RIM เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่สามของปี มันเป็นไตรมาสประวัติศาสตร์ของบริษัท เพราะสามารถขาย BlackBerry ไปได้ถึง 10.1 ล้านเครื่อง ชนะสถิติเก่าที่ 8.3 ล้านเครื่องอยู่มากโข

ตั้งแต่เปิดบริษัทมา RIM ขาย BlackBerry ออกไปแล้ว 75 ล้านเครื่อง และมีผู้ใช้รวมกันประมาณ 36 ล้านคน (เพราะบางคนมีหลายเครื่อง) ไตรมาสนี้ RIM มียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 11% และกำไรเพิ่มขึ้น 32% เหตุผลที่ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดคือการเปิดตัวมือถือตัวสำคัญครบไลน์ ได้แก่ Bold 9700, Curve 8530 และ Storm 2

คู่แข่งอย่างแอปเปิลนั้นขายได้เพียง 7.4 ล้านเครื่องในไตรมาสที่แล้ว นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขไตรมาสนี้น่าจะอยู่ประมาณ 8-9 ล้านเครื่อง

เรารู้จักมือถือตัวนี้ในชื่อ BlackBerry Onyx กันมานาน แม้ว่าภายหลังมีข่าวว่าจะใช้ชื่อ BlackBerry Bold 2 ทำตลาด แต่สุดท้ายชื่ออย่างเป็นทางการคือ BlackBerry Bold 9700 (BlackBerry Bold ตัวแรกใช้เลขรุ่น 9000)

Bold 9700 ยังยึดสูตรสำเร็จของ Bold แต่พัฒนาสเปกให้ดีขึ้น

• ตัวเครื่องเล็กลง บางลง
• เปลี่ยนความละเอียดหน้าจอเป็น 480x360 จากเดิม 480x320
• กล้อง 3.2MP จากเดิม 2MP
• เปลี่ยน trackball มาเป็น trackpad
• ซีพียูเท่าเดิม 624MHz, มี GPS/Wi-Fi เหมือนเดิม

ในสหรัฐ Bold 9700 ขายกับเครือข่าย AT&T และ T-Mobile ราคาเครื่องแบบติดสัญญา 200 ดอลลาร์ เริ่มขายเดือนพฤศจิกายน วิดีโอเปิดตัวดูด้านใน

ที่มา - RIM, Boy Genius Report

ข่าวของ BlackBerry ตระกูล Bold ออกมา 2 ข่าวใกล้เคียงกัน

ข่าวแรก BlackBerry "Onyx" ได้ชื่ออย่างเป็นทางการแล้วคือ BlackBerry Bold 2 เลขรุ่นคือ 9700 เปิดตัวกับ T-Mobile วันที่ 21 ตุลาคมนี้ ยังไม่มีข้อมูลราคาและวันวางจำหน่ายจริง ของใหม่ในรุ่นนี้คือเปลี่ยนจาก trackball มาเป็น touchpad ภาพประกอบดูได้ตามลิงก์

ที่มา - Engadget

มีข่าวลือกันในหมู่ผู้สนใจ BB ว่า Research In Motion (RIM) กำลังซุ่มพัฒนาโทรศัพท์ BlackBerry ตัวใหม่โดยใช้รหัสการผลิตว่า "Mr. T"

โดย Mr. T นี้จะเป็นโทรศัพท์ทัชสกรีนแบบเดียวกับ Storm 2 แต่จะมาพร้อมกับคีย์บอร์ด QWERTY แนวนอนแบบสไลด์ใต้เครื่อง (ใครนึกภาพไม่ออกให้คิดถึง HTC Touch Pro) และมีปุ่ม ON/OFF และ SEND/CANCEL อยู่บนจอภาพ

ถึงข่าวนี้จะยังเป็นเพียงข่าวลือ แต่ทาง Phone Arena บอกว่าค่อนข้างน่าเชื่อถือได้เพราะแหล่งข่าวเป็นคนที่มีเส้นสายกับทาง RIM ซึ่งคนปล่อยข่าวแกบอกเองเลยว่า "รายละเอียดยังไม่ชัวร์ แต่ BlackBerry Silde Phone มาแน่"

มีข่าวว่า Research In Motion กำลังซุ่มทำ Twitter client ของตัวเอง ซึ่งมีรหัสเรียกขานว่า "Banshee"

