Thomas Sarlandie ซึ่งเป็น Developer Evangelist ของ Pebble เผยผ่าน Reddit AMA ว่า บริษัทไม่มีแอพบน Windows Phone แต่ได้สนับสนุนนักพัฒนาภายนอกให้ทำแอพแบบไม่เป็นทางการที่รองรับการทำงานกับอุปกรณ์ของบริษัท ซึ่งจะรวมถึงนาฬิการุ่นจอสี Pebble Time ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัว
หวังว่าอนาคต Pebble จะทำแอพบน WP อย่างเป็นทางการนะ
ที่มา: Reddit AMA ผ่าน Gdgt Arena
หลัง Pebble เปิดตัวนาฬิการุ่นจอสี Pebble Time และได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี (ขณะที่เขียนข่าว ยอดระดมทุน 8 ล้านดอลลาร์แล้ว) เว็บไซต์ Medium Backchannel ก็มีบทสัมภาษณ์ Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Pebble ถึงเบื้องหลังการสร้าง Pebble Time ครับ
Pebble เปิดตัว Pebble Time นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปใช้จอ e-paper จอสี โดยยังใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นเดิมได้ทั้งหมดกว่า 6500 รายการ
จุดเด่นของรุ่นใหม่อื่นๆ ได้แก่ กันน้ำ (ไม่แนะนำให้ใช้ดำน้ำ, แต่ว่ายน้ำได้), รองรับ Voice Reply ของแอนดรอยด์หลายแอพพลิเคชั่น ส่วน iOS รองรับเฉพาะ Gmail, จอภาพ Gorilla Glass, อายุแบตเตอรี่ 7 วัน, และสายนาฬิกาแบบ 22 มิลลิเมตรมาตรฐานได้
หน้าจอแบบใหม่ Timeline จะเรียงหน้าจอตามเวลา อดีต, ปัจจุบัน, และอนาคต โดยหน้าจอนี้ตัว Pebble เดิมและ Pebble Steel จะได้รับอัพเดตด้วย
ราคาปลีก 199 ดอลลาร์ ช่วงเริ่มต้น 5,000 เรือนแรก 159 ดอลลาร์ ส่งของเดือนพฤษภาคมนี้
มีคนไปพบว่ามีภาพสมาร์ทวอทช์รุ่นที่ยังไม่ออกสู่ตลาดบนเซิร์ฟเวอร์ของ Pebble เอง ถึงแม้ภาพนั้นจะถูกลบออกไปแล้วแต่ก็ยังมีคนเก็บภาพนั้นได้ทัน
จากภาพ (ดูได้ที่ท้ายข่าว) จะเห็นว่าสมาร์ทวอทช์มีหน้าจอสี ดูเหมือนขอบจอหนาขึ้นและปุ่มเล็กลงกว่ารุ่นก่อน เว็บไซต์ 9to5Mac เสริมว่า สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่นี้จะไม่มีหน้าจอสัมผัส, มีระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งเทียบเท่ากับอุปกรณ์รุ่นแรกจาก Pebble, ซีพียู Cortex M4, ไจโรสโคปแบบ 6 แกน และระบบปฏิบัติการได้รับการออกแบบใหม่หมดโดยทีมที่อยู่เบื้องหลัง webOS
ที่มา: 9to5Mac
ดูเหมือน Pebble ผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์รายแรกๆ ของตลาด จะเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในเร็ววันนี้ หลังจากเพิ่งเริ่มนับถอยหลังในหน้าเว็บหลัก โดยจุดหมายคือวันอังคารหน้าที่ 24 กุมภาพันธ์เวลา 22 นาฬิกาตามเวลาบ้านเรา
ใครที่ตามข่าววงการอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ช่วงบูมๆ น่าจะรู้จักกับ Neptune Pine สมาร์ทวอทช์จอยักษ์ (?) ที่มาพร้อมกับสเปคอย่างกับสมาร์ทโฟน ซึ่งหลังจากวางขายจริงก็โดนรีวิวถล่มยับว่าเหมือนกับเอาสมาร์ทโฟนจอเล็กมาใส่สายเป็นสมาร์ทวอทช์เสียมากกว่า วันนี้ค่ายเดิมกลับมาอีกครั้งด้วยความพยายามที่จะทำอุปกรณ์สวมใส่ในรูปแบบใหม่อีกแล้ว
และของใหม่ในครั้งนี้ก็คือ Neptune Duo ที่แพคคู่มาด้วย Neptune Hub สมาร์ทวอทช์จอยักษ์ที่จะเรียกว่าเป็นกำไลรัดข้อมือก็ว่าได้ กับ Neptune Pocket หน้าจอไร้สายสำหรับเป็นหน้าจอที่สองให้กับ Neptune Hub นั่นเอง
