หากยังจำกันได้ Apple เคยเปิดตัว Apple CarPlay ที่ปรับเปลี่ยนหน้าตาใหม่ทั้งหมดไปในงาน WWDC 2022 และบอกว่าจะพร้อมให้ใช้งานในปี 2024
ล่าสุดข้อมูลจาก iOS 17.4 เวอร์ชันเบต้ามีผู้ใช้งานพบภาพไอคอนแอป และการตั้งค่าใหม่ ๆ ของ CarPlay ที่อาจเป็นการใบ้ว่า CarPlay 2.0 อาจปล่อยให้ใช้งานภายในปีนี้ตามที่ Apple บอกไว้
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 17.4 และ iPadOS 17.4 เวอร์ชันเบต้าสำหรับให้นักพัฒนาทดสอบ ก่อนที่เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปจะออก ซึ่งนอกจากอัพเดตสำคัญที่ทำเพื่อรองรับกฎหมายดิจิทัลของ EU ให้ผู้ใช้งานโหลดแอปผ่านช่องทางอื่นนอกจาก App Store ได้ ยังพบข้อมูลสินค้าใหม่ด้วย
โดย 9to5Mac พบโค้ดใน iPadOS 17.4 เบต้า ที่ระบุถึง iPad รุ่นใหม่ เนื่องจากมีการเปลี่ยนข้อความตอนตั้งค่า Face ID จากเดิมบอกว่า Face ID ทำงานได้เมื่อ iPad วางในแนวนอน เป็น ตอนตั้งค่า Face ID นั้น iPad ต้องอยู่ในแนวนอน ที่กล้องหน้าอยู่ด้านบนของจอ เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว Face ID สามารถทำงานได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง
แอปเปิลประกาศการเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล Digital Markets Act (DMA) ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้กับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรายใหญ่ 7 มีนาคมนี้
การเปลี่ยนแปลงนั้นแอปเปิลบอกว่าจะมี API ใหม่ มากกว่า 600 รายการ สำหรับนักพัฒนา เพื่อให้เข้าถึงทั้งเอ็นจินของเบราว์เซอร์, กระบวนการจ่ายเงินในแอป, กระบวนการเผยแพร่แอป, การวิเคราะห์ข้อมูลแอป ซึ่งทั้งหมด แอปเปิลบอกว่าจะมาพร้อมแนวทางการป้องกันความปลอดภัยกับผู้ใช้งานแบบใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากแนวทาง DMA นี้ และทำให้การใช้อุปกรณ์แอปเปิลปลอดภัยสำหรับลูกค้าในกลุ่มประเทศ EU
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการรอบใหญ่ iOS 17.3 และ iPadOS 17.3 สำหรับคนใช้ iPhone และ iPad ตามที่ประกาศก่อนหน้านี้ สามารถอัพเดตแบบ OTA โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดต iOS 17.3 นี้ มีฟีเจอร์สำคัญคือ Stolen Device Protection ที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับ iPhone ที่ถูกขโมย เช่น เพิ่มการใช้ Face ID ยืนยันตัวตนถ้าเปลี่ยนรหัสผ่าน, มีการหน่วงเวลาเปลี่ยนรหัสผ่าน หากพบอุปกรณ์อยู่ในพิกัดที่ไม่คุ้นเคย เป็นต้น
แอปเปิลได้เปิดตัวคอลเลกชัน Black Unity ของปี 2024 เพื่อมอบเงินทุนสนับสนุนองค์กรภายใต้โครงการ REJI ที่มุ่งมั่นมอบโอกาสทางเศรษฐกิจ การศึกษา และการสร้างสรรค์แก่ชุมชนคนผิวสีทั่วโลก
ในประกาศนี้แอปเปิลยังระบุว่า iOS 17.3 อัพเดตใหญ่เวอร์ชันถัดไปของระบบปฏิบัติการ iOS จะออกมาในสัปดาห์หน้า ซึ่งในอัพเดตนี้จะมีภาพพื้นหลังลาย Unity Bloom เพิ่มเติมด้วย
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ iOS 17.2.1 สำหรับคนใช้ iPhone ซึ่งน่าจะเป็นอัพเดตย่อยเวอร์ชันสุดท้ายของปีนี้แล้ว สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
iOS 17.2.1 ออกมาเพียงหนึ่งสัปดาห์หลัง iOS 17.2 รายละเอียดนั้นแอปเปิลบอกเพียงแก้ไขบั๊กที่สำคัญ และแนะนำให้ผู้ใช้งานทุกคนอัพเดต
แอปเปิลยังอัพเดต macOS Sonoma 14.2.1 แก้ไขบั๊กและช่องโหว่ความปลอดภัยเกี่ยวกับการแชร์หน้าจอ, iOS 16.7.4 และ iPadOS 16.7.4 สำหรับอุปกรณ์รุ่นเก่า แก้ไขบั๊ก ที่ไม่สามารถลงแอปของแอปเปิลกลับมาได้ หากลบออกไป
