เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโครงการ Raspberry Pi (RPi) ประกาศหาคนพอร์ตไดร์เวอร์กราฟิกจากชิป BCM21553 มายังชิป BCM2835 ที่ใช้ใน RPi ตอนนี้โครงการนี้ก็ได้ผู้ชนะแล้ว คือ Simon Hall แฮกเกอร์ที่ช่วยพัฒนา RPi มาเป็นเวลานาน เขาพอร์ตฟังก์ชั่น memcpy และ memset จาก glibc มาปรับให้เข้ากับ ARMv6 เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุด และเพิ่มโมดูล DMA ให้ RPi ใน Raspbian

กระบวนการคอมไพล์ต้องใช้เวลาบน RPi ประมาณ 12 ชั่วโมง และต้องใช้ gcc 4.7 ซึ่งประสิทธิภาพยังไม่ดีนัก หากใครเซ็ตอัพ gcc 4.8 ไว้ประสิทธิภาพน่าจะดีขึ้น 10% แต่ต้องคอมไพล์จากพีซีไป เพราะบน Raspbian ยังไม่รองรับ

Liz Upton ทีมงาน Raspberry Pi โพสข่าวท้องถิ่นจากช่อง KOMO 4 แสดงศูนย์ข้อมูลของบริษัท MegaBigPower ที่ลงทุนมากว่า 1 ล้านดอลลาร์ ในศูนย์ข้อมูลที่อัดแน่นไปด้วย Raspberry Pi จำนวนมากกว่าที่เขาเคยเห็นในที่ไหนๆ นอกจากโรงงานผลิตเอง

MegaBigPower สามารถขุด Bitcoin ได้ราว 200 BTC ต่อวัน ให้ผลตอบแทนเดือนละ 8 ล้านดอลลาร์ตามราคาแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลนี้กินไฟ 1.4 เมกกะวัตต์ และมีพลังแฮชระดับเพตราแฮชต่อวินาที (พันล้านล้านแฮชต่อวินาที) และยังขยายต่อไปเรื่อยๆ

element14 ผู้ผลิต Raspberry Pi ในช่วงแรกก่อนทางมูลนิธิจะมีโรงงานเป็นของตัวเอง เปิดตัว Wolfson Audio Card ซาวด์การ์ดที่มีจุดเด่นตามชื่อของมัน คือใช้ชิปจาก Wolfson ที่ได้รับคำชมค่อนข้างมากว่ามีคุณภาพเสียงที่ดี

บนตัวบอร์ดมีชิปหลักสี่ตัว ได้แก่ ชิป CODEC WM5102, ชิปเชื่อมต่อ SPDIF WM8802, ชิปรับเสียงไมโครโฟน WM7210, และชิป WM9082 ที่เป็นแอมป์กำลังขับ 2W Class-D อีกทาง ที่แปลกคือบนตัวการ์ดเองมีไมโครโฟนแบบ Digital MEMS ติดมาด้วยสองข้างซ้ายขวา เราอาจจะใช้ซาวด์การ์ดนี้บันทึกเสียงรอบข้างได้แบบเดียวกับโครงการ LOUDAUTO ของ NSA

ราคา 33 ดอลลาร์พอๆ กับบอร์ด Raspberry Pi ทั้งบอร์ด แต่เอาไว้ทำเครื่องเสียงในบ้านก็น่าจะเข้าท่าดี

ปัญหาค่าโรมมิ่งแพงจนหลายคนช็อคเป็นปัญหาเรื้อรังของการสื่อสารไทย คำแนะนำโดยทั่วไปคือที่ใช้ได้ผลที่สุดคือ "อย่าเอาซิมไปใช้ต่างประเทศ" โดยแนะนำให้ซื้อซิมในประเทศนั้นๆ ใช้งาน แม้อาจจะถูกบ้างแพงบ้างแต่ส่วนมากก็อยู่ในระดับไม่เกินสองพันบาทต่อสองสัปดาห์เท่านั้น แต่ในหลายกรณีเราก็ยังต้องการใช้หมายเลขที่บ้านของเราอยู่เสมอ บางกรณีเช่นการรับ SMS เช่นข้อความ OTP ก็จำเป็นอย่างมากต่อการใช้งานจริง

