Naturebytes บริษัทเพื่อผลประโยชน์ชุมชน (community interest company) เปิดตัวกล้องส่องสัตว์ในป่าที่ทำงานด้วย Raspberry Pi โดยตัวโครงการคือการออกแบบเคสพิเศษสำหรับ Raspberry Pi ที่กันน้ำ
ชุดคิตจะประกอบด้วย Raspberry Pi A+ และ Pi Cam แต่จะมีกล่องเปล่าขายด้วยเช่นกัน ภายในสามารถบรรจุแบตเตอรี่ลิเทียมโพลีเมอร์ขนาด 8800mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 30 ชั่วโมง แต่พื้นที่ภายในสามารถติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่านี้ได้ ช่องด้านหน้ามีสองช่องสำหรับกล้องและเซ็นเซอร์ PIR ตรวจจับการเคลื่อนไหวใช้งานได้ 12 เมตร
ทาง Naturebytes คาดว่าจะเปิดโครงการใน KickStarter ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา - Naturebytes
ครอบครัวของ Alex Aylesbury และ Clare Jarvis กับลูกทั้งสามคนเป็นครอบครัวทำงานที่บ้านเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับครอบครัว พวกเขาทำเว็บไซต์ GurgleApps เพื่อโปรโมทแอพพลิเคชั่นและเขียนบล็อกเล่าเรื่องราวต่างๆ ส่วนหนึ่งของเว็บไซต์คือส่วน Tutorial สอนเทคนิคการทำงานแบบต่างๆ เนื่องจากเป็นครอบครัวโปรแกรมเมอร์ ตอนแรกของโพสในหมวดนี้จึงไม่ธรรมดา
ลูกสาวของ Aylesbury สอนการใช้ลินุกซ์พื้นฐานด้วย Raspberry Pi ในห้องนอนของเธอ รีโมตเข้าไปยังเครื่องของพ่อผ่านคำสั่ง SSH จากนั้นหาว่าพ่อของเธอกำลังใช้โปรแกรมอะไรอยู่ แล้วสั่ง kill -9
Raspberry Pi มีบอร์ดรุ่น B ที่ภายนอกคล้ายกันถึงสามรุ่น คือ B, B+, และ Pi 2 Model B เรื่องแปลกคือก่อนหน้านี้ทั้งสามรุ่นยังราคาเท่ากันที่ 35 ดอลลาร์ แต่ทาง Raspberry Pi ก็ปรับราคารุ่น B และ B+ ลงเหลือ 25 ดอลลาร์แล้ว
ทาง Raspberry Pi ระบุว่าการปรับราคาครั้งนี้มาจากการปรับปรุงกระบวนการผลิต และแม้จะออก Pi 2 มาหลายเดือนแล้ว แต่รุ่น B+ ก็ยังขายดีมาก ส่วน Pi 2 Model B นั้นยอดขายเกินล้านตัวไปแล้ว
แนวคิดบอร์ดคอมพิวเตอร์ราคาถูกที่จุดประกายโดย Rasberry Pi ประสบความสำเร็จอย่างสูง บอร์ดจำนวนมากโดยเฉพาะจากผู้ผลิตจีนเดินรอยตาม Rasberry Pi ทำให้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่การปรับราคาครั้งนี้ก็น่าจะทำให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ ต้องปรับตัวกันใหม่
จากที่ไมโครซอฟท์เคยประกาศไว้ว่าจะออก Windows 10 รุ่นสำหรับ Raspberry Pi 2 วันนี้มันออกรุ่นทดสอบมาให้ดาวน์โหลดกันแล้วครับ
ชื่ออย่างเป็นทางการของระบบปฏิบัติการตัวนี้คือ Windows 10 IoT Core (ตอนนี้ยังมีสถานะเป็นรุ่น Insider Preview) มันถูกออกแบบมาเป็น Windows 10 รุ่นสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กที่มีทรัพยากรจำกัด ไมโครซอฟท์ระบุว่าจะแจกระบบปฏิบัติการรุ่นนี้ฟรี แม้จะใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ตาม
