Volkswagen Group เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดที่ประกาศรองรับหัวชาร์จ Tesla (ชื่ออย่างเป็นทางการคือ North American Charging Standard หรือ NACS) ในตลาดสหรัฐอเมริกา
ประกาศนี้มีผลกับแบรนด์ในเครือทั้ง Volkswagen, Audi, Porsche, Scout Motors โดยรถยนต์ของแบรนด์เหล่านี้ที่ขายในอเมริกาเหนือ จะเริ่มใช้หัวชาร์จแบบ NACS ในปี 2025 เป็นต้นไป ส่วนหัวชาร์จแบบเดิม (Combined Charging System หรือ CCS) ก็ยังรองรับเหมือนเดิม
Volkswagen Group เป็นค่ายรถยนต์รายล่าสุดที่เข้าร่วมจักรวาล Android Automotive ของกูเกิล
เมื่อปี 2021 เครือ Volkswagen Group ประกาศทำระบบ infotainment ของตัวเองชื่อ One.Infotainment ซึ่งจะอิงอยู่บนฐานของ Android Automotive และจะเปิดให้ใช้งานในปี 2023 ตัวซอฟต์แวร์เป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการรถยนต์ VW.OS รับผิดชอบโดยบริษัทลูก Cariad ที่ทำซอฟต์แวร์ให้รถยนต์ทั้งเครือ
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ One.Infotainment คือมีแอพสโตร์ของตัวเอง (แยกจากของกูเกิล) ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท HARMAN ตอนนี้มีข้อมูลแล้วว่าจะมีแอพ TikTok, Spotify, Yelp, Webex, The Weather Channel, Home Assistant, Vivaldi ให้ใช้งาน
เวลาที่นั่งรถทางไกลใช้เวลานานๆ หลายคนเลือกที่จะนั่งชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อย ในขณะที่บางคนอาจจะเลือกงีบหลับพักผ่อน ส่วนบางคนอาจหาความบันเทิงให้ตนเองด้วยการรับชมวิดีโอหรือเล่นเกมไป แต่ตอนนี้มีผู้เสนอทางเลือกใหม่สำหรับการฆ่าเวลาระหว่างการเดินทาง ด้วยการนำเสนอสื่อบันเทิงแบบ VR ที่ทำงานสัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของรถที่วิ่งอยู่สร้างประสบการณ์โลกเสมือนที่แปลกใหม่
ผู้ให้บริการสื่อบันเทิงที่ว่านี้คือ Holoride บริษัทที่แยกตัวมาจาก Audi ซึ่งเพิ่งประกาศข่าวเตรียมจะเริ่มให้บริการจริงแล้ว หลังจากใช้เวลาในการพัฒนาระบบมานานกว่า 3 ปี
Audi ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีร่วมมือกับ MANN + HUMMEL พัฒนาแผ่นกรองอากาศเพื่อดักอนุภาคฝุ่นในระหว่างที่รถวิ่งและชาร์จไฟ โดยแผ่นกรองดังกล่าวจะถูกติดตั้งไว้ตรงส่วนกระจังหน้ารถ
Audi ระบุว่า 85% ของฝุ่นบนถนนมาจากการสึกหรอของเบรก, ยางรถยนต์ และพื้นผิวถนนเอง โดยฝุ่นเหล่านี้อาจมีขนาดเล็กสุดแค่ไม่กี่ไมโครเมตรและถูกสูดหายใจเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย (อนุภาคฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นปัญหามลภาวะทางอากาศที่คนไทยเริ่มตื่นตัวตระหนักกันดี ก็คืออนุภาคฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครเมตร ซึ่งฝุ่นจากท้องถนนก็มีอาจขนาดเล็กไม่แตกต่างกันมาก)
ด้วยการตระหนักถึงปัญหานี้ Audi จึงมีไอเดียที่พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มีส่วนช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมมีความสะอาดปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการติดแผ่นกรองดักอนุภาคฝุ่นที่ว่า
