แอปเปิลออกอัปเดตระบบปฏิบัติการทั้งหมดในเครือ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป โดยทั้งหมดเป็นการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยต่าง ๆ เนื่องจากมีการแก้ไขช่องโหว่หลายรายการรวมทั้งเคอร์เนล Siri และ WebKit ผู้ใช้งานจึงควรอัปเดต
รายละเอียดอัปเดตทั้งหมดมีดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการให้กับ iPhone และ iPad รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS 17 ได้ โดยเป็นแพตช์เกี่ยวกับความปลอดภัย จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอุปกรณ์รุ่นเก่าอัพเดตเช่นกัน มีรายละเอียดดังนี้
ที่มา: iClarified
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการรอบใหญ่ iOS 17.3 และ iPadOS 17.3 สำหรับคนใช้ iPhone และ iPad ตามที่ประกาศก่อนหน้านี้ สามารถอัพเดตแบบ OTA โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดต iOS 17.3 นี้ มีฟีเจอร์สำคัญคือ Stolen Device Protection ที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับ iPhone ที่ถูกขโมย เช่น เพิ่มการใช้ Face ID ยืนยันตัวตนถ้าเปลี่ยนรหัสผ่าน, มีการหน่วงเวลาเปลี่ยนรหัสผ่าน หากพบอุปกรณ์อยู่ในพิกัดที่ไม่คุ้นเคย เป็นต้น
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการให้กับอุปกรณ์รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็นซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดได้ ทั้ง iOS, iPadOS และ macOS
โดยระบบปฏิบัติการที่อัพเดตได้แก่ iOS 15.7.9 สำหรับ iPhone, iPadOS 15.7.9 สำหรับ iPad, macOS Monterey 12.6.9 และ macOS Big Sur 11.7.10 สำหรับ Mac ซึ่งสามารถอัพเดตตามวิธีการอัพเดตปกติ
อัพเดตนี้แอปเปิลระบุว่าแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยของ ImageIO ที่มีรายงานว่าใช้ในสปายแวร์ Pegasus ซึ่งแอปเปิลได้อัพเดตไปก่อนหน้านี้ใน iOS 16.6.1, iPadOS 16.6.1, macOS Ventura 13.5.2 และ watchOS 9.6.2 จึงแนะนำให้อัพเดตทันที
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการในเครือ โดยมีทั้งการแก้ไขบั๊ก ปัญหาที่พบ ตลอดจนปิดช่องโหว่ความปลอดภัย รายละเอียดดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการให้กับ iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch โดยมีการแก้ไขสำคัญเรื่องช่องโหว่ความปลอดภัย 2 รายการ ที่ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระดับเคอร์เนล และอีกช่องโหว่เป็นของ WebKit เนื่องจากมีรายงานการโจมตีด้วยช่องโหว่นี้แล้ว แอปเปิลจึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตทันที
ระบบปฏิบัติการที่ออกอัพเดตทั้งหมด มีรายละเอียดดังนี้
แอปเปิลยังคงรายงานตัวเลขสถิติต่าง ๆ ออกมา ก่อนการจัดงานใหญ่ประจำปี WWDC สัปดาห์หน้า คราวนี้เป็นสถิติส่วนแบ่งการใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS 16 และ iPadOS 16 ในอุปกรณ์ทั้งหมด
โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2023 แอปเปิลระบุว่า 81% ของ iPhone ที่มีการใช้งานอยู่ตอนนี้ เป็นระบบปฏิบัติการ iOS 16 เพิ่มขึ้นจาก 72% ที่แอปเปิลรายงานในเดือนกุมภาพันธ์ เป็น iOS 15 13% ที่เหลือเป็นเวอร์ชันเก่ากว่านั้น และหากดูเฉพาะ iPhone รุ่นใหม่ที่เปิดตัวย้อนหลัง 4 ปี ส่วนแบ่ง iOS 16 อยู่ที่ 90%
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการให้กับอุปกรณ์รุ่นเก่า ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดปัจจุบันได้ ได้แก่ iOS 15.7.5, iPadOS 15.7.5, macOS Big Sur 11.7.6 และ macOS Monterey 12.6.5 ซึ่งเป็นอัพเดตด้านความปลอดภัย จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตทันที
