Google ประกาศในงาน Google for Brazil ว่าจะรองรับการชำระเงินด้วยบัตรโดยแสกนผ่าน QR code ใน Google Wallet ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ที่ไม่มี NFC ก็สามารถชำระเงินผ่าน Google Wallet ได้
ตามประกาศในบล็อกโพสต์ของ Google ผู้ใช้โทรศัพท์ Android จะสามารถชำระเงินผ่านบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตโดยสแกน QR code ที่แสดงบนเครื่องชำระเงิน ฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้ในบราซิลเป็นที่แรกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในบราซิลยังไม่มี NFC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบไร้สัมผัส ทำให้ไม่สามารถชำระเงินดิจิทัลของ Google Wallet ได้
หลังจากที่แอป Google Wallet ได้รีแบรนด์เมื่อประมาณปีที่แล้ว วันนี้ Google ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์รองรับการจัดเก็บบัตรประเภทใหม่ ๆ ใน Google Wallet เพิ่มเติมอีก 5 ฟีเจอร์
Dolfin ผู้ให้บริการอีวอลเลต ประกาศว่าบริษัท Central JD Fintech จะยุติให้บริการ Dolfin Wallet ทุกบริการ โดยให้บริการวันสุดท้าย วันที่ 14 มิถุนายน 2566
โดยลูกค้าที่มีเงินคงเหลือในบัญชี Dolfin Wallet สามารถโอนเงินทั้งหมดออกไปยังบัญชีพร้อมเพย์ ซึ่งต้องทำภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2566
Dolfin Wallet เปิดให้บริการในปี 2019 มีจุดเด่นคือรองรับการใช้จ่ายในธุรกิจเครือเซ็นทรัล รวมทั้งมีประโยชน์ในการสะสมคะแนน The 1 อีกด้วย
ที่มา: Dolfin Thailand
รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของญี่ปุ่นได้ประกาศข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยระบุว่าตั้งแต่เดือนเมษายนปีหน้าเป็นต้นไปบริษัทต่างๆ จะสามารถจ่ายค่าจ้างให้แก่พนักงานผ่านระบบกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น PayPal หรือ Rakuten Pay ได้ ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายส่งเสริมการใช้จ่ายแบบไม่ใช้เงินสด
ระบบนี้จะมีการจำกัดวงเงินสูงสุดของกระเป๋าเงินดิจิทัลไว้ที่ 1 ล้านเยน (ประมาณ 260,000 บาท) ซึ่งพนักงานผู้ที่รับค่าจ้างผ่านช่องทางนี้สามารถใช้เงินในกระเป๋าดิจิทัลเพื่อการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการโดยตรงก็ได้ หรือจะโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคารก็ได้ หากบริษัทมีการโอนเงินเค่าจ้างเข้ามายังกระเป๋าเงินดิจิทัลเกินวงเงิน 1 ล้านเยน ทางผู้ให้บริการกระเป๋าเงินมีหน้าที่ต้องโอนเงินส่วนที่เกินไปยังบัญชีธนาคารของผู้ใช้
TrueMoney ร่วมมือกับ Merkle Capital ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. เปิดบริการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล กำหนดเงินลงทุนเริ่มต้น 3,000 บาท ทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน E-Wallet ของ TrueMoney ทั้งหมด
สำหรับการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลบน TrueMoney ทาง Merkle Capital จะใช้หลักการเดียวกับการบริหารกองทุน และแบ่งเป็น 4 ประเภทคือ
Hannah Qiu ซีอีโอของ PayPal ในจีนกล่าวกับ CNBC ว่า บริษัทมีแผนจะเปิดตัววอลเลตในจีน แต่แทนที่จะแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Alipay และ WeChat Pay โดยตรง PayPal จะเน้นไปที่การชำระเงินข้ามพรมแดนมากกว่า
Qiu บอกเพิ่มเติมว่า ธุรกิจในอนาคตส่วนใหญ่เป็นการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน ในตลาดต่างประเทศของ PayPal มีผู้ใช้มากกว่า 377 ล้านคนและผู้ใช้ในองค์กรมากกว่า 20 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ทาง AirPay ทำแคมเปญบนโซเชียลมีเดียโดยใช้แฮชแท็ก ฟ้าเปลี่ยนเป็นส้มได้ระยะหนึ่งแล้ว ล่าสุด AirPay ประกาศเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ShopeePay มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป ทาง AirPay บอกว่าจะไม่กระทบการใช้งานใดๆ กับผู้ใช้รายเดิม สามารถอัพเดตและใช้งานแอปพลิเคชั่นได้ตามปกติ
