ชุดคอมโพเนนต์นี้กูเกิลตั้งชื่อว่า Libjingle ซึ่งเป็นชุดคำสั่งที่ช่วยให้โปรแกรมอื่นๆ สามารถติดต่อระหว่าง Google Talk ได้ ส่วน license ที่ใช้เป็น license อิสระที่ยอมให้ทั้งฟรีและซอฟต์แวรเพื่อการค้าต่างๆ ใช้ได้ถ้วนหน้า

กูเกิลไม่ลืมที่จะปล่อย source code ติดมาด้วยเพื่อให้ได้ใช้พัฒนากันทั่วทุกแพลตฟอร์ม ส่วนในชุด API ก็มีคอมโพเนนต์ต่างๆ ให้เลือกใช้หลายตัว อย่างเช่นชุดคำสั่งที่สำคัญของระบบ P2P ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างแอพลิเคชั่นสำหรับการสื่อสารและการร่วมมือได้

วงการ search engine ระอุ เมื่อยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์และกูเกิล  กำลังหาวิธีดึงให้คนมาใช้บริการ search engine ของตน

ข่าวนี้เริ่มขึ้นในช่วงขณะที่ไมโครซอฟท์และกูเกิลกำลังแข่งกันเพื่อเจรจาธุรกิจกับ Time Warner AOL ก่อนที่กูเกิลจะชนะไปในที่สุด โดยตอนนั้นบิล เกตส์ได้ออกมาพูดว่า  "แทนที่ไมโครซอฟต์จะได้รับรายได้เต็มๆ จากการโฆษณา ไมโครซอฟต์อาจจะแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งกลับมาสู่ผู้ใช้ของเราเองด้วย โดยผู้ใช้อาจจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงิน บริการหรือซอฟต์แวร์ ..."

หลังจากวิวาทกันมานานกูเกิลและไมโครซอฟท์ก็ได้ข้อยุติในคดีการย้ายงานของนาย Kai Fu Lee เรียบร้อยแล้ว โดยข้อตกลงที่ทั้งสองบริษัททำขึ้นนอกศาลนั้นไม่เป็นที่เปิดเผยว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง อย่างไรก็ตามผู้บริหารของทั้งสองบริษัทออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ทั้งสองฝ่ายมีความพอใจกับข้อตกลงดังกล่าว 

การยุติของคดีนี้เกิดขึ้นหลังจากการย้ายงานของนาย Lee เมื่อห้าเดือนก่อน จากตำแหน่งผู้บริหารของไมโครซอฟท์ไปยังฝ่ายบุคคลของกูเกิล โดยไมโครซอฟท์ระบุว่านาย Lee ทำงานที่เกี่ยวข้องกับเซิร์ชเอนจินของไมโครซอฟท์ ซึ่งทำให้การเข้าทำงานกับกูเกิลเป็นการละเมิดสัญญาที่ทำไว้กับไมโครซอฟท์

คุณอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อ Guido van Rossum แต่ถ้าบอกว่าเขาคือคนที่ประดิษฐ์ภาษา Python แล้วล่ะก็คงไม่ต้องบอกว่าคนระดับนี้ไม่ธรรมดา และในวันนี้ล่าสุดก็มีข่าวว่า กูเกิลได้เสนองานให้กับผู้ประดิษฐ์ภาษาโปรแกรมมิ่งที่ร้อนแรงที่สุดภาษาหนึ่งในวันนี้ และทาง Guido เองก็ได้ตอบรับงานนี้แล้ว

มีเพียงวิพากษ์ออกมาค่อนข้างเยอะกับการเข้าทำงานของ Guido ครั้งนี้ว่าจะมีผลต่อภาษา Python เช่นไรบ้าง โดยภาษา Python นั้นในเวลานี้ได้รับการยอมรับจากภาคอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะวงการเกม ล่าสุดดูเหมือนว่าไมโครซอฟท์เองก็มีแผนที่จะรวมเอาภาษา Python เข้าไว้ใน .NET Framework ด้วย