แม้ว่าจะมีข่าวเสียหายตั้งแต่ยังไม่เริ่มขายมาพอควร แต่ดูเหมือนจะไม่ได้หยุดความร้อนแรงของสมาร์ทวอทช์ที่หลายคนจับตามองอย่าง Apple Watch ไปได้ ล่าสุด The wall Street Journal ไปได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวภายในระบุว่าแอปเปิลได้สั่งชิ้นส่วนสำหรับเจ้าสมาร์ทวอทช์ตัวนี้มากถึง 5-6 ล้านชิ้น โดยแบ่งเป็น Apple Watch Sport ครึ่งหนึ่ง และที่เหลือเป็น Apple Watch รุ่นอื่นๆ
สำหรับค่าตัวของ Apple Watch Sport จะอยู่ที่ 399 เหรียญ ตามมาด้วย Apple Watch รุ่นปกติที่ยังไม่เปิดราคา แต่คาดว่าราว 499 เหรียญ และรุ่นแพงสุดจะเป็น Apple Watch Edition ที่อาจจะแพงถึงขั้นหลายพันเหรียญเลยทีเดียว
Jerry Shen ซีอีโอของ ASUS ให้ข่าวกับเว็บไซต์ Focus Taiwan ว่าบริษัทกำลังพัฒนานาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear ของกูเกิล ผลคือแบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น
ข้อมูลนี้สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ Jonney Shih ประธานบอร์ด ASUS ที่พูดไว้ในเดือนมกราคมว่า นาฬิการุ่นใหม่ของบริษัทอาจอยู่ได้นานถึง 7 วัน โดยเป็นผลมาจากการเปลี่ยนชิปและระบบปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตาม Shen ก็บอกว่าบริษัทยังทำนาฬิกา Zenwatch รุ่นที่สองที่ยังใช้ Android Wear อยู่เช่นเดิม เท่ากับว่า ASUS มีนาฬิกาที่ใช้ระบบปฏิบัติการ 2 ค่ายอยู่ระหว่างการพัฒนา
ยังคงเดินหน้าเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ที่เน้นความหรูหราในในชื่อรุ่น LG Watch Urbane อันมีจุดเด่นอยู่ที่ตัวเรือนทำด้วยโลหะทั้งชิ้น รูปลักษณ์เรียบหรูในสีเงิน และทอง (ดูแล้วน่าจะเป็น Rose Gold) พร้อมกับสายหนังขนาด 22 มม.
G Watch Urbane ใช้สเปคใกล้เคียงกับ G Watch R ทั้งหน้าจอกลม P-OLED ขนาด 1.3" ความละเอียดสูงขึ้นเป็น 320x320 พิกเซล, ซีพียู Snapdragon 400 ความถี่ 1.2GHz, หน่วยความจำภายใน 4GB และแรม 512MB, มีเซนเซอร์จับชีพจร, กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67, แบตเตอรี่จุ 410 mAh และแน่นอนว่ารัน Android Wear ครับ
แม้จะยังไม่เริ่มขายจริง แต่ดูเหมือน Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลจะมั่นใจในศักยภาพของ Apple Watch ใช่ย่อย หลังจากเพิ่งไปประกาศในงานสัมมนาเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตที่จัดรายปีของ Goldman Sachs ว่าเป้าหมายของ Apple Watch คือการเปลี่ยนการใช้ชีวิตของผู้คนเลยทีเดียว
เว็บไซต์ BuzzFeed News รายงานว่า หลายมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรได้เริ่มห้ามผู้เข้าสอบใส่นาฬิกาข้อมือเข้าห้องสอบแล้ว
เหตุผลในการห้ามคือ ถึงแม้จะมีสมาร์ทวอทช์หลายรุ่นออกสู่ตลาดแล้วแต่การมาถึงของ Apple Watch จะทำให้ความนิยมใช้สมาร์ทวอทช์เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นสมาร์ทวอทช์มีฟังก์ชันเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟน (อาทิ รับส่งข้อความ ดูบันทึกที่จดไว้) และเป็นเรื่องยากที่ผู้คุมสอบจะระบุว่านาฬิกาข้อมือนั้นเป็นนาฬิกาธรรมดาหรือสมาร์ทวอทช์ การจัดการกับนาฬิกาข้อมือในการสอบจึงควรเป็นไปในทางเดียวกับสมาร์ทโฟน
หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ปรับใช้นโยบายคุมสอบใหม่นี้แล้วคือ University of London และ London's City University ครับ
มีคนพบว่าเอซุสได้จดเครื่องหมายการค้า VivoWatch ซึ่งระบุว่าเป็นอุปกรณ์ที่ดึงข้อมูลจากอุปกรณ์พกพา ทั้งข้อความ SMS อีเมล การแจ้งเตือนปฏิทิน และการปลุก มาแสดงผล รวมถึงสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ติดตามการนอนหลับ และมี GPS ในตัว นอกจากนั้นยังมีคนพบ VivoWatch บนฐานข้อมูลของ Bluetooth SIG ด้วย
เนื่องจากเครื่องหมายการค้าขึ้นต้นด้วย "Vivo" และผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อลักษณะข้างต้นจะอยู่ในสาย Windows จึงเป็นไปได้ที่อุปกรณ์สวมใส่ข้อมือนี้จะรัน Windows
เว็บไซต์ Gdgt Arena คาดว่าเอซุสจะเผยอุปกรณ์นี้ที่งาน MWC 2015 ครับ
Swatch แบรนด์นาฬิกาแฟชั่นจากสวิตเซอร์แลนด์ ในเครือของ The Swatch Group ได้ให้ข่าวกับทางเว็บไซต์ The Next Web ว่าทางบริษัทกำลังเตรียมที่จะเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะของตนเองในอีกประมาณ 2-3 เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งจะตรงกันช่วงเวลาที่ Apple Watch น่าจะวางจำหน่ายพอดี
โฆษกของแบรนด์ออกมาระบุว่า ความสามารถที่จะมาพร้อมกับนาฬิกาอัจฉริยะของทาง Swatch นั้น จะมีทั้งเรื่องของการติดต่อสื่อสาร ระบบชำระเงินทางร้านค้าอย่างเช่น Migros และ Coop (ซุปเปอร์มาร์เก็ตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์) และแอพที่สามารถทำงานได้ทั้งบนแพลตฟอร์ม Windows และ Android โดยตัวนาฬิกาไม่จำเป็นที่จะต้องใช้การ "ชาร์จ" แต่ประการใด ซึ่งน่าสนใจว่าจะออกมาเป็นแบบไหน
เริ่มขายมาได้สองปีนิดๆ ในที่สุด Pebble ก็ทำยอดขายทะลุล้านชิ้นต่อปีได้สำเร็จในปี 2014 ที่ผ่านมาแล้ว เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อปี 2013 ที่ขายได้ราว 400,000 ชิ้นเท่าตัวกว่าๆ เลยทีเดียว
นอกจากเผยยอดขายแล้ว Pebble ยังบอกว่าในปีนี้จะมีสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่มาเปิดตัวแน่ๆ หลังจากปีที่แล้วได้เปิดตัว Pebble Steel ที่จับของเดิมมาใส่กรอบโลหะเท่านั้น โดยในปีนี้ Pebble จะแสดงให้เห็นถึงการทำสมาร์ทวอทช์ที่ไม่ได้เน้นไปที่แอพแบบกูเกิล หรือแอปเปิลทำให้สมาร์ทวอทช์คล้ายกับสมาร์ทโฟน แต่จะเน้นสร้างแพลตฟอร์มที่ไม่ทำให้สมาร์ทวอทช์กลายเป็นสมาร์ทโฟนแทน
แต่กว่าจะได้เห็นกัน คาดว่าจะต้องรอถึงช่วงปลายปีเลยครับ
นอกจาก Epson ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์รายใหญ่จะเข้าร่วมวงผู้ผลิตแว่นตาอัจฉริยะอีกราย ล่าสุด ที่งาน CES 2015 บริษัทได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือกันน้ำฝัง GPS ตระกูล Runsense
Runsense มีสามรุ่นย่อย คือ SF-510, SF-710 และ SF-810 โดยทุกรุ่นจะมี GPS, เซนเซอร์วัดระยะก้าว (stride sensor), กันน้ำลึก 50 ม., รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.0, สามารถเก็บข้อมูลการวิ่งได้ 400 ครั้งโดยไม่ต้องซิงค์ข้อมูล และดูข้อมูลการออกกำลังและสถิติได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และแอพบนอุปกรณ์พกพา
