Boston Dynamics บริษัทผลิตหุ่นยนต์ชั้นนำของโลก ที่เราน่าจะรู้จักกันจากหุ่น Spot หุ่นยนต์สี่ขาถีบไม่ล้ม เปิดตัวหุ่นยนต์รุ่นใหม่สำหรับใช้ยกกล่องในโกดัง ชื่อว่า Stretch หุ่นยนต์ฐานสี่เหลียมมีล้อ มีกล้องและเซ็นเซอร์รอบตัว ขยับแขนได้ 7 ทิศทาง และมีแถบที่ดูดตรงปลายแขน ยกกล่องได้หนักสุด 23 กิโลกรัม และกำลังเล็งกลุ่มลูกค้าโกดังที่ไม่มีระบบ Automation แบบเต็มรูปแบบ
Boston Dynamics ซื้อบริษัท Kinema Systems บริษัทที่ทำระบบการมองเห็นของหุ่นยนต์ในโกดัง และสร้างหุ่นขนของ Handle เมื่อปี 2019 แต่ยังติดปัญหาความเร็วในการขนกล่องยังไม่เร็วพอ เพราะแม้จะเคลื่อนที่ได้ แต่แขนกับฐานอยู่ติดกันและต้องใช้ตัวถ่วงน้ำหนักแบบแกว่งได้ขนาดใหญ่
อัพเดต: ตัวเลขอย่างเป็นทางการ Hyundai จะถือหุ้นใน Boston Dynamics 80% ส่วน SoftBank เหลือถือหุ้นต่อ 20% ที่มูลค่ากิจการ 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ที่มา: Hyundai)
The Korea Economic Daily รายงานว่า Hyundai ผู้ผลิตรถยนต์จากเกาหลี ได้ปิดข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการบริษัทหุ่นยนต์ Boston Dynamics เป็นที่เรียบร้อย ตามที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ โดยเหลือขั้นตอนเสนอบอร์ดบริหารอนุมัติในวันนี้
Walmart ประกาศเลิกสัญญากับ Bossa Nova Robotics บริษัทหุ่นยนต์ที่เป็นผู้จัดหาหุ่นยนต์ตรวจสอบสินค้าบนชั้นวางของ หลังจากเริ่มทดสอบมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี
เทคโนโลยี Deep Tech อย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ (robotics)เริ่มได้รับความสนใจและมีความสำคัญกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่บริษัทสายนี้ยังถือว่ามีค่อนข้างน้อยในไทย และข่าวความก้าวหน้าต่างๆ กลับมาจากบริษัทต่างประเทศแทบทั้งหมด
บริษัท AI and Robotics Venture (ARV) เป็นบริษัทลูกของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ปตท. สผ. (PTTEP) เติบโตขึ้นมาจากการเป็นเพียงชมรมหุ่นยนต์เล็ก ๆ ในบริษัท ก่อนจะแยกตัวออกมาเป็นบริษัทลูกเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนวงการ AI/Robotics และตอนนี้ก็มีผลงานที่จับต้องได้ มีการใช้งานจริงออกมาให้เห็นกันแล้ว
ไอบีเอ็มเปิดตัวบริการ RoboRXN ห้องแล็บเคมีอัตโนมัติ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าถึงห้องแล็บเพื่อสร้างสารเคมีที่ต้องการได้จากที่บ้าน
RoboRXN เปิดให้นักวิทยาศาสตร์วาดโครงสร้างโมเลกุลที่ต้องการ จากนั้นปัญญาประดิษฐ์จะแนะนำว่ากระบวนการสังเคราะห์โมเลกุลต้องทำอะไรบ้าง เมื่อนักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบขั้นตอนที่ปัญญาประดิษฐ์เสนอให้แล้ว สามารถสั่งให้หุ่นยนต์สังเคราะห์โมเลกุลจากห้องแล็บได้ทันที ทางไอบีเอ็มระบุว่าทดสอบความแม่นยำจากผู้ใช้ที่ทดสอบระบบ 15,000 คน รวมออกแบบสูตรสังเคราะห์เคมี 760,000 สูตร
จุดเริ่มต้นเรื่องการใช้หุ่นยนต์ของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด มาจากนโยบายของประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ เมื่อ 4-5 ปีก่อน ที่อยากให้นำหุ่นยนต์มาใช้ในร้านค้าปลีกของเครือ ทำให้ทุกบริษัทในเครือซีพีเข้ามาศึกษาเรื่องนี้ ถ้านับเฉพาะในส่วนของ True เอง มีทีมที่เรียกว่า True Robotics ซึ่งในช่วงแรกเน้นการสรรหาหุ่นยนต์จากทั่วโลกมาใช้งาน แต่ภายหลังก็คิดว่า คนไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์เองได้ จึงเริ่มโครงการพัฒนาหุ่นยนต์ด้วย