เชื่อว่าผู้อ่าน Blognone หลายท่านคงรู้จัก Raspberry Pi หนึ่งในบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วซึ่งเป็นที่นิยมที่เป็นข่าวมาตลอด ล่าสุดมีกลุ่มนักพัฒนาอุปกรณ์จากอังกฤษ สร้างชุดอุปกรณ์ที่เรียกว่า "pi-top" ซึ่งเป็นชุดที่สามารถสร้างโน้ตบุ๊กทั้งเครื่องจาก Raspberry Pi ได้ ในราคา 300 ดอลลาร์ สรอ. เท่านั้น
ตัวชุดดังกล่าวนี้จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ทุกอย่าง ซึ่งรวมไปถึงบอร์ด Raspberry Pi 2 ด้วย แต่ผู้ใช้งานจะต้องนำมาประกอบเอง (เหมือนเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA) เมื่อประกอบเสร็จก็จะได้โน้ตบุ๊กของตัวเองมาหนึ่งเครื่องที่ใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังมีไฟล์ STL สำหรับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ให้สำหรับผู้ใช้งานเอาไปปรับแต่งแล้วพิมพ์ออกมาได้ตามใจชอบด้วย
Raspberry Pi 2 อัพเดตตัวเองมาใช้ซีพียู Cortex-A7 หรือสถาปัตยกรรม ARMv7 ทำให้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่รองรับ ARMv7 (หรือ armhf) พากันพอร์ตลงมา เพราะเพียงแค่ปรับแก้ bootloader ก็มักจะรันได้ ตอนนี้ระบบปฎิบัติการล่าสุดที่ประกาศพอร์ตมารองรับคือ NetBSD
การปรับแก้ในวันนี้ทำให้ระบบคอมไพล์อิมเมจรายวันของ NetBSD ปล่อยอิมเมจสำหรับ RPi2 ออกมาทุกวัน (ตัวอย่าง) สำหรับผู้สนใจสามารถเขียนอิมเมจลงการ์ด microSD
เติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับพีซีตัวจิ๋ว Raspberry Pi ที่ล่าสุดทางผู้พัฒนาออกมาประกาศว่าเจ้าบอร์ดพีซีตัวจิ๋วนี้ทำยอดขายเกิน 5 ล้านเครื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตัวเลข 5 ล้านเครื่องนี้ต่อเนื่องมาจากเมื่อช่วงปลายปี 2013 ที่ทำยอดขายไว้ราว 1.75 ล้านเครื่อง แม้ว่าเทียบกับบรรดาผู้ผลิตพีซีรายใหญ่แล้วจะดูไม่มากนัก (กลุ่มนั้นขายได้ไตรมาสละหลายล้านเครื่อง) แต่ก็น่าประทับใจสำหรับอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อการศึกษา และใช้งานในโปรเจคย่อมๆ โดยเฉพาะ
ที่น่ายินดีคือ Raspberry Pi อาจเป็นพีซีสัญชาติอังกฤษที่ขายดีที่สุดอีกด้วย
ที่มา - Engadget
มีรายงานว่า Raspberry Pi 2 จะดับไปเองเมื่อถูกถ่ายภาพแบบเปิดแฟลช โดยปัญหานี้จะเกิดต่อเมื่อใช้แฟลช Xenon เท่านั้น ตัวอย่างของกล้องที่ทำให้เกิดปัญหาเช่น Samsung K Zoom และ Canon IXUS 60 จะทำให้ RPi 2 ปิดการทำงานและเริ่มใหม่หากถูกแสงแฟลชระยะใกล้กว่า 50 เซนติเมตร
