หลังจากเดลล์เปิดเว็บไซต์ IdeaStorm เพื่อรับฟังความเห็นจากลูกค้า (ข่าวเก่า) สิ่งที่ลูกค้าเรียกร้องเป็นอันดับ 1 คือขอให้ลงลินุกซ์ (ตอนที่ผมเขียนนี่เกินแสนโหวตแล้ว) ส่วนอันดับ 2 คือลง OpenOffice.org
โครงการ OpenOffice.org จึงฉวยโอกาสนี้ส่งจดหมายเปิดผนึกกดดันเดลล์ โดยส่งถึงไมเคิล เดลล์โดยตรง มีเนื้อความสั้นๆ ว่าทางโครงการดีใจที่เห็น OpenOffice.org ถูกโหวตเป็นอันดับสอง และคิดว่าตัวโปรแกรมมีคุณภาพเหมาะแก่ลูกค้าของเดลล์ โครงการยินดีจะพัฒนา “OpenOffice.org supplied by Dell” ให้เป็นพิเศษ และเรียกร้องเดลล์หันมาสนับสนุนทางการเงินให้กับโครงการด้วย
หลังข่าวการเปิดตัวเว็บ IdeaStorm เพียงสัปดาห์เดียว เดลล์ก็ออกมาแสดงการตอบรับความเห็นของผู้ใช้ด้วยการประกาศว่าทางเดลล์กำลังทำงานร่วมกับโนเวลล์ เพื่อเตรียมซัพพอร์ตลินุกซ์ในเครื่องตระกูล Optiplex (เดสก์ทอป), Precision (เวิร์คสเตชั่น) และ Latitude (โน้ตบุ๊กสำหรับธุรกิจ)
ทางเดลล์ระบุว่าการร่วมมือกับโนเวลล์เป็นเพียงขั้นแรกในการเข้าหาผู้ใช้ในโลกลินุกซ์ โดยทางเดลล์ตระหนักว่าผู้ใช้ที่เข้ามาให้ความเห็นนั้นแนะนำดิสโทรต่างๆ หลายสิบดิสโทร และทางเดลล์กำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะนำดิสโทรเหล่านั้นมาในสายการผลิตด้วยเช่นกัน
บริษัท เดลล์ คอมพิวเตอร์ ได้เปิดเว็บ dellideastorm เพื่อรวบรวมความต้องการและความคิดเห็นต่างๆ ของลูกค้า ผลล่าสุดหลังจากเปิดเว็บมาไม่กี่วันปรากฎว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของเดลล์ต้องการให้เดลติดตั้งลินุกซ์ (Ubuntu, SUSE, Fedora) มาให้พร้อมเครื่องเลย และต้องการให้ติดตั้ง OpenOffice.org มาด้วยเป็นอันดับ 3
ข่าวแบตเตอรี่ระเบิดในปีทีแล้วนั้นแม้จะน่ากลัว แต่ยังไม่มีการรายงานถึงความเสียหายร้ายแรงใดๆ นอกจากความเสียหายของตัวเครื่อง ข้อมูลในเครื่อง และพื้นที่โดยรอบ แต่กรณีล่าสุดอาจจะน่ากลัวกว่ากรณีอื่นที่เราเคยพบ เมื่อมีการรายงานถึงเหตุไฟไหม้บ้านหลังหนึ่งในสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระบุถึงต้นเพลิงว่ามาจากโน้ตบุ๊กเครื่องหนึ่งในบ้านหลังนั้น ซึ่งเป็นเครื่อง Dell Inspiron 1200
ในตอนนี้เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวระบุว่าเขาพยายามจะติดต่อเดลล์อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ แต่พนักงานของเดลล์ให้เขารอรับการโทรกลับ และจนตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่าต้นเหตุของเพลิงไหม้อาจจะเกิดจากแบตเตอรี่หรือสายไฟที่ชำรุด
หลังจากก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ในปีพศ. 2547 แล้วปล่อยให้เคลวิน โรลลินส์ (Kelvin Rollins) ก้าวขึ้นจากตำแหน่ง COO มาเป็น CEO แทน ในที่สุด