NVIDA ประกาศความร่วมมือกับ BMW ในการนำแพลตฟอร์ม ISAAC พัฒนาหุ่นยนต์ในสายการผลิตให้รองรับกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน รองรับตัวเลือกสำหรับรถยนต์ที่ลูกค้าสั่งได้มากขึ้น
แพลตฟอร์ม ISAAC เป็นแพลตฟอร์มสำหรับพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หุ่ยนต์โดยเฉพาะ โดยมีสองส่วนคือส่วน SDK และซอฟต์แวร์จำลองโลกจริง ที่สามารถสร้างโรงงานจำลองเพื่อฝึกปัญญาประดิษฐ์ให้ควบคุมหุ่นยนต์ให้ทำตามงานที่กำหนด
ทางการสิงคโปร์เริ่มทดสอบนำหุ่นยนต์ Spot ของ Boston Dynamics มาเดินลาดตระเวนในสวนสาธารณะ Bishan-Ang Mo Kio เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมเปิดเสียงเตือนให้ผู้คนอย่าลืมทำ Social Distancing
มาตรการนี้เป็นความร่วมมือของ National Parks Board และ Smart Nation and Digital Government Group (SNDGG) โดยภาพจากกล้องหน้าของหุ่น Spot จะถูกเก็บนำไปวิเคราะห์บนระบบของ GovTech เพื่อวิเคราะห์และคำนวนปริมาณผู้เข้ามาใช้งานสวนสาธารณะ โดยวิดีโอที่ได้จากกล้องจะไม่มีและไม่สามารถตรวจจับใบหน้าหรือเก็บข้อมูลส่วนตัวใด ๆ
AIS ประกาศตั้งศูนย์เฉพาะกิจ AIS Robotic Lab ดึงนักวิจัยมาพัฒนาหุ่นยนต์ด้านการแพทย์, ระบบ 5G Telemedicine, โซลูชันงานบริการทางการแพทย์ ร่วมกับโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทย
ผลลัพธ์ของ AIS Robotic Lab จะขึ้นกับความต้องการของแต่ละโรงพยาบาล ตัวอย่างผลงานที่เสร็จแล้วคือ
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ AIS
Boston Dynamics เริ่มขายหุ่นยนต์ Spot มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ปล่อยชุด SDK ให้ทุกคนดาวน์โหลดออกมาดูได้ว่ามันทำอะไรได้บ้าง
ตัว SDK เป็นภาษาไพธอนรองรับ Python 3.6 และ 3.7 เท่านั้น โดยมาพร้อมกับโปรแกรมตัวอย่าง 3 โปรแกรม ได้แก่ Hello, Spot! สำหรับทดสอบการควบคุมเบื้องต้น เช่นขยับตัวแล้วถ่ายภาพ, WASD โปรแกรมใช้คีย์บอร์ดควบคุมตัวหุ่นยนต์, และ Commmand Line สำหรับการจับสถานะหุ่นยนต์
แม้ว่า SDK จะมีซอร์สโค้ดให้ แต่สัญญาอนุญาตที่เปิดออกมาบังคับให้ใช้งานกับหุ่น Spot เท่านั้น และการซื้อหุ่นต้องสมัครเข้า Early Adopter Program ก่อน
ที่มา - Boston Dynamics
ซัมซุงเปิดตัว Ballie หุ่นยนต์รูปทรงกลมติดกล้อง สำหรับเป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านแทนเราได้
Ballie เป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็ก ที่มีฟีเจอร์ AI ในตัว ทำหน้าที่เป็นเพื่อนและผู้ช่วยคอยตรวจตราสิ่งต่างๆ ในบ้าน แล้วส่งภาพมาให้เราดูในสมาร์ทโฟนยามที่ออกนอกบ้าน ในคลิปเดโมของซัมซุง Ballie สามารถเปิดทีวี เปิดไฟ เปิดผ้าม่าน และเรียกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาทำความสะอาดบ้านได้ (แนะนำให้ดูคลิป)
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องการวางขาย ทั้งราคาและวันขาย
ถึงแม้ซัมซุงไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่หลายคนก็อาจนึกเทียบว่ามันคล้ายกับหุ่น BB-8 ในภาพยนตร์ Star Wars ไตรภาคล่าสุด