โครงการ Raspberry Pi (RPi) ยังคงประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์เป็นวันครบรอบสองปีของโครงการ ทางโครงการก็ประกาศว่าตอนนี้มียอดขายรวมถึง 2.5 ล้านชุดแล้ว โดยห้าแสนชุดล่าสุดใช้เวลาเพียงสามเดือนกว่าๆ เท่านั้น (ยอดขายสองล้านชุดปลายเดือนพฤศจิกายน)

คุณ @trestest แจ้งว่าขณะนี้กำลังทำ mirror สำหรับ Raspbian (Debian สำหรับ Raspberry Pi) ในไทย 2 ที่ (คาดว่าจะเสร็จพร้อมใช้งานวันพรุ่งนี้ -- ผู้เขียน) ได้แก่

• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ http://mirror1.ku.ac.th/raspbian/
• มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ http://mirrors.psu.ac.th/raspbian/

ผมเองไม่มี Raspberry Pi ไว้ทดลอง แต่เข้าใจว่าการเลือก mirror สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับ Ubuntu คือเปิดไฟล์ /etc/apt/sources.list แล้วไล่แก้ไขบรรทัดต่างๆ ให้อยู่ใน format ดังนี้

ข่าวนี้ออกมาได้ซักพักแล้ว แต่ยังน่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองประกอบพีซีเครื่องแรกด้วยตัวเองในราคาเบาๆ หรือกำลังมองหาพีซีราคาถูกให้เด็กๆ ได้ลองฝึกเขียนโปรแกรม ด้วย Kano ชุดพีซีที่สร้างขึ้นบนฐานของ Raspberry Pi ห้อมล้อมด้วยส่วนประกอบสีสดใส ที่เพิ่งระดมทุนกับ Kickstarter ไปได้ไม่นาน

Wolfram เปิดตัว Wolfram Language มาแล้วก่อนหน้านี้ แต่แทบไม่มีรายละเอียดใดๆ ตอนนี้ทาง Wolfram ก็เปิดตัวออกมาเป็นทางการและเปิดรายละเอียดทั้งหมดแล้ว พร้อมกับประกาศว่าจะเปิดให้ผู้ใช้ Raspberry Pi ดาวน์โหลดไปใช้ฟรีเฉพาะการใช้งานเพื่อการศึกษา

Wolfram Language ที่จริงแล้วเป็นภาษาที่เกือบจะเหมือนกับ Mathmatica ทั้งชุด แต่มีฟังก์ชั่นเรียกข้อมูลกว่า 5,000 ฟังก์ชั่น เรียกข้อมูลจาก Wolfram|Alpha ออกมาได้ เช่น การดึงข้อมูลตลาดหุ้นก็สามารถดึงได้ภายในฟังก์ชั่นเดียวเท่านั้น

Raspberry Pi เปิดขายครั้งแรก 29 กุมภาพันธ์ 2012 และใช้เวลาประมาณหนึ่งปีจึงทำยอดขายได้ 1 ล้านชุด ผ่านมาเพียงครึ่งปี ทางโครงการ Raspberry Pi พบว่ายอดขาย ณ สิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ครบสองล้านชุดไปเป็นที่เรียบร้อย เร็วกว่าที่คาดไว้ถึงสามเดือน

ทางโครงการเองไม่มีบันทึกว่าใครเป็นคนได้ Raspbery Pi เครื่องที่สองล้านไป รู้เพียงว่าคนที่ได้ไป ต้องสั่งซื้อระหว่างวันที่ 24 ถึงวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา

ด้วยยอดขายเช่นนี้แสดงว่า Raspberry Pi มียอดขายที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เปิดตัวมาเกือบสองปี และขายราคาเดิมมาตลอด

ที่มา - Raspberry Pi

Eric Schmidt ประกาศความร่วมมือกับองค์กร CANVAS บริจาค Raspberry Pi จำนวน 5,000 เครื่องในญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนให้มีโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต พร้อมกับความช่วยเหลือครูผู้สอนให้สามารถสอนนักเรียนในชั้นเพื่อใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ความร่วมมือนี้น่าจะเป็นความร่วมมือแบบเดียวกับที่กูเกิลบริจาค Raspberry Pi 15,000 เครื่องในอังกฤษ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