ผู้ใช้งาน iPhone และ iPad สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update ส่วนผู้ใช้ Mac ไปที่ System Preferences > General > Software Update
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 16.4 และ iPadOS 16.4 ซึ่งเป็นอัพเดตรอบใหญ่ ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update ซึ่ง iOS 16.4 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่หลายอย่างดังนี้
แอปเปิลอัพเดตตัวเลขส่วนแบ่งระบบปฏิบัติการของ iOS และ iPadOS ซึ่งเป็นการรายงานข้อมูลครั้งแรกนับตั้งแต่ iOS 16 เปิดให้อัพเดตกับผู้ใช้งานทั่วไปเมื่อปีที่แล้ว
iOS 16 มีส่วนแบ่ง 81% ของ iPhone รุ่นใหม่ที่แอปเปิลเปิดตัวในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ส่วน iOS 15 มี 15% และเวอร์ชันเก่ากว่านั้น 4% หากวัดจาก iPhone ทุกรุ่นที่ยังมีการใช้งาน iOS 16 คิดเป็น 72%
สำหรับ iPadOS ระบบปฏิบัติการของ iPad ตัวเลขจะไม่มากเท่ากับ iOS โดยถ้าวัดเฉพาะ iPad รุ่นที่เปิดตัวช่วง 4 ปีที่ผ่านมา iPadOS 16 คิดเป็น 53%, iPadOS 15 39% และเวอร์ชันเก่ากว่านั้น 8% ถ้าวัดจาก iPad ทุกรุ่น iPadOS 16 คิดเป็น 50%
นอกจากอัพเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด iOS 16.3 และ macOS Ventura 13.2 แอปเปิลยังออกอัพเดตความปลอดภัยให้กับ iOS และ macOS เวอร์ชันเก่า สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถอัพเดตมาเป็นเวอร์ชันล่าสุดได้ด้วย มีรายละเอียดดังนี้
นอกจาก iOS 16.2 และ macOS Ventura 13.1 ที่ออกอัพเดตมาในวันนี้แล้ว แอปเปิลยังออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ เพื่อแก้ไขเฉพาะช่องโหว่ความปลอดภัยให้กับ iOS และ macOS เวอร์ชันเก่า ที่อุปกรณ์ไม่สามารถอัพเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ได้
โดยระบบปฏิบัติการที่อัพเดตได้แก่ iOS 15.7.2, iPadOS 15.7.2, macOS Monterey 12.6.2 และ macOS Big Sur 11.7.2
รายการช่องโหว่ความปลอดภัยแตกต่างกันตามระบบปฏิบัติการ โดยมีทั้งช่องโหว่ของ DriverKit, WebKit, เคอร์เนล จนถึงระบบไฟล์ จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดตโดยเร็วที่สุด
ที่มา: Apple Insider
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 15.7.1 และ iPadOS 15.7.1 สำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad รุ่นเก่าที่ไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS 16 หรือ iPadOS 16 ได้ อัพเดตนี้ยังรองรับสำหรับผู้ใช้งานที่ยังไม่ต้องการอัพเดตเป็น iOS 16 ในตอนนี้ด้วย
การอัพเดตสามารถทำได้โดยไปที่ Settings > General แล้วเลือก Software Update
อัพเดตนี้เป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยมากกว่า 10 รายการ รวมทั้งช่องโหว่ระดับเคอร์เนลที่แอปเปิลระบุว่ามีการโจมตีแล้ว จึงแนะนำผู้ใช้งาน iOS 15 และ iPadOS 15 ให้อัพเดตโดยเร็วที่สุด
ที่มา: MacRumors
นอกจาก iOS 16 ที่เปิดให้อัพเดตแล้ว แอปเปิลยังออกอัพเดตย่อยของระบบปฏิบัติการ iOS 15.7 และ iPadOS 15.7 สำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad เพื่อแก้ไขปัญหาช่องโหว่ความปลอดภัยเท่านั้นอีกด้วย
iOS 15.7 สามารถอัพเดตได้ทั้งผู้ใช้งานอุปกรณ์รองรับ iOS 15 ที่ไม่สามารถอัพเดตเป็น iOS 16 (iPhone 6s, iPhone 7 และ iPhone SE รุ่นแรก) รวมทั้งผู้ใช้งานที่ยังไม่ต้องการอัพเดตเป็น iOS 16 ก็สามารถเลือกอัพเดตแค่ iOS 15.7 ก่อนได้ ส่วนผู้ใช้ iPad ที่รองรับ iPadOS 15 สามารถอัพเดตได้ทุกคน เนื่องจาก iPadOS 16 ยังไม่ออกมา