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) โชว์หุ่นยนต์ทำความสะอาดแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่เป็นแบบโมดูลาร์ สามารถปรับเปลี่ยนความยาวตามลักษณะของแผงโซลาร์เซลล์ (ปรับได้ 1-4 เมตร) ทำความสะอาดด้วยการฉีดน้ำและใช้แปรงขัดที่สามารถปรับแรงกดได้
ตัวหุ่นยนต์มีน้ำหนักเบา ขนย้ายได้ด้วยคน 2 คน ต้นทุนอยู่ที่ราว 70,000 - 100,000 บาท สำหรับโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาด 1 เมกะวัตต์ ซึ่งทีมวิจัยระบุว่าจะสามารถคืนเงินทุนได้ภายใน 6 เดือน แต่หากฟาร์มที่มีขนาดใหญ่กว่านี้จะสามารถคืนทุนได้เร็วขึ้นอีก
OpenAI บริษัทพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ก่อตั้งโดย Elon Musk สาธิตเทคนิคการฝึกปัญญาประดิษฐ์เพื่อควบคุมหุ่นยนต์ในโลกความเป็นจริง โดยสร้างโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่มีความซับซ้อนสูง ผ่านการสร้างโจทย์ให้หุ่นยนต์มือเดียวต้องแก้ปัญหารูบิก
โมเดลปัญญาประดิษฐ์จะถูกฝึกในซอฟต์แวร์จำลองหุ่นยนต์เท่านั้น เท่าให้สามารถบอกปัญญาประดิษฐ์ได้ว่าแก้ปัญหาลูกรูบิกสำเร็จหรือยัง แต่อาศัยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปแต่ละรอบ (domain randomization) เพื่อให้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ทนทานต่อความไม่แน่นอนในโลกความเป็นจริง โดยการวิจัยครั้งนี้ทาง OpenAI สร้างสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยเรียกว่าเทคนิค Automatic Domain Randomization (ADR)
การใช้ปัญญาประดิษฐ์มาควบคุมหุ่นยนต์เพื่อให้ทำตามคำสั่งระดับสูง เช่น หมุนวาล์ว, หรือเดินไปข้างหน้า ทั้งที่หุ่นยนต์มีความซับซ้อน และต้องควบคุมมอเตอร์หลายตัวนับเป็นความท้าทายในวงการปัญญาประดิษฐ์มานาน แต่ที่ผ่านมามักไม่ค่อยมีงานวิจัยในวงกว้างนักเพราะมันต้องการหุ่นยนต์ราคาแพงระดับแสนบาท ล่าสุดกูเกิลก็ประกาศเปิดพิมพ์เขียวหุ่นยนต์สำหรับวิจัยในราคาประหยัดออกมา ในชื่อโครงการ ROBEL
ROBEL ประกอบด้วยพิมพ์เขียวหุ่นยนต์สองแบบ คือ D'Kitty (อ่านว่า The Kitty) เป็นหุ่นยนต์สี่ขา และ D'Claw เป็นหุ่นยนต์สามแขนสำหรับจับสิ่งของ
นอกจากจะเริ่มขายหุ่นยนต์ Spot แล้ว Boston Dynamics ยังปล่อยคลิปโชว์ประสิทธิภาพของหุ่นยนต์ Atlas ซึ่งเป็นหุ่นอีกรุ่นที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โดย Atlas สามารถจำลองการเคลื่อนไหวแบบมนุษย์ได้เนียนมาก
ในคลิปดังกล่าว หุ่น Atlas เริ่มต้นด้วยการทำท่าม้วนหน้าสองครั้ง โดยครั้งแรกมีการยืดขาและลำตัวชี้ขึ้นฟ้าด้วย และหลังม้วนรอบสองก็ยืนขึ้นพร้อมกระโดดหมุนตัวหันหน้ากลับมา จากนั้นก็ม้วนหน้าอีกครั้งและกระโดดกางขา ก่อนจะปิดท้ายด้วยการม้วนหน้าเป็นครั้งสุดท้ายและกระโดดหมุนตัวกางแขนออกเหมือนนักกีฬายิมนาสติก ซึ่งการเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ทำต่อเนื่องกันโดยแทบไม่มีจังหวะหยุดพักเลย
เราคงเคยได้ยินชื่อบริษัท Boston Dynamics กันมาบ้างจากคลิปที่บริษัทเคยปล่อยออกมา เช่นหุ่นยนต์ Atlas ที่กระโดดตีลังกากลับหลังได้ หรือหุ่นยนต์ SpotMini ทรงคล้ายสุนัขที่เหยียบเปลือกกล้วยล้มแล้วลุกเองได้ สร้างความตื่นเต้น (ปนหลอน) กันไป