จริงๆ ข่าวนี้ก็หลายวันแล้วเหมือนกัน

ต้องเท้าความยาวมากว่า AOL หรืออเมริกันออนไลน์เป็น ISP รายใหญ่ของอเมริกา ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีเว็บนู่น (คือล็อกอินเข้าไปใช้เครือข่ายของ AOL) ประมาณปี 98-99 ช่วงเว็บบูมๆ AOL ถือเป็นอันตรายอันดับหนึ่งของไมโครซอฟท์ สตีฟ เคส ซีอีโอตอนนั้นลงหนังสือเป็นว่าเล่น ยิ่งมีอยู่ช่วงนึง AOL รวมกิจการกับ Time Warner ด้วยมูลค่า 106 พันล้านเหรียญ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 4 ล้านล้านบาทฮับ) เป็นช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดของ AOL ก่อนฟองสบู่ดอทคอมแตก และเคสต้องลาออกไปในปี 2003 หลังจากนั้น AOL อยู่ในช่วงขาลงมาตลอด

ช่วงปลายปีต้องมีรายงานอันดับคีย์เวิร์ดยอดนิยมประจำปี จริงๆ ของ Yahoo! ออกมาได้หลายวันแล้ว แต่ผมรอของ Google ด้วยจะได้รวมเป็นข่าวเดียวกัน

ช่วงนี้เราอยู่ในโลกของ Google something ถึงแม้บริการ Google Music จะไม่น่าตื่นเต้นนักเมื่อเทียบกับอย่างอื่น แต่ก็เป็นข่าวได้

Google Music ไม่ได้เป็นการขายเพลงออนไลน์แข่งกับแอปเปิลแต่อย่างใด แต่เป็นบริการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับดนตรี สมมติว่าผมค้นหาคำว่า coldplay ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นศิลปิน, อัลบั้ม และเพลงที่มีคำว่า coldplay มาเกี่ยวข้อง หลังจากนั้นถ้ากดเข้าไปที่ศิลปินชื่อ coldplay ก็จะมีลิงก์ไปยังร้านขายเพลงออนไลน์ต่างๆ เช่น iTunes Music Store หรือ Amazon

จริงๆ ตอนแรกผมไม่อยากเขียนข่าวลือแบบนี้เท่าไร แต่ไปเจอประโยคบน Ars Technica ว่า อินเทอร์เน็ตอาจจะล่มสลายได้ถ้าขาดข่าวลือเรื่อง GBrowser ก็เลยเขียนถึงซะหน่อย

ต้นเรื่องมาจากอดีตประธาน Yahoo! ภาคพื้นยุโรปได้ออกมาแพลมว่ากูเกิล มีความสนใจจะซื้อกิจการ Opera แค่นั้น ทาง Opera ได้ออกมาแถลงเรียบร้อยแล้วว่าไม่จริง ส่วนกูเกิลนั้นยังเงียบอยู่ ถึงแม้จะออกมาปฏิเสธไปแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังไม่เลิกสนใจเรื่องนี้ง่ายๆ

หลังจากมีคนรอลุ้นกันมานานว่ากูเกิลจะเอาอะไรมาสู้ Konfabulator ของ Yahoo! งานนี้ก็ไม่ผิดหวังกับ Google Personalize ครับ ที่คิดต่างไปด้วยการใช้หน้าเว็บแทนที่จะเป็นโปรแกรมแบบ Konfabulator

งานนี้ถ้าถามผมแล้วมันซ้อนทับกับ Google Desktop พอดูเลย แต่ความดีของเจ้าตัวนี้คือมันไม่มากินแรมเรามากไปกว่าการเปิดหน้าเว็บตามปรกติ ซึ่งเรื่องแรมนี่เป็นข้อเสียหลักของเหล่า Widget เลย

มาเขียนโมดูลลงตัวนี้แทน Konfabulator ดีกว่า...

หลังจากราคากระฉูดไม่หยุด หุ้นกูเกิลและ เรดแฮดก็ำได้เข้ากลุ่ม Nasdaq-100 ไปแล้วเมื่อวานนี้ โดยหุ้นของกูเกิลนั้นพุ่งจากราคาเปิดครั้งแรก 80 กว่าๆ ดอลลาร์มาอยู่ที่ 400 ดอลลาร์มาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนเรดแฮดนั้นขึ้นจาก 16 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 25 ดอลลาร์

หุ้นบริษัทผมเข้าตลาดมาหลายปีไม่พุ่งอย่างนี้บ้างแฮะ

ที่มา -  Computer Business Review Online

หลังจากไป Take over Keyhole เอามาปล่อยเป็น Google Earth ให้เราใช้ฟรีๆ บน Windows ให้ชาวแมคอิจฉาเล่นมาได้ครึ่งปีแล้ว