ความพิเศษของโปรแกรม Twitter ตัวนี้ นอกจากคนทำจะเป็น RIM เองแล้ว ยังใช้การส่งข้อความแบบ push ผ่าน BlackBerry Internet Server (BIS), ประสานงานเข้ากับส่วนอื่นๆ ของระบบปฏิบัติการ และมีหน้าตา-ลักษณะการใช้งานเหมือนกับโปรแกรม social network ของ RIM อย่าง Facebook, MySpace หรือ Flickr ส่วนฟีเจอร์ด้าน Twitter นั้นคงไม่ต่างอะไรกับโปรแกรมตัวอื่นๆ ในท้องตลาด

ผมว่าข่าวนี้ทำให้ผู้พัฒนา Twitter client บน BlackBerry เช่น UberTwitter หนาวๆ ร้อนๆ เหมือนกัน

ที่มา - CrackBerry

ตอนเก่า

• รีวิว BlackBerry Storm ตอนที่ 1
• รีวิว BlackBerry Storm ตอนที่ 2

ตอนสุดท้ายว่าด้วยประเด็นอื่นๆ ของ BlackBerry, รีวิวโปรแกรมที่น่าสนใจบางตัว และปิดด้วยความเห็นจาก @sugree

Research in Motion เจ้าของมือถือตระกูล BlackBerry เข้าซื้อกิจการของ Torch Mobile ผู้สร้างเว็บเบราว์เซอร์ Iris

Iris เป็นเว็บเบราว์เซอร์บนมือถือที่ใช้ WebKit ทำงานบน Windows Mobile และ Qtopia การซื้อกิจการครั้งนี้ชัดเจนว่า RIM ต้องการเว็บเบราว์เซอร์บน BlackBerry ที่สมน้ำสมเนื้อกับคู่แข่งอย่าง Mobile Safari อีกไม่นานเราคงเห็น Iris บน BlackBerry สมรภูมิเริ่มระอุอีกแล้ว

ที่มา - Boy Genius Report

ความเดิม: รีวิว BlackBerry Storm ตอนที่ 1 ว่าด้วยเรื่องฮาร์ดแวร์

ตอนที่สองนี้มาว่ากันด้วยเรื่องซอฟต์แวร์ โดยเน้นไปที่ตัว BlackBerry OS และโปรแกรมที่ RIM ให้มาเป็นหลัก ส่วนเรื่องโปรแกรม 3rd party ไปว่ากันตอนที่สามครับ (คำเตือน: ตอนนี้รูปเยอะมาก)

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Boy Genius Report บอกว่า RIM กำลังวางแผนจะใส่ Adobe Flash และ Microsoft Silverlight ลงใน BlackBerry

Flash ในที่นี้จะเป็นเวอร์ชันเต็มไม่ใช่ Flash Lite ซะด้วย ทาง BGR มองว่าการใช้ Flash/Silverlight บนมือถือจะต้องพัฒนาทั้งพลังประมวลผล และความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ปัจจุบัน RIM ประสบความสำเร็จแล้วในการสร้างมือถือรุ่นทดสอบที่เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี 4G LTE ได้ความเร็ว 10Mbps

ที่มา - Boy Genius Report

ผู้อ่าน Blognone น่าจะรู้กันหมดแล้วว่าตัวแทนของ RIM เอเชียแปซิฟิกได้เชิญบล็อกเกอร์จำนวนหนึ่งไปร่วมทดสอบ BlackBerry Storm (อ่านบรรยากาศจาก keng.com และ sugree.com ประกอบ)

สิ่งที่ไม่คาดฝันคือ RIM ให้ Storm กลับบ้านมาด้วย หลังจากเอาไปเล่นได้สักพัก ก็ได้เวลารีวิวครับ

นิตยสาร Fortune จัดอันดับบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในปี 2009 อันดับหนึ่งคือ Research In Motion ผู้ผลิตโทรศัพท์ตระกูล BlackBerry

แม้ว่า RIM จะครองตลาดสมาร์ทโฟนธุรกิจในอเมริกา ด้วยส่วนแบ่ง 74% และตลอดสิบปีที่ผ่านมา RIM ขาย BlackBerry ไปแล้ว 65 ล้านเครื่อง แต่การเติบโตในช่วงหลังมาจากฝั่งผู้ใช้ทั่วไป ในครึ่งแรกของปีนี้ มือถือที่ขายดีที่สุดในสหรัฐคือ BlackBerry Curve ไม่ใช่ iPhone แต่อย่างใด นอกจากนี้ RIM มีอัตราการเติบโตของรายได้ในรอบ 3 ปีที่น่าประทับใจมากคือ 77%