ล่าสุด Boston Dynamics ได้เปลี่ยนชื่อ SpotMini เหลือแค่ Spot พร้อมประกาศเริ่มขายหุ่นยนต์รุ่นนี้ให้กับลูกค้าบางกลุ่มแล้ว โดยให้เข้าไปกรอกแบบฟอร์มสนใจซื้อ และ Boston Dynamics จะเลือกลูกค้าที่เหมาะสมเพื่อนำหุ่นยนต์ Spot ไปใช้งานจริง ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ Boston Dynamics จะได้ทำเงินเพราะก่อนหน้านี้เป็นการวิจัยในแล็บมาตลอด
ภาคการผลิตทั่วโลกกำลังลดการใช้มนุษย์ในสายการผลิตลงเรื่อยๆ ตามรายงานล่าสุดของ World Robotics ระบุว่าในปี 2018 มีการลงทุนกับหุ่นยนต์ในโรงงานสูงถึง 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวห้าแสนล้านบาท ไม่รวมซอฟต์แวร์
ประเทศที่ลงทุนกับหุ่นยนต์มากที่สุดก็หนีไม่พ้นจีน โดยลงทุนมากกว่าหนึ่งในสามของทั้งโลก คิดเป็นมูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 164 ล้านบาทและหากรวมกับญี่ปุ่น, เกาหลี, สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ก็กินสัดส่วนไปถึง 74% ของตลาดทั้งหมด
หุ่นยนต์มากกว่า 420,000 ตัวถูกติดตั้งในปีที่แล้ว และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 584,000 ตัว ภายในปี 2022 ในขณะที่ตัวเลขปี 2013 อยู่ที่เพียง 178,000 ตัวเท่านั้น
Amazon ได้เริ่มทดสอบการส่งสินค้าด้วยหุ่นยนต์ Scout แถวสำนักงานใหญ่ในวอชิงตันมาสักพักหนึ่งแล้ว ล่าสุด Amazon กำลังจะเริ่มทดสอบ Scout ในสเกลที่กว้างขึ้นที่ Irvine รัฐแคลิฟอร์เนีย
หุ่นยนต์ Scout ที่อยู่ระหว่างการทดสอบนี้ จะส่งสินค้าจาก Amazon ในช่วงเวลากลางวันเท่านั้น ซึ่งจะมีพนักงาน Amazon คอยรับผิดชอบสอดส่องดูแลตัวหุ่นยนต์ในระหว่างการปฏิบัติงาน โดยฝั่งของลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ Irvine หากสั่งสินค้าบน Amazon ก็อาจจะมีการส่งโดยใช้หุ่นยนต์ปนมากับการส่งแบบธรรมดาด้วย
โตโยต้าเปิดตัวหุ่นยนต์อีก 7 ตัว ในโครงการ Tokyo 2020 Robot Project เพื่อใช้สำหรับช่วงการจัดการแข่งกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ปี 2020 ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ โดยหุ่นยนต์เหล่านี้มีหน้าที่ทั้งสร้างความบันเทิง และเป็นผู้ช่วยเหลือนักกีฬากับผู้ชม
กลุ่มแรกเป็นหุ่นยนต์ช่วยเหลือ (Human Support Robot - HSR) และหุ่นยนต์ส่งของ (Delivery Support Robot - DSR) ซึ่งออกแบบมาช่วยเหลือผู้พิการ ในการเคลื่อนย้ายและส่งของไปยังจุดต่าง ๆ โดยมีการเปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้
iRobot บริษัทผลิตหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านประกาศเข้าซื้อ Root Robotics สตาร์ทอัพพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อการศึกษา และเตรียมนำหุ่นยนต์ Root ซึ่งเป็นหุ่นยนต์เพื่อพัฒนาการเขียนโค้ดเข้าสู่ไลน์สินค้าของ iRobot ต่อไป
Root เป็นสตาร์ทอัพที่ตั้งขึ้นภายใต้ Wyss Institute ที่ Harvard University โดยเป็นหุ่นยนต์สองล้อที่เน้นการทำงานบนพื้นผิวเรียบ ลักษณะคล้ายหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba โดย Root สามารถโปรแกรมให้ทำงานได้หลายอย่าง เช่น วาดรูป, สแกนสี, ตอบสนองต่อการสัมผัส, ส่งเสียง, เล่นเพลง เป็นต้น