ยิ่งมีข่าวลือเกี่ยวกับสมาร์ทวอทช์ของแอปเปิลอย่าง Apple Watch เกี่ยวกับแบตเตอรี่ออกมาเท่าไร ก็ดูเหมือนระยะเวลาใช้งานจะยิ่งสั้นลงเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ Tim Cook เคยออกมาบอกเองว่าต้องชาร์จทุกวัน ล่าสุดระบุว่าถ้าใช้งานหนักๆ จะอยู่ได้เพียง 2.5 ชั่วโมงเท่านั้น
ข้อมูลชิ้นดังกล่าวออกมาจากแหล่งข่าววงในที่ใกล้ชิดกับแอปเปิล ซึ่งระบุว่าแอปเปิลกำลังอยู่ในช่วงทดสอบอายุการใช้งานของ Apple Watch เมื่อใช้กับแอพทั้งจากภายใน และภายนอก โดยแอปเปิลตั้งเป้าว่าจะให้ใช้งานแบบหนักๆ ได้ประมาณ 2.5 ชั่วโมง และใช้งานทั่วไปได้ 3.5 ชั่วโมง ส่วนการใช้สำหรับออกกำลังกายอย่างเดียวนั้นจะให้ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
มีบทสัมภาษณ์ที่น่าสนใจของ Jean-Claude Biver ซีอีโอของแบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ TAG Heuer จาก Bloomberg ที่พูดถึงอนาคตของสมาร์ทวอทช์ในฐานะของผู้ผลิตนาฬิกาไว้ค่อนข้างน่าสนใจ
Biver บอกว่าทิศทางของนาฬิกาในอนาคตน่าจะเดินตามรอยของสมาร์ทวอทช์ที่ทำให้นาฬิกาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้มากขึ้น และพูดถึง Apple Watch ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ เขาเองก็จะซื้อมาใช้ด้วย แต่ถึงกระนั้นเขาเองก็ยังเลือกใส่นาฬิกาของ TAG Heuer สำหรับใส่ประจำวันอยู่ดี
เพิ่งเพิ่มการรองรับ WatchKit มาใน iOS 8.2 รุ่น beta สำหรับเตรียมพร้อมใช้กับ Apple Watch ได้ไม่ทันไรก็มีรายละเอียดของแอพสำหรับใช้งาน Apple Watch ร่วมกับ iPhone ออกมาให้เห็นอีกแล้ว โดยพูดถึงฟีเจอร์ของ Apple Watch ที่ไม่ได้บอกเมื่อครั้งเปิดตัวอีกด้วย ไล่ทีละฟีเจอร์ได้ดังนี้ครับ
เพิ่งมีข่าวมาว่า Apple Watch มีแผนจะเริ่มขายในเดือนมีนาคม แต่ทว่าในงาน CES 2015 ที่กำลังจัดอยู่ในขณะนี้กลับมี Apple Watch รุ่นลอกเลียนแบบออกมาวางขายในงานแล้วด้วยผลงานของบริษัทจีนชื่อว่า Hyperdon
เจ้า Apple Watch ของปลอมที่ว่านี้ แม้หน้าตาจะเหมือน แต่ภายในต่างกันลิบลับโดยเฉพาะฟีเจอร์ ที่หลักๆ ทำได้เพียงเป็นตัวนับก้าว นาฬิกาจับเวลา นาฬิกาปลุก รับข้อความแจ้งเตือนจากแอพบางตัว และมีฟีเจอร์กันหายที่คาดว่าจะทำงานเมื่อหลุดจากระยะบลูทูธ
ตัวนาฬิกาทำงานได้กับ iPhone ที่เจลเบรกแล้วเท่านั้น โดยใช้งานได้ยาวนานถึง 180 ชั่วโมง ตามที่บริษัทเคลมไว้ สามารถชาร์จได้ผ่าน USB และเปิดราคามาเพียง 30 เหรียญเท่านั้น! (ประมาณ 1,000 บาท) เริ่มขายผ่านร้านค้าในสหรัฐฯ และจีนไปแล้ว
บนเวทีของ Audi ในงาน CES 2015 มีการใช้สมาร์ทวอทช์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการโชว์เทคโนโลยีอย่างการปลดล็อกด้วยนาฬิกาด้วย ซึ่งหลังการเปิดตัวเสร็จสิ้นได้มีนักข่าวไปขอลองเล่นเจ้าสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ และพบว่ามีอะไรมากกว่าที่คิด