Douyin หรือ TikTok เวอร์ชั่นเปิดบริการในประเทศจีน เปิดตัว Douyin Pay หรือในชื่อภาษาจีนว่า Douyin Zhifu อีวอลเลตของตัวเอง ท้าทายรายใหญ่ที่ครองตลาดมานานอย่าง WeChat Pay และ Alipay
เข้าสู่ตลาดการลงทุนดิจิทัลอีกราย TrueMoney ร่วมกับ Ascend Wealth บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนภายใต้ Ascend Money เปิดตัวบริการใหม่ Start Invest เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่มีอยู่ถึง 15 ล้านราย ที่ส่วนใหญ่ยังไม่เคยลงทุนมาก่อน ได้เข้าถึงการลงทุนในกองทุนรวม
ในบริการ Start Invest มีกองทุนกว่า 600 กองทุนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในประเทศไทย 10 แห่ง ได้แก่ บลจ.พรินซิเพิล, บลจ.ทาลิส, บลจ.แลนด์ แอนเฮ้าส์, บลจ.ไทยพาณิชย์, บลจ.กรุงศรี, บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด, บลจ. วรรณ จำกัด, บลจ.เกียรตินาคินภัทร จำกัด, บลจ. วี จำกัด และ บลจ. ทหารไทย
Singtel ประกาศความร่วมมือกับ NETSTARS ผู้ให้บริการระบบชำระเงินผ่านมือถือในร้านค้าที่ญี่ปุ่น โดยผู้ที่สมัครใช้งานระบบกระเป๋าเงินบนมือถือในเครือข่าย VIA ของ Singtel จะสามารถจ่ายเงินได้ในร้านค้าที่ญี่ปุ่นที่มีป้ายรองรับ ซึ่งตอนนี้มีมากกว่า 1 แสนร้านค้า
ทั้งนี้เครือข่าย VIA นั้น ตามที่ Singtel แถลง ได้รวม AIS Global Pay ของไทยอยู่ด้วย จากที่ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ AIS Global Pay สามารถจ่ายเงินในสิงคโปร์ได้ (รีวิว) ก็จะสามารถใช้จ่ายที่ญี่ปุ่นได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ Singtel ยังบอกว่า K Plus ของธนาคารกสิกรไทย จะเข้าร่วมเครือข่าย VIA ด้วยเร็ว ๆ นี้
Central JD Fintech ร่วมกับธนาคารกรุงเทพกับธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวแอพพลิเคชั่นอีวอลเลท Dolfin ซึ่งทางบริษัทระบุว่าเป็นอีวอลเลทรายแรกที่รองรับการชำระเงินและโอนเงินทุกช่องทาง ตั้งแต่เชื่อมโยงกับบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต และรองรับพร้อมเพย์ธนาคารกรุงเทพและธนาคารกสิกรไทยด้วย นอกจากนี้ยังสามารถลงทะเบียนเปิดใช้งานด้วยระบบ E KYC เซลฟี่หน้าตัวเองและสแกนบัตรประชาชน
หลังจากที่ AIS และ Singtel ได้ประกาศเปิดตัว VIA เครือข่ายชำระเงินผ่านมือถือข้ามประเทศ ให้ลูกค้า Rabbit LINE Pay สามารถจ่ายเงินด้วยระบบ QR Code ที่สิงคโปร์ด้วยเงินบาทโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ซึ่งผู้เขียนได้มีโอกาสทดลองใช้งานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะร่วมทริปชมการแข่งขัน PVP E-Sports Championship จึงอยากจะมารีวิวขั้นตอนการใช้งาน VIA ที่ประเทศสิงคโปร์
Singtel ร่วมมือกับ AIS เปิดตัวเครือข่ายชำระเงินผ่านมือถือข้ามประเทศ VIA ให้ลูกค้าที่ใช้ Rabbit Line Pay ใช้จ่ายเป็นเงินบาทได้โดยไม่ต้องแลกเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียม และนักท่องเที่ยวสิงคโปร์ก็สามารถใช้อีวอลเลทมาจ่ายที่ไทยได้เช่นเดียวกัน
การชำระเงินเป็นรูปแบบ QR Code โดยคนไทยที่ใช้ Rabbit Line Pay ต้องโหลดแอพ Global Pay ล็อกอินผ่าน LINE กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียน และทำการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอคอล สามารถจ่ายเงินที่ร้านค้าในสิงคโปร์ที่มีสัญลักษณ์ VIA
ส่วนคนสิงคโปร์ ต้องดาวน์โหลดแอพ Singtel Dash จ่ายเงินด้วย QR Code ที่ร้านค้าในไทยได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสกุลเป็นเงินบาท จ่ายได้ที่ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VIA และ Thai QR Code
ใครที่ใช้ไลน์อาจสังเกตเห็นว่าตรงหน้าจอแชทนั้นเปลี่ยนไป คือเมนู More เปลี่ยนเป็นเมนูวอลเลทแทนให้กดง่าย จากเดิมที่ต้องกดเข้าไปเพื่อหาเมนู Rabbit LINE Pay อีกที
ในเมนูวอลเลทจะมีเมนูรวมการใช้งานของ Rabbit LINE Pay ต่างๆ เช่น จ่ายเงินด้วยคิวอาร์, ส่งเงิน, เติม Easy Pass, ซื้อตั๋วหนัง, เติมเงินมืถือ, จ่ายบิล เป็นต้น โดยแถบเมนู อื่นๆ (More) จะเปลี่ยนเป็นแถบเมนู Wallet โดยอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้งาน LINE เวอร์ชั่น 8.13.0 ขึ้นไป