บัดนี้ ความอิจฉาใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เพราะว่า Google ได้พัฒนา Google Earth สำหรับ Mac มาแล้ว (เย้)

แฟนแมคทั้งหลายที่ต้องทนไปใช้ WW2D ให้อืดเล่น กำลังจะได้เวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว

หลายคนอาจสงสัย Google ได้รายได้มาจากไหน วันนี้บังเอิญไปเจอข่าวนี้ก็เลยเอามาให้อ่านกันเล่น ๆ อาจไม่ได้ตอบคำถามเสียทีเดียว แต่ก็พอให้รู้ว่าเงินทองมันไหลไปยังไงกัน

หุ้นของ Google แตะที่ $430 ไปเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน ซึ่งถึือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทีเดียว โดยผู้บริหารทั้งหมดปล่อยขายหุ้นออกไปอีก 18.6 ล้านหุ้น ซึ่งทำให้มีเงินเข้ากระเป๋าผู้ถือหุ้น รวมแล้วก็ไม่เท่าไหร่ ประมาณ 4.3 พันล้านเหรียญ โดย Page กับ Brin ก็ได้ไปคนละ 1.3 พันล้านเหรียญ ด้วยจำนวนหุ้น 5.3 ล้านหุ้น อย่างไรก็ตามเค้าสองคนยังมีหุ้นเหลือกอีก 33 ล้านหุ้น ถือเป็นเงินประมาณ 1 หมื่น 3 พันล้านเหรียญเลยทีเดียว

หลังจากขาดความสามารถส่วนนี้อยู่นาน กูเกิลก็เพิ่มความสามารถในการตรวจสอบไว้รัสเข้าไปในบริการอีเมลของตนแล้ว โดยหากตรวจพบไวรัสในเมลขาเข้า ระบบจะพยายามทำลายไวรัสนั้นโดยอัตโนมัติ แต่หากทำลายไม่ได้มันจะไม่ยอมให้ดาวน์โหลดไฟล์นั้น ส่วนไฟล์ขาออกนั้นหากมีไวรัส มันก็จะไม่ยอมส่งจนกว่าจะแก้ไขเหมือนกัน

ที่มา - Gmail 

ข่าวนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกับเทคโนโลยีโดยตรงเท่าไหร่แต่ก็ขอซะหน่อย : )

ใครที่ติดตามทีมปีศาจแดงแมนยู หรือบอลอังกฤษคงจะทราบดีว่า แมนยูกำลังหาสปอนเซอร์บนเสื้อรายใหม่ เพื่อแทนที่สปอนเซอร์รายเดิมอย่าง Vodafone ที่ประกาศยกเลิกสัญญา หลังจบฤดูกาลนี้

มัลค่อม กเลเซอร์ เจ้าของชาวอเมริกันที่เพิ่งจะซื้อสโมสรแมนยูไปเมื่อต้นฤดูกาล เตรียมเจรจาหาสปอนเซอร์รายใหม่มาแปะบนเสื้อทีม ซึ่งบริษัทที่มีชื่อพัวพันได้แก่ Google, IBM, Yahoo, Coca-Cola และ Levi

หลังจากทำวิจัยเรื่องเวลาว่างในการรอเครื่องบินแล้ว กูเกิลก็เอาใจคนอังกฤษอีกครั้งด้วยการเปิดเน็ตคาเฟ่ให้บริการกันฟรีๆ ที่สนามบินฮีตโทรว์ ประเทศอังกฤษ ในชื่อว่า Google Space โดยกูเกิลไม่ได้เพียงแต่ให้บริการอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังใช้ Google Space เป็นจุดทดสอบโปรแกรมใหม่ๆ ของกูเกิลเพื่อดูผลตอบรับของผู้ใช้โดยตรงอีกด้วย

โดยก่อนหน้านี้เมื่อกูเกิลเปิดสำนักงานในอังกฤษก็ได้เปิดบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายไปด้วยในตัว แต่ครั้งนี้ยังไม่มีการเปิดบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายในสนามบินแต่อย่างใด โดยกูเกิลระบุว่าอาจะะมีการให้บริการในอนาคตหากมีเสียงเรียกร้องเพียงพอ

หวัดดีครับ ผมหายไปนานเหมือนกัน แอบหนีไปปั่นการบ้านมา : )

