ไม่กี่วันก่อนเพิ่งมีข่าวลือว่า Toyota ยอมติดตั้ง Android Auto มากับรถยนต์ของตน ล่าสุดเป็นฝั่ง Jaguar Land Rover ที่ชิงประกาศก่อนว่ารถยนต์ทุกรุ่นของทั้ง 2 ยี่ห้อที่มีอินโฟเทนเมนต์ระบบ InControl Touch Pro หรือ Touch Pro Duo จะมาพร้อมกับ Android Auto และ Apple CarPlay โดยเริ่มตั้งแต่รุ่นปี 2019
อย่างไรก็ตาม ออปชันนี้ไม่ได้มีให้ใช้ฟรีๆ โดยผู้ที่ต้องการใช้ต้องจ่ายเงินเริ่มที่ 280 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9,000 บาท แล้วแต่รุ่น ส่วนรถยนต์รุ่นเก่าบางรุ่นก็มีให้อัพเดตเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถรุ่นนั้นจะรองรับหรือไม่
Jaguar Land Rover ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากอังกฤษ ได้เริ่มทดสอบระบบรถยนต์ไร้คนขับครั้งแรกบนถนนสาธารณะ เพื่อให้เข้าใจถึงการตอบสนองกับรถยนต์คันอื่นและโครงสร้างพื้นฐานบนถนนให้มากยิ่งขึ้น และโมเดลที่พัฒนาขึ้นมาสามารถทำพฤติกรรมขณะขับรถยนต์เหมือนกับมนุษย์หรือไม่อย่างไร
รถยนต์ที่ใช้ทดสอบนี้มีเซนเซอร์จำนวนมากเพื่อรับข้อมูล อย่างเช่น การจราจร, คนเดินเท้า และสัญญาณต่าง ๆ โดยการรับข้อมูลจากเซนเซอร์จำนวนมากนี้และค้นหาหนทางในการจัดการกับข้อมูล จะทำให้มีความเข้าใจในทางเทคนิคมากขึ้น เพื่อใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้สำหรับใช้งานจริงต่อไป โดยการทดสอบนี้จะมีคนคอยควบคุมและแก้สถานการณ์เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ
ไม่เพียงนโยบายภาครัฐที่เริ่มหันไปหารถยนต์พลังงานสะอาดกันมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ก็เริ่มทยอยเบนเข็มกันไปบ้างแล้วเช่นกัน ไล่ตั้งแต่ Volvo และ Aston Martin ล่าสุดเป็นคิวของ Jaguar Land Rover (JLR) บริษัทรถยนต์สัญชาติอังกฤษ ที่ตอนนี้เป็นแบรนด์ลูกของ Tata Motors
Ralf Speth ผู้บริหารของ JLR ระบุไลน์รถยนต์รุ่นใหม่ของบริษัท (ซึ่งมีทั้งแบรนด์ Jaguar และ Land Rover ซึ่งก็น่าจะหมายรวมทั้งสองแบรนด์) หลังปี 2020 จะมีแต่รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยรถยนต์สปอร์ตรุ่นแรกที่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทคือ Jaguar I-Pace วางจำหน่ายในปีหน้า อย่างไรก็ตามรถยนต์รุ่นเก่าๆ ของ JLR ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังคงถูกผลิตอยู่ เพื่อเปิดทางเลือกให้ผู้บริโภค
Ford, Jaguar, Land Rover และ Tata Motors รวมกลุ่มกันในแผนการชื่อ Autodrive ในสหราชอาณาจักร เพื่อทดสอบระบบติดต่อสื่อสารระหว่างรถยนต์ไร้คนขับ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์
ตัวอย่างการทดสอบที่เพิ่งเกิดขึ้นในเมือง Warwickshire คือระบบแจ้งเตือนคนขับเหตุการณ์ฉุกเฉินและแจ้งเตือนการชน ก่อนจะแจ้งเตือนไปยังรถยนต์คันที่อยู่ใกล้เคียงด้วย ขณะที่การทดสอบอื่นๆ ก็มีการส่งสัญญาณบอกไฟจราจร, บอกช่องจอดรถที่ว่าง, แจ้งเตือนรถคันอื่นๆ ว่ารถคันหน้าเบรคฉุกเฉิน เป็นต้น โดยทั้ง 4 บริษัทเตรียมจะทดสอบบนถนนสาธารณะในช่วงปลายปี 2018 เป็นการปิดท้ายโครงการ
ที่มา - ReadWrite
ถ้าหากว่าคุณคือคนที่ชื่นชอบใน ThinkPad ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊คที่ทนทานมากๆ แล้วอยากได้โทรศัพท์ที่ทนพอๆ กัน คุณคงต้องลองดูวิดิโอทดสอบเจ้ามือถือ Land Rover S1 นี่ซะหน่อยแล้ว
Land Rover S1 เป็นมือถือที่ผลิตโดย Sonim และ Land Rover โดยระบุไว้ว่าสามารถทนต่อแรงช้างเหยียบ ทนต่อแรงกระแทกจากการขว้างลงมาจากชั้นสอง ทนต่อแรงอัดสูง ทนความร้อนได้มากถึง 150 องศาเซลเซียส สามารถใช้งานต่อได้แม้ว่าจะจมอยู่ในโคลน นอกจากนี้เสียงเรียกเข้ายังดังพอที่จะได้ยินแม้ว่าจะโดนช้างเหยียบอยู่ก็ตาม (ดูวิดิโอประกอบ)
แต่เห็นถึกๆ แบบนี้อย่าเอาไปเทียบกับ Nokia 3310 เชียว เพราะว่า S1 มีกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีระบบ GPS แถมใช้เป็นไฟฉายได้ด้วย