วิดีโอบน YouTube ความยาว 7 นาทีนิดๆ แสดงเดโมของ BlackBerry Storm 2 มือถือจอสัมผัสรุ่นที่สองจาก RIM หรือที่รู้จักกันในชื่อ Odin/9550

ความต่างจาก Storm 1 ด้านฮาร์ดแวร์มีเล็กน้อย เช่น ปุ่มกดด้านล่างรวมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าจอ ส่วนด้านซอฟต์แวร์ ในฐานะที่ผมได้ Storm 1 มาทดสอบพอดีก็ยืนยันว่ามันเร็วกว่า Storm 1 มาก แต่ส่วนอื่นยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อย่างไรก็ตามในวิดีโอนี้ได้แสดงหน้า Connection ของ Storm 2 ให้เห็น ปรากฎว่ามันไม่มีตัวเลือกเปิด-ปิด Wi-Fi ซึ่งเป็นจุดขายหลักของ Storm 2 เหนือ Storm 1 (ในรุ่นจริงคงมี)

นอกจากนี้ยังนำเอา Storm 2 ไปเทียบขนาดกับมือถือรุ่นใหม่ของ RIM ที่ยังไม่ออกด้วย เช่น BlackBerry Onyx และ Tour

Wall Street Journal รายงานว่าจากการวิจัยของ Deutsche Bank พบว่ากำไรกว่า 38% ของทั้งอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดตกอยู่ในมือของสองบริษัท (เมื่อนำตัวเลขของสองบริษัทมารวมกัน) คือแอปเปิลและ RIM แม้ว่าทั้งสองบริษัทนี้จะมีส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมเพียงแค่ 3% เท่านั้น

หากมาดูแต่แอปเปิลอย่างเดียว จะพบว่ากำไร 20% ของทั้งอุตสาหกรรมอยู่กับแอปเปิล ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเพียงแค่ 1%

นอกจากนี้แล้ว ในรายงานเดียวกันคาดว่าภายในปีนี้ส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลและ RIM รวมกันน่าจะสูงถึง 5% ในขณะที่จะคว้า 58% ของกำไรทั้งหมดของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ

สงครามมือถือยังไม่หายร้อนระอุจาก Palm Pre และ iPhone 3G S เนื่องจาก RIM ส่ง BlackBerry รุ่นใหม่ "Tour" ออกตามมาซ้ำให้เดือนมิถุนายน 2009 เป็น "เดือนแห่งมือถือ" อย่างแท้จริง

BlackBerry Tour เป็นมือถือในสายตระกูลหลักของ BlackBerry นั่นคือมีคีย์บอร์ดจริง และจอไม่สัมผัส เช่นเดียวกับ BlackBerry Curve กับ BlackBerry Bold (ต่างจาก BlackBerry Storm ซึ่งเป็นจอสัมผัสและไม่มีคีย์บอร์ด) BlackBerry Tour ออกมาเป็นรุ่นที่รองจาก Bold นั่นคือสเปกจะด้อยกว่าเล็กน้อย เช่น Bold มีหน่วยความจำ 1GB + 128MB ในขณะที่ Tour จะมีแค่ 256MB

บริษัท RIM (Research In Motion) และบริษัท CSL ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน นำเครื่องสมาร์ทโฟน แบลคเบอรี รุ่น Pearl Flip 8220 ออกจำหน่ายแล้ว และเป็นเครื่องสมาร์ทโฟนของแบลคเบอรีสไตล์ใหม่รุ่นแรกของฮ่องกง

ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ CSL กล่าวว่า บริษัทเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ RIM มาเป็นเวลานานแล้วในการนำเครื่องสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆเข้ามาจำหน่ายในฮ่องกง และการที่บริษัทตัดสินใจนำเครื่องรุ่น Pearl Flip เข้ามาในครั้งนี้อีกนั้นก็เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า

ที่มา - China Tech News

แหล่งข่าวจากบริษัท RIM (Research In Motion) ผู้ผลิตเครื่องแบลคเบอรีที่โด่งดังในวงการเครื่องสมาร์ทโฟน ของโลกอีกยี่ห้อหนึ่ง ได้ตกลงซื้อกิจการของบริษัท Chalk Media Corp. ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์มีเดียสำหรับเครื่องสื่อสารไร้สายด้วยมูลค่า 18.8 ล้านเหรียญ (ราว 667.4 ล้านบาท) เป็นเงินสด

