Netflix ประกาศสถิติการรับชมถ่ายทอดสด NFL Christmas Gameday มีจำนวนผู้ชมทั่วโลกเฉลี่ยกว่า 30 ล้านคน โดยจำนวนการรับชมการแข่งขันระหว่าง Kansas City Chiefs และ Pittsburgh Steelers เฉลี่ย 30.0 ล้านคน ส่วน Houston Texans กับ Baltimore Ravens เฉลี่ย 31.3 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ Netflix รายงานตัวเลขผู้ชมเฉพาะในสหรัฐอเมริกา เฉลี่ย 26.5 ล้านคน ตัวเลขคนที่เปิดดูรวม 65 ล้านคน
Netflix ทำข้อตกลงถ่ายทอดสด NFL Christmas Gameday ซึ่งเป็นการแข่งขันในวันคริสต์มาสต่อเนื่อง 3 ปี โดยปี 2024 เป็นปีแรก ซึ่งการถ่ายทอดสดครั้งนี้ทำสถิติรายการที่มีคนดูมากที่สุดของ Netflix ในวันคริสต์มาส และทำสถิติคนดูสูงสุดสำหรับ NFL ในการแข่งขันแมตช์วันคริสต์มาสนี้
Netflix ประกาศสถิติจำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสดอเมริกันฟุตบอล NFL Christmas Gameday ซึ่งจัดในวันคริสต์มาส โดยอ้างอิงตัวเลขวัดผลเบื้องต้นของ Nielsen มีจำนวนคนที่เปิดรับชมเกือบ 65 ล้านคน เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Netflix บอกว่าเป็นสถิติสูงสุดของการรับชม NFL ผ่านช่องทางสตรีมมิ่งในอเมริกา
ตัวเลขนี้ต้องรอรายละเอียดทางการจาก Nielsen และ Netflix อีกครั้ง ซึ่งรวมทั้งตัวเลขจำนวนผู้ชมทั่วโลกด้วย โดยการถ่ายทอดสดกีฬาบน Netflix ที่มีผู้ชมจำนวนมากก่อนหน้านี้คือมวยระหว่าง Jake Paul กับ Mike Tyson ระบุตัวเลขผู้ชมที่ 60 ล้านครัวเรือน
Netflix ประกาศสถิติจำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสดมวยระหว่าง Jake Paul กับ Mike Tyson ว่ามีมากกว่า 60 ล้านครัวเรือน (Household) ทั่วโลก มีจำนวนการชมพร้อมกันสูงสุดที่ 65 ล้านครัวเรือน ส่วนช่วงการชกระหว่าง Serrano vs. Taylor 2 มีคนดู 50 ล้านครัวเรือน
Netflix บอกว่าสถิติการรับชมที่ 60 ล้านครัวเรือนนี้ เป็นการชมการถ่ายทอดสดสูงที่สุดที่เคยมีมาบน Netflix ขณะที่ Serrano vs. Taylor 2 ก็เป็นสถิติคนดูมวยหญิงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทีวีสหรัฐ
Warner Bros. Discovery เปิดตัว Max (HBO Max หลังรีแบรนด์จากการควบรวมกับ Discovery+) ในไทย 19 พฤศจิกายน มีแพ็กเกจให้เลือก 3 แบบ ซึ่งยังไม่ได้เปิดเผยราคาออกมา ได้แก่ Mobile, Standard และ Ultimate
Warner Bros. Discovery เปิดเผยแผนขยายตลาดบริการ HBO Max (หรือ Max เฉยๆ)ในเอเชีย ตั้งแต่ญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดให้บริการผ่านพาร์ทเนอร์ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ไต้หวัน ฮ่องกง และปิดท้ายที่ออสเตรเลียต้นปีหน้า
กำหนดการการเปิดให้บริการยังไม่แน่ชัด แต่จะมีประกาศตามมาในเร็วๆ นี้ โดยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวันและฮ่องกง บริการ HBO Max จะมาแทนที่ HBO Go ที่อยู่มานาน