เหล่าสาวกเอเอ็มดีคงได้เฮกันยกใหญ่ เมื่อผู้ผลิตพีซีอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และอันดับสองของโลกอย่างเดลล์ยอมใช้ชิปเอเอ็มดีในโน้ตบุ๊กของตนในที่สุด โดยรุ่นแรกที่ถูกวางจำหน่ายนี้คือ Inspiron 1501 โน้ตบุ๊กจอภาพขนาด 15.4 นิ้ว
โดยปรกติแล้วโน้ตบุ๊กของทางเดลล์จะสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ซื้อ งานนี้ก็เช่นเดียวกัน Inspiron 1501 จะเริ่มต้นจาก AMD Sempron 3500+, แรม 512MB, HDD 60GB และที่สำคัญ ATI Radeon Xpress1150 256MB ด้วยราคา 549 ดอลลาร์ (ประมาณสองหมื่นบาท) ส่วนถ้าอยากเห็นราคาเวลาปรับแต่งแล้ว ของเข้าไปปรับเล่นกันได้ที่เว็บของทางเดลล์เองโดยตรง
มีคนได้เอกสารภายในของ Dell มาด้วยกฎหมาย Freedom of Information Act ซึ่งในนั้นระบุว่า Dell ได้รายงานปัญหาความร้อนจากแบตเตอรี่ไปยัง Consumer Product Safety Commission ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2005 และพบว่าสาเหตุเกิดจากการลัดวงจรหลังจากนั้นไม่นาน
แต่ Dell คิดว่าปัญหานี้ไม่กระทบเป็นวงกว้าง จึงเรียกคืนแบตที่ผลิตโดยโซนี่เพียงไม่กี่พันก้อนเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับตัวเลข 4 ล้านก้อนที่เรียกคืนรอบล่าสุดหลังกรณีแบตระเบิด
ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด Dell ได้เริ่มโครงการรีไซเคิลพีซี โดยใจป้ำขนาดไปขนให้ถึงบ้าน แถมไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ซะด้วย ขอแค่มีอะไรที่แปะตรา Dell แล้วอยากส่งรีไซเคิล ก็ไปนัดวันกับ Dell ได้เลย
โครงการนี้ครอบคลุมทั้งสหรัฐ, แคนาดา และยุโรป
มีใครทำงาน SVOA, Belta, Liberta อะไรพวกนี้บ้างไหมครับ ส่งข่าวนี้ให้ CEO อ่านหน่อยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
ที่มา - News.com
หลังจากเกิดปัญหาแบตระเบิดและการเรียกคืนแบตเตอรี่ล็อตใหญ่ของโน้ตบุ๊คหลายค่าย ทางผู้ผลิตโน้ตบุ๊คจึงจัดการประชุมเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยทางออกคือกำหนดมาตรฐานของแบตโน้ตบุ๊คแบบ Lithium-ion ใหม่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จภายในไตรมาสที่สองของปี 2007 นอกจากประโยชน์ด้านความปลอดภัยแล้ว ข้อดีของแบตมาตรฐานคือช่วยลดราคาในการผลิตลง เนื่องจากไม่ต้องลงทุนในการออกแบบแบตทุกครั้งที่ออกโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่
ผู้ร่วมประชุมมี Dell, HP, Lenovo, Polycom Inc. แอปเปิลตอนแรกบอกจะมาแต่สุดท้ายไม่โผล่ ส่วน Sony เจ้าของแบตเจ้าปัญหานั้นไม่ได้รับเชิญเข้าประชุมนี้
