บอร์ดบริษัท OpenAI ประกาศว่า Sam Altman จะลงจากตำแหน่งซีอีโอ OpenAI รวมทั้งลาออกจากตำแหน่งในกรรมการบอร์ดบริษัทด้วย โดยแต่งตั้ง Mira Murati ซึ่งปัจจุบันเป็นซีทีโอ (Chief Technology Officer) ให้เป็นซีอีโอรักษาการระหว่างการสรรหาซีอีโอคนใหม่ มีผลทันที
บอร์ดบริษัทอธิบายว่าได้มีการประเมินหลายด้าน และสรุปว่า Altman ไม่สามารถให้ข้อมูลและสื่อสารกับบอร์ดบริษัทได้อย่างสม่ำเสมอ หลายครั้งไม่ทำหน้าที่ตามที่ซีอีโอต้องรับผิดชอบ บอร์ดบริษัทจึงลงความเห็นว่าไม่ไว้ใจในความสามารถที่จะให้เขาเป็นซีอีโอ OpenAI อีกต่อไป
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI แจ้งผ่านบัญชี X ของเขาว่า ChatGPT Plus บริการเสริมเพื่อใช้งาน ChatGPT เต็มรูปแบบที่ต้องจ่ายเงินรายเดือน ตอนนี้ปิดรับลูกค้าใหม่เพิ่มชั่วคราว
เขาให้เหตุผลว่าตอนนี้ความต้องการสมัครใช้งานเพิ่มสูงเกินกว่าจำนวนที่รองรับได้ จึงต้องหยุดรับลูกค้าใหม่เพิ่มก่อนเพื่อให้ลูกค้าที่สมัครแล้ว ยังได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน โดยตอนนี้สามารถแจ้งความต้องการไว้และ ChatGPT จะส่งแจ้งเตือนเมื่อเปิดรับสมัครอีกครั้ง
ไม่มีตัวเลขที่เป็นทางการว่ามีผู้ใช้งาน ChatGPT Plus เท่าใด แต่ก่อนหน้านี้ OpenAI เปิดเผยตัวเลขผู้ใช้งาน ChatGPT แบบเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านคน
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI เปิดเผยข้อมูลในงานสัมมนา DevDay ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ว่าตอนนี้มีคนใช้งาน ChatGPT เป็นประจำทุกสัปดาห์ถึง 100 ล้านคน ส่วน API สำหรับนักพัฒนา มีผู้ใช้งานแล้วกว่า 2 ล้านคน และครอบคลุมมากกว่า 92% ของบริษัทใน Fortune 500
ChatGPT เป็นหนึ่งในแอปที่มีการเติบโตของผู้ใช้งานอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัว มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มากกว่า 100 ล้านคน ภายในเวลาเพียง 2 เดือน ก่อนสถิติจะถูกแซงโดย Threads ในปีเดียวกัน ที่ใช้เวลาเพียง 4 วัน (แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจอันไหนคนใช้งานเยอะกว่า)
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอินโดนีเซียประกาศมอบวีซ่าพิเศษตามโครงการ Indonesia Golden Visa ของรัฐบาล ให้แก่ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI เพื่อให้เข้ามาพัฒนาวงการปัญญาประดิษฐ์แก่อินโดนีเซีย
โครงการพิเศษนี้เป็นการมอบวีซ่าให้บุคคลสำคัญระดับโลกที่เชื่อรัฐบาลเชื่อว่ามีคุณประโยชน์ต่ออินโดนีเซีย โดยตัว Sam Altman เองเคยไปเยือนอินโดนีเซียเมื่อปี 2019
ผู้ถือวีซ่านี้ได้รับสิทธิพิเศษเข้าช่องตรวจแยกต่างหาก, ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มระยะเวลาพำนักในอินโดนีเซียตามปกติ, สามารถพำนักระยะยาวกว่าปกติได้ โดยวีซ่ามีทั้งแบบอายุ 5 ปีและ 10 ปี ตัว Altman ได้รับแบบ 10 ปี
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI เปิดตัว Worldcoin ระบบยืนยันตัวตนบนบล็อคเชนเพื่อให้แน่ใจว่าเรากำลังทำสัญญากับมนุษย์อยู่จริงๆ (proof of personhood) โดยไม่เปิดเผยข้อมูลอื่น
Worldcoin อาศัยฮาร์ดแวร์พิเศษของตัวเองชื่อว่า The Orb (ดูภาพประกอบ) ในการแสกนม่านตา และลงทะเบียนกับฐานข้อมูลกลางเพื่อยืนยันว่าผู้ใช้งานเป็นมนุษย์จริงๆ โดยฐานข้อมูลจะยืนยันว่าภาพม่านตาที่ส่งเข้ามานั้นต่างจากภาพอื่นๆ ในฐานข้อมูล ป้องกันการลงทะเบียนซ้ำ ระบบนี้จะเชื่อมเข้ากับ World App ที่เป็นแอปพลิเคชั่นถือกุญแจลับเพื่อยืนยันตัวตนทำธุรกรรมต่างๆ ต่อไป
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI กล่าวในงานสัมมนาที่จัดโดย Stripe พูดถึงการทำงานแบบรีโมท โดยเขาคิดว่าถ้าองค์กรยังเป็นสตาร์ทอัพ ก็ควรให้พนักงานทำงานด้วยกันในสำนักงานมากกว่าทำงานแบบรีโมท
Altman บอกในประเด็นนี้ว่า ที่ผ่านมาอุตสาหกรรม Tech ผิดพลาดที่อนุญาตให้พนักงานทำงานรีโมทแบบเต็มเวลาได้ บริษัทแบบสตาร์ทอัพจึงบอกว่าพนักงานไม่ต้องมาทำงานที่สำนักงานเลยก็ได้ ส่งผลให้สตาร์ทอัพนั้นสูญเสียความคิดสร้างสรรค์ เขามองว่าตอนนี้เทคโนโลยียังไม่ดีมากพอที่จะให้พนักงานทำงานรีโมทเต็มเวลาตลอดไปได้ และย้ำว่าโดยเฉพาะบริษัทที่เป็นสตาร์ทอัพ