หลังจาก iOS 17.2 สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปออกมาเมื่อวานนี้ แอปเปิลก็ออกอัพเดตซอฟต์แวร์รุ่นทดสอบสำหรับนักพัฒนา iOS 17.3 เบต้า ต่อทันที ซึ่งในเวอร์ชันแรกนี้มีฟีเจอร์ใหม่ด้านความปลอดภัยที่น่าสนใจ คือระบบป้องกันอุปกรณ์ที่ถูกขโมยสำหรับ iPhone (Stolen Device Protection)
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.2 สำหรับคนใช้ iPhone และ iPadOS 17.2 สำหรับคนใช้ iPad ซึ่งเป็นอัพเดตใหญ่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้ผ่าน OTA โดยไปที่ Settings เลือก General เลือก Software Update
iOS 17.2 มีฟีเจอร์เด่นในอัพเดตนี้คือ Journal (บันทึก) ไดอารีบันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ ในแต่ละวัน เพื่อให้นึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ในชีวิต และเก็บรักษาความทรงจำเอาไว้ โดยใช้ระบบแนะนำเนื้อหาจากข้อมูลรูปภาพ เพลง การออกกำลังกาย และอื่น ๆ โดยข้อมูลมีการเข้ารหัสทุกจุด
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการเพื่อแก้ไขช่องโหว่ระดับ Zero-Day สองรายการ ซึ่งมีรายงานการใช้ช่องโหว่ดังกล่าวแล้ว จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตทันที
โดยอัพเดตที่แก้ไขช่องโหว่นี้แล้วได้แก่ iOS 17.1.2 สำหรับ iPhone, iPadOS 17.1.2 สำหรับ iPad และ macOS Sonoma 14.1.2 สำหรับ Mac
ช่องโหว่ทั้งหมดเป็นของเอ็นจิน WebKit CVE-2023-42916 และ CVE-2023-42917 ที่ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านเว็บเพจที่ปรับแต่งเฉพาะ ซึ่งสำหรับ iOS แอปเปิลบอกว่าช่องโหว่นี้พบได้ใน iOS เวอร์ชันก่อน 16.7.1
ที่มา: 9to5Mac
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการในเครือ โดยเป็นอัพเดตเวอร์ชันย่อย รายละเอียดดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.1 สำหรับผู้ใช้ iPhone ซึ่งมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่และแก้ไขปัญหาหลายรายการดังนี้
แอปเปิลได้ออกอัพเดต iOS 17.1 เบต้า 3 ให้นักพัฒนาทดสอบ ก่อนออกอัพเดตเวอร์ชันผู้ใช้งานทั่วไป โดยในเบต้านี้พบว่าแอปเปิลได้เพิ่มเงื่อนไขใหม่สำหรับปุ่มแอคชั่น หรือ Action Button ของ iPhone 15 Pro ด้วย
ปุ่ม Action Button เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มีเฉพาะ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max แทนที่สวิตช์เปิด-ปิดเสียงเดิม ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกตั้งค่าให้ทำงานลัดตามที่ต้องการไม่จำเป็นต้องเปิด-ปิดเสียง เช่น เปิดกล้อง, เปิดไฟฉาย, เปิดโหมดโฟกัส
มาตามสัญญา แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.0.3 เพื่อแก้ไขปัญหา iPhone เครื่องร้อนกว่าปกติ ซึ่งแอปเปิลยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งมาจากบั๊กในระบบปฏิบัติการเอง
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้แอปเปิลยังระบุว่าได้แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยสองรายการ โดยเป็นช่องโหว่ของเคอร์เนลและ WebRTC ผู้ใช้งานจึงควรอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการนี้
นอกจากนี้ 9to5Mac ได้ลองทดสอบเบื้องต้นเพื่อตอบคำถามที่หลายคนสงสัย ว่าแอปเปิลจะลดประสิทธิภาพของชิป A17 Pro เพื่อลดปัญหาความร้อนหรือไม่ คำตอบตอนนี้คือ ยังไม่พบว่าประสิทธิภาพการทำงานลดลงแบบชัดเจน