ที่มา - Variety
คณะกรรมการกำกับดูแลวิทยุและโทรทัศน์ของแคนาดา (CRTC) ออกคำสั่งให้แพลตฟอร์มออนไลน์สตรีมมิ่งรายใหญ่ ต้องจ่ายเงิน 5% ของรายได้ในแคนาดาให้กับรัฐบาล ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าจะได้เงินประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยเงินดังกล่าวจะนำมาใช้สนับสนุนรายการข่าวท้องถิ่น ตลอดจนผู้ผลิตคอนเทนต์ในประเทศ
คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับบริการสตรีมมิ่งทั้งวิดีโอและเพลง ที่มีรายได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ต่อปีในแคนาดา โดยก่อนหน้านี้ทั้ง Amazon, Apple, Disney, Google, Netflix, Paramount และ Spotify ได้ออกมาคัดค้านในช่วงการทำประชาพิจารณ์
คำสั่งดังกล่าวได้ยกเว้นการเก็บเงินจากกลุ่มหนังสือเสียง, พอดคาสต์, วิดีโอเกม และคอนเทนต์ที่ผู้ใช้งานสร้างขึ้น (UGC) จึงทำให้ YouTube ไม่เข้าเงื่อนไขที่ต้องจ่ายเงิน
การแข่งขันคริกเกตรายการ ICC World Cup นัดชิงชนะเลิศระหว่าง อินเดียและออสเตรเลีย เป็นรายการถ่ายทอดสดออนไลน์ที่ทำสถิติใหม่จำนวนผู้ชมพร้อมกันสูงสุดอีกครั้ง โดยตัวเลขที่ Hotstar แพลตฟอร์มถ่ายทอดสดรายงานคือ 59 ล้านคน
ก่อนหน้านี้สถิติเดิมที่บันทึกไว้คือรายการ ICC World Cup นี้เอง เมื่อเดือนตุลาคม คู่ระหว่าง อินเดียและปากีสถาน ตัวเลขอยู่ที่ 35 ล้านคน ต่อมาเมื่อกลางสัปดาห์ รอบรองชนะเลิศระหว่าง อินเดียและนิวซีแลนด์ มีผู้ชม 52 ล้านคน
ผู้บริหาร Disney+ Hotstar บอกว่าตัวเลขผู้ชมการแข่งขันคริกเกตแมตช์ที่อินเดียลงแข่ง สามารถทำสถิติผู้ชมพร้อมกันสูงสุดขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดทัวร์นาเมนต์ สะท้อนการสนับสนุนและความนิยมของแฟนคริกเกตในอินเดีย
Netflix ประกาศปรับขึ้นราคา มีผลทันทีกับสมาชิกใน 3 ประเทศคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ส่วนประเทศอื่นยังคงราคาเดิม เป็นไปตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้
สำหรับอเมริกา แพ็คเกจแบบมีโฆษณาและ Standard คงราคาเดิมคือ 6.99 และ 15.49 ดอลลาร์ต่อเดือน ที่เพิ่มขึ้นคือแพ็คเกจ Basic จาก 9.99 เป็น 11.99 ดอลลาร์ และ Premium จาก 19.99 เป็น 22.99 ดอลลาร์
Hotstar แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งรายใหญ่ในอินเดีย ประกาศสถิติจำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสดพร้อมกันสูงสุดของโลกใหม่ โดยการแข่งขันคริกเกตรายการ ICC World Cup คู่ระหว่าง อินเดียและปากีสถาน เมื่อวานนี้ มีจำนวนผู้ชมสดพร้อมกัน 35 ล้านคน
สถิติเดิมเป็นของแพลตฟอร์มคู่แข่ง JioCinema เมื่อเดือนพฤษภาคม ซึ่งถ่ายทอดสดคริกเกต IPL นัดชิงชนะเลิศ จำนวนผู้ชม 32 ล้านคน ซึ่งทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวเดิมเป็นลิขสิทธิ์ของ Hotstar ที่เสียให้กับ JioCinema นั่นเอง