ต้นตอของปัญหานี้คือชิปจ่ายไฟแบบสวิทชิ่ง ที่อยู่ข้างๆ กับพอร์ต HDMI ถ้าใครจะซื้อ RPi 2 ไปใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงแรงๆ อาจจะต้องหาอะไรมาปิดชิปตัวนี้ครับ
ที่มา - Raspberry Pi Forum
เมื่อวานนี้ทาง Raspberry Pi Foundation เปิดตัว Raspberry Pi 2 Model B มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงซีพียู และรองรับ Windows 10 ตอนนี้ข่าวเริ่มออกมาครบถ้วนก็มีข้อมูลออกมาเพิ่มเติม
งานเปิดตัว Raspberry Pi 2 มีการประกาศเพิ่มเติมถึงพาร์ตเนอร์ของ Raspberry Pi เข้าร่วมหลายราย สองรายสำคัญที่ประกาศมาคือ Canonical และไมโครซอฟท์
Canonical จะซัพพอร์ต Snappy Ubuntu Core บน Raspberry Pi อย่างเป็นทางการ จากเดิมที่ Snappy ก็ซัพพอร์ต ARMv7 อยู่แล้ว การที่ Raspberry Pi อัพเกรดซีพียูทำให้ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่น่าจะใช้งานได้ทันที
ส่วนไมโครซอฟท์ประกาศซัพพอร์ต Raspberry Pi 2 โดยจะพอร์ต Windows 10 ลงมาให้ และ Raspberry Pi 2 จะอยู่ในโครงการ Windows Developer Program for IoT จากเดิมที่รองรับบอร์ด Galileo ของอินเทลเป็นหลัก
Raspberry Pi เปิดตัวบอร์ดคอมพิวเตอร์จิ๋วรุ่นใหม่ คือ Raspberry Pi 2 Model B เปลี่ยนชิปใหม่เป็น BCM2836 เร่งความเร็วประมวลผลเป็น Cortex-A7 4 คอร์ และเพิ่มแรมเป็น 1GB จากเดิม 512MB
ภาพบอร์ดรุ่นใหม่แสดงว่าตัวบอร์ดยังเหมือนรุ่น B+ แทบทุกประการ ต่างไปแค่ตัวซีพียูหลักเท่านั้น
ชิป Cortex-A7 น่าจะทำความเร็วต่อคอร์ดีกว่าชิปตัวเดิมที่เป็น AMR11 มาก โดยรวมแล้วประสิทธิภาพการประมวลผลจะดีขึ้นประมาณ 6 เท่าตัว ส่วนกราฟิกเองก็เพิ่มสัญญาณนาฬิกาจากเดิม 700MHz เป็น 900MHz
Banana Pi โครงการคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กราคาถูกรูปแบบเดียวกับ Raspberry Pi แต่ใช้ชิป Allwinner A20 แทนออกสินค้าใหม่อีกสองรุ่นในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ตัวแรกคือ Banana Pro ที่ปรับปรุงจาก Banana Pi เดิม เห็นได้ชัดว่าโครงการพยายามเดินรอยตาม Raspberry Pi โดยเลิกใช้พอร์ต RCA สำหรับต่อโทรทัศน์แต่เปลี่ยนเป็นแจ็ค 3.5 มิลลิเมตรแทน หัวต่อ IO ต่างๆ ก็ปรับเป็น 40 ขาเท่ากับ RPi B+ และปรับไปใช้ micro SD เช่นเดียวกัน แต่ที่ต่างออกไปคือ Banana Pro จะรองรับ Wi-Fi ในตัวแล้ว
Raspberry Pi รุ่น A และ A+ มีข้อจำกัดคล้ายๆ กันคือมี USB เพียงพอร์ตเดียว แต่ทางโครงการก็ระบุว่าวงจรใหม่ช่วยให้ประหยัดไฟลง ตอนนี้ทาง Raspi.TV ก็ทดสอบเต็มรูปแบบว่าประหยัดลงแค่ไหน