อย่างแรกคือสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ผลิตโดย LG และไม่ได้เป็น Android Wear อย่างที่สันนิษฐานกันตอนแรก แต่ใช้ webOS เป็นแกนหลัก จะเรียกว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ตัวแรกที่รัน webOS ก็ว่าได้
แม้จะออกตัวมาก่อนว่ายังไม่เน้นในตลาดอุปกรณ์ไอทีสวมใส่มากนัก แต่ในงาน CES 2015 ทาง Lenovo ก็จัดการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ตัวแรกที่ใช้หน้าจอ E Ink ตัวแรกของบริษัทมาแล้วในชื่อ Vibe Band VB10
Vibe Band VB10 เป็นสมาร์ทวอทช์หน้าจอ E Ink ที่มาในทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้าจอโค้ง กันน้ำระดับ IPx7 อยู่ในน้ำลึกหนึ่งเมตรได้ 30 นาที ด้านข้อมูลหน้าจอ Lenovo ไม่ได้บอกความละเอียดมา แต่บอกว่าความหนาแน่นพิกเซลอยู่ที่ 230 พิกเซลต่อนิ้ว สามารถแสดงผลได้สูงสุด 150 ตัวอักษร ฟีเจอร์หลักคือนับก้าวเดิน เก็บกิจกรรม และฟีเจอร์อื่นๆ ที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน (ยังไม่มีข้อมูล) แต่จับชีพจรไม่ได้
จุดเด่นอีกอย่างของ VB10 อยู่ที่ราคา โดยเปิดมาเพียง 89 เหรียญ (ประมาณ 2,900 บาท) เตรียมขายในสหรัฐฯ เดือนเมษายนนี้ครับ
ค่ายรถยนต์เกาหลี Hyundai มีระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถยนต์ชื่อว่า Blue Link มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ล่าสุด Hyundai ประกาศขยายแพลตฟอร์ม Blue Link ให้รองรับนาฬิกาอัจฉริยะ Android Wear เพิ่มเติมด้วย
เจ้าของรถที่มีนาฬิกา Android Wear สามารถกดสตาร์ตเครื่องยนต์ ล็อคประตู เปิดไฟรถ บีบแตร และค้นหารถยนต์ได้จากนาฬิกาโดยตรง (ฟีเจอร์เทียบเท่าแอพมือถือ) แอพจะเปิดให้ดาวน์โหลดในไตรมาสแรกของปี 2015 ใช้ได้กับนาฬิกา Android Wear ของซัมซุง โซนี่ แอลจี โมโตโรลา ส่วนรถยนต์ที่รองรับคือรถที่มีระบบ Blue Link ทุกรุ่นนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
Alcatel OneTouch เผยสมาร์ทวอทช์หน้าปัดทรงกลม บริษัทกล่าวว่านาฬิกานี้จะให้ความรู้สึกเหมือนนาฬิกาข้อมือทั่วไป รองรับการเชื่อมกับสมาร์ทโฟนรันแอนดรอยด์ สามารถติดตามกิจกรรมของผู้ใช้ (จากภาพท้ายข่าวจะเห็นว่าอย่างน้อยมันสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้) ควบคุมการเล่นเพลง ถ่ายภาพ (เว็บไซต์ The Verge คาดว่าใช้นาฬิกาเป็นรีโมตถ่ายภาพ) และแสดงผลการแจ้งเตือนได้
บริษัทอ้างว่าราคานาฬิกานี้สามารถจับต้องได้ แต่ก็ยังไม่เผยราคาและสเปคแต่อย่างไร ต้องรอที่งาน CES ที่กำลังจะมีขึ้นปีนี้ครับ
ที่มา: The Verge
ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Pebble ที่อยากได้ฟีเจอร์แบบ Android Wear บ้าง หลังจากในอัพเดตใหม่เวอร์ชัน beta เพิ่มความสามารถให้ Pebble สามารถตอบผ่านข้อความแจ้งเตือนได้โดยตรงแล้ว
วิธีการของ Pebble จะใกล้เคียงกับ Android Wear ต่างกันตรงที่ตัวเครื่องไม่มีหน้าจอสัมผัส จึงใช้ปุ่มด้านข้างสำหรับเลือกรูปแบบข้อความที่ต้องการตอบกลับ (พิมพ์ไม่ได้เพราะไม่มีจอสัมผัสเช่นกัน) ซึ่งดูยุ่งยากกว่า แต่คงใช้แบตเตอรี่น้อยกว่าเช่นกัน
วิดีโอแสดงการทำงานของฟีเจอร์นี้สามารถดูได้ท้ายข่าว ส่วนใครที่อยากใช้ตอนนี้ สามารถไปลงทะเบียนเพื่ออัพเดตเวอร์ชัน beta ได้ที่นี่