 กลับมาก็แวะหยิบข่าวจาก google Blog มาเหมือนเดิม จากที่ใครหลายคนเคยได้ยินข่าวว่า Google โดดเข้าสู่ธุรกิจ WI-FI วันนี้ Google เริ่มขยับตัวแล้ว

Google กำลังเตรียมติดตั้ง WI-FI ฟรีทั่วทั้งเมือง Mountain View อันเป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการใหญ่ของ Google เพื่อเป็นโปรแกรมสัมนาคุณแก่ชุมชนที่อาศัยอยู่รอบข้าง (และเพื่อพนักงานทุกคนจะได้เอางานกลับไปทำที่บ้านได้สะดวก )

ไม่รู้เหมือนกันว่า Mountain View นี่กว้างใหญ่แค่ไหน แต่คิดแล้วน่าเสียดาย ทำไม Google ไม่มาตั้งศูนย์ที่กรุงเทพฯ บ้างนะ : )

หลังจากปล่อยให้อเมซอนแซงหน้าปล่อยบริการหนังสือออนไลน์ Amazon Pages ออกมาก่อน ตอนนี้กูเกิลก็ออกบริการเช่าหนังสือออนไลน์บ้างแล้ว โดยจะต้องเปิดอ่านกันแบบออนไลน์ในระยะเวลาจำกัดที่หนึ่งสัปดาห์  ซึ่งจะเป็นคนละแบบกับของอเมซอนที่เราได้สิทธิ์การอ่านอย่างถาวร โดยบริการเช่าหนังสือออนไลน์นี้จะไม่อนุญาตให้ดาวน์โหลดหรือปรินท์ออกมาได้ ซึ่งกูเกิลเตรียมจะเก็บค่าบริการนี้ที่ 10% ของราคาหนังสือ (อย่างกับร้านหนังสือเช่าบ้านเรา) ซึ่งสำนักพิมพ์ต่างๆยังมองว่าน้อยเกินไป

เอาข่าวเก่ามาเล่าใหม่อีกเรื่องนึงละกัน 

ถ้าใครติดตามผลงานของ Google เป็นระยะ คงรู้เรื่อง Google maps หรือชื่อเป็นทางการว่า Google Local มาพอสมควร

คราวนี้มันถูกยัดมาในรูปแบบมือถือแล้วเปิดตัวกันไปในชื่อของ Google Local for mobile ความสามารถหลักๆ ก็คือ หาสถานที่ ขยายหรือลดความละเอียด กับหาเส้นทาง เหมือนระบบ GPS เลยเชียว

ซึ่งเปิดให้ทดสอบกันไปแต่เฉพาะพื้นที่ในเขตอเมริกาเหนือบางรัฐเท่านั้น

หลังจากปล่อยตัวเบต้า ให้เราลองใช้กันไปสักพักใหญ่ Google ก็ได้ทีเปิดตัว Google Desktop 2 เวอร์ชันเต็มอย่างเป็นทางการเสียที

หลังจากที่ผมได้ลองโหลดมาเล่นดูพบว่า ในเวอร์ชั่นนี้ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก เทียบกับตัวเบต้า ที่เคยปล่อยไปคราวก่อน (ส่วนตัวหวังว่าคงแก้ไขเรื่องการใช้ resource ให้ดีกว่านี้นะ เพราะรู้สึก sidebar ของตัวเบต้าจะโดนบ่นเรื่องบริโภคแรมอย่างมูมมามไปหน่อย : P )

ใครที่อยากใช้เจ้า sidebar ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็คงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์อยู่พอสมควรนะครับ (มิเช่นนั้นมันจะมีเท่ๆ ในเครื่องแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์)

หลังจากประกาศจับมือกับซันไปก่อนหน้านี้ กูเกิลก็แสดงท่าที่ชัดเจนแล้วว่า การจับมือกับซันในครั้งนี้หมายถึงการร่วมพัฒนาโอเพนออฟฟิศอย่างเป็นทางการ

 ท่าทีของกูเกิลชัดเจนเมื่อมีการประกาศรับสมัครโปรแกรมเมอร์ เพื่อทำหน้าที่พัฒนาโอเพนออฟฟิศอย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าโปรแกรมเมอร์ของทางกูเกิลจะเข้ามาปรับปรุงเรื่องขนาด และความเร็วของโอเพนออฟฟิศซึ่งเป็นจุดอ่อนอยู่ในตอนนี้