แอปเปิลออกอัพเดตย่อยให้ระบบปฏิบัติการในเครือ ได้แก่ iOS 15.6.1, iPadOS 15.6.1, macOS Monterey 12.5.1 และ watchOS 8.7.1
โดย iOS 15.6.1, iPadOS 15.6.1 และ macOS Monterey 12.5.1 เป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยสองรายการ คือช่องโหว่ของเคอร์เนล CVE-2022-32894 ที่ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งที่ระดับเคอร์เนลได้ และอีกช่องโหว่เป็นของ WebKit CVE-2022-32893 เนื่องจากเป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย จึงแนะนำให้ผู้ใช้งานทุกคนอัพเดต
สำหรับ watchOS 8.7.1 แอปเปิลไมได้ระบุว่าเป็นการอัพเดตเรื่องความปลอดภัย แต่เป็นการแก้บั๊กเฉพาะใน Apple Watch Series 3 ที่พบปัญหารีบูทเอง จึงเป็นอัพเดตออกมาเฉพาะ Apple Watch รุ่นดังกล่าวเท่านั้น
แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ iOS 15.6 และ iPadOS 15.6 รวมทั้งระบบปฏิบัติการอื่นในวันนี้ ซึ่งเป็นเวลา 2 เดือนนับจาก iOS 15.5 ออกมา
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ โดยไปที่ Settings > General และเลือก Software Update
ในอัพเดตนี้มีการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาหลายอย่าง เช่น ปรับปรุงการดูถ่ายทอดสดกีฬาในแอป TV, แก้บั๊กอักษรเบรลล์เมื่ออ่านเมล, แก้ปัญหา Settings แสดงพื้นที่หน่วยความจำว่าเต็ม แม้ลบไฟล์แล้ว, iPadOS 15.6 แก้ปัญหาบั๊กชาร์จไฟไม่เข้าของ iPad mini
รายละเอียดอัพเดตของระบบปฏิบัติการอื่นมีดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ ระบบปฏิบัติการ iOS 15.5 และ iPadOS 15.5 รวมทั้งระบบปฏิบัติการอื่นในเครือทั้งหมดวันนี้ หลังจากที่ออกเวอร์ชันทดสอบสำหรับนักพัฒนามาหลายสัปดาห์ก่อนหน้า
แอปเปิลออกอัพเดตย่อยระบบปฏิบัติการ iOS 15.4.1 และ iPadOS 15.4.1 สองสัปดาห์หลังจาก iOS 15.4 ออกมา ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตแบบ OTA ได้ โดยไปที่ Settings > General และเลือก Software Update
รายละเอียดในอัพเดตนี้ คือแก้ไขปัญหาปัญหาแบตเตอรี่ลดลงเร็ว หลังจากอัพเดตเป็น iOS 15.4 ซึ่งมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งรายงานมา นอกจากนี้ยังแก้ไขปัญหาอุปกรณ์อักษรเบรลล์อาจไม่ตอบสนอง และแก้ไขปัญหาเชื่อมต่อของอุปกรณ์ช่วยในการฟัง
แอปเปิลยังออกอัพเดตระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์อื่นด้วยดังนี้
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 15.4 และ iPadOS 15.4 ตามที่ประกาศก่อนหน้านี้ มีฟีเจอร์เด่นคือ สามารถปลดล็อก Face ID ได้แม้ใส่มาสก์อยู่ โดยไม่ได้ต้องมี Apple Watch อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะ iPhone 12 ขึ้นไปเท่านั้น
ส่วนของใหม่อื่นใน iOS 15.4 ได้แก่ อีโมจิใหม่ 37 รายการ, Siri บอกวัน-เวลาได้แบบออฟไลน์ (iPhone XS, XR, 11 ขึ้นไป), Siri เพิ่มตัวเลือกเสียงใหม่ และอื่น ๆ
แอปเปิลระบุในหน้าข้อมูลของ iPhone 13 สีเขียวอัลไพน์ ว่าจะส่งมอบพร้อมกับ iOS เวอร์ชันใหม่ iOS 15.4 ซึ่งบอกว่าอัพเดตนี้ จะเปิดให้กับผู้ใช้งานทุกคนในสัปดาห์หน้าด้วย แต่ไม่ได้ระบุวันที่ชัดเจน
iOS 15.4 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ที่สำคัญ คือการใช้ปลดล็อกหน้าจอ Face ID ขณะสวมใส่มาสก์ได้ จากที่ก่อนหน้านี้ผู้ใช้งานต้องมี Apple Watch เท่านั้น
ส่วนฟีเจอร์อื่นที่เพิ่มมาในเวอร์ชันนี้ ได้แก่ Siri เสียงใหม่, อีโมจิใหม่, ระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมของ AirTag และอื่น ๆ
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 15.3.1, iPadOS 15.3.1 และ macOS Monterey 12.2.1 วันนี้ ซึ่งเป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยและบั๊ก
สำหรับผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General และเลือก Software Update ส่วน macOS อัพเดตได้ใน System Preferences
ช่องโหว่ความปลอดภัยที่มีการแก้ไขเป็นส่วนของ WebKit หมายเลข CVE-2022-22620
ใน iOS 15.3.1 และ iPadOS 15.3.1 ยังระบุว่ามีการแก้ไขบั๊กแสดงผลอักษรเบรลล์ ส่วน macOS Monterey 12.2.1 ได้แก้ไขบั๊กเวลาเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว
แอปเปิลยังออกอัพเดต watchOS 8.4.2 ด้วย แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าแก้ไขปัญหาใด
หลังจากแอปเปิลออก iOS 15.3 สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ก็มี iOS 15.4 เบต้า รุ่นทดสอบสำหรับนักพัฒนาออกตามมา โดยมีผู้พบฟีเจอร์น่าสนใจในอัพเดตนี้ ที่ทำให้ใช้งานตัวปลดล็อกหน้าจอ Face ID ได้ ขณะสวมใส่มาสก์ แต่ไม่ต้องมี Apple Watch ช่วย
แอปเปิลอธิบายตัวเลือกการทำงานของ Face ID ใหม่นี้ว่า เป็นการจดจำตำแหน่งที่สำคัญรอบดวงตาเพื่อใช้ยืนยันตัวบุคคล ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดคุณสมบัตินี้เพิ่มเติมเอง (opt-in) จากนั้นต้องสแกนใบหน้าใหม่อีกครั้ง ซึ่งจากตรงนี้จะทำให้สามารถปลดล็อกจอแม้ใส่มาสก์
ตัวเลือกสำหรับการปลดล็อกแบบใหม่นี้มีทั้งเงื่อนไข ปลดล็อกขณะใส่มาสก์ ไปจนถึงขณะใส่ทั้งมาสก์และแว่นตาพร้อมกัน
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการทุกอุปกรณ์ในเครือวันนี้ ซึ่งประเด็นสำคัญเป็นการแก้ไขบั๊ก IndexedDB บน Safari โดย iOS เป็นอัพเดต iOS 15.3 และ iPadOS 15.3 ซึ่งระบุว่าแก้ไขบั๊กและปัญหาหลายรายการ (รายละเอียดทั้งหมด)
ผู้ใช้ iOS สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General และเลือก Software Update
สำหรับ macOS แอปเปิลได้ออกอัพเดต Monterey 12.2 รวมทั้ง Big Sur 11.6.3 และ Catalina Security Update 2022-001 สำหรับผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่า แก้ไขบั๊กของ Safari เช่นกัน
ส่วนระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ที่มีออกมาเช่นกัน ได้แก่ watchOS 8.4, HomePod 15.3 และ tvOS 15.3
มีรายงานปัญหาจากผู้ใช้ iPhone 13 บางคน ซึ่งได้โพสต์ในฟอรัมของเว็บแอปเปิล โดยพบว่าเมื่อใช้งานไป หน้าจอก็กลายเป็นสีชมพู ไม่สามารถใช้งานต่อได้หากไม่รีสตาร์ทเครื่อง ซึ่งเกิดขึ้นแบบสุ่ม
ผู้ใช้งานบางคนบอกว่าได้แจ้งปัญหานี้ไปที่แอปเปิล ซึ่งก็ได้เปลี่ยนเป็น iPhone เครื่องใหม่แทน แต่บางรายก็ไม่ได้เปลี่ยนเครื่อง โดยแอปเปิลให้คำตอบว่าเป็นบั๊กซอฟต์แวร์
ทั้งนี้แอปเปิลแนะนำผู้ใช้งานที่แจ้งปัญหา ให้แบ็กอัพข้อมูล แล้วลง iOS 15.3 ซึ่งตอนนี้เป็นสถานะเบต้าเพื่อแก้ปัญหา จึงอาจบอกได้ว่านี่ไม่ใช่ปัญหาของฮาร์ดแวร์ อย่างไรก็ตามแอปเปิลไม่ได้ระบุว่า iOS 15.3 มีการแก้ไขปัญหานี้ใน log ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไปว่ายังมีผู้ใช้ที่เจอปัญหาอีกหรือไม่
แอปเปิลได้ออกอัพเดต iOS 15.3 และ macOS Monterey 12.2 ที่เป็น RC (Release Candidate) รุ่นทดสอบสำหรับนักพัฒนาวันนี้ โดยในเวอร์ชันนี้ได้แก้ไขบั๊ก IndexedDB API ใน Safari 15 ที่มีการรายงานช่องโหว่ออกมาก่อนหน้านี้
บั๊กนี้ทำให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงข้อมูล IndexedDB และดูได้ว่าผู้ใช้งานมีประวัติเข้าเว็บไซต์ใดบ้าง นอกจาก Safari แล้วก็มีผลกับเบราว์เซอร์อื่นบน iOS ที่ใช้ WebKit เช่น Chrome ด้วย
เนื่องจากแอปเปิลออกอัพเดตมาเป็นเวอร์ชัน RC แล้ว จึงคาดว่าเวอร์ชันสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปน่าจะออกมาได้เร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
ที่มา: MacRumors