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.0.2 และ iPadOS 17.0.2 สำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad ทุกรุ่นที่รองรับแล้ววันนี้ โดยสามารถอัพเดตได้ที่ Settings > General > Software Update
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแอปเปิลก็ออกอัพเดต iOS 17.0.2 แต่ได้เฉพาะผู้ใช้ iPhone 15 เพื่อแก้ปัญหาการโอนข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ โดยซอฟต์แวร์เป็นเลข build 21A350 ส่วนเวอร์ชันที่อัพเดตทั่วไปนี้เป็นคนละเลขกันคือ 21A351 ซึ่งก็ระบุว่าแก้ไขปัญหาการโอนข้อมูลจากเครื่องเก่าไปยังเครื่องใหม่เช่นกัน
แอปเปิลเริ่มส่งมอบและขาย iPhone 15 วันนี้วันแรกในประเทศไทย และดูเหมือนจะเกิดปัญหาเล็ก ๆ กันตั้งแต่วันแรก หากผู้ใช้งานเลือกวิธีการถ่ายโอนข้อมูลจาก iPhone เครื่องเก่าด้วยการถ่ายโอนโดยตรง (From Another iPhone) โดยอาจพบปัญหาโลโก้แอปเปิลค้างและไม่สามารถใช้งานต่อได้
ปัญหานี้แอปเปิลบอกว่ามีผลกับ iPhone 15 ทุกรุ่นทั้ง iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการในเครือวันนี้ ได้แก่ iOS 17.0.1 สำหรับ iPhone, iOS 17.0.2 สำหรับตระกูล iPhone 15, iPadOS 17.0.1 สำหรับ iPad, watchOS 10.0.1 สำหรับ Apple Watch, macOS Ventura 13.6 สำหรับ Mac ทั้งนี้ macOS เวอร์ชันใหม่ Sonoma จะออกอัพเดตทั่วไปในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้แอปเปิลยังอัพเดตระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์รุ่นเก่า หรืออุปกรณ์ที่ยังไม่อัพเดตไประบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ด้วย ได้แก่ iOS 16.7, iPadOS 16.7, watchOS 9.6.3, macOS Monterey 12.7
iPhone 15 และ iPhone 15 Pro มีฟีเจอร์หนึ่งเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ที่แอปเปิลไม่ได้ประกาศเป็นทางการ แต่มีการค้นพบในโค้ดของ iOS 17 ก่อนหน้านี้ ซึ่งหลังจากแอปเปิลส่งเครื่องให้สื่อจำนวนหนึ่งรีวิว ก็ยืนยันถึงการตั้งค่านี้
โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกตั้งค่าการชาร์จ iPhone เพิ่มเติม ใน Settings > Battery > Battery Health & Charging > Charging Optimization จากเดิมตัวเลือกมีเพียงปิดหรือเปิด Optimized Battery Charging (การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่) ตอนนี้มีตัวเลือกสามแบบได้แก่
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ประจำปีแล้วในวันนี้ ได้แก่ iOS 17 สำหรับ iPhone, iPadOS 17 สำหรับ iPad, watchOS 10 สำหรับ Apple Watch, tvOS 17 สำหรับ Apple TV และ HomePod 17 สำหรับ HomePod
iOS 17 มาพร้อมของใหม่คือ StandBy หน้าจอล็อกสกรีนแบบใหม่ขณะชาร์จ ทำหน้าที่แสดงวิดเจ็ดที่ต้องการ, NameDrop ฟีเจอร์แลกนามบัตรเพียงนำโทรศัพท์มาแตะกัน, การแสดงผลแบบใหม่โปสเตอร์เต็มหน้าจอเมื่อสายโทรเข้า ส่วน iPadOS 17 เพิ่มความสามารถปรับแต่งหน้าล็อกแบบใน iPhone เวอร์ชันก่อนหน้า
ตามที่แอปเปิลประกาศว่า iOS 17 ระบบปฏิบัติการของ iPhone เวอร์ชันใหม่ จะเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปอัพเดตได้ในวันที่ 18 กันยายนนี้ พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกฟีเจอร์ที่จะได้มาพร้อมกับอัพเดตแรกหรือ iOS 17.0
โดยแอปเปิลได้เผยแพร่เอกสาร PDF ยาว 17 หน้า สรุปรายการฟีเจอร์ใหม่ทั้งหมดของ iOS 17 ซึ่งหลายฟีเจอร์เด่นที่แอปเปิลเคยโปรโมต ถูกระบุว่าจะใช้งานได้ภายในปีนี้ ซึ่งอาจมาพร้อมกับ iOS 17.1 หรือ 17.2 เป็นต้นไป
