Tags:
Node Thumbnail

สัปดาห์ที่ผ่านมาเราเห็นข่าว แบรนด์สินค้าหลายราย เช่น North Face, Patagonia, Verizon ระงับการลงโฆษณาใน Facebook ประท้วงที่ไม่สามารถจัดการปัญหา hate speech ได้

รอบวันที่ผ่านมา มีอีก 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลกคือ Unilever และ Coca-Cola ที่ประกาศหยุดลงโฆษณาในโซเชียลทั้งหมด (ไม่ใช่แค่ Facebook) เพื่อประท้วงเช่นกัน

Unilever ใช้มาตรการแรงคือจะหยุดจ่ายเงินโฆษณาบนโซเชียล (ที่ระบุชื่อคือ Facebook, Instagram, Twitter) ไปจนถึงอย่างน้อยสิ้นปีนี้ (มีผลเฉพาะงบโฆษณาของ Unilever ในสหรัฐ) โดยจะนำงบโฆษณาเหล่านี้ย้ายไปลงสื่อประเภทอื่นแทน

Tags:
Node Thumbnail

ปี 2017 ที่ผ่านมา Unilever ผู้ผลิตของใช้ที่เรารู้จักกันดีอย่าง ชาลิปตัน, สบู่โดฟ, สเปรย์น้ำหอมยี่ห้อ Axe มีงบตลาดเป็นเงิน 9.5 พันล้านดอลลาร์ และประมาณ 2.4 พันล้านดอลลาร์เป็นงบโฆษณาลงดิจิทัล ซึ่งแพลตฟอร์มดิจิทัลรายใหญ่จริงๆ มีแค่ Facebook และ Google โดยทั้งสองเจ้ากินส่วนแบ่งโฆษณาดิจิทัล 84%

แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Unilever อาจทำให้ Facebook และ Google สูญเสียเม็ดเงินโฆษณาดังกล่าวไป เมื่อ Keith Weed ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด หรือ CMO ของ Unilever ประกาศเรียกร้องให้บริษัทโซเชียลมีเดียในซิลิคอนวัลเล่ย์จัดการปัญหาเนื้อหาที่ค้างคา ไม่ว่าจะเป็นข่าวปลอม เนื้อหาร้ายแรงต่อเด็ก hate speech โฆษณาชวนเชื่อก่อการร้าย

"ข่าวปลอม, การเหยียดผิว, สนับสนุนก่อการร้าย, hate speech, เนื้อหาเป็นพิษเจาะจงเด็กๆ เหล่านี้คือสิ่งที่เรากำลังประสบพบเจอ ซึ่งต่างจากที่สิ่งที่เราคิดว่าอินเทอร์เน็ตควรจะเป็นตั้งแต่แรก สื่ออุตสาหกรรมดิจิทัลควรให้ความสนใจและดำเนินการต่อเรื่องนี้" Weed กล่าว

Weed บอกด้วยว่า ทางบริษัทให้คำมั่นสัญญาจะเพิ่มเนื้อหาที่รับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น เช่น โฆษณาที่มีเนื้อหาต่อต้านการแบ่งแยก โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรทางดิจิทัล ที่ให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงโฆษณาเพื่อประสบการณ์ที่ดีของผู้บริโภค โดย Weed บอกเพิ่มเติมว่าได้เริ่มพูดคุยกับ Facebook , Google, Twitter, Amazon และ Snapchat ไปบ้างแล้ว