คุณ Bob Iger ประธานกรรมการบริหาร (CEO) ของ Disney ได้กล่าวกับ CNBC ว่า Disney จะลดปริมาณการสร้างภาพยนตร์ และทีวีซีรี่ส์ของ Marvel Studios และ แฟรนไซส์ของ Lucasfilm (Star Wars, Indiana Jones ฯลฯ) ลง การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก Disney ต้องการลดค่าใช้จ่าย เพื่อนำมาใช้ผลิตภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ ที่คาบเกี่ยวไปตั้งแต่ Marvel ไปจนถึงแผนกอนิเมชั่น เพื่อหวังจะทำรายได้ถล่มทลายในบ็อกซ์ออฟฟิศ
JioCinema แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในอินเดีย ทำสถิติใหม่จำนวนผู้ชมการถ่ายทอดสดพร้อมกันสูงสุดในโลก แซงสถิติเดิมของ Hotstar แพลตฟอร์มของดิสนีย์ ที่ถือสถิตินี้และทำสถิติใหม่ต่อเนื่องหลายปี
รายการถ่ายทอดสดที่ทำสถิติผู้ชมสูงสุดนี้ก็คือ การแข่งขันคริกเกต IPL นัดชิงชนะเลิศ ระหว่างทีม Chennai Super Kings และ Gujarat Titans โดยมีผู้จำนวนผู้ชมพร้อมกันสูงสุด 32 ล้านคน ส่วนสถิติเก่าของ Hotstar คือ 25.3 ล้านคน จากนัดชิงชนะเลิศ IPL ปี 2019
ปัจจุบันลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด IPL ผ่านสตรีมมิ่งเป็นของ Viacom18 บริษัทแม่ของ JioCinema ส่วนดิสนีย์ได้ลิขสิทธิ์ทางโทรทัศน์ ผ่านช่อง Star India
Warner Bros. Discovery ประกาศรวมร่างบริการสตรีมมิ่งในเครือ HBO Max และ Discovery+ เข้าเป็นตัวเดียว ใช้ชื่อใหม่ว่า Max ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้
HBO Max เป็นสตรีมมิ่งสายหนังและซีรีส์ของ Warner Bros. ส่วน Discovery+ เป็นสตรีมมิ่งสายไลฟ์สไตล์ของ Discovery เมื่อทั้งสองบริษัทควบรวมกิจการกันในปี 2022 ก็ถึงเวลาต้องควบรวมสตรีมมิ่งเข้าด้วยกันเป็นตัวเดียว
ค่าบริการของ Max มีทั้งหมด 3 แพ็กเกจ ได้แก่
NFL ประกาศว่าแพ็คเกจรับชมการแข่งขัน Sunday Ticket มีผู้ชนะการประมูลรายใหม่คือ YouTube ที่มูลค่าดีล 2,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เป็นระยะเวลา 7 ปี ชนะผู้ถือสิทธิ์รายเดิม DirecTV ที่เคยเสนอราคา 1,500 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่ฤดูการแข่งขัน 2023-2024
YouTube บอกว่าแพ็คเกจ Sunday Ticket นี้ จะให้บริการผ่านสองช่องทางคือเป็นส่วนเสริมของบริการ YouTube TV หรือซื้อแยกเฉพาะผ่าน YouTube Primetime Channel แต่ยังไม่ได้ประกาศราคา ซึ่งมีผลเฉพาะผู้ชมในอเมริกา
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าทั้งแอปเปิลและ Amazon ต่างสนใจร่วมประมูลสิทธิ์ถ่ายทอดสดในแพ็คเกจดังกล่าวด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่สู้ราคาที่ YouTube เสนอ
ที่มา: CNBC