ผลปรากฎว่า Raspberry Pi A+ ประหยัดไฟลงในช่วงไม่ทำงานอะไรจากเดิม 140 มิลลิแอมป์เหลือ 100 มิลลิแอมป์ และหากทำงานอย่างหนัก เช่น ถ่ายวิดีโอที่ full HD ก็ยังกินพลังงาน 230 มิลลิแอมป์ เทียบกับของเดิมที่กินไฟ 320 มิลลิแอมป์
วงจรจ่ายไฟใหม่ประสิทธิภาพดีขึ้นค่อนข้างมาก ถ้าใครออกแบบโครงการที่ต้องการใช้พลังงานน้อยๆ และไม่ต้องการเน็ตเวิร์คก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ
ที่มา - Raspi.TV
จากที่มีภาพหลุดของ Raspberry Pi รุ่นใหม่ A+ มาได้ไม่นาน ทาง Raspberry Pi Foundation องค์กรที่ดูแลคอมพิวเตอร์จิ๋วตัวนี้ก็จัดการเปิดตัวเจ้ารุ่นที่ว่าออกมาแล้ว
Raspberry Pi A+ มาตามที่หลุดเป๊ะๆ ใช้สเปคเดียวกับรุ่น B+ แต่ขนาดโดยรวมเล็กกว่ามาก ด้านยาวสั้นลงเหลือ 65 มม. เท่านั้น ปรับไปใช้ microSD แทน SD ขนาดปกติ ระบบจ่ายไฟใหม่ และ GPIO 40 ขา แต่ยังใช้งานกับ HATs ได้
สำหรับราคาของ Raspberry Pi A+ ลดลงมาจาก 25 เหรียญในรุ่นก่อนหน้า เหลือเพียง 20 เหรียญเท่านั้นครับ (ประมาณ 655 บาท)
โครงการ Raspberry Pi เปิดตัวรุ่นอัพเกรด B+ ไปก่อนหน้านี้แล้วและประกาศว่ากำลังอัพเกรดรุ่น A เป็น A+ ด้วยเช่นกันแต่ไม่บอกว่ามีสเปคเป็นอย่างไร ล่าสุดมีคนพบภาพหลุดรุ่น A+ ออกมาแล้ว
รุ่น A+ มีความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือตัวบอร์ดจะย่อลง เหลือประมาณ 56x65 ตารางมิลลิเมตรเท่านั้น โดยน่าจะเป็นขนาดเล็กที่สุดที่บอร์ดจะเข้ากันได้กับระบบฮาร์ดแวร์เสริม HATs ที่ทาง Raspberry Pi เปิดสเปคออกมาเมื่อออกรุ่น B+
Firefox OS ออกแบบมาสำหรับโทรศัพท์สเปคต่ำเป็นหลัก ที่ผ่านมามีคนสามารถนำมารันบน Rasberry Pi ได้แล้วแต่ตอนนี้ทางมอซิลลาเตรียมพัฒนาอย่างจริงจัง โดยใช้ชื่อชั่วคราวว่า PiFxOS
ตอนนี้โครงการอยู่ในระดับเดโม แม้จะรันได้แต่ยังมีช่องโหว่อยู่หลายจุด นักพัฒนาที่สนใจทดสอบไม่ควรใช้ PiFxOS บนเครือข่ายเปิด
แต่ที่น่าสนใจคือแผนการพัฒนาของมอซิลลาที่เตรียมจะใช้ Web API เต็มรูปแบบสำหรับการพัฒนาบน PiFxOS ช่วงแรกจะมี API สำหรับควบคุมพอร์ต GPIO และ SPI ให้ทำให้เราเขียนจาวาสคริปต์เพื่อควบคุมหุ่นยนต์หรือโดรนได้ ในระยะต่อๆ ไป PiFxOS จะทำตัวเป็นเครื่องเล่นไฟล์เพลงและหนัง, มี IDE ของตัวเอง, และสามารถควบคุมฮาร์ดแวร์ได้จาก CSS
Eben Upton ผู้ร่วมสร้าง Raspberry Pi ประกาศเตรียมวางขายจอภาพเสริมสำหรับ Raspberry Pi โดยจะเป็นจอสัมผัสแบบ capacitive ขนาด 7 นิ้ว เมื่อประกอบเข้ากับ Raspberry Pi แล้วก็จะได้แท็บเล็ตแบบใหญ่ๆ มาหนึ่งอัน โดยคาดว่าจะวางขายได้ภายในปีนี้หรือต้นปีหน้า