นอกจากนั้น RIM ยังเปิดเผยด้วยว่า นอกจากจะต้องจ่ายเงินให้กับ Chalk Media รวมทั้งสิ้น 23.1 ล้านดอลลาร์แดนาดา (CA$) หรือประมาณ 671 ล้านบาทแล้ว ยังมีข้อแม้ที่จะต้องให้ยืมเงินอีก 2.2 ล้าน CA$ หรือราว 64 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนดำเนินงานจนกว่าข้อตกลงจะเสร็จสมบูรณ์

บริษัท SK Telecom ผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายของเกาหลีร่วมกับบริษัท RIM (Research In Motion) ผู้ผลิตเครื่องสมาร์ทโฟนของแคนาดา เตรียมนำเครื่องโทรศัพท์แบลคเบอรีรุ่น โบลด์ 9000 (Blackberry Bold 9000) สำหรับผู้ใช้ที่เป็นหน่วยงาน องค์กร และบริษัทห้างร้านต่างๆ ภายในปีนี้เพื่อใช้งานกับโครงข่ายไร้สายของบริษัทโทรคมนาคมในเกาหลีใต้

ก่อนหน้านี้กฎเกณฑ์ของเกาหลีใต้ไม่เปิดโอกาสให้ใช้เครื่องแบลคเบอรีและเครื่องสมาร์ทโฟนของต่างชาติเนื่องจากต้องการให้เครื่องโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ไร้สายทุกเครื่องที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศต้องมีซอฟต์แวร์พิเศษที่สามารถปรับใช้แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตไร้สายของประเทศได้ ซึ่งกฎเกณฑ์ที่ห้ามในเรื่องดังกล่าวไว้ถูกยกเลิกไปเมื่อต้นปีนี้ ทำให้เครื่องแบลคเบอรีมีโอกาสเข้าเกาหลีใต้ได้แล้ว

บริษัท Avian Research L.L.C เปิดเผยผลสำรวจเครื่องโทรศัพท์มือถือยอดนิยมสูงสุด 10 ลำดับในสหรัฐอเมริกาเมื่อสิ้นกันยายน 2551 ซึ่งทำการสำรวจผ่านทาง “แบบสำรวจร้านค้าปลีกประจำเดือน” (Monthly Retail Store Survey) ของบริษัท โดยการสุ่มตัวอย่างจากตัวแทนขายและบริการของร้านค้าปลีก 100 แห่งเพื่อวัดความสนใจของลูกค้าที่มีต่อการซื้อเครื่องโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการรายใหญ่ 4 ราย ปรากฏว่า เครื่อง BlackBerry ของ RIM นำลิ่วด้วยส่วนแบ่งตลาด 26.1% ทิ้งคู่แข่งอย่างไอโฟนไว้ที่ส่วนแบ่งตลาดเพียง 9.2% รายละเอียดเป็นดังนี้

(1) RIM BlackBerry Curve 26.1%

(2) Apple iPhone 9.2%

(3) LG Dare 7.9%

(4) RIM Blackberry Pear 6.6%

(5) LG Voyager 6.5%

รายงานจากบริษัท NPD Group ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาด รายงานว่า ในไตรมาส 3 ของปี 2551 พบว่า วัยรุ่นอเมริกันนิยมใช้เครื่องโทรศัพท์มือถือ “ไอโฟน” (iPhone) แซงหน้า RAZR ของโมโตโรลาที่เคยเป็นเครื่องมือถือยอดนิยมมาตลอด 12 ไตรมาส

สาเหตุที่คนอเมริกันเลือกซื้อเครื่องไอโฟนมากกว่า เนื่องจากนิยมในเรื่องรูปร่างตัวเครื่อง และฟังก์ชั่นในการใช้งานที่ตอบสนองความต้องการของวัยรุ่นยุคใหม่ได้มากกว่า

สำหรับ เครื่อง Blackberry Curve ของ Research In Motion (RIM) ได้รับความนิยมตามมาเป็นอันดับ 3 ในการจัดอันดับของ NPD

อย่างไรก็ตาม รายงานจากบริษัทวิจัยอื่นๆ เช่น Canalys ระบุว่า เครื่องไอโฟนได้รับความนิยมแซงหน้า RIM และ โมโตโรลา โดยครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องสมาร์ทโฟนราว 17.3%

ถัดจาก iPhone App Store และ Android Marketplace ทางบริษัท RIM ซึ่งเป็นผู้ผลิตมือถือตระกูล BlackBerry ได้ประกาศทำ app store บ้างเช่นกัน

