่างบริษัท Advanced Internet Technologies ที่ฟ้องเดลล์และสามารถตกลงกันนอกศาลได้ในปี 2008 ได้กลับมาหลอกหลอนบริษัทอีกครั้ง เมื่อศาลเปิดเผยเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกมา และพบว่าเดลล์มีความพยายามที่จะปิดบังความบกพร่องนี้

ความบกพร่องนี้เกิดจากตัวเก็บประจุที่ผลิตขึ้นมาอย่างผิดสเปค ทำให้อายุการใช้งานต่ำกว่าปรกติจนเมนบอร์ดมักเสียหายก่อนเวลาอันควร โดยทั้ง เดลล์, เอชพี, และแอปเปิล ล้วนใช้งานตัวเก็บประจุชนิดเดียวกัน จนต้องเรียกกลับมาซ่อม

หลังจากที่เพิ่งปล่อยคลิปอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา (ข่าวเก่า) ล่าสุด Dell แจ้งว่า Inspiron Duo ลูกผสมระหว่างเน็ตบุ๊กกับแท็บเล็ต จะวางจำหน่ายในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมศกนี้ ในราคาเริ่มต้น 549 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16,500 บาท)

Inspiron Duo มีขนาดจอภาพ 10.1 นิ้ว (ที่สำคัญคือ มันหมุนได้), โพรเซสเซอร์ ดูอัลคอร์ Intel Atom N550, แรม 2 GB, ฮาร์ดดิสก์ 250 GB โดยใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 7 Home Premium ทั้งนี้มีให้เลือกสามสี (ฟ้า ดำ และแดง)

ภาพประกอบ คลิปและรายละเอียดอื่น ๆ ตามอ่านเพิ่มเติมได้ในที่มา

อันเนื่องมาจากผู้ซื้อสมาร์ทโฟน เดลล์ Venue Pro หลายรายไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่มีการรักษาความปลอดภัยได้ และลูกค้าหลายรายได้รับ Engineering Sample ไป (ดูข่าวเก่า) ล่าสุดเดลล์ก็แจ้งว่า บริษัทตรวจพบปัญหาทางด้านซอฟต์แวร์กับสมาร์ทโฟนที่ขายผ่านร้านไมโครซอฟท์สโตร์ในช่วง 8-9 พ.ย. ซึ่งทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ได้ ส่วนข้อความ "Engineering Sample" ที่แปะที่ตัวสินค้านั้น สินค้าดังกล่าวผลิตเพื่อวางขายจริงแต่โรงงานกลับแปะข้อความดังกล่าวลงไป

เดลล์แจ้งว่า ทั้งสองกรณีนี้เดลล์จะยอมเปลี่ยนเครื่องใหม่ที่้ร้านไมโครซอฟท์สโตร์ในวันสุดท้ายของสัปดาห์หน้า

ก่อนหน้านี้ไม่นานมีข่าวที่ผู้ซื้อสมาร์ทโฟน เดลล์ Venue Pro หลายรายไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ที่มีการรักษาความปลอดภัยได้ ล่าสุดพนักงานของไมโครซอฟท์สโตร์ได้ยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะทางร้านได้ส่งมอบเครื่องที่เป็น engineering sample ไปให้ลูกค้าหลายราย และทางร้านได้เรียกให้ลูกค้าเหล่านั้นมาเปลี่ยนเครื่องเป็น HTC HD7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มีผู้ซื้อเดลล์ Venue Pro หลายรายออกมายืนยันว่าสินค้าที่ซื้อมาเป็น engineering sample จริง ซึ่งเป็นการยืนยันว่าอาจเกิดความผิดพลาดอะไรซักอย่างกับสินค้าที่ส่งออกจากโรงงานของเดลล์เป็นแน่แท้

รองประธานอาวุโสที่ดูแลภาพรวมด้านการตลาดของ RIM ตอบโต้เดลล์สั้นๆ ในเรื่องแผนการที่เดลล์จะโละ BlackBerry ของพนักงานและเปลี่ยนไปใช้ Venue Pro ว่า บริษัทไม่เห็นเลยว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะลดค่าใช้จ่ายได้จริง และดูเหมือนว่าเดลล์ต้องการจะโฆษณาสินค้าซะมากกว่า