นอกจากนี้เขายังระบุว่าทาง Raspberry Pi จะเตรียมอัพเกรดรุ่น A ที่ราคา 25 ดอลลาร์ ให้เป็นรุ่น A+
โครงการคอมพิวเตอร์จิ๋ว Raspberry Pi ออกมาเผยสถิติยอดขายล่าสุดผ่านทวิตเตอร์ โดยตอนนี้มียอดขายรวม 3.8 ล้านชุดแล้ว
เมื่อเดือนมีนาคม Raspberry Pi เคยบอกยอดขายรวมที่ 2.5 ล้านชุด แปลว่าเวลาผ่านมาราวครึ่งปี ขายเครื่องเพิ่มได้ 1.3 ล้านชุด เหตุผลส่วนหนึ่งที่ยอดขายเพิ่มเยอะในช่วงหลัง อาจเป็นเพราะฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ Raspberry Pi B+ ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากรุ่น B ของเดิม
ที่มา - TechCrunch
Kano ชุดพีซีที่ใช้ Raspberry Pi เป็นฐานและประกอบคีย์บอร์ดและลำโพงขึ้นมาเป็นพีซี ประกาศโครงการใน KickStarter เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ทางบริษัทก็ระบุว่าได้ส่งมอบสินค้าที่สั่งล่วงหน้าทั้งหมด 18,000 ชุดแล้ว โดยมีรายงานว่าถึงมือลูกค้าแล้วประมาณ 1,000 ชุด
สำหรับผู้ใช้ ชุด Kano คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นนัก เพราะคีย์บอร์ดและจอภาพก็สามารถซื้อ Raspberry Pi มาต่อเองได้เหมือนกัน แต่ Kano มาพร้อมกับคู่มือสำหรับเด็กสีสวยสดใส และซอฟต์แวร์สำหรับทดลองเล่นด้วยตัวเอง คงเหมาะสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ให้ลูกเรียนรู้ดูสักชุด
โครงการ Raspberry Pi พยายามพัฒนาเบราว์เซอร์ที่ทำงานได้ดีกับเครื่องที่พลังประมวลผลต่ำมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ตอนนี้ทางโครงการก็ประกาศว่า Epiphany รุ่นพิเศษที่ปรับปรุงให้ทำงานบน RPi โดยเฉพาะพร้อมใช้งานแล้ว
ฟีเจอร์สำคัญที่สุดของเบราว์เซอร์ใหม่คือมันรองรับวิดีโอได้ดีขึ้นมาก โดยสามารถเล่นวิดีโอ 720p ที่ 25 เฟรมต่อวินาทีได้ กระบวนการประมวลผลวิดีโอหลายอย่างถูกปรับโค้ดให้ไปทำงานบนฮาร์ดแวร์ลดการพึ่งพาซีพียูหลัก
อีกส่วนคือการปรับปรุง JIT ให้ทำงานร่วมกับ ARMv6 กระบวนการจัดการหน่วยความจำจะเป็นทำงานร่วมกับหน่วยความจำที่น้อยกว่าเดสก์ทอปของ RPi
ผู้ใช้ Raspbian และ NOOBS สามารถติดตั้งแพ็กเกจ ephiphany-browser ได้ทันที
Hardkernel ผู้ผลิตบอร์ดพัฒนาคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจากเกาหลีใต้ประกาศยกเลิก ODROID-W คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เข้ากันได้กับ Raspberry Pi เพราะใช้ชิป SoC ตัวเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่าทาง Broadcom ไม่ส่งชิปให้
ทาง Hardkernel ระบุว่าจะส่งมอบ ODROID-W ชุดแรกที่ผลิตมาแล้วต่อไป แต่หลังจากสินค้าหมดแล้วก็จะไม่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้อีก