ดิสนีย์รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดวันที่ 2 เมษายน 2022 ในภาพรวมบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 23% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 19,249 ล้านดอลลาร์
Bob Chapek ซีอีโอดิสนีย์ อัพเดตตัวเลขของบริการสตรีมมิ่ง Disney+ ว่ามีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นในไตรมาสอีก 7.9 ล้านราย ทำให้จำนวนสมาชิกรวมเพิ่มเป็น 137.7 ล้านราย ส่วนซีเอฟโอ Christine McCarthy บอกว่าในครึ่งหลังของปี คาดว่าสมาชิก Disney+ ยังเพิ่มขึ้น แต่จำนวนที่เพิ่มจะไม่มากกว่าครึ่งแรกของปีนัก
ตัวเลขสมาชิก Disney+ ในไตรมาสที่ผ่านมาเป็นที่จับตามอง เนื่องจาก Netflix รายงานผลประกอบการโดยมีจำนวนสมาชิกลดลง 2 แสนราย
The New York Times รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง พูดถึงแผนงานหารายได้ช่องทางใหม่ที่ Netflix เคยเกริ่นไว้ หลังจากผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาเริ่มชะลอการเติบโต โดยบอกว่าอาจออกแพ็คเกจแบบมีโฆษณา
ข้อมูลบอกว่าเดิมที Netflix ตั้งใจจะออกแพ็คเกจดังกล่าวใน 1-2 ปี ข้างหน้า แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ Netflix กำหนดให้แพ็คเกจดังกล่าวต้องเปิดให้สมัครได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ หรือช่วงปลายปี
รายงานยังบอกว่าแผนเก็บเงินสมาชิกที่มีการแชร์รหัสผ่านกัน ก็คาดว่าจะเริ่มมีผลในช่วงปลายปีเช่นกัน
FIFA เปิดบริการสตรีมมิ่งของตัวเองในชื่อ FIFA+ (มีทั้งเว็บและแอพมือถือ) มีเนื้อหาเกี่ยวกับฟุตบอล ทั้งการถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกจากประเทศต่างๆ, บันทึกการแข่งขันระดับนานาชาติ และเนื้อหาออริจินัลจากนักฟุตบอลชื่อดัง
บริการสตรีมมิ่งสองตัวคือ HBO Max และ Discovery+ ประกาศควบรวมกันเป็นบริการเดียวในอนาคต
เหตุผลเป็นเพราะบริษัทแม่ของทั้งสองกำลังจะควบรวมกัน นั่นคือ WarnerMedia (แม่ของ HBO) และ Discovery Inc. (แม่ของ Discovery+) เป็นบริษัทใหม่ชื่อ Warner Bros. Discovery ซึ่งกระบวนการจะเสร็จสิ้นในช่วงกลางปี 2022 นี้
Suhail Doshi ผู้ก่อตั้งบริการเก็บสถิติเว็บ Mixpanel เปิดตัวบริษัทสตาร์ตอัพใหม่ของเขาชื่อ Mighty ที่ให้บริการ Chrome ผ่านสตรีมมิ่ง เพื่อให้ผู้ใช้เว็บไม่ต้องกังวลกับปัญหาคอมช้า แรมน้อย เปลืองทรัพยากรเครื่อง
แนวทางของ Mighty เหมือนกับบริการเกมสตรีมมิ่งอย่าง xCloud หรือ Stadia โดยย้าย Chrome ไปประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์แทน แล้วส่งเฟรมภาพกลับมายังเครื่องของผู้ใช้งาน จากสถิติของ Mighty เองบอกว่าสามารถเปิด Chrome 50 แท็บ แล้วแสดงขึ้นจอของผู้ใช้ที่ความละเอียด 4K 60 fps โดยกินซีพียูเพียงแค่ 30%
ในงาน Tokyo’s AnimeJapan 2021 Expo จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27-30 มีนาคม Netflix ได้ประกาศเตรียมนำอนิเมะใหม่ประจำปี 2021 ลงแพลตฟอร์มอีก 40 เรื่อง มากกว่าที่ประกาศไว้ในปี 2020 ถึงสองเท่า