การที่ RIM ออกมาตอบโต้สั้นๆ นี้ ก็ไม่ได้แสดงถึงความจริงที่ว่าผู้ใช้ BlackBerry ต้องสมัคร data plan แพงกว่าสมาร์ทโฟนค่ายอื่น นอกจากนั้นองค์กรใดต้องการใช้ BlackBerry ในองค์กรอาจต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้องกับ BlackBerry Enterprise Server อีกด้วย

หลายคนคงจะจำได้ว่า ในงาน IDF 2010 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Dell ได้เปิดตัว Inspiron Duo (ข่าวเก่า) ลูกผสมระหว่างเน็ตบุ๊กกับแท็บเล็ต ที่มาออกแบบให้หน้าจอสามารถที่หมุนพลิกไปมาได้

ขณะนี้มีความคืบหน้าเล็ก ๆ โดย Dell ได้ปล่อยคลิปวิดีโอล่าสุดความยาว 35 วินาที ของ Inspiron Duo ออกมา ซึ่งก่อนหน้านี้ Engadget รายงานว่าผลิตภัณฑ์ตัวดังกล่าวจะวางตลาดภายในสิ้นปีนี้ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันว่าเน็ตบุ๊กพันธุ์ผสมจะวางขายได้ทันสิ้นปีหรือไม่

ที่มา Engadget

บริษัทเดลล์ประกาศท้าชนกับ RIM โดยเริ่มต้นตั้งแต่พุธหน้าเป็นต้นไปพนักงานของบริษัทราว 25,000 คนจะเปลี่ยนจาก BlackBerry ไปเป็น Venue Pro สมาร์ทโฟนรัน Windows Phone 7 แทน

CFO ของบริษัทบอกว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการติดต่อสื่อสารในระยะยาวของบริษัทเองลงได้ถึงร้อยละ 25 ส่วน BlackBerry เครื่องเก่านั้นเดลล์ก็จะนำไปขายบน eBay นอกจากนั้นเดลล์ยังจะให้ความช่วยเหลือบริษัทอื่นเปลี่ยนจาก BlackBerry ไปใช้แพลตฟอร์มอื่นอีกด้วย ซึ่งคาดกันว่าเดลล์จะสนับสนุน Windows Phone 7 อันเนื่องมาจากแพลตฟอร์ม Exchange ได้รับการนำไปใช้อย่างกว้างขวาง มีความเสถียร และมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการใช้บริการ BlackBerry

ข่าวนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำของ RIM ในตลาดธุรกิจก็เป็นได้

คุณ Michael Dell ได้กล่าวในอีเวนต์แห่งหนึ่งที่ฮ่องกงว่า เดลล์ได้รับเสียงตอบรับจากเหล่านักพัฒนา [ของบริษัท] ว่าพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับสมาร์ทโฟนบนแพลตฟอร์ม Windows นั้นง่ายกว่าบนแพลตฟอร์ม Android

นอกจากนั้น เขายังเผยว่าจะเปิดตัวแท็บเล็ตหลากรุ่นในปีหน้า และยังมีแผนจะซื้อบริษัทที่ทำด้านโซลูชันการประมวลผลบนกลุ่มเมฆ (cloud computing) อีกด้วย แต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างไร

ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์ ผ่าน Engadget

หมายเหตุ: ข้อความใน [] เสริมโดยผู้เขียนข่าวลง Blognone

Dell อัพเกรดโน้ตบุ๊กตระกูล XPS ซึ่งจับตลาดผู้ใช้ที่เน้นประสิทธิภาพ (แต่ไม่ได้เอามาเล่นเกม ซึ่งเป็นตลาดของ Alienware)

XPS ตัวใหม่มีด้วยกัน 3 ขนาดคือ 14", 15" และ 17" ทุกตัวใช้ซีพียู Core i5 460M (อัพเกรดได้ถึง Core i7 840QM), การ์ดจอ NVIDIA GeForce 420M พร้อมฟีเจอร์ Optimus สำหรับสลับการ์ดจอ, แรม 4GB, ฮาร์ดดิสก์ 500GB, ลำโพงและระบบเสียงจาก JBL, เว็บแคม 2MP ที่คุยวิดีโอแบบ 1,280x720 ใน Skype ได้ นอกจากนี้ยังมีพอร์ท HDMI 1.4 ต่อภาพสามมิติออกทีวีที่รองรับ NVIDIA 3DTV ได้