Schmidt ระบุว่าที่ผ่านมาญี่ปุ่นมีปัญหาขาดแคลนโปรแกรมเมอร์ความสามารถสูง โดยเขาเคยอ่านบทความหนึ่งอธิบายว่าในสังคมซามูไรแบบญี่ปุ่นนั้นมักจะละเลยที่จะสร้างสรรค์งานที่จับต้องไม่ได้อย่างซอฟต์แวร์และการให้บริการ แต่ในความเป็นจริงคือเราไม่สามารถสร้างฮาร์ดแวร์ที่ดีได้ หากไม่มีซอฟต์แวร์ที่ดี

ที่มา - +Eric Schmidt

แม้ว่าเป้าหมายของโครงการ Raspberry Pi จะเป็นการผลิตคอมพิวเตอร์ราคาถูกมาก (25-35 ดอลลาร์) แต่เป้าหมายรองอีกอย่างหนึ่งคือการผลิตในประเทศที่เจริญแล้วอย่างอังกฤษแทนที่จะใช้โรงงานในจีนเหมือนสินค้าอื่นๆ และตอนนี้โรงงานในอังกฤษก็ผลิต Raspberry Pi ครบ 1 ล้านเครื่องแล้ว

ระยะเวลาผลิต 1 ล้านเครื่องของโรงงานในอังกฤษเริ่มตั้งแต่กันยายนปีที่แล้วมาถึงตอนนี้ก็ประมาณหนึ่งปีเต็มพอดี โดยก่อนหน้านี้ Raspberry Pi ใช้โรงงานในจีนเป็นหลัก โดยโรงงานจีนผลิตมาแล้ว 750,000 เครื่องรวมยอดผลิตทั้งหมด 1.75 ล้านเครื่อง

ตัวเลขนี้เป็นจำนวน Raspberry Pi ที่ขายช่องทางเป็นทางการเท่านั้น ผมเห็นฮาร์ดแวร์แบบเข้ากันได้ตามหน้าเว็บภายนอก เช่น Aliexpress ไม่ยืนยันว่ารวมในรายการนี้หรือไม่

เทคโนโลยี JavaFX ช่วงหลังๆ เงียบหายไปจากข่าว แต่ที่งาน JavaOne ของออราเคิลก็ยังมีการแสดงเทคโนโลยี JavaFX บน Raspbian โดยใช้ฮาร์ดแวร์เป็น Raspberry Pi ประกอบกับแบตเตอรี่, เซ็นเซอร์, จอ, และเคส ขึ้นมาเป็นแท็บเล็ตที่ชื่อว่า DukePad

ตัวซอฟต์แวร์แบ่งแต่ละแอพพลิเคชั่นเป็น JavaFX OSGi ทำงานอยู่บนเฟรมเวิร์ค Eclipse Equinox ข้อจำกัดสำคัญของซอฟต์แวร์คือมันต้องการหน่วยความจำกราฟิกค่อนข้างมาก ออราเคิลแนะนำว่าผู้ที่ต้องการทดลองให้แบ่งแรมไว้สำหรับกราฟิก 256MB หรือครึ่งหนึ่งของเครื่อง

ตัวซอฟต์แวร์ให้ดาวน์โหลดมาเล่นได้ฟรี ส่วนฮาร์ดแวร์มีต้นทุนรวม 367 ดอลลาร์

Google Creative Labs ออกซอฟต์แวร์ Coder ที่จะแปลงฮาร์ดแวร์ Raspberry Pi เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กเพื่อให้บริการเว็บแอพแบบง่ายๆ

เป้าหมายของ Coder คือผลักดันให้ Raspberry Pi เป็นเครื่องมือสอนการพัฒนาเว็บแอพที่ราคาถูกและใช้ง่าย โดยมีต้นทุนเพียงแค่ค่าฮาร์ดแวร์ Raspberry Pi (ประมาณ 50 ดอลลาร์) และในส่วนของซอฟต์แวร์นั้น Coder เตรียมมาให้เสร็จสรรพแล้ว เพียงแค่ดาวน์โหลด Coder (ขนาดประมาณ 1GB) ลง SD ขนาด 4GB แล้วเสียบเข้ากับ Raspberry Pi ก็ใช้งานได้ทันที อินเทอร์เฟซการเขียนโค้ดอยู่บนเว็บแอพที่ทำงานจากเบราว์เซอร์ได้โดยตรง

