บจก. Korea Hydro and Nuclear Power (KHNP) ของเกาหลีใต้ออกมาประกาศว่า ระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ควบคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของบริษัทถูกแฮ็ก และแฮ็กเกอร์ได้ขโมย "ข้อมูลส่วนที่ไม่สำคัญ" (non-critical) ไปได้ อย่างไรก็ตามสิ่งปลูกสร้างทางนิวเคลียร์ อย่างเตาปฏิกรณ์ทั้ง 23 เตา ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
กระทรวงพลังงานของเกาหลีใต้ได้แถลงว่า กระทรวงมีความมั่นใจว่าโรงไฟฟ้าจะสามารถสกัดกั้นการแทรกซึมใดๆ จากผู้ก่อการที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยของเตาปฏิกรณ์ได้
หลังจากที่ Sony Pictures ตัดสินใจยกเลิกกำหนดฉายภาพยนตร์ The Interview เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ชมภาพยนตร์ในโรงเพราะโดนขู่ว่าจะมีการก่อการร้าย ตอนนี้ก็ยังคลุมเครืออยู่ว่า Sony Pictures จะเอาอย่างไรต่อ ทว่าในช่วงจังหวะนี้เองกลุ่มแฮคเกอร์ Anonymous ก็ได้เสนอตัวว่าจะ "ช่วย" ทำหน้าที่แทน Sony Pictures ในการเผยแพร่ภาพยนตร์ แน่นอนว่าหมายถึงปล่อยฟรีทางอินเทอร์เน็ต
ต่อจากข่าว FBI ฟันธง เกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการแฮ็กระบบ Sony Pictures ทางกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือออกมาปฏิเสธข่าวแล้ว โดยบอกว่าข้อกล่าวหาของสหรัฐอเมริกาไร้น้ำหนัก (groundless allegations)
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีเหนือก็เสนอว่าทั้งสองประเทศควรสอบสวนกรณีนี้ร่วมกัน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเกาหลีเหนือไม่เกี่ยวข้องกับการแฮ็กครั้งนี้
ที่มา - BBC
สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐหรือ FBI ออกมาแถลงข้อมูลเรื่องการแฮ็กระบบของ Sony Pictures ที่ได้ขอความช่วยเหลือจาก FBI เข้าไปช่วยตรวจสอบหลังเกิดเหตุ
FBI ฟันธงว่ารัฐบาลเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการแฮ็กครั้งนี้ โดยมีหลักฐานบ่งชี้ 3 ประเด็นคือ
ความคืบหน้าล่าสุดของกรณีแฮ็ก Sony Pictures คือสำนักข่าว Reuters อ้างข้อมูลจาก "เจ้าหน้าที่" ของรัฐบาลสหรัฐว่าต้นทางของการแฮ็กมาจากเกาหลีเหนือ ตามที่เคยพูดกันก่อนหน้านี้ และอาจมีความเกี่ยวข้องกับแฮ็กเกอร์ในจีนด้วย โดยยังไม่ชัดเจนว่ามีคนของจีนมาเกี่ยวข้อง หรือเป็นแค่การใช้เซิร์ฟเวอร์จากจีนเพื่อพรางตัว
รัฐบาลสหรัฐโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะแถลงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการคืนนี้ ถ้ามีรายละเอียดจะมาอัพเดตต่อไปครับ
เราได้ยินข่าวหลุดข่าวลือเกี่ยวกับ Xperia Z4, Xperia Z4 Tablet Ultra และสมาร์ทโฟนพร้อมแท็บเล็ตตัวอื่นในตระกูลเดียวกัน มาพักหนึ่งแล้ว แต่อีเมลของ Sony Pictures ที่ถูกแฮคไปโดย GOP ยังมีข้อมูลงานออกแบบอื่นๆ ของสินค้าเหล่านี้พร้อมรูปภาพเผยออกมาอีก รวมทั้งเรื่องข้อตกลงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับการนำเสนอสินค้าเหล่านี้ผ่านทางภาพยนตร์ James Bond: Spectre
