โดยเครื่องหมายยืนยันเพจหรือโปรไฟล์จะถูกแสดงด้วยเครื่องหมายถูกสีขาวในวงกลมสีน้ำเงิน และจะแสดงหลังชื่อบนไทม์ไลน์, ผลการค้นหา และที่อื่นๆ ใน Facebook

ทั้งนี้ ฟีเจอร์แสดงยืนยันตัวจริงนั้นมีเพื่อกลุ่มของผู้มีชื่อเสียง เช่น ดารานักแสดง, นักเขียน, หน่วยงานรัฐบาล และแบรนด์หรือธุรกิจที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ในช่วงแรกฟีเจอร์นี้จะปรากฎในเพจ ส่วนในหน้าโปรไฟล์จะตามมาทีหลัง

ยังไม่แน่ใจว่า Facebook จะเปิดฟีเจอร์นี้ให้สามารถยืนยันตัวเองได้หรือไม่ และใช้หลักเกณฑ์ใดในการตรวจว่านี่คือตัวจริงจริงๆ นะ

ที่มา - Facebook Newsroom

LINE for Android เวอร์ชั่น 3.7.0 มีสิ่งที่เพิ่มมาคือ

• เพิ่มธีมที่ประกอบด้วยตัวการ์ตูนของ LINE
• เพิ่มโฮมฟังก์ชันสำหรับ Official Account
• มีแจ้งเตือนในรายการแชตสำหรับข้อความที่ส่งไม่ผ่าน
• มีปุ่มเพิ่มรูปในเมนูห้องแชต โดยรูปที่ถูกรับส่งในห้องแชตนั้นจะสามารถกดเปิดดูได้
• รองรับภาษาเยอรมัน, อิตาเลียน และโปรตุเกส

ธีมใหม่เป็นสีชมพูหวานแหวว สนใจก็อัพเดตได้ที่ Play Store โดยเวอร์ชัน iOS จะอัพเดตตามมาเร็วๆ นี้

ที่มา - LINE Blog

หลังจากประกาศฟีเจอร์ใหม่บน Google+ ไปแล้ว ก็ได้มีประกาศปรับดีไซน์ในโมบายเว็บเพิ่มเติมตามนี้

• โพสต์จะปรากฏในรูปของ "การ์ด" ในสตรีม ซึ่งง่ายต่อการอ่าน, กด +1 และรีแชร์มากขึ้น
• ปรับปรุงหน้าโปรไฟล์และเพจให้มีรูป cover และอื่นๆ

ที่มา - Google+

ฟีเจอร์ Offers นั้นเปิดให้ผู้ใช้ iOS ได้ใช้งานไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยความพิเศษของโพสต์ประเภท Offers ที่จะปรากฎในฟีดนั้น จะมีรายละเอียดของ offer และปุ่มที่ให้เลือกว่าจะจ่ายเลย (Show Now) หรือแจ้งเตือนในภายหลัง (Remind Me) นอกจากนี้ผู้ใช้ Android ยังสามารถดู Offers ของตัวเองที่เมนูด้านข้างได้ด้วย

ที่มา - All Facebook

Pinterest จะเริ่มแสดงข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ในพินบางประเภท โดยเริ่มต้นที่พินใน 3 กลุ่มคือ

เมื่อผู้ใช้ติดตามแบรนด์ที่สนใจใน Google+ ก็จะสามารถเห็น offers ของแบรนด์ใน stream ได้ โดยลักษณะของ offer ก็มาในรูปข้อเสนอต่างๆ ซึ่งถ้าสนใจก็สามารถกด Get Offer ได้ตามปกติ นอกจากนี้เมื่อผู้ใช้กดรับ offer นั้นแล้ว ก็จะมีอีเมลแจ้งเตือนรายละเอียดมาให้เราด้วย

ที่มา - Mashable

โดย Twitter for Google Glass นั้น จะทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์รูปขึ้น Twitter ได้ โดยที่ทวีตจะมีข้อความ "Just shared a photo #throughglass" อัตโนมัติ ซึ่งนอกจากจะสามารถแชร์ภาพได้แล้ว ยังสามารถเช็กเมนชั่น, ข้อความส่วนตัว หรือทวีตจากผู้ใช้ที่เราเปิดแจ้งเตือนเอาไว้ และสามารถตอบกลับ, รีทวีต หรือกดติดดาวทวีตที่ถูกใจได้เช่นกัน

ผู้ใช้ที่มี Glass และต้องการใช้ Twitter สามารถเข้าไปที่ google.com/myglass และเปิดเชื่อมต่อ Twitter

ที่มา - Twitter Blog

ก่อนหน้านี้เราจะมีเนื้อที่ 10GB สำหรับเก็บอีเมลและ 5GB สำหรับ Drive และรูปภาพใน Google+ แต่หลังจากนี้ Google จะรวมพื้นที่ทั้งหมดเข้าด้วยกัน เท่ากับว่าเรามีพื้นที่ 15GB ในการเก็บอีเมล, ไฟล์ใน Drive และรูปภาพใน Google+

นอกจากนี้ Google ยังได้ปรับปรุงหน้าแสดงพื้นที่ที่เหลือ เพื่อให้เราสามารถดูและจัดการเนื้อที่เก็บไฟล์ของเราได้ง่ายขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเอื้ออำนวยความสะดวกกรณีต้องการกดซื้อพื้นที่เพิ่มนั่นเอง