แฟนๆ เอเอ็มดีคงชื่นใจกันไม่น้อย เมื่อในที่สุดผู้ผลิตรายใหญ่อย่างเดลล์ก้เปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปที่ใช้ชิปเอเอ็มดีอย่างเป็นทางการ โดยการเปิดตัวครั้งนี้เดลล์เปิดตัวพร้อมๆ กันสองรุ่นคือ C521 และ E521 โดยทั้งสองรุ่นเป็นเครื่องในระดับเริ่มต้น ทั้งสองรุ่นจะเริ่มเปิดให้ลูกค้าเข้าสั่งซื้อผ่านทางเว็บของเดลล์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ทางกรีนพีซซึ่งเราคงรู้จักกันในฐานะหน่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ตอนนี้ทางกรีนพีซก็ออกมาจัดอันดับผู้ผลิตพีซีและมือถือ ว่ามีนโยบายในการจัดการขยะมลพิษกันอย่างไรบ้าง ที่น่าสนใจคือกรีนพีซได้จัดอันดับให้โนเกียและเดลล์ได้อันดับหนึ่งร่วมกัน ด้วยคะแนน 7 เต็ม 10 โดยระบุว่ายังสามารถปรับปรุงไ้ด้ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลให้มากขึ้น
บริษัทอันดับรองๆ ลงมาก็อย่างเช่น เอชพี หรือโซนี่อิริคสัน ส่วนอันอับที่แย่มากๆ เช่น เอเซอร์, โมโตโรล่า และที่โหล่คือเลโนโว่ที่ซื้อแผนกพีซีของไอบีเอ็มไป
Dell แอบถอนตัวจากตลาดเครื่องเล่น MP3 อย่างเงียบๆ โดยนำเอาผลิตภัณฑ์ Dell DJ Ditty ซึ่งเป็นเครื่องเล่นแบบแฟลชรุ่นล่าสุดออกจากแคตตาล็อกในเว็บเรียบร้อยแล้ว
Dell เข้าสู่ตลาดเครื่องเล่น MP3 เมื่อปี 2003 แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร เมื่อต้นปี Dell ได้ประกาศเลิกทำเครื่องเล่นแบบที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ ก่อนที่จะมาเลิกแบบแฟลชในคราวนี้ด้วย ปัจจุบันตลาดเครื่องเล่น MP3 สายพีซีจึงเหลือผู้เล่นรายใหญ่แค่ 4 ราย คือ SanDisk, Creative, Samsung และ Sony
ที่มา - Pocket-lint
หลังจากเดลล์มีปัญหากับแบตเตอรี่ของโซนี่ไป แอปเปิลก็พบว่าแบตเตอรี่ของ LG ที่ใช้กับเครื่องของตนก็มีปัญหาเหมือนกัน โดยทางแอปเปิลระบุว่ามีรายงานการลุกไหม้ในแบตเตอรี่ดังกล่าวทั้งหมดเป็นจำนวนหกชุดแล้ว
โน้ตบุ๊กที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ชุดนี้เป็นโน้ตบุ๊กในตระกูล G4 ได้แก่ iBook G4 ขนาดจอ 12 นิ้วและ PowerBook G4 ขนาดจอ 12 และ 15 นิ้ว โดยทางแอปเปิลแนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบพบว่าหมายเลขแบตเตอรี่ของตนตรงหมายเลขของแบตเตอรี่ที่ต้องได้รับการเปลี่ยนกับทางแอปเปิล ให้หยุดใช้งานแบตเตอรี่และติดต่อขอเปลี่ยนในทันที หรือหากจำเป็นต้องใช้งาน ให้ระมัดระวังว่ามีความร้อนมากกว่าปรกติหรือไม่ตลอดเวลา
หลังข่าวแบตเตอรี่ระเบิดอย่างต่อเนื่อง จนเดลล์ต้องออกมาเรียกคืนแบตเตอรี่กลับบริษัทนับล้านชุด สายการบิน Qantas ก็มีท่าทีกับข่าวนี้แล้วด้วยการเพิ่มมาตรการกับการใช้โน้ตบุ๊กเดลล์บนเครื่องบิน โดยทางสายการบินจะให้ผู้โดยสารเลือกว่าจะถอดแบตเตอรี่ไปกับสัมภาระ แล้วใช้ปลั๊กบนเครื่องซึ่งมีให้กับผู้โดยสารชั้นธุรกิจขึ้นไป หรือจะนำแบตเตอรี่ขึ้นเครื่องตามปรกติ แต่ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เท่านั้น ห้ามเสียบปลั๊กบนเครื่องเด็ดขาด