Sony Pictures ออกแถลงการณ์ประกาศยกเลิกการฉายภาพยนตร์ The Interview ตามกำหนดเดิมในวันที่ 25 ธันวาคมนี้แล้ว ซึ่งภาพยนตร์ตลกว่าด้วยนักข่าวอเมริกาสองคน กับการถูกสั่งให้ไปลอบสังหารผู้นำเกาหลีเหนือ Kim Jong-un นี้ เป็นข้อเรียกร้องหลักของแฮคเกอร์ให้ Sony Pictures หยุดการฉาย มิฉะนั้นจะมีข้อมูลปล่อยออกมามากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม The Hollywood Reporter รายงานว่าที่มาที่ไปที่ทำให้ Sony Pictures ยอมถอยนั้นอาจเริ่มต้นจากการที่เครือข่ายโรงภาพยนตร์ใหญ่ในอเมริกาทั้งหมด ตัดสินใจไม่ขอร่วมฉาย The Interview เนื่องจากอาจมีความไม่ปลอดภัย จนนำไปสู่การประกาศยอมถอยของ Sony Pictures นั่นเอง
ผู้ดูแลบอร์ดใน Reddit เริ่มแบนบัญชีต่าง ๆ ที่เผยแพร่เอกสารลับของทาง Sony Pictures อันเกิดจากการแฮกครั้งใหญ่ของกลุ่มแฮกเกอร์ โดยผู้ดูแลบอร์ดใน Reddit อ้างว่า บัญชีต่าง ๆ เหล่านี้ทำผิดเงื่อนไขการใช้งานของเว็บไซต์เกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล
โดยการไล่แบนครั้งนี้ของ Reddit นั้น รวมไปถึงการไล่ลบโพสต์เกี่ยวกับเอกสารลับ และปิด subreddit จำนวน 1 ห้อง คือห้อง SonyGOP ซึ่งเป็นแหล่งรวมไฟล์และลิงก์ที่จะเข้าถึงไฟล์เอกสารต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากเราเข้าไปในห้องดังกล่าว จะขึ้นข้อความที่ระบุว่าห้องนี้โดนปิดไปแล้ว
ความเสียหายที่เกิดจากการถูกแฮคระบบคอมพิวเตอร์ของ Sony Pictures นั้นไม่เพียงทำให้ตัวบริษัทเองตกอยู่ในความเสี่ยงเท่านั้น แต่ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมากที่ถูกแฮคไปด้วยย่อมหมายถึงความเสียหายที่เกิดกับตัวบุคคลเหล่านั้นเองด้วยเช่นกัน และสำหรับอดีตพนักงานส่วนหนึ่งของ Sony Pictures เห็นว่าอดีตนายจ้างควรรับผิดชอบในเรื่องนี้ จึงได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลให้เอาผิดกับสตูดิโอดังฐานหละหลวมเรื่องมาตรการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบ
Sony Pictures ขู่ฟ่อพร้อมจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับบรรดาสำนักข่าวหากนำเอาอีเมลหรือข้อมูลอื่นใดที่ได้จากแฮคเกอร์มาเผยแพร่
เอกสารความยาว 3 หน้าที่เขียนขึ้นโดยตัวแทนของ Sony Pictures ถูกส่งต่อไปยังสำนักข่าวและเว็บข่าวต่างๆ อาทิ New York Times, Bloomberg, Wall Street Journal, Variety, Gawker, the Los Angeles Times และ Re/code โดยมีใจความระบุชัดว่า
(Sony Pictures) ไม่อนุญาตให้ท่านครอบครอง, ตรวจสอบ, ทำสำเนา, เผยแพร่, ตีพิมพ์, อัพโหลด, ดาวน์โหลด หรือกระทำการอื่นใดเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ถูกขโมยไป