โครงการ Raspberry Pi นั้นทุกวันนี้มีลินุกซ์รุ่นที่ซัพพอร์ตเป็นทางการคือ Raspbian ที่มีฐานมาจาก Debian เช่นเดียวกับโครงการที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง Ubuntu แต่ทางฝั่ง Fedora ที่เป็นแกนเดียวกัน RHEL ที่ได้รับความนิยมสูงในระดับองค์กรนั้นก็ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้เช่นกัน และตอนนี้ก็มีโครงการ Pidora ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Fedora, Raspberry Pi, และ Seneca (ยังมีส่วนโฮสต์ที่ให้บริการโดย Bluehost)

ความสำคัญของ Pidora 18 คือ มันเป็นการพอร์ต Fedora 18 ที่รับ ARMv7 อยู่แล้ว ให้กลับมารับ ARMv6 ของ Raspberry Pi และยังมีไลบรารีเพื่อรองรับ Raspberry Pi อย่างการรองรับ GPIO, I2C, และ SPI มาให้ในตัว

หลังจากทางทาง Raspberry Pi ได้โชว์โมดูลกล้องที่จะนำมาใช้ร่วมกับ Raspberry Pi ไปตั้งแต่กลางปีก่อน ตอนนี้โมดูลกล้องตัวจริงก็พร้อมขายอย่างเป็นทางการแล้ว

สเปครุ่นขายจริงจะต่างกับตัวโชว์พอสมควร โดยลดความละเอียดภาพนิ่งลงมาเหลือ 5 เมกะพิกเซล (จาก 14 เมกะพิกเซล) ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080p ตัวโมดูลมีขนาดเพียง 25x20x9 มม. แต่เป็นกล้องแบบปรับโฟกัสไม่ได้ครับ ใครอยากดูตัวอย่างภาพคลิกที่นี่ได้เลย

คอมพิวเตอร์จิ๋วอย่าง Raspberry Pi พบปัญหากำลังผลิตไม่พอมาเป็นเวลานาน ทำให้ต้องค่อยๆ ขยายพื้นที่ทำตลาด ตัวเลขล่าสุดที่เราได้ยินคือยอดขาย 1 ล้านเครื่อง และตอนนี้ดูเหมือนกำลังผลิตจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เมื่อทาง RS Component ประกาศว่าผู้ที่ต้องการซื้อในเอเชียสามารถสั่งไปยัง RS Component ได้โดยตรง

ราคารุ่นแรม 512 MB คือ 35 ดอลลาร์เท่ากันกับประเทศอื่นๆ ผมลองกดส่งมาไทยพบว่าราคาค่าส่งอยู่ที่ 8.02 ดอลลาร์ รวม 43.02 ดอลลาร์ แถมกดสั่งหลายๆ ชิ้นค่าส่งก็เท่าเดิม งานนี้รวมตัวกันสั่งน่าจะคุ้มกว่า สำหรับหน้าสั่งซื้อเข้าทาง RS Delivers

RS Component หนึ่งในผู้ผลิตหลักของ Raspberry Pi ฉลองครบรอบหนึ่งขวบของเจ้าคอมพิวเตอร์จิ๋วด้วยการออกรุ่นพิเศษจำนวนจำกัดออกมา

เจ้ารุ่นพิเศษที่ว่านี้มีชื่อว่า Blue Pi โดยสเปคแล้วมันคือ Raspberri Pi โมเดล B ที่เปลี่ยนบอร์ดเป็นสี่ฟ้า เพิ่มกรอบสีฟ้า และกล่องสีฟ้าเข้ามาด้วย พร้อมกับประกาศนียบัตรระบุตัวเลขตั้งแต่ 0001-1000