ที่มา - ZDNet 

ทั่วโลกจับตามองกูเกิลกันอีกครั้ง ที่เมื่อคืนที่ผ่านมา มีคนไปพบว่าเว็บ base.google.com เกิดออนไลน์ขึ้นมา พร้อมด้วยอธิบายบริการใหม่นี้ว่าเป็นรูปแบบของการจัดเก็บข้อมูล ที่กูเกิลจะเก็บข้อมูลทุกรูปแบบที่สามารถค้นหาได้ไว้ที่กูเกิล และสามารถใช้กูเกิลมาค้นหาข้อมูลเหล่านั้นได้ โดยผู้ใช้บริการมีสิทธิ์เลือกได้ด้วยว่าจะให้ข้อมูลเหล่านั้นเข้าไปอยู่ในเว็บของกูเกิลด้วยหรือไม่

 แนวทางหลักๆ ของงานนี้ก็นับว่ายังอยู่ในธุรกิจของกูเกิลที่ต้องการดึงข้อมูลมาให้มากกกว่าคู่แข่ง โดยเพิ่มบริการต่างๆ เพื่อตอบแทนข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลจะให้กูเกิล

หลังจาก Google ได้พยายามเจรจาเกี่ยวกับสิทธิ์ในการใช้ชื่อ Gmail ในประเทศอังกฤษ แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ Google จำเป็นจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็น GoogleMail แทน โดย user ที่สมัครใหม่จะได้อีเมลเป็น @googlemail.com แทน

โดยบริษัทที่อ้างสิทธิ์ในการใช้ชื่อ Gmail ก็คือบริษัท  Independent International Investment Research (IIIR) ซึ่งได้ใช้ชื่อ Gmail ในการให้บริการ web-mail application มาตั้งแต่ปี 2002 และกล่าวว่า Gmail นั้นมีความสำคัญต่อลูกค้าของบริษัทอย่างมาก จึงต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ์ และขอให้ Google เปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่นแทน

แม้ในสหรัฐฯ จะถูกต่อต้านอย่างหนัก แต่กูเกิลพรินต์ก็ขยายไปยังยุโรปแล้ว แถมยังดูเหมือนว่าจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีอีกด้วย โดยล่าสุดกูเกิลพรินต์ได้เปิดเว็บเพื่อภาษาท้องถิ่นอีกแปดภาษา ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมันนี เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ เบลเยียม และสเปน

สถานะการณ์ในยุโรปนั้นต่างจากในอเมริกามาก โดยมีสำนักพิมพ์จำนวนหนึ่งเป็นผู้ให้หนังสือกับกูเกิลเอง เพื่อที่จะให้กูเกิลเก็บข้อมูลเหล่านั้นลงในเว็บเพื่อให้สามารถค้นหาได้

ถ้ามาเปิดเมืองไทยจะมีอย่างนี้บ้างมั๊ยเนี่ย

ช่วงนี้ก็เป็นการปล่อยบริการใหม่ๆ ประจำเดือนของกูเกิลล่ะครับ งวดนี้หวยไปออกที่ RSS Reader

Google Reader เป็นบริการอ่าน RSS ผ่านเว็บ แบบเดียวกับ Bloglines หรือ Rojo ถ้าเคยใช้ Bloglines มาบ้าง Google Reader เหมือนเอา Bloglines มาทำหน้าตาให้เหมือนกับ Gmail เลย มีการใส่ดาวเหมือนกัน สามารถใช้คำสั่งลัดด้วยคีย์บอร์ดได้ด้วย

เรื่องแปลกๆ ที่ล่าสุดกูเกิลรับนายอลัน เดวิดสัน (Alan Davidson) เข้าทำงาน โดยนายอลันเป็นนักล็อบบี้อยู่ที่วอชิงตัน

กูเกิลให้เหตุผลของการรับตำแหน่งใหม่นี้ว่า เพื่อรักษาอินเทอร์เน็ตให้คงไว้ซึ่งความเสรี และเป็นแหล่งเปิดสำหรับข้อมูล, การสื่อสาร และันวัตกรรม โดยเรื่องหลักที่นายอลันจะเข้ามาทำคือการเข้าไปมีบทบาทในการร่างกฏหมายของสถาคองเกรส

 ว่าง่ายๆ ก็จ้างมารักษาผลประโยชน์ของกูเกิลนั่นล่ะ

ที่มา - Google Blog