สงครามสมาร์ทโฟนกำลังเริ่มระอุ เว็บไซต์ Billshrink ทำตารางเปรียบเทียบฟีเจอร์-ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดถ้าอยากครอบครองเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership) ระหว่างสมาร์ทโฟนสุดฮอต 3 ตัวจากโอเปอเรอเตอร์ 3 ค่ายใหญ่ในอเมริกา

• AT&T ส่ง iPhone 3G S เข้าประกวด
• Sprint ส่ง Palm Pre
• T-Mobile ส่ง G1

เทียบจำนวนเงินที่ต้องจ่ายไปในรอบ 24 เดือนหรือสัญญา 2 ปีแล้ว Palm Pre ถูกที่สุด ตามมาด้วย G1 และ iPhone 3GS
ที่มา - Billshrink

หลังจากที่ทิ้งประเด็นเรื่องซีพียูและแรมที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าไว้พักหนึ่ง ก็มีข้อมูลจากเว็บไซต์ T-Mobile Netherlands โดยมีการระบุข้อมูลของสองสิ่งที่ไม่มีการบอกก่อนหน้านี้ลงไปด้วย

ในส่วนของซีพียูนั้นมีความเร็วอยู่ที่ 600MHz ซึ่งมากกว่ารุ่น Classic และ 3G ที่มีความเร็ว 412MHz (แต่ก็ไม่ใช่สองเท่าอย่างที่เคลมไว้) แต่ในส่วนของแรมนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 256MB ซึ่งมากกว่าทั้งสองรุ่นก่อนหน้าที่ใช้แรม 128MB ถึงสองเท่าอย่างที่เคลมไว้

ย้ำอีกรอบว่าทั้งหมดนี่ยังเป็นข่าวลือล้วนๆ

ต้นตอของข่าวมาจากเว็บไซต์ Cell Phone Signal ซึ่งอ้างว่าได้รับ specsheet ของ T-Mobile "G2" มือถือ Android รุ่นถัดไปของ T-Mobile และได้รับการยืนยันอีกครั้งจากเว็บไซต์ BoyGeniusReport ว่าเป็นข้อมูลที่ "ถูกต้องเกือบหมด" (ยกเว้นวันวางจำหน่าย)

รายละเอียดจากสองข่าวรวมกันมีดังนี้

บางครั้งการมีฟีเจอร์ต่างๆในเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่มากๆแล้วไม่ได้ระวังก็ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งมีการโรมมิ่ง คุณอาจเผลอรับสายโดยไม่ทันได้คิดว่าอยู่ต่างประเทศ ซึ่งหากรับการเรียกเข้าจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

ล่าสุด ผู้ใช้บริการเครื่อง G1 ซึ่งเป็นเครื่องยอดนิยมที่บริษัท T-Mobile นำไปให้บริการ เริ่มโวยเมื่อมีบิลเรียกเก็บค่าใช้บริการอินเทอร์เน็ตทั้งๆที่ปิดฟีเจอร์โรมมิ่งแล้ว

เจ้าของเครื่องร้องเรียนว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้เดินทางไปสหราชอาณาจักร ปรากฏว่าภายหลังมีบิลมาเรียกเก็บค่าใช้บริการ data roaming จำนวนกว่า 100 เหรียญสหรัฐ ทั้งๆ ที่ก่อนเดินทางไป ได้ปิดฟีเจอร์ต่างๆ เช่น data roaming, data sync และ 3G แล้ว

Walt Mossberg คอลัมนิสต์ชื่อดังเจ้าเดิมได้รีวิว T-Mobile G1 ก่อนใครอีกแล้ว ข้อสรุปคร่าวๆ มีดังนี้

แม้จะมีรายงานคาดการณ์ยอดขายของ T-Mobile G1 ไว้ถึงสี่แสนตัวในปีนี้ แต่ก็ยังคงมีข่าวว่ายอดจองล่วงหน้าของโทรศัพท์ Android รุ่นแรกนี้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงสามเท่าตัว (ไม่มีตัวเลขยืนยันว่ายอดจองเป็นเท่าใหร่ และคาดไว้เท่าใหร่)

ตัวเลขล่าสุดเท่าที่มีในตอนนี้คือข่าวจากทาง HTC ที่ระบุว่ามีการสั่งผลิต T-Mobile G1 ไว้ 400,000 ถึง 500,000 เครื่องในปีนี้ และอีกประมาณสองล้านเครื่องในอนาคตอันใกล้

ตลาด Smartphone ดูจะเป็นตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็วมากในช่วงสองปีมานี้ จากปรากฏการณ์ iPhone ที่กระโดดขึ้นมาครองตลาดได้ถึงร้อยละ 30 (เฉพาะในสหรัฐฯ) ภายในปีเดียว

รายงานข่าวจาก New York (AP) เรื่อง โทรศัพท์เครื่องแรกของ google กำลังจะเผยโฉมแล้ว หลังจากที่เปิดตัวไปเมื่อ 23 September 2008 (อ่านได้ที่นี่)

T-Mobile จะขาย G1 ในราคา $179 ใน T-Mobile store เฉพาะเมืองในสหรัฐอเมริกา โดยจะปล่อยให้กับ 21 เมือง ซึ่งมี New York, Angeles, Houston และ Miami รวมอยู่ด้วย สำหรับที่อื่นๆ จะหาซื้อได้ที่เว็บไซต์ของ T-Mobile โดย แผนของ G1 จะเสียค่าใช้จ่าย $25 ต่อเดือนสำหรับ calling service และสำหรับในสหรัฐอเมริกา นั้น G1 จะมีราคาถูกกว่า iPhone $20