NVIDIA เปิดห้องปฏิบัติการเพื่องานวิจัยเกี่ยวกับหุ่นยนต์ใน Seattle โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อการพัฒนาหุ่นยนต์ให้สามารถทำงานร่วมกับคนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ศูนย์วิจัยแห่งนี้จะเป็นที่ทำงานของนักวิทยาศาสตร์เกือบ 50 คน และเป็นแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งเป็นที่ฝึกงานของนักเรียนนักศึกษา ภายในห้องปฏิบัติการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อจำลองพื้นที่ปฏิบัติงานและสถานการณ์ที่จะใช้งานหุ่นยนต์เพื่อการทำงานร่วมกับคน ซึ่งแรกเริ่มนี้เป็นการจำลองพื้นที่การทำงานภายในห้องครัว โจทย์ของงานวิจัยพัฒนาก็คือการทำให้หุ่นยนต์สามารถเป็นผู้ช่วยงานครัว ทั้งเรื่องช่วยเปิดตู้หรือเปิดลิ้นชัก เพื่อหยิบจับสิ่งของต่างๆ มาส่งยื่นให้ หรือช่วยในขั้นตอนการปรุงและประกอบอาหาร
ในงาน Dell Technologies World 2019 ที่ลาสเวกัสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จุดสนใจหนึ่งในงานคือเครื่องจักรหุ่นยนต์เสิร์ฟกาแฟที่ชื่อ Briggo โดยมีคนไปจองรับกาแฟและเครื่องดื่มฟรีกันยาวมาก Blognone เคยพูดถึง Briggo ไปเล็กน้อยก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้เรามีรายละเอียดเพิ่มเติมมานำเสนอกันครับ
ในงานสัมมนา Articulate Food Robotics ที่ซานฟรานซิสโกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการนำเสนอเรื่องราวของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่นำมาปรับใช้ในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งตอนนี้มีสตาร์ทอัพใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนาหุ่นยนต์เครื่องจักรสำหรับทำหน้าที่ต่าง ๆ มากขึ้น โดยมีการรวบรวมโครงการที่น่าสนใจดังนี้
ถ้าให้คิดถึงหุ่นยนต์ในร้านอาหารแบบที่พอจะเชื่อว่าทดแทนคนได้ ก็คงเป็นหุ่นยนต์สำหรับหน้าที่เตรียมวัตถุดิบ หรือจัดส่งอาหาร Briggo เป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาสิ่งที่เรียกว่าหุ่นยนต์บาริสต้า โดยสามารถเตรียมเครื่องดื่มได้ถึง 100 แก้วต่อชั่วโมง เสิร์ฟลูกค้าพร้อมกันได้สูงสุด 10 คน ในเวลาเดียว
คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคและพาราลิมปิคในปี 2020 ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวโครงการหุ่นยนต์ช่วยเหลือที่จะนำมาใช้งานในช่วงการจัดการแข่งขัน โดยมีเป้าหมายให้โอลิมปิคครั้งนี้เป็นโอลิมปิคที่มีนวัตกรรมมากที่สุดที่เคยมีมา
โครงการแรกคือหุ่นยนต์ผู้ช่วย Human Support Robot (HSR) และ Delivery Support Robot (DSR) พัฒนาโดยโตโยต้า ซึ่งสามารถช่วยเหลือผู้พิการนั่งวีลแชร์ในการขนส่งอาหารเครื่องดื่ม และมีแขนกลหยิบถาดส่งให้ โดยหุ่นยนต์ดังกล่าวจะมีใช้ในงาน 16 ตัว และโตโยต้าคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายทั่วไปได้ในปี 2030
FedEx ประกาศนำหุ่นยนต์ส่งของมาใช้งานบ้างแล้ว โดยใช้ชื่อว่า FedEx SameDay Bot
หุ่นยนต์ของ FedEx จะช่วยรับงานส่งของให้กับร้านค้า-ร้านอาหารต่างๆ เช่น AutoZone, Lowe’s, Pizza Hut, Target, Walgreens, Walmart ส่งของไปยังลูกค้าในบริเวณใกล้เคียง จากสถิติของ FedEx ระบุว่าลูกค้าที่สั่งของมักอยู่ในรัศมีไม่เกิน 3 ไมล์ (4.8 กิโลเมตร) จากร้านค้า ทำให้การสั่งซื้อของแบบออนดีมานด์ในพื้นที่ร้านค้ามีศักยภาพทำเงินสูง การใช้หุ่นยนต์ย่อมช่วยให้ร้านค้าตอบสนองความต้องการสั่งของลักษณะนี้ได้มากขึ้น