ช่วงนี้เป็นช่วงเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของ Dell จริงๆ
หลังจากเกิดระเบิดไปหลายครั้ง เดลล์ก็ออกมายอมรับว่ามีความบกพร่องในแบตเตอรี่ในโน้ตบุ๊กที่ส่งมอบให้กับลูกค้ากว่าสี่ล้านชุด และกำลังมีโครงการที่จะเรียกคืนทั้งหมดเริ่มตั้งแต่วันนี้
แบตเตอรี่ที่ถูกตรวจพบว่ามีปัญหานี้ถูกส่งมอบตั้งแต่ช่วงเมษายนปี 2004 มาจนถึงเดือนที่แล้ว โดยแบตเตอรี่ที่พบปัญหานี้เป็นแบตเตอรี่ที่ผลิตโดยบริษัทโซนี่ ในโครงการนี้ทางโซนี่จึงออกมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกับทางเดลล์ตามระเบียบ
แหล่งข่าวจากบริษัท Quanta ให้ข่าวว่าลูกค้ารายใหญ่อย่างเดลล์นั้นกำลังเตรียมการผลิตโน๊ตบุ๊กที่ใช้เอเอ็มดีภายในปลายปีนี้ โดยเท่าที่มีในรายงานชิปของเอเอ็มดีที่ใช้ผลิตจะมีเฉพาะ Turion X2 เท่านั้น โดยน่าจะมีการเปิดตัวและวางจำหน่ายจริงในช่วงปลายตุลาถึงต้นพฤศจิกายนที่จะถึงนี้
เรื่องนี้ถ้าเป็นจริงนับว่าความสัมพันธ์ของเดลล์และเอเอ็มดีกำลังดีขึ้นมาก และในเวลาอันใกล้ พีซีจากเดลล์ทุกรุ่นอาจจะมีให้เลือกทั้งอินเทลและเอเอ็มดีเสมอก็เป็นได้
ก่อนหน้านี้เดลล์เคยถูกกล่าวหาว่ามีข้อตกลงกับอินเทลที่จะไม่ยอมใช้ชิปจากเอเอ็มดี ก่อนที่จะออกมาปฏิเสธข่าว และเริ่มผลิตเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิปออปเทอร์รอน
ข่าวเก่า: โน้ตบุ๊กเดลล์ระเบิดกลางงานสัมมนาในญี่ปุ่น
คราวก่อนมีคนถ่ายภาพตอนระเบิดไว้ได้ ส่วนคราวนี้ถึงจะไม่มีรูปตอนระเบิด แต่ก็มีรูปซากเครื่องที่โดนน้ำยาดับเพลิงฉีดไปแล้วแบบชัดๆ ดูแล้วหลอนมากครับ
ที่มา - Engadget
ป.ล. MacBook ใครสีตก ตอนนี้แอปเปิลยินดีแก้ไขให้แล้ว (ข่าวจาก AppleInsider)
ผู้ผลิตพีซีอันดับหนึ่งอย่างเดลล์อาจจะมีการบ้านต้องทำเพิ่ม เมื่องานสัมมนาในญี่ปุ่นมีโน้ตบุ๊กเดลล์ไประเบิดเอากลางงาน ที่แย่กว่านั้นคือคนร่วมสัมมนาส่งภาพไปให้เว็บข่าวอย่าง The Iniquirer กันชัดๆ
ไม่มีรายงานว่าโน้ตบุ๊กเครื่องดังกล่าวถูกดัดแปลงมาก่อนหรือไม่อย่างไร แต่รายงานระบุว่าเครื่องลุกไหม้และเริ่มระเบิดหลายครั้ง ตลอดเวลานานห้านาที
โดยเดลล์เป็นผู้ผลิตพีซีที่เน้นการขายตรงเป็นหลัก เข้ามาำทำตลาดระดับองค์กรณ์ในบ้านเราอยู่ระยะหนึ่งแล้ว และกำลังเข้ามาทำตลาดผู้ใช้ทั่วไปในปีนี้
ผู้รายงานข่าวระบุว่าไม่ทราบรุ่นแน่ชัด แต่เท่าที่ดูภาพน่าจะเป็น Latitude
ในประเทศไทย Dell จำกัดตัวเองเฉพาะขายยกล็อตสำหรับองค์กรมานาน ไม่ได้ขายปลีกให้กับผู้บริโภคทั่วไป ผมจำได้ว่าคนรู้จักเคยอยากได้ Inspiron (โน้ตบุ๊คคอนซูเมอร์ของ Dell) มาก และสุดท้ายก็จบด้วยการโทรไปสั่งมาเลย์