Minecraft เปิดให้ดาวน์โหลดเกมรุ่นฟรีสำหรับ Raspberry Pi พร้อมกับสัญญาว่าจะเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาเรื่อยๆ โดยเวอร์ชั่นนี้รองรับการเขียนสคริปต์ด้วยภาษา Python มาในตัว

ที่ผ่านมาทั้ง Raspberry Pi และ Minecraft ได้รับการยอมรับในวงการการศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ โรงเรียนในสวีเดนเริ่มใช้ Minecraft ในการเรียน ส่วนในอังกฤษกูเกิลสนับสนุน Raspberry Pi ถึง 15,000 เครื่อง เพื่อใช้งานในโรงเรียน การที่ทั้งสองโครงการสามารถทำงานร่วมกันได้ ทำให้เราได้คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาราคาถูกที่มีทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

ที่มา - Minecraft

โครงการ Raspberry Pi เคยระบุว่าจะมีคอมพิวเตอร์ราคาถูกออกมาสองรุ่น คือ รุ่น A ราคา 25 ดอลลลาร์ และรุ่น B ราคา 35 ดอลลาร์ ที่ผ่านมามีเฉพาะรุ่น B ออกขายก่อน และวันนี้รุ่น A ก็เริ่มวางขายในยุโรปแล้ว

ความต่างของทั้งสองรุ่น คือ รุ่น A จะมีแรมเหลือ 256 MB (รุ่น B มี 512 MB), ตัดพอร์ตอีเธอร์เน็ตออก, และลดพอร์ต USB เหลือพอร์ตเดียว ทำให้มันอาจจะเหมาะกับงานเฉพาะอย่างเช่นการรัน XBMC เพื่อต่อกับโทรทัศน์ หรือการใช้เป็นเราท์เตอร์ (เราท์เตอร์ตามบ้านทุกวันนี้มีแรมไม่เกิน 64 MB)

ช่วงแรกนี้รุ่น A จะเปิดขายเฉพาะยุโรป และทีมงานระบุว่าจะรีบขยายการส่งออกไปทั่วโลกเร็วๆ นี้

ที่มา - Raspberry Pi

Eric Schmidt ประธานกูเกิลร่วมกับ Eben Upton ผู้ก่อตั้งโครงการ Raspberry Pi ประกาศข่าวว่ากูเกิลจะบริจาคคอมพิวเตอร์ Raspberry Pi จำนวน 15,000 เครื่องให้กับนักเรียนในอังกฤษ

ทั้งสองคนร่วมกันทำพิธีส่งมอบเครื่องชุดแรก พร้อมกับสอนการเขียนโปรแกรมให้เด็กๆ ด้วยตัวเอง ทั้งคู่บอกว่าประทับใจกับคอมพิวเตอร์ BBC Micro ในอดีต ที่ช่วยให้คนรุ่นเขาหัดเรียนการเขียนโปรแกรมกันเองได้ ตัวของ Schmidt บอกว่าเขาหวังให้ Raspberry Pi เป็นตัวช่วยสร้างนวัตกรรมสำหรับคนรุ่นปัจจุบันเช่นเดียวกัน

ที่มา - The Telegraph

XBMC ซอฟต์แวร์ตระกูล media center ยอดนิยม ออกรุ่นใหม่ 12.0 รหัส "Frodo" แล้ว ของใหม่มีดังนี้

• รองรับระบบเสียงแบบ HD (DTS-MA/Dolby True-HD) ผ่านเอนจิน XBMC AudioEngine ตัวใหม่
• รองรับการดูทีวีสดและการอัดรายการไว้ดูย้อนหลัง (PVR)
• รองรับการถอดรหัสวิดีโอแบบ H.264 10 บิต (Hi10P) ที่นิยมใช้ในกลุ่มอนิเมะ โดยเป็นการถอดที่ตัวซอฟต์แวร์
• มีเวอร์ชัน 64 บิตบน Mac OS X แล้ว
• ทำงานบน Raspberry Pi, เริ่มการรองรับ Android
• ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ AirPlay บนทุกแพลตฟอร์ม

XBMC รุ่นนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Raspberry Pi Foundation สำหรับแพลตฟอร์ม Raspberry Pi และบริษัท Pivos Technology สำหรับการจ้างพนักงานเต็มเวลาบน Android

