สวนกระแสเทคสตาร์ตอัพฟองสบู่ เมื่อ Didi Chuxing (ตีติ ชูซิ่ง หรือชื่อเก่า Didi Kuaidi ตีติ ไคว่ตี) บริการเรียกรถแท็กซี่ของจีนประกาศจะเข้า IPO ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ในปี 2017 ตามรายงานของ Bloomberg สืบเนื่องจากประเด็นที่ Apple ลงทุนกับบริการรายนี้ไปกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทว่าคนของ Didi Chuxing ยังไม่เปิดเผยอะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้

ที่มา - Reuters

Apple ประกาศลงทุนกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯกับ Didi Chuxing บริการเรียกรถแท็กซี่ของจีนที่เปลี่ยนชื่อมาจาก Didi Kuaidi และมีส่วนแบ่งการตลาดในบริการเรียกรถของจีนกว่า 80%

Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลแถลงว่า บริษัทพยายามลงทุนด้วยเหตุผลเชิงยุทธศาสตร์ อย่างการมีโอกาสได้เรียนรู้ segment ต่างๆ ของตลาดจีน โดย Tim Cook มีแผนจะเดินทางไปประเทศจีนในช่วงปลายเดือนนี้ด้วย ซึ่งสื่อต่างประเทศคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับยอดขาย iPhone และการเซ็นเซอร์ต่างๆ

ด้าน Didi แถลงว่าการลงทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนที่มากที่สุดในครั้งเดียวที่บริษัทเคยได้รับ

Lyft บริการเรียกรถแท็กซีทางฝั่งของสหรัฐฯ จับมือเป็นพันธมิตรกับ Didi Kuaidi ของจีนและ Grab เพื่อรับมือและตอบโต้กับการเติบโตของ Uber มาระยะหนึ่งแล้ว โดยล่าสุดพันธมิตรนี้เริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น เมื่อลูกค้า Lyft หากเดินทางไปเที่ยวในจีนและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถเรียกบริการของ Didi Kuaidi และ Grab ได้เลยในแอพและไม่ต้องสม้ครแอคเคาท์ใหม่ใดๆ ทั้งสิ้น

ขณะเดียวกัน ลูกค้าของ Didi และ Grab หากไปเที่ยวสหรัฐฯ สามารถเรียกใช้บริการ Lyft ได้ในรูปแบบเดียวกัน โดยการตัดเงินจะตัดกับบัตรเครดิตที่ผูกกับบริการของผู้ใช้ตามปกติ

ที่มา - Engadget

ในประเทศจีนแม้ว่าการนำรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมาออกรับขนคนโดยสารจะเป็นบริการที่ผิดกฎหมาย แต่ในเซี่ยงไฮ้บริการประเภทนี้ไม่ได้เป็นบริการที่ผิดกฎหมายอีกต่อไปแล้ว เพราะเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมาตีตีไคว่ตี (Didi Kuaidi : 滴滴快的）ผู้ให้บริการแอพพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในจีนได้ประกาศว่าบริษัทได้รับใบอนุญาตการจองรถทางอินเทอร์เน็ต (Internet-booking License) จากคณะกรรมการการขนส่งท้องถิ่นเมืองเซี่ยงไฮ้ หลังจากที่ทางผู้บริหารได้พยายามเจรจากับรัฐบาลท้องถิ่นเป็นเวลากว่าครึ่งปี

GrabTaxi สตาร์ตอัพจากมาเลเซียที่กำลังเป็นดาวรุ่งแห่งเอเชีย ประกาศรับเงินลงทุนเพิ่มอีก 350 ล้านดอลลาร์ โดยรอบนี้มีหน่วยงานหลายแห่งเข้าร่วมลงทุนด้วย ที่น่าสนใจคือกองทุนความมั่งคั่งของรัฐบาลจีน China Investment Corporation (CIC) และบริษัทแอพเรียกรถแท็กซี่รายใหญ่ของจีน Didi Kuaidi

กรณีของ Didi Kuaidi ถือว่าน่าสนใจเพราะเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Uber ในจีน ส่วน GrabTaxi ก็แข่งขันกับ Uber ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน ความร่วมมือของ Didi Kuaidi กับ GrabTaxi จึงถือเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อต่อกรกับ Uber ในฝั่งเอเชีย

ตัวแทนของ GrabTaxi ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่มีแผนขายกิจการทั้งหมดให้ Didi Kuaidi และยังเน้นเฉพาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น