Viacom เจ้าของช่องโทรทัศน์ MTV ยื่นฟ้อง YouTube เรียกค่าเสียหายจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ (เทียบค่าเงินตอนนี้ ก็ประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท) โดยข้อหาที่ Viacom เอามาเล่นงานคือบอกว่า YouTube มีคลิปที่ละเมิดสิทธิ์ของ Viacom จำนวน 160,000 คลิป และมีผู้เข้าชมมากกว่า 1.5 พันล้านครั้ง
กฎหมายลิขสิทธิ์ของอเมริกา อนุญาตให้เรียกร้องค่าเสียหายได้ตั้งแต่ 750 ถึง 150,000 ดอลลาร์ต่อการถูกละเมิด 1 ครั้ง
ที่มา - Mashable, TechCrunch
หลังจากซื้อ YouTube ไป Google เลยมีบริการฝากไฟล์วิดีโอซ้ำกันคือ YouTube กับ Google Video ซึ่งการที่ YouTube ดังกว่า (มาก) ทำให้หลายๆ คนสงสัยว่า Google Video จะมีอนาคตเป็นยังไง
ตอนนี้ Google ประกาศมาแล้วว่า Google Video จะเปลี่ยนรูปแบบจากที่ฝากไฟล์วิดีโอ มาเป็นบริการค้นหาวิดีโอจากแหล่งอื่นๆ แทน โดยจะเริ่มจาก YouTube เป็นที่แรก นอกจากนี้ Google ยังสัญญาว่าจะให้ YouTube เป็นแผนกหนึ่งของตัวเองที่ดำเนินการอย่างอิสระเช่นที่เคยเป็นมา
ที่มา - Ars Technica
เป็นเรื่องปรกติที่เว็บวีดีโออย่าง YouTube จะมีการโพสต์วีดีโอที่ละเมิดลิขสิทธิ์กันเนืองๆ แต่โดยปรกติแล้วทาง YouTube ก็จะลบวีดีโอนั้นแล้วเรื่องก็จบกันไป แต่คดีล่าสุดนี้ทาง FOX เคเบิลทีวีรายใหญ่ของอเมริกาได้ยื่นร้องต่อศาลเพื่อให้ออกหมายศาลขอข้อมูลผู้ใช้ของ YouTube ที่ชื่อว่า ECOtotal เนื่องจากผู้ใช้รายนี้ได้โพสต์ซีรี่ย์สุดฮิตของทาง FOX เรื่อง 24 ในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา
นางแบบสาว Daniela Cicarelli ได้ยื่นฟ้อง YouTube ที่ทำการเผยแพร่คลิปวีดีโอฉาวระหว่างเธอและแฟนหนุ่มจนเมื่อวานนี้ศาลเมื่อ เซา เปาโลได้ประกาศคำตัดสินมีการบล็อก YouTube จากระบบ DNS ทั้งประเทศบราซิล โดยคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังทาง YouTube ได้พยายามลบคลิปดังกล่าวออกจากเว็บของตนแล้ว แต่ปรากฏว่ามีผู้ใช้จำนวนมากพยายามส่งคลิปดังกล่าวกลับเข้าไปในเว็บเรื่อยๆ จนสุดท้ายศาลต้องออกคำสั่งให้บล็อกเว็บดังกล่าวทั้งประเทศ
ทาง YouTube ระบุว่าบริษัทพยายามทำตามกฏหมายของแต่ละประเทศอย่างดีที่สุด โดยทุกวันนี้มีการอัพโหลดวีดีโอขึ้น YouTube กว่า 65,000 เรื่องต่อวันขณะเดียวกันก็มีระบบการตรวจสอบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมตลอดเวลา
ผู้ใช้ Yahoo IM เริ่มพบว่าไม่สามารถส่ง link ของ YouTube หลังจากที่ Google ได้ประกาศซื้อ YouTube ไปด้วยราคา 1.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว ทำให้เกิดความเข้าใจว่า Yahoo จะถูกหักหน้าโดย Google เลยทำแบบนี้ไปหรือเปล่า
"การบล็อคครั้งนี้ไม่ได้เป็นการจงใจ" โฆษกหญิงของ Yahoo กล่าว "มันเป็นระบบกลั่นกรองการ Spam ของ Yahoo ที่ได้บล็อคข้อความที่มี URL ของ YouTube" หลังจากนั้นได้กล่าวอีกว่าปัญหานี้จะถูกแก้ภายในเย็นวันอังคารนี้ (เมื่อวานนี้เวลาประเทศไทยนี่เอง)
ที่มา - CNET News
การขยายจักรวรรดิกูเกิ้ลได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการซื้อ YouTube ด้วยการแลกหุ้น ไปเมื่อวานนี้ (9 ตุลาคม 2549) ด้วยมูลค่าถึง 1,650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 62,700 ล้านบาท แค่นั้นเอง)