Disney ประกาศความสำเร็จของบริการสตรีมมิ่งในเครือทั้ง 3 ตัว ได้แก่
CBS ประกาศสร้างซีรีส์ Star Trek: Strange New World ที่เป็นเรื่องราวของกัปตัน Pike ช่วงที่เป็นกัปตันยาน USS Enterprise (ก่อนยุค Kirk) และมี Spock และ Number One เป็นเหมือนมือซ้ายและมือขวา
Star Trek: Strange New World เปรียบเสมือนสปินออฟจากภาค Star Trek: Discovery เพราะได้นักแสดงหน้าเก่าจาก Discovery ชุดเดิมกลับมาทั้ง Anson Mount ในบท Christopher Pike, Ethan Peck ในบท Spock และ Rebecca Romjin ในบท Number One โดย Strange New World นับเป็นซีรีส์เรื่องที่ 3 ที่ CBS ประกาศสร้างต่อจาก Discovery และ Picard (ไม่รวม Star Trek: Lower Decks ที่เป็นการ์ตูนและมีกำหนดฉายปีนี้)
HOOQ บริการดูหนังแบบสตรีมมิ่งในเครือ Singtel ปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว หลังยื่นเรื่องขอปิดกิจการบริษัทในสิงคโปร์เมื่อเดือนมีนาคม
ในเพจของ HOOQ ประเทศไทย โพสต์ข้อความว่า HOOQ ปิดตัวลงเมื่อวานนี้ (30 เมษายน) หลังเปิดให้บริการมา 5 ปี
สำหรับในประเทศไทย HOOQ ทำตลาดร่วมกับ AIS (ซึ่งถือเป็นบริษัทในเครือ Singtel) โดย AIS แถมพ่วงมากับแพ็กเกจ AIS Play คู่กับบริการสตรีมมิ่งอีกตัวคือ Viu แต่หลังการปิดตัวของ HOOQ ก็ทำให้เหลือแต่ Viu เพียงอย่างเดียว
ที่มา - HOOQ Thailand
Netflix เพิ่งประกาศเริ่มใช้ตัวเข้ารหัสวิดีโอ AV1 ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ล่าสุดบริษัทประกาศแล้วว่าจะเริ่มสตรีมวิดีโอที่เป็น AV1 โดยเริ่มจากแอพ Android ก่อนเป็นแพลตฟอร์มแรก
Netflix บอกว่า AV1 มีประสิทธิภาพมากกว่า VP9 ถึงประมาณ 20% จึงเหมาะกับการใช้งานบนอุปกรณ์พกพามากที่สุด เพราะมีทั้งเรื่องการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร และข้อจำกัดเรื่องแพ็กเกจข้อมูลของผู้ใช้ (อ่านบทความ รู้จัก AV1 มาตรฐานบีบอัดวิดีโอ 4K ตัวใหม่ท้าชน HEVC บีบอัดข้อมูลดีกว่าคู่แข่ง 30% ประกอบ)
ก่อนหน้านี้ Netflix ออกมาประกาศว่า ซีรีส์เรื่อง The Witcher ประสบความสำเร็จสูงสุดใน Netflix ล่าสุดมีการยืนยันเพิ่มเติมจาก Netflix ว่ากำลังอยู่ระหว่างสร้างหนังแอนิเมชั่นภาคแยกคือ The Witcher: Nightmare of the Wolf
บริการสตรีมมิ่ง Disney+ ประกาศบุกยุโรปอย่างเป็นทางการ โดยประเทศชุดแรกคือ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ เริ่มวันที่ 24 มีนาคมนี้ ค่าบริการรายเดือน 5.99 ปอนด์ หรือ 6.99 ยูโร
การเปิดบริการในยุโรปตะวันตกมาเร็วกว่ากำหนดเดิม 1 สัปดาห์ และมีจำนวนประเทศมากกว่าที่ประกาศไว้ตอนแรก
ดิสนีย์ยังประกาศว่าจะขยายจำนวนประเทศอีกครั้งช่วงกลางปี 2020 โดยครอบคลุมเบลเยียม โปรตุเกส และประเทศกลุ่มนอร์ดิกด้วย