หนังสือที่เขียนโดยตัวแทนของ Sony Pictures ยังระบุอีกว่า
มีรายงานเปิดเผยว่าหลายเดือนก่อนที่ระบบคอมพิวเตอร์ของ Sony Pictures จะโดนแฮค มีการจ้างบริษัทภายนอกมาตรวจสอบความแน่นหนาของระบบ และพบว่ามาตรการตรวจตราความปลอดภัยหลายอย่างมีความหละหลวม แต่กระนั้น Sony Pictures ก็มิได้นำพากับผลการตรวจสอบดังกล่าว จนท้ายที่สุดก็มาเจอกับการแฮคครั้งใหญ่
การตรวจสอบในครั้งนั้นทำโดย PricewaterhouseCoopers พบว่าไฟร์วอลล์หนึ่งแห่ง และอุปกรณ์อื่นอีกกว่า 100 รายการนั้นไม่เพียงจะถูกละเลยจากการตรวจสอบดูแลโดยทีมรักษาความปลอดภัยเครือ Sony แต่กระทั่งทีมดูแลระบบภายในของ Sony Pictures เองก็มัวแต่เฝ้าติดตามกิจกรรมต่างๆ ของระบบผ่านระบบบันทึก log จนมิได้ใส่ใจในไฟร์วอลล์และอุปกรณ์เหล่านี้อย่างที่ควรจะเป็น
ภายหลังการแฮคระบบคอมพิวเตอร์ของ Sony Pictures จนสามารถล้วงเอาข้อมูลสำคัญไปได้มหาศาล แฮคเกอร์ที่ใช้นามแฝง GOP ก็ได้ทยอยปล่อยข้อมูลที่โดนแฮคออกมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตหลายระลอก สร้างความเสียหายแก่ Sony Pictures เป็นอย่างมาก ทว่าที่ผ่านมาอาจเป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม หลังแฮคเกอร์ตัวการเผยว่ากำลังเตรียม "ของขวัญคริสต์มาส" เป็นข้อมูลอีกชุดใหญ่ ที่พร้อมจะส่งออกมาซ้ำ Sony Pictures ให้หนักยิ่งกว่านี้
ก่อนหน้านี้แฮคเกอร์เคยส่งสารแสดงเจตจำนงให้ Sony Pictures ระงับการเปิดฉายภาพยนตร์ The Interview ที่มีเนื้อหาว่าด้วยการลอบสังหารผู้นำเกาหลีเหนือ พร้อมคำขู่หาก Sony Pictures ไม่ทำตามคำขอ มีใจความว่า
มหากาพย์การแฮค Sony Pictures ยังไม่จบลงง่ายๆ ล่าสุดมีบทภาพยนตร์ของ James Bond: Spectre ถูกปล่อยออกมาด้วย
Eon Production ผู้ผลิตภาพยนตร์เรื่องนี้ เขียนคำแถลงบนเว็บ 007.com ว่า "บริษัทได้รับแจ้งเมื่อเช้าว่าบทภาพยนตร์ Spectre ที่ยังอยู่ในขั้นแรกเริ่มเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ถูกโจรกรรมและเปิดเผยออกไปจากระบบคอมพิวเตอร์ของ Sony Pictures" โดยที่บทดังกล่าวเป็นข้อมูลลับของสตูดิโอ Metro-Goldwyn-Mayer และ Danjaq LLC ซึ่งถูกปกป้องโดยกฎหมายในสหราชอาณาจักรและทุกประเทศทั่วโลก
ภาพยนตร์ James Bond ภาคใหม่นี้ได้รับการเปิดเผยชื่อตอนและรายชื่อนักแสดงเมื่อเดือนที่แล้ว และมีกำหนดฉายวันที่ 6 พฤศจิกายนปีหน้า
กลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่งามหน้าของ Sony Pictures อีกครั้ง หลังจากที่แฮคเกอร์ได้ปล่อยข้อมูลอีเมลซึ่งมีของทีมงานและผู้บริหารออกสู่อินเทอร์เน็ต ซึ่งเนื้อความในอีเมลบางส่วนนั้นกล่าวถึงนักแสดงบางรายอย่างไม่เหมาะสม ทั้งยังมีการสนทนาโต้ตอบกันในเรื่องมุกตลกเชิงเหยียดผิวที่พาดพิงถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาด้วย