กูเกิ้ลประกาศว่าชื่อของ YouTube และการทำงานจะยังคงเป็นเช่นเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ดูๆ ไปแล้ว YouTube ที่มีพนักงานเพียง 67 คนจะเฉลี่ยหุ้นไปคนละ 24 ล้านเหรียญนิดๆ รวยกันแบบไม่รู้ตัว
พนักงานคนนึงคงนึกในใจว่า ขายให้กูเกิ้ลปิดไปก็ยังคุ้ม :-P
ที่มา - BetaNews
เมื่อการแข่งขันกำลังรุนแรงและตลาดแสดงศักยภาพอย่างเห็นได้ชัด ตลาดวีดีโอออนไลน์ก็เริ่มแผ่รัศมีของเม็ดเงินจำนวนมหาศาล มาให้เราได้เห็นกันเรื่อยๆ ล่าสุดเริ่มมีข่าวลือถึงการที่กูเกิลเข้าเจรจาซื้อ YouTube ด้วยมูลค่าถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ทาง YouTube ปฎิเสธที่จะไม่ให้ความเห็นใดๆ ต่อข่าวลือ
เพื่อนร่วมยุคสมัย Web 2.0 อย่าง del.icio.us, Flickr และ MySpace ขายกิจการฟันกำไรกันทั่วหน้าไปแล้ว ตอนนี้สายตาจึงจับจ้องอยู่ที่เว็บสุดฮอตอย่าง YouTube ว่าจะขายได้เท่าไรกัน (ตอนนี้ YouTube อยู่อันดับ 14 ของ Alexa)
โซนี่มีส่วนช่วยทำให้เรื่องนี้ง่ายขึ้น เพราะเพิ่งซื้อกิจการเว็บวิดีโอ Grouper ในราคา 65 ล้านเหรียญ ถ้าลองเทียบบัญญัติไตรยางค์แล้ว Grouper มีส่วนแบ่งตลาดไม่ถึง 1% ในขณะที่ YouTube มี 43% ก็พอจะตีตัวเลขออกมาได้ว่า 2 พันกว่าล้านเหรียญ (แน่นอนว่ามันเทียบตรงๆ แบบนี้ไม่ได้อยู่แล้วนะครับ)
หลังๆ อาจจะเห็นข่าวปัญหาวิดีโอใน YouTube ละเมิดลิขสิทธิ์ค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยยอดคนเข้าถล่มทลาย (ให้โหลดวิดีโอวันละ 50 ล้านตอน, คนเข้าเดือนละ 13 ล้าน) ทำให้บรรดาค่ายเพลงทั้งหลายยอม YouTube ไปก่อน
ฝั่ง YouTube ก็เตรียมแก้ปัญหานี้อย่างยิ่งใหญ่ โดยการประกาศว่าจะเก็บมิวสิควิดีโอทั้งหมดที่มีมา (to have every music video ever created up on YouTube) ภายใน 12-18 เดือน ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับค่ายเพลงต่างๆ
ต่อไปเวลาอ้างถึงมิวสิคเพลงไหน ก็ YouTube!
ที่มา - Ars Technica
หลายๆ คนคงเคยใช้บริการ Youtube ซึ่งเป็นบริการแชร์ไฟล์วิดีโอ และในปัจจุบันได้มียอดผู้ชมมากกว่า Flickr ซึ่งเป็นบริการเก็บอัลบัมรูปส่วนตัวไปมากพอสมควรแล้ว (เกือบสองเท่า) นี่อาจจะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเจริญเติบโตของอินเตอร์เนตความเร็วสูง ว่าเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้อินเตอร์เนตไปอย่างไร ข่าวนี้ ที่ digg เขียนถึงไว้สั้นๆ ว่า
"People have more fun watching TV than a photo album. Maybe the couch potato just won."
สำหรับผู้ที่สนใจ มีกราฟแสดงอยู่ที่ vowe.net ครับ
หลังจากเริ่มมีปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ของวิดีโอในช่วงหลัง ในที่สุด YouTube เว็บฝากวิดีโอสุดฮิต ก็ออกมาตรการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยจะจำกัดความยาวของวิดีโอเหลือ 10 นาที ด้วยเหตุผลว่าวิดีโอที่มีความยาวเกินกว่า 10 นาทีมีแนวโน้มที่จะเป็นของละเมิดลิขสิทธิ์สูง
ต้องแก้ปัญหาแบบนี้กันไปก่อน เพราะคงเป็นเรื่องยากที่จะให้ทีมงาน คอยเฝ้าดูวิดีโอที่ถูกอัพโหลดเข้ามาอย่างไม่ขาดสายในแต่ละวัน หรือจะให้ user ช่วยกันแจ้งก็คงเป็นไปได้ยาก ไม่รู้ว่าต่อไปจะโดนหั่นเวลาเพิ่มอีกมั้ยเนี่ย