หลังการเปิดตัว iPhone 15 และ Apple Watch Series 9 แอปเปิลก็ประกาศวันออกอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด iOS 17 สำหรับ iPhone และ watchOS 10 ของ Apple Watch มาพร้อมกันด้วย
โดยทั้ง iOS 17 และ watchOS 10 จะเริ่มปล่อยอัพเดตสำหรับผู้ใช้งานทุกคนในวันจันทร์ที่ 18 กันยายนนี้ (เข้าสู่วันที่ 19 กันยายน ตามเวลาในไทย) รวมทั้ง iPadOS 17 สำหรับ iPad และ tvOS 17 สำหรับ Apple TV ก็จะออกอัพเดตในวันที่ 18 กันยายนด้วยเช่นกัน
ส่วน macOS Sonoma จะออกมาหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ กำหนดอัพเดตในวันที่ 26 กันยายน
ดูเหมือนแอปเปิลจะอยู่ในโหมดทดสอบว่าจะวางตำแหน่งปุ่มในหน้าโทรศัพท์อย่างไรดี โดยล่าสุด iOS 17 ได้ออกเวอร์ชันทดสอบสำหรับนักพัฒนา Beta 6 ซึ่งปรับหน้าจอขณะโทรศัพท์อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ใน iOS 17 Beta 5 มีการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตชัดเจน คือปุ่มต่าง ๆ ย้ายลงมาด้านล่างของจอทั้งหมด (แบบเดิม ทุกปุ่มอยู่ตรงกลาง ยกเว้นปุ่มวางสาย ที่อยู่ตรงกลางด้านล่างของจอ) และเป็นประเด็นเนื่องจากปุ่มวางสาย (End) ย้ายตำแหน่งมาที่มุมล่างขวา จึงอาจเกิดปัญหาสำหรับผู้ใช้งานที่คุ้นเคยกับตำแหน่งเดิม
หลังจากที่ปล่อย iOS 17 เวอร์ชัน Beta ให้สาวกทดลองของใหม่มาซักพัก ในเวอร์ชันล่าสุด Beta 5 ทาง Apple ได้ย้ายปุ่มฟังก์ชันต่างๆ ในหน้าโทรศัพท์มาอยู่ด้านล่างทั้งหมด
เดิมปุ่มฟังก์ชันต่างๆ ในหน้าเวลาใช้โทรศัพท์จะอยู่ตรงกลาง 6 ปุ่ม และปุ่มวางสายด้านล่างตรงกลาง แต่การปรับล่าสุด Apple ได้ย้ายปุ่มฟังก์ชันทั้ง 6 มาอยู่ด้านล่าง และรวมกับปุ่มวางสาย ที่อยู่บริเวณล่างขวา ง่ายต่อการกดมากขึ้น
Adam Mosseri หัวหน้าทีม Threads และ Instagram อัพเดตความคืบหน้าของแพลตฟอร์มหลังเปิดให้ใช้งานมา 1 สัปดาห์ โดยตอนนี้มีผู้สมัครใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนแล้ว
เขายังพูดถึงฟีเจอร์ใหม่ ที่อยู่ในขั้นตอนพัฒนาซึ่งจะออกมาเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ ฟีดเฉพาะคนที่ติดตาม, แก้ไขโพสต์, สลับบัญชีใช้งาน, เสิร์ชหาโพสต์, แฮชแท็ก, การใช้งานผ่านเว็บ, ลิสต์โพสต์ที่กดไลค์, แปลภาษา และอื่น ๆ
Mosseri ยังพูดถึงฟีเจอร์ใน Threads ที่หลายคนอาจไม่รู้ว่าทำได้ เช่น จำกัดได้ว่าใครสามารถ Reply ได้, สร้างเธรดของโพสต์แบบรวดเร็ว โดยกด Return (Enter) ต่อกัน 3 ครั้ง, หากเจอโพสต์แนะนำที่ถูกใจ สามารถกดติดตามบัญชีนั้นได้เลย ที่เครื่องหมายบวกของบัญชีนี้, สามารถ Mute โพสต์จากบัญชีแนะนำได้หากไม่สนใจ
จากที่ Apple ได้ประกาศเปิดตัว iOS 17 ในงาน WWDC 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งรวมไปถึงอัปเดตการสแกน QR Code ผ่านแอปกล้อง โดยปุ่มลิงก์ที่ปรากฏขึ้นจะถูกล็อกไม่ให้เคลื่อนไหว และจะอยู่ตรงตำแหน่งเหนือปุ่มชัตเตอร์ ซึ่งสามารถกดแตะด้วยมือเดียวได้เลย
ทาง Apple เริ่มใช้การสแกน QR Code ผ่านในแอปกล้องมาตั้งแต่ iOS 11 ซึ่งจะปรากฏหน้าเว็บไซต์ขึ้นมา และใน iOS 13 ได้มีการปรับให้เพิ่มปุ่มสีเหลืองเพื่อให้ผู้ใช้กดลิงก์เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ แต่ปัญหาก็คือ ปุ่มสีเหลืองจะเคลื่อนที่ไปด้วยถ้าผู้ใช้ถือไอโฟนไม่นิ่งพอ จึงมีผู้ใช้เรียกร้องต่อทาง Apple เป็นจำนวนมาก
การอัปเดตปัญหานี้ใน iOS 17 เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อปรับปรุงคุณภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น