Volkswagen Group เป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์มากถึง 12 ยี่ห้อ เช่น Audi, Porsche, Lamborghini, Bentley, Bugatti รวมถึงรถ Volkswagen เอง และแต่ละยี่ห้อก็แยกกันพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ ของตนเอง ซึ่งแต่ก่อนก็คงจัดการไม่ลำบากนัก แต่ในโลกยุคปัจจุบันที่รถยนต์หนึ่งคันอาจมีโมดูลต่างๆ มากถึง 70 โมดูล ประกอบด้วยซอฟต์แวร์จากเวนเดอร์ถึง 200 เจ้า ทำให้การจัดการมีความยุ่งยากมาก
Alibaba ประกาศความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ 3 รายคือ Audi, Renault, Honda เพื่อนำระบบสั่งงานด้วยเสียงของ Alibaba ไปใช้กับรถยนต์ยี่ห้อเหล่านี้ที่วางขายในประเทศจีน
Alibaba มีแพลตฟอร์มสั่งงานด้วยเสียงชื่อ Tmall Genie ใช้กับลำโพงอัจฉริยะเพื่อทำตลาดในประเทศจีนมาตั้งแต่ปี 2017 (ลักษณะเดียวกับ Amazon Alexa หรือ Google Assistant) ส่วนคู่แข่งของ Tmall Genie ในประเทศจีนคือ Baidu DuerOS
Audi ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีประกาศความร่วมมือกับ Huawei ในงาน Huawei Connect 2018 ในการพัฒนาระบบติดต่อสื่อสารบนรถยนต์ที่เรียกว่า Intelligent Connected Vehicle (ICV) ทั้งระหว่างรถยนต์และรถยนต์กับโครงสร้างพื้นฐาน (Vehicle-2-Infrastructure Communication)
รถยนต์ที่ Audi นำมาเป็นต้นแบบคือ Audi Q7 ซึ่งจากความร่วมมือนี้ ไม่เพียงแต่ระบบสื่อสารเท่านั้น แต่ทั้งสองบริษัทยังจะช่วยกันพัฒนาฟังก์ชันขับเคลื่อนอัตโนมัติบนรถยนต์ด้วย โดยตั้งเป้าคือระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 4
Audi ประกาศลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ Ericsson ในประเทศเยอรมนี สำหรับการทดสอบความเป็นไปได้และโอกาสในการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ในสายการผลิตยานยนต์
ผู้เชี่ยวชาญจากทั้งสองบริษัทจะเริ่มการทดสอบใน Audi Technical Center ในเมือง Gaimersheim ประเทศเยอรมนีในเร็วๆ นี้ โดยทาง Audi ตั้งเป้าให้โรงงานผลิตรถยนต์ของตัวเองกลายเป็น Smart Factory จากความร่วมมือนี้ และคาดว่าจะนำมาใช้งานกับโรงงานในเมือง Ingolstadt ทางตอนใต้ของเยอรมนี ก่อนที่มองหาความเป็นไปได้ที่นำไปใช้ในโรงงานอื่นๆ ของ Audi
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
การผลิตไฟใช้เองในบ้านเริ่มฮิตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกระแสน่าจะเริ่มจาก Tesla Energy ที่ผลิตแบตเตอรี่สำหรับบ้านเรือนในชื่อ Tesla Powerpack รวมถึง Solar Roof ทำให้มีผู้ผลิตจำนวนมากออกผลิตภัณฑ์แนวนี้ ล่าสุดก็เป็น Audi ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีที่เข้าร่วมธุรกิจนี้ด้วย
Audi กำลังทดสอบระบบ Smart Energy Network กับบ้านเรือนในเมือง Ingolstadt ที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Audi และบ้านในเมือง Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยระบบทั้งหมดนี้ประกอบด้วยโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่สำหรับเก็บไฟ ส่วนซอฟต์แวร์พัฒนาโดยสตาร์ทอัพจาก Zurich ชื่อ Ampard
ทางเลือกสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคงไม่ได้มีแค่สถานีชาร์จแต่เพียงอย่างเดียว เมื่อพลังงานทางเลือกอย่างแสงอาทิตย์กำลังเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อ Audi ประกาศจับมือกับ Alta Devices บริษัทลูกของ Hanergy Thin Film Power บริษัทด้านโซลาเซลล์