จากข่าวเดิม Android มาแล้ว (ในที่สุด) ตอนนี้ยังไม่มีคนธรรมดาคนไหนได้ใช้ T-Mobile G1 รายละเอียดทุกอย่างต้องหาอ่านจากเว็บ ผมพยายามสรุปข้อมูลเท่าที่จะหาได้ แต่มีอะไรขาดไปหรืออยากรู้ ก็เข้ามาช่วยกันโพสต์เพื่อหาคำตอบนะครับ

ข้อมูลทั่วไป ราคาและวันวางจำหน่าย

ข่าวเยอะ ผมรวมเป็นเรื่องเดียวเลยแล้วกันครับ

เริ่มจาก HTC Dream ซึ่งค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าจะเป็นโทรศัพท์ Android รุ่นแรกนั้นผ่านการรับรองจากทาง FCC เรียบร้อยแล้ว ทำให้เรากำลังจะได้เห็นโทรศัพท์รุ่นนี้ภายในปีนี้ค่อนข้างแน่ หน้าจอของโทรศัพท์รุ่นนี้จะมีขนาดถึง 5x3 นิ้วใหญ่กว่า iPhone พอสมควร ที่สำคัญที่สุดคือมีข่าวลือว่าโทรศัพท์รุ่นนี้จะให้ลูกค้าเลือกที่จะรับโฆษณาจากกูเกิลได้ ทำให้สามารถซื้อโทรศัพท์ได้ในราคาถูกโดยไม่ต้องติดโปรโมชั่นราคาแพงเช่นเดิม ทำให้ลูกค้ามีสามทางเลือกคือ เครื่องแพง, ค่ารายเดือนแพง, และโทรศัพท์มีโฆษณา ให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง

New York Times อ้างแหล่งข่าววงในว่าค่าย T-Mobile (หมายถึงในสหรัฐ) จะได้เป็นเจ้าแรกที่ขายโทรศัพท์มือถือที่ใช้ Android โดยตัวเครื่องจะเป็น HTC Dream ที่เว็บ gadget หลายๆ แห่งลงข่าวอยู่เป็นระยะ HTC Dream จะเป็นมือถือจอสัมผัส แต่มีคีย์บอร์ดแบบสไลด์มาให้ด้วย

วันวางจำหน่ายที่แน่นอนนั้นต้องรอผลการอนุมัติของคณะกรรมการการสื่อสารของสหรัฐ​ (FCC) เสียก่อน โดยทั้งสามบริษัทคือ Google, HTC และ T-Mobile หวังว่าจะวางขายได้ภายในเดือนกันยายน หรืออย่างช้าคือต้นตุลาคม เพื่อให้ทันฤดูจับจ่ายในช่วงคริสต์มาสของฝรั่ง

ความสำเร็จของ iPhone App Store ทำให้ T-Mobile ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมข้ามชาติขนาดใหญ่ (ต้นตอมาจากเยอรมนี)​ เตรียมสร้าง App Store แบบเดียวกันแต่ใช้ได้กับโทรศัพท์ทุกยี่ห้อ

รายละเอียดยังออกมาไม่นากนัก ตอนนี้มีแค่ว่า T-Mobile App Store นี้จะเปิดกว้างสำหรับนักพัฒนาทุกรายที่ยอมรับเงื่อนไขการแบ่งรายได้ของ T-Mobile ซึ่งคนในให้ข้อมูลว่าได้ส่วนแบ่งเยอะมาก ถ้า App Store มีคนใช้เยอะ จะทำให้ผู้ใช้มือถือหันมาใช้บริการอื่นๆ นอกจากโทรคุยกับส่ง SMS ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้ของ T-Mobile ในระยะยาวเช่นกัน ตัวเลขลูกค้าของ T-Mobile ตอนนี้บอกว่ามี 31.5 ล้านราย

Deutsche Telekom บริษัทโทรคมนาคมสัญชาติเยอรมนี (เดิมเป็นรัฐวิสหากิจ แต่แปรรูปเหมือนกับ TOT) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ T-Mobile ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในยุโรปและสหรัฐ ส่งจดหมายเตือนมายัง Weblog Inc. เจ้าของเว็บไซต์ Engadget (ปัจจุบันอยู่ในเครือ AOL) ขอให้ Engadget Mobile เว็บไซต์ย่อยที่เน้นข่าวมือถือ เลิกใช้โลโก้สีบานเย็น (magenta) ซึ่งทาง T-Mobile จดเครื่องหมายการค้า ถือครองความเป็นเจ้าของอยู่

หลังจากที่ T-Mobile ในเยอรมนีต้องทำตามคำสั่งศาลที่บังคับให้ขายไอโฟนแบบอันล็อกแล้วในราคาที่สูงลิ่วถึง 999 ยูโร ขณะนี้มีผู้ให้บริการมือถืออีกรายที่ได้ออกมาตราการดึงลูกค้าที่ใช้ไอโฟนจาก T-Mobile มา

Dibitel AG หนึ่งในผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในเยอรมนีเสนอที่จะจ่ายเงิน 600 ยูโรให้แก่ผู้ที่ซื้อ iPhone แล้วจะเปลี่ยนมาใช้บริการของพวกเขาแทนที่จะใช้ T-Mobile เหมือนเดิม

โดยโบนัส 600 ยูโรที่ให้ลูกค้านี้ ถ้าคิดดี ๆ ก็คือลูกค้ายังจ่ายค่าไอโฟนที่ราคา 399 ยูโรแต่มาใช้บริการของ Dibitel AG เท่านั้น