หลังจากที่ระบบคอมพิวเตอร์ของ Sony โดนโจมตีด้วยวิธี DDoS มาหลายครั้งเหลือเกิน ตอนนี้มีรายงาน Sony Pictures เหยื่อการแฮคครั้งใหญ่รายล่าสุดก็หันมาใช้วิธีนี้โจมตีเซิร์ฟเวอร์ของแฮคเกอร์เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของข้อมูลบริษัทที่โดนล้วงไป
แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน 2 รายระบุว่า Sony Pictures ได้ลงมือตอบโต้แฮคเกอร์ โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ใช้คอมพิวเตอร์ในเอเชียหลายร้อยตัว ร่วมกันโจมตีผ่านทาง Amazon Web Services ที่อยู่ในโตเกียวและสิงคโปร์ โดยหวังจะทำให้ไม่มีใครสามารถดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลของบริษัทจากเซิร์ฟเวอร์เป้าหมายได้อีกต่อไป ซึ่งวิธีนี้หลายบริษัทสื่อบันเทิงก็เคยใช้ในการยับยั้งการแพร่กระจายของไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์อยู่บ่อยครั้ง
จากกรณีเซิร์ฟเวอร์ของ Sony Pictures โดนแฮค จนถึงวันนี้ฝั่งแฮคเกอร์ก็ยังคงปล่อยข้อมูลออกมาไม่หยุด และล่าสุดก็ได้ปล่อยอีเมลภายในออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในหลายๆ ฉบับ มีการพูดคุยถึงการคัดเลือกนักแสดงภาพยนตร์เรื่อง Steve Jobs (ที่เป็นของ Universal ไปแล้ว) อีกด้วย
กรณีที่เซิร์ฟเวอร์ของ Sony Pictures ถูกแฮคทั้งบริษัท จนสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุดมีการขยายขอบเขตการแฮคเพิ่มมาอีกแล้ว ซึ่งเป้าหมายก็หนีไม่พ้นบริการ PlayStation Network ที่เคยมีประวัติมาก่อน แถมตอนนี้โซนี่ยกเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของบริษัทไปแล้วนั่นเอง
จากกรณีที่เกาหลีเหนือออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการเข้าไปเจาะระบบของทาง Sony Pictures และออกมายืนยันว่าปฏิบัติสอดคล้องกับมาตรฐานสากล วันนี้ Reuters หนึ่งในสำนักข่าวระดับโลก ได้เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับหน่วยงานของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นหน่วยงานลับของรัฐและมีเป้าหมายในการเปิดสงครามบนโลกไซเบอร์ที่ถูกเรียกว่า "Bureau 121"
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ขณะที่ผมเข้าเว็บไซต์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อดูรายละเอียดเส้นทางรถเมล์บริเวณที่จะไปทำธุระส่วนตัวในกรุงเทพมหานครนั้น ก็พบว่า หน้าแรกของเว็บไซต์ ดังกล่าว และลิงก์ภายในเว็บไซต์ของเวอร์ชันใหม่รวมถึง ลิงก์ที่ดูรายละเอียดของสายรถประจำทาง ด้วย ถูกแฮกจากกลุ่ม Arab Security Team ให้ redirect ไปยังเว็บเพจที่มีโลโก้ของกลุ่มผู้กระทำการแฮก และระบุข้อความว่า "Hacked By Arab Security Team" (ตามภาพแรก)
หนึ่งในสิ่งที่ยังไม่ได้ข้อสรุปจากกรณีการเจาะระบบของ Sony Pictures คือใครเป็นคนที่ทำ โดยมีรายงานว่าทาง Sony Pictures กำลังสงสัยว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลเกาหลีเหนือที่ไม่พอใจภาพยนตร์เรื่อง The Interview ของทางค่ายภาพยนตร์ ซึ่งไปล้อเลียนผู้นำสูงสุดของประเทศ