แผนเบื้องต้นคือ Audi จะนำแผงโซลาเซลล์มาติดตั้งบนกระจกหลังคารถ (Panoramic Glass Roof) ซึ่งรุ่นโปรโตไทป์จะถูกพัฒนาในช่วงปลายปี 2017 ขณะที่ในระยะยาว Audi จะนำโซลาเซลล์ของ Alta Devices ติดตั้งลงบนหลังคารถทั้งหลังคาเลย ซึ่งไฟฟ้าจากส่วนนี้จะช่วยยืดระยะของแบตเตอรี่สำหรับเครื่องยนต์ให้มากขึ้น
ที่มา - Alta Devices
Audi ประกาศเตรียมวางขายรถ Audi A8 ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 3 จากมาตรวัด 5 ระดับเป็นคันแรกของโลกในปีหน้า
ตัวรถขับเคลื่อนโดยระบบ Zfas ของ Audi ร่วมกับเรดาร์, กล้อง, เซ็นเซอร์เลเซอร์และอัลตร้าซาวน์ ประมวลผลผ่านฮาร์โแวร์ของ NVIDIA ที่ 2.5 พันล้านอินพุตต่อวินาที ซึ่งคนขับสามารถสั่งเปิดระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติได้จากปุ่มที่คอนโซลกลาง และจะทำงานเมื่อรถทำความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น โดย Audi ระบุว่าระบบนี้ทำมาเอาไว้ช่วยเหลือคนขับตอนรถติดเป็นหลัก
ถัดจากสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ตอนนี้แอนดรอยด์ได้กลายมาเป็นระบบปฏิบัติการบนรถยนต์แล้ว นำโดย Volvo และ Audi ที่ประกาศจะนำแอนดรอยด์มารันบน Audi Q8 และ Volvo V90
ความแตกต่างจาก Android Auto คือไม่ใช่เพียงอินเทอร์เฟสที่เชื่อมกับสมาร์ทโฟน แต่เป็นระบบปฏิบัติการที่ควบคุมทั้งรถยนต์ ตั้งแต่แอพพลิเคชันผ่านหน้าจอคอนโซลกลาง, ระบบ Infotainment ไปจนถึงระบบแอร์, ซันรูฟ, หน้าต่างและระบบปรับเบาะ พร้อม Google Assistant ภายในรถยนต์ด้วย
Google จะโชว์พร้อมพูดถึงรายละเอียดของความร่วมมือนี้เพิ่มเติมในงาน Google I/O นี้
ที่มา - The Keyword
Audi ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ประกาศเซ็นสัญญาข้อตกลงเป็นผู้สนับสนุนทีม Astralis ทีมแข่งเกม Counter-Strike: Global Offensive สัญชาติเดนมาร์ก
Astralis เป็นทีมที่ผู้เล่นในทีมเป็นเจ้าของเอง ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นปี 2016 หลังจากที่แยกทางกับต้นสังกัดเก่า Team SoloMid และเตรียมลงแข่งขันในรายการใหญ่ ELEAGUE Major 2017 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 22 มกราคม
เราเห็นข่าว BMW จับมืออินเทล พัฒนา Series 7 ไร้คนขับ โดยตั้งเป้าพัฒนาให้สำเร็จภายในปี 2021 กันไปแล้ว
วันนี้อีกขั้วคือ NVIDIA กับ Audi ก็ประกาศความเป็นพันธมิตรในลักษณะเดียวกัน โดยจะสร้างรถยนต์ไร้คนขับที่ใช้แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ NVIDIA Drive PX เป็นตัวประมวลผล บวกกับซอฟต์แวร์ NVIDIA DriveWorks และ NVIDIA PilotNet ที่ทำเรื่อง neural network
นอกจากนี้ ในงาน NVIDIA ยังโชว์วิดีโอรถยนต์ไร้คนขับรุ่นต้นแบบของตัวเองในชื่อ BB8 ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม Drive PX/DriveWorks/PilotNet ด้วย
ในโอกาสที่ Final Fantasy XV จะวางขายในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ Audi ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน เลยขอร่วมโอกาสพิเศษนี้ด้วยการเปิดตัวรถแต่ง Audi R8 "Star of Lucis Edition" ให้แฟนพันธุ์แท้ Final Fantasy ได้จับจองกัน