HardKernel ผู้ผลิตบอร์ดคอมพิวเตอร์จิ๋วจากเกาหลีใต้ออกบอร์ดมาหลายรุ่น แต่มักใช้ชิป Exynos เป็นหลัก ตอนนี้ก็หันมาออกบอร์ดรุ่นใหม่ ODROID W แล้วหันมาใช้ชิป Broadcom BCM2835 รุ่นเดียวกับ Raspberry Pi
ทาง HardKernel ระบุว่าที่ผลิตบอร์ดรุ่นนี้เพราะอัตราการกินพลังงานของชิป Exynos นั้นไม่เหมาะกับคอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ได้ แต่ความดีของการใช้ Broadcom BCM2835 อีกอย่างหนึ่งคือ ODROID W จะใช้ Raspbian ได้ทันที
ODROID W ราคา 30 ดอลลาร์เฉพาะบอร์ดซีพียู ถ้าต้องการ I/O ต่างๆ ทั้ง USB และ LAN จะต้องซื้อบอร์ด Docking เพิ่ม อีก 20 ดอลลาร์ ส่วนบอร์ด Docking รุ่นมีจอภาพในตัวราคา 30 ดอลลาร์
Raspberry Pi ประกาศอัพเกรดบอร์ดเป็นรุ่น B+ โดยคุณสมบัติหลักเช่นซีพียูและแรมยังเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนส่วนประกอบปลีกย่อยเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ
ความเปลี่ยนแปลง ได้แก่
ราคายังคงเดิมที่ 35 ดอลลาร์ แต่ทางโครงการจะผลิตรุ่น B เดิมที่ราคาเท่ากันต่อไปจนกว่าจะขายไม่ได้ เพราะผู้ที่ซื้อไปจำนวนหนึ่งซื้อไปเพื่อใช้งานอุตสาหกรรมและต้องใช้งานให้เหมือนเดิมทุกประการ
ก่อนหน้านี้บอร์ด Arduino ได้รับความนิยมอย่างสูงทำให้ผู้ผลิตบอร์ดต่อๆ มาต้องพากันออกแบบบอร์ดให้มีขนาดตรงกับ Arduino ตอนนี้ก็มาถึงคิวของ Raspberry Pi เมื่อบริษัท SolidRun ประกาศผลิตบอร์ด HummingBoard ที่ขนาดและขาเชื่อมต่อตรงกับ Raspberry Pi พอดี
นอกจากประเด็นความเข้ากันได้กับ Raspberry Pi แล้ว HummingBoard ยังสามารถเปลี่ยนซีพียูได้ด้วย โดยตัวบอร์ดซีพียูนั้นเรียกว่า MicroSOM แยกออกจากบอร์ด I/O อื่นๆ
การถือกำเนิดขึ้นมา Raspberry Pi ช่วยเปลี่ยนผ่านหลายวงการไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น ล่าสุดมีกลุ่มนักพัฒนาสัญชาติรัสเซียได้นำเจ้าคอมพิวเตอร์จิ๋วตัวนี้ไปทำโมดูลสำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติในยานยนต์ไร้คนขับ แทนการใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์ ในชื่อ Navio
ทีมพัฒนาบอกว่าการนำ Raspberry Pi มาใช้นั้น ได้ประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์อยู่หลายอย่าง ทั้งความสามารถในการรันระบบปฏิบัติการแบบเต็ม กำลังประมวลผลสูงกว่า ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เชื่อมต่อได้ง่าย รองรับภาษาโปรแกรมแทบทุกภาษา มีไลบรารี่สำหรับงานประมวลผลวิดีโอหลากหลาย และมีคอมมิวนิตี้จำนวนมาก ดีถึงขนาดทำให้ทีมนี้เลิกแผนการพัฒนาบนไมโครคอนโทรลเลอร์ มาใช้ Raspberry Pi เลยทีเดียว