แต่ Steve Felice รองประธาน Dell ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นได้บอกว่า Dell เตรียมจะขายปลีกแล้วในเร็วๆ นี้ ปัจจุบัน Dell มีส่วนแบ่งในไทยประมาณ 7% และมีอัตราเติบโตเยอะกว่าอัตราเฉลี่ยของตลาด Felice ยังยืนยันว่าโมเดลขายตรงของ Dell จะยังเหมาะกับตลาดแน่นอน
สำหรับ PDA และ Alienware นั้นยังไม่มีแผน
หลังจากการฟ้องศาลเพื่อป้องกันการแย่งชิงช่องเสิร์ชไม่เป็นผล กูเกิลก็เดินหน้ารุกคืบเข้าตลาดพีซีต่อไปทันที ด้วยการทำข้อตกลงร่วมกับเดลล์ที่จะลงซอฟต์แวร์ไปตั้งแต่ออกจากโรงงาน
ข้อตกลงครั้งนี้คาดว่าจะทำให้มีพีซีจากเดลล์รวมกว่า 100 ล้านเครื่อง ลงซอฟต์แวร์ของกูเกิล และคาดกันว่าอาจจะมีการให้ผลประโยชน์กันตามข้อตกลงนี้สูงได้ถึงหนึ่งพันล้านดอลลาร์
งานนี้ Eric Schmidt ระบุว่าข้อตกลงครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กูเกิลมีต่อผู้ผลิตพีซี และจะมีข้อตกลงเช่นนี้ตามมาอีกหลายรายการ
จากข่าวเก่า Dell บอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้อินเทล ตอนนี้เป็นที่ยืนยันเรียบร้อยแล้วว่า Dell จะขายเครื่องที่ใช้ชิปจากเอเอ็มดีแน่นอน
โดยเครื่องที่จะขายนี้เป็นเซิร์ฟเวอร์แบบ 4 ซีพียู ใช้ชิป Opteron และจะวางขายภายในสิ้นปีนี้ ทาง Dell บอกว่านี่เป็นทางเลือกให้กับลูกค้า แต่เครื่องส่วนใหญ่ยังใช้ชิปอินเทลอยู่เหมือนเดิม
ที่มา: eWeek
ความเดิมตอนที่แล้วคือ Dell ออกเครื่องพีซีราคา 10,000 ดอลลาร์ ในวันนี้ทางเดลล์ก็ออกมาประกาศว่า เครื่องรุ่นนี้ขายออกไปจนหมดแล้ว เพราะจำนวนเครื่องที่ผลิตจำนวนจำกัด โดยตอนนี้ยังไม่แน่ชัดว่าทางเดลล์จะผลิตเครื่องรุ่นนี้เพิ่มหรือไม่อย่างไร
โดยในงาน CeBit ที่ผ่านมาทางเดลล์มีการนำเครื่องที่โอเวอร์คล็อกไปถึง 5.46 กิกะเฮิร์ต มาโชว์ เลยมีการคาดเดากันว่าอาจจะมีการนำมาขายเหมือนกัน แต่การเข้าซื้อเอเลียนแวร์ที่ผ่านมา ก็อาจจะทำให้เดลล์เลิกขายเครื่องเล่นเกมไปเลยก็เป็นได้
จริงๆ เคยเขียนข่าวของส่วนประกอบไปเกือบครบแล้ว
ตอนนี้มันมารวมร่างกลายเป็นหุ่นยนต์ยักษ์ เอ้ย กลายเป็นพีซีพลังม้าผยองไปแล้วครับ
Dell XPS 600 Renegade จะใช้
หลังจากเป็นข่าวลือมาประมาณสัปดาห์เดลล์ก็ประกาศเข้าซื้อเอเลียนแวร์ ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่เน้นใช้งานด้านเกมเป็นหลัก ทั้งนี้ก่อนหน้าการเข้าซื้อครั้งนี้เดลล์เองก็มีเครื่องในตระกูล XPS ที่ออกแบบสำหรับเล่นเกมอยู่ก่อนแล้ว
เดลล์ระบุว่าการเข้ามาของเอเลียนแวร์ จะเป็นส่วนเติมเต็มให้กับกัยสายการผลิตของเดลล์มากกว่าที่จะเป็นคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของทางฝั่งเอเลียนแวร์ระบุว่า จะไม่มีโลโกหรือเครื่องหมายการค้าของเดลล์บนเครื่องเอเลียนแวร์แต่อย่างใด แม้แต่ชื่อของเดลล์บนเว็บเองก็ยังหาได้ยาก