กลายเป็นมหากาพย์ที่ยังไม่จบไม่สิ้น นับตั้งแต่เหตุการณ์ถูกแฮคทั้งบริษัท เมื่อแฮกเกอร์ที่เจาะระบบของ Sony Pictures ทำการปล่อยข้อมูลอีกระลอกหนึ่งออกสู่สาธารณะ
ข้อมูลที่ปล่อยออกมาครั้งนี้ ประกอบไปด้วย โฟลเดอร์ที่เต็มไปด้วยรหัสผ่านของบริษัท, เงินเดือนของพนักงานในอดีตและปัจจุบัน และรหัสประกันสังคม (social security number) ของพนักงานเหล่านั้นด้วย (ที่ระบุมาอย่างชัดเจนคือนักแสดงอย่าง Sylvester Stallone และ Rebel Wilson) โดยทางทีมแฮกเกอร์ ระบุกับทาง Fusion เว็บไซต์รายงานข่าวออนไลน์ว่า ทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ของ Sony Pictures เป็นเพียง "เรื่องตลก" เพราะยังละเลยกับคำเตือนและรายงานของช่องโหว่ต่างๆ
ผ่านมาเกือบสัปดาห์นับแต่วันที่ Sony Pictures ถูกผู้ใช้นามแฝงว่า #GOP ทำการแฮคระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด และจนตอนนี้ก็ยังไม่อาจชี้ชัดได้ว่าตัวตนของผู้ที่ลงมือครั้งนี้ทำได้อย่างไรและเป็นใครกันแน่ แม้จะมีเผือกร้อนเรื่องไฟล์ภาพยนตร์ใหม่หลุดสู่อินเทอร์เน็ต แต่งานหลังบ้านเรื่องการเก็บกวาดและกู้ระบบคอมพิวเตอร์ก็ยังต้องเดินหน้ากันเต็มสูบ
ในขณะที่ Sony Pictures ยังคงง่วนกับการแก้ปัญหาหลังเจอมือดีแฮคระบบคอมพิวเตอร์ทั้งบริษัท โดยที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของใคร ได้แต่สันนิษฐานว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ ตอนนี้สิ่งที่ Sony Pictures น่าจะหวั่นใจที่สุดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อมีรายงานแจ้งว่าเริ่มมีไฟล์ torrent ของภาพยนตร์ใหม่หลายเรื่องโผล่ตามเว็บต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ Sony Pictures ถูกแฮค คอมพิวเตอร์ใช้ไม่ได้ทั้งบริษัท ตอนนี้มีการสงสัยกันว่าเกาหลีเหนือคือตัวการเบื้องหลังการแฮคครั้งดังกล่าว
เหตุการณ์แฮคครั้งใหญ่นี้มาในช่วงประจวบเหมาะก่อนการเปิดตัวภาพยนตร์ของ Sony Pictures เรื่อง "The Interview" ที่มีกำหนดฉายในวันคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Seth Rogen และ James Franco ผู้สวมบทบาท 2 นักข่าวที่ได้รับมอบหมายภารกิจจากซีไอเอให้ลอบสังหาร Kim Jong-Un ผู้นำเกาหลีเหนือโดยใช้การแฝงตัวเป็นนักข่าวเข้าไปทำการสัมภาษณ์ท่านผู้นำ
หลังจากที่เป็นข่าวว่าโซนี่ถูกแฮกเกอร์ชิงแอพ Backup & Restore กลาง Google Play Store ไปก่อนหน้านี้จนผู้ใช้บางกลุ่มออกมาแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ทางโซนี่จึงทำการสืบสวนถึงสาเหตุและได้ออกมาให้ข้อมูลถึงสิ่งที่เกิดขึ้น โดยทางโซนี่ระบุว่ามีนักพัฒนาได้สร้างแอพขึ้นมาโดยใช้ชื่อและการระบุตัวตนของแอพเดียวกันกับแอพ "Backup & Restore" ของทางโซนี่ และอัพโหลดแอพดังกล่าวขึ้นสู่ Google Play