Eben Upton ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Raspberry Pi คอมพิวเตอร์ราคาถูกที่ยอดขายทะลุ 1 ล้านเครื่องไปแล้ว ให้สัมภาษณ์กับ ZDNet ว่าตอนแรกเขาคิดว่าคงขายได้แค่ 1,000 เครื่อง หรืออย่างมากที่สุดที่คิดฝันได้คือ 10,000 เครื่อง

เขาเล่าว่าไอเดียตอนแรกคือผลิต Raspberry Pi ขึ้นมาไม่เยอะนัก และแจกให้กับผู้สนใจมาเรียนสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เท่านั้น แต่เมื่อสื่อรายใหญ่อย่าง BBC ทำข่าวนี้ ทำให้ต้องเพิ่มยอดผลิตล็อตแรกเป็น 10,000 เครื่อง (ซึ่งก็หมดเกลี้ยงภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดขาย)

โครงการคอมพิวเตอร์ราคาถูก Raspberry Pi แจ้งข่าวว่าบริษัท element14/Premier Farnell หนึ่งในสองผู้จัดจำหน่ายฮาร์ดแวร์ Raspberry Pi ระบุยอดขายทะลุ 500,000 เครื่องไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนผู้จัดจำหน่ายอีกรายคือบริษัท RS Components ยังไม่ยืนยันยอดขายอย่างเป็นทางการมา แต่ทางโครงการเชื่อว่าสัดส่วนน่าจะใกล้เคียงกัน ดังนั้นในเบื้องต้นคงพอสรุปได้ว่า Raspberry Pi ยอดขายทะลุหลักล้านเครื่องแล้ว

แถวนี้มีใครครอบครองอยู่ก็โปรดแสดงตัวครับ

ที่มา - Raspberry Pi

โครงการฮาร์ดแวร์ขนาดจิ๋ว Raspberry Pi ประกาศเปิดตัว "Pi Store" ร้านขายแอพสำหรับแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ของตัวเอง โดยมีจุดหมายเพื่อกระตุ้นให้ชุมชนนักพัฒนาซอฟต์แวร์บนเครื่อง Raspberry Pi แจกจ่ายแอพได้สะดวกมากขึ้น

Pi Store ทำงานบน Raspbian ระบบปฏิบัติการอย่างเป็นทางการของ Raspberry Pi (มันคือ Debian เวอร์ชันดัดแปลง) ตัวโปรแกรม Pi Store เขียนขึ้นบนเทคโนโลยี X Window และจะแถมมากับ Raspbian เวอร์ชันล่าสุด (หรือจะ apt-get install pistore เองก็ได้)

เบื้องต้นมีแอพฟรีให้ดาวน์โหลด 23 รายการ ส่วนใหญ่เป็นแอพชื่อดังบนลินุกซ์อยู่แล้ว เช่น LibreOffice, Asterisk, Freeciv แต่ก็มีแอพแบบเสียเงินสาธิตให้ดู 1 รายการคือเกม Storm in a Teacup

ที่มา - Raspberry Pi

หลังจากทีมงาน Raspberry Pi ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้จำนวนหนึ่งว่าอยากให้มีเครื่องรหัส "Model C" ซึ่งมาพร้อมแรมมากขึ้น วันนี้ทีมงานออกมาให้ข่าวดีกับคนที่ต้องการกันแล้วครับ

หลังจากนี้ต่อไป Raspberry Pi รุ่น B (ราคา $35) จะมาพร้อมแรม 512MB เพื่อให้การใช้งานบางอย่าง (ในที่มาของข่าวยกตัวอย่างการใช้งาน Java Application) เร็วขึ้น และสามารถใช้งานได้เหมือนคอมพิวเตอร์ทั่วไปดียิ่งขึ้น

ทีมงานยังให้ข้อมูลต่อว่าเหตุผลที่ไม่ทำรุ่น C แยกมาอีกรุ่นเนื่องจากต้องการให้ราคาสูงสุดของบอร์ดอยู่ที่ $35 และให้ข้อมูลในคอมเมนต์ว่าในช่วงแรกของการผลิตไม่สามารถทำรุ่นแรม 512MB ที่ราคานี้ด้วยเหตุผลทางต้นทุน