RIM เปิดเผยในงาน BlackBerry Developer Conference ครั้งแรกของบริษัทว่าแผนการด้านแอพพลิเคชันภายนอกของบริษัทจะมีสองส่วน

• Application Center ในตัวเครื่อง ไว้ช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถรวมแอพพลิเคชันมาให้ลูกค้าเลือกได้สะดวกขึ้น
• Application Storefront ร้านขายแอพพลิเคชันออนไลน์

ส่วนแบ่งรายได้คือ นักพัฒนา 80% ส่วน RIM กินหัวคิว 20% ตอนนี้ RIM กำลังคุยกับ PayPal เรื่องระบบจ่ายเงินของลูกค้าอยู่ สำหรับองค์กรที่ใช้ BlackBerry สามารถควบคุมชนิดและจำนวนแอพพลิเคชันที่พนักงานสามารถเลือกดาวน์โหลดได้ด้วย

ถึงแม้ว่าตลาดระบบปฏิบัติการมือถือจะแข่งกันโดยตรง แต่ตลาดอื่นก็สามารถเป็นพาร์ทเนอร์กันได้ ไมโครซอฟท์ได้จับมือบริษัท RIM เจ้าของ BlackBerry ผลักดัน Windows Live Search ให้กับผู้ใช้ BlackBerry ได้เป็นทางเลือกในการค้นหาจากเว็บเบราว์เซอร์ของ BlackBerry และพอร์ทัลของ RIM

ก่อนหน้านี้สองเจ้านี้เคยจับมือกันมาหลายรอบแล้ว เช่น ผลักให้ BlackBerry มี Windows Live Messenger และ Hotmail เป็นต้น

ที่มา - CNET

ช่วงนี้มือถือเปิดตัวกันหลายรุ่น เว็บไซต์ Boy Genius Report ซึ่งมักได้มือถือรุ่นใหม่มาลองเป็นคนแรกๆ เป็นประจำได้รีวิว BlackBerry Bold 9000 แล้ว

BlackBerry Bold เป็นมือถือรุ่นแรกในซีรีย์ 9000 ของ BlackBerry ที่จะออกตามมาอีกหลายตัว (ตามข่าวมีโค้ดเนม Thunder ซึ่งเป็นจอสัมผัส และ Kick Start มือถือฝาพับตัวแรกของค่ายนี้)

ถึงแม้ว่ารอบปีที่ผ่านมา วงการโทรศัพท์มือถือจะโดนกระแส iPhone กลบซะแทบมิด แต่มือถือตระกูล BlackBerry จาก RIM ซึ่งเจาะตลาดองค์กรและนักธุรกิจยังไปได้สวย ล่าสุด RIM ออก BlackBerry Bold หรือชื่อเดิม BlackBerry 9000 มาแล้ว (คลิกเพื่อดูภาพ)

ฟีเจอร์

ในบทความ Android Developer Challenge - โอกาสทองของเด็กไทย ผมเขียนไว้ว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดของ Android ในช่วงแรก คือ Android Developer Challenge ซึ่งกูเกิลปันงบมาเป็นรางวัลให้ 10 ล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นให้คนพัฒนาโปรแกรมบน Android (รายชื่อโปรแกรมบางส่วนที่เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่าง - TechCrunch)

RIM บริษัทแม่เจ้าของ BlackBerry ประกาศพัฒนาชุดซอฟต์แวร์สำหรับ Windows Mobile 6 เพื่อใช้บริการต่างๆ ที่เดิมมีเฉพาะบน BlackBerry (BlackBerry มีระบบเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง ที่ใช้ BlackBerry Enterprise Server ซึ่งการใช้อีเมล ปฏิทิน ฯลฯ ต้องทำผ่านเซิร์ฟเวอร์นี้ทั้งหมด)

ตัวแทนจาก BlackBerry ประกาศว่านี่เป็นการขยายโอกาส โดยสร้างแพลทฟอร์มเปิดที่ไม่จำกัดเฉพาะฮาร์ดแวร์ใดฮาร์ดแวร์หนึ่ง

นี่อาจเป็นสัญญาณว่า BlackBerry เริ่มเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ จากขายเครื่องเอง+บริการ มาเน้นการขายบริการ (โดยไม่สนว่าคุณใช้เครื่องแบบไหน BlackBerry หรือ Windows Mobile เอามันทั้งคู่) แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าเครื่องรุ่นใหม่ของ BlackBerry จะใช้ Windows Mobile หรือไม่