รายละเอียดเบื้องต้นของ Audi R8 Star of Lucis คันนี้ จะเป็นการนำรถ Audi R8 รุ่นปกติมาแต่งลายพิเศษโดยใช้ดีไซน์ของรถ Audi R8 จากภาพยนตร์ Kingsglaive: Final Fantasy XV โดยที่สเปคของรถจะเทียบเท่า Audi R8 Plus ทุกประการ
บริษัทแผนที่ HERE ประกาศดึงข้อมูลเซ็นเซอร์จากรถยนต์หลากหลายแบรนด์ เพื่อสร้างบริการข้อมูลแบบใหม่สำหรับรถยนต์ไร้คนขับที่แม่นยำยิ่งขึ้น ในเบื้องต้น HERE จะดึงข้อมูลจากรถยนต์ยี่ห้อ Audi, BMW, Mercedes-Benz (ซึ่งทั้งสามรายเป็นเจ้าของ HERE ร่วมกัน) แต่ก็จะขยายไปยังยี่ห้ออื่นๆ ในอนาคต
ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่ได้ HERE จะนำไปพัฒนาเป็นบริการใหม่ 3 ตัว รวมกับบริการสภาพจราจรเดิม Real-Time Traffic เป็นทั้งหมด 4 ตัว มีรายละเอียดดังนี้
ใช่ว่าจะมีแต่ภาคธุรกิจที่ขมักเขม้นพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ งานวิจัยของสถาบันการศึกษาอย่าง Stanford ก็มีการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเช่นกัน ล่าสุดทีมวิจัยได้นำรถยนต์ไร้คนขับของพวกเขาไปวิ่งทดสอบในสนามแข่ง โดยเน้นทดสอบระบบควบคุมรถในขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง
หลังจากที่หน่วยงานป้องกันสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ ออกมาเผยว่า Volkswagen มีซอฟต์แวร์ที่โกงผลการทดสอบการตรวจจับค่ามลพิษ ล่าสุด Audi และ Skoda ผู้ผลิตรถยนต์ในเครือ Volkswagen Group ออกมาเปิดเผยว่ามีซอฟต์แวร์แบบเดียวกันอยู่ในรถของตัวเองด้วย
Audi ระบุว่ามีรถยนต์ของตัวเองกว่า 2.1 ล้านคันทั่วยุโรปและสหรัฐที่มีซอฟต์แวร์แบบเดียวกับของ Volkswagen ซึ่งสามารถโกงการตรวจวัดปริมาณมลพิษจากไอเสียเครื่องยนต์ดีเซล โดยรุ่นที่มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าวได้แก่รุ่น A1, A3, A4, A5, A6, TT, Q3 และ Q5 ขณะที่ Skoda เปิดเผยเพียงว่ามีรถยนต์ของตนทั้งหมด 1.2 ล้านคันที่มีซอฟต์แวร์ดังกล่าว
หลังจากเจรจากันมานาน ในที่สุดโนเกียก็สามารถขายธุรกิจแผนที่ HERE ให้กลุ่มบริษัทรถยนต์จากเยอรมนี 3 รายคือ Audi, BMW, Daimler (เจ้าของ Mercedes-Benz) ในราคา 2.8 พันล้านยูโร กระบวนการขายจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสแรกของปี 2016
Rajeev Suri ซีอีโอของโนเกียระบุว่าการขาย HERE ทำให้โนเกียเสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยนผ่านตัวเองมาสู่ยุคใหม่ ซึ่งประกอบด้วยการซื้อหุ้นทั้งหมดของ Nokia Siemens Network, การขายธุรกิจโทรศัพท์, และการขายธุรกิจแผนที่ นับจากนี้ไป โนเกียจะกลายเป็นบริษัทใหม่ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครือข่ายและบริการ
หนังสือพิมพ์ New York Times รายงานว่า Uber ได้ถอนตัวจากการแข่งขันซื้อธุรกิจแผนที่ HERE จาก Nokia แล้ว - New York Times
ต่อมา หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal เผยว่า Nokia ใกล้ปิดดีลขายธุรกิจแผนที่ HERE มูลค่ากว่า 2.71 พันล้านดอลลาร์ กับ Audi, BMW และ Daimler สามผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน
Audi ค่ายรถหรูจากเยอรมนี เตรียมบุกตลาดจีนด้วยรถยนต์ต่อเน็ตได้ (connected car) และพันธมิตรในจีนของบริษัทก็ไม่ใช่ใครอื่น Baidu นั่นเอง
Audi จะใช้เทคโนโลยี Baidu CarLife สำหรับซอฟต์แวร์ของรถยนต์ที่ขายในจีน และจะใช้ฮาร์ดแวร์สื่อสารจาก Huawei ด้วย สินค้าจะเริ่มวางขายภายในปีนี้ และเราจะเห็น Audi ทำการตลาดเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย
ตอนนี้จีนถือเป็นตลาดสำคัญที่สุดของ Audi โดยมียอดขาย 580,000 คันในปีที่แล้ว กลุ่มลูกค้าของ Audi มีอายุเฉลี่ย 36 ปี ถือว่าอายุน้อยกว่าลูกค้าในยุโรปหรือสหรัฐที่อายุอยู่ในช่วง 50-60 ปี การเน้นตลาดรถยนต์ไฮเทคต่อเน็ตได้จึงน่าจะดึงดูดลูกค้าในจีนกลุ่มนี้
บริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ Delphi ประกาศโครงการ Delphi Drive ส่งรถยนต์ไร้คนขับวิ่งข้ามประเทศสหรัฐอเมริกา จากสะพานโกลเด้นเกตในซานฟรานซิสโกไปยังนครนิวยอร์ก ระยะทาง 3,500 ไมล์หรือประมาณ 5,600 กิโลเมตร ถือเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับเป็นระยะทางไกลขนาดนี้
รถยนต์ของ Delphi จะใช้ Audi SQ5 เป็นฐาน แล้วติดตั้งอุปกรณ์ที่ประกอบด้วยเรดาร์ระยะสั้น 4 ตัว, กล้อง 3 ตัว, ไลดาร์ (lidar) 6 ตัว และซอฟต์แวร์อื่นๆ การเดินทางครั้งนี้จะมีวิศวกรของ Delphi เดินทางด้วย 6 คน เริ่มออกเดินทางวันพรุ่งนี้ (22 มีนาคม) ตามเวลาสหรัฐ
Delphi เคยทดสอบรถยนต์ไร้คนขับมาบ้างแล้วในแคลิฟอร์เนียและลาสเวกัส การทดสอบครั้งนี้จะช่วยให้ Delphi เก็บข้อมูลสภาพถนนจริงที่หลากหลายได้มากขึ้น
บนเวทีของ Audi ในงาน CES 2015 มีการใช้สมาร์ทวอทช์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการโชว์เทคโนโลยีอย่างการปลดล็อกด้วยนาฬิกาด้วย ซึ่งหลังการเปิดตัวเสร็จสิ้นได้มีนักข่าวไปขอลองเล่นเจ้าสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ และพบว่ามีอะไรมากกว่าที่คิด
อย่างแรกคือสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ผลิตโดย LG และไม่ได้เป็น Android Wear อย่างที่สันนิษฐานกันตอนแรก แต่ใช้ webOS เป็นแกนหลัก จะเรียกว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ตัวแรกที่รัน webOS ก็ว่าได้
นอกเหนือจาก Volvo ที่ใช้ Google Cardboard มาเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์รถยนต์ล่าสุดของตัวเองแล้ว Audi ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศเยอรมนี ประกาศความร่วมมือกับ Samsung ในการนำเอา Gear VR ที่เป็นแว่นตาสำหรับประสบการณ์เสมือนจริง (virtual reality) ซึ่งใช้กับ Galaxy Note 4 มาใช้กับตัวแทนจำหน่ายบางรายในยุโรป เพื่อให้ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์ในการขับรถยนต์รุ่นล่าสุดของ Audi ที่กำลังจะเปิดตัว
อย่างไรก็ดี เนื้อหาที่จะเล่นใน Gear VR นั้นจะไม่ใช่รูปแบบที่ต้องเป็นแอพเปิดขึ้นมาแล้วมีปฏิสัมพันธ์ แต่จะเป็นคลิปวิดีโอของรถยนต์ที่ขับอยู่ในสนามแข่งโดยคนขับรถยนต์ทดสอบ ส่วนลูกค้าจะเปรียบเสมือนผู้โดยสารที่นั่งอยู่เบาะหลังของรถยนต์
ศึกระหว่าง iOS และ Android ในสมรภูมิใหม่อย่างระบบอำนวยความสะดวกและความบันเทิงภายในรถยนต์เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ต่างฝ่ายต่างหาแนวร่วมผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ตลอดจนค่ายรถยนต์มาเป็นพันธมิตรสร้างแพลตฟอร์มของตนเองให้เข้มแข็ง และการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดเป็นทางฝั่ง Apple ที่ประกาศข่าวว่ามีบริษัทผลิตรถยนต์อีก 9 ยี่ห้อที่ตกลงร่วมแผนงาน CarPlay ของ Apple แล้ว นำโดยค่ายรถดังอย่าง Audi, Chrysler และ Dodge