สำหรับใครที่ยังไม่ได้พื้นที่แบบรวมกัน ก็อาจจะต้องรออีกสองสามสัปดาห์สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

ที่มา - Gmail Blog

Facebook Pages Manager มีการอัพเดตเปลี่ยนไปพอสมควร โดยมีสิ่งที่เปลี่ยนไปตามนี้

• สามารถเลื่อนเพื่อดูไทม์ไลน์ได้เร็วกว่าเดิม
• เปิดดูรูปและปิดด้วยการปัดลง (เหมือนแอพ Facebook)
• ใส่ฟิลเตอร์รูปก่อนโพสต์ได้
• ส่งอีโมจิและสติ๊กเกอร์ในข้อความได้

อัพเดตกันได้ที่ App Store

ที่มา - The Next Web

แอพ Instagram มีอัพเดตฟีเจอร์เล็กๆ แต่อาจยิ่งใหญ่สำหรับใครหลายๆ คน ก็คือมีฟีเจอร์แท็กคนลงในภาพ โดยเมื่อทำการเลือกรูปที่จะแชร์แล้ว จะมีฟีเจอร์ Add People ซึ่งเราสามารถใส่ชื่อเพื่อนหรือบุคคลที่ต้องการลงในรูปได้นั่นเอง

สนใจอัพเดตก็เชิญที่ App Store

ที่มา - Instagram Blog

ฟีเจอร์ที่ปรับปรุงก็คือ

• ปรับปรุงให้แชร์รูปได้ง่ายขึ้นด้วยการคลิกไอคอนรูปกล้องที่มุมล่างซ้าย แล้วเลือกรูปที่จะแชร์ หรือจะ drag and drop ภาพจาก desktop ก็ได้
• รองรับ Retina display
• เพิ่ม 14 ภาษา (ไม่มีไทย)

สนใจก็อัพเดตกันได้ที่ Mac App Store

ที่มา - Twitter Blog

ในหน้า News Feed ท้ายชื่อเพื่อนแต่ละคน จะมีปุ่มเขียวๆ แสดงสถานะว่าเพื่อนกำลังออนไลน์ โดยผู้ใช้สามารถกดปุ่มเขียวดังกล่าวเพื่อเปิดหน้าต่างเพื่อเริ่มสนทนาได้ทันที โดยฟีเจอร์นี้จะพบในโพสต์บน News Feed เท่านั้น (ไม่พบในหน้า Timeline ของผู้ใช้)

นอกจากนี้ผู้ใช้บางคนยังพบลิสต์รายชื่อเพื่อนผ่าน 2 เมนู คือด้านซ้ายและด้านขวา (ดูภาพประกอบได้ท้ายข่าว)

อนึ่ง ไอคอนแสดงสถานะออนไลน์นี้ พบใน New News Feed เท่านั้น

ที่มา - Inside Facebook

การปรับเปลี่ยนหลักๆ ครั้งนี้ จะทำให้หน้าตาของ Facebook Pages ดูเรียบง่ายขึ้น และมีข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเพจแสดงในหน้ามากขึ้น เช่น นำข้อมูลโลเคชันหรือรูปภาพมาแสดงในรูปแบบที่เห็นได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีปุ่มที่สามารถกดโต้ตอบกับเพจที่แสดงในรูปปุ่มใหญ่เบ้งๆ เช่น Like, Call, Message และ Share โดยปุ่มเหล่านี้จะแสดงใต้รูป Cover

นอกจากนี้ในส่วนของเจ้าของเพจจะสามารถจัดการเพจได้ง่ายและสะดวกขึ้น โดยสามารถเห็นโพสต์ที่ถูกปักหมุดผ่าน Mobile ได้แล้ว และยังสามารถดูเพจในมุมมองของแอดมิน, เพจหลัก หรือเพจลูกได้ง่ายขึ้น (ภาพประกอบอยู่ท้ายข่าว)

การเปลี่ยนแปลงหน้า Pages ใน Mobile จะเริ่มเปลี่ยนตั้งแต่วันนี้ ผ่าน Mobile Web และแอพ Facebook ของ iOS ส่วนบน Android อดใจรอเร็วๆ นี้

มีคนค้นพบว่าฟีเจอร์ส่งสติ๊กเกอร์ของแอพ Facebook ที่ใช้ได้เฉพาะ iOS นั้น ก็สามารถใช้ Android ส่งสติ๊กเกอร์ได้เหมือนกัน (แต่ Facebook เองยังไม่ได้เปิดตัว) วิธีก็คือเข้าไปที่แอพ Facebook Messenger โดยต้องตั้งค่าเปิด Chat Heads เอาไว้ จากนั้นก็เลือกคุยกับเพื่อนขึ้นมาหนึ่งคน และให้กดแท็บแถวๆ ปุ่มบวก (ดูภาพประกอบได้ที่ท้ายข่าว) จะมีคีย์บอร์ดขึ้นมา หลังจากนั้นให้กดอีก 1 ครั้งก็จะมีสติ๊กเกอร์ขึ้นมาให้สามารถส่งหาเพื่อนได้ โดยไม่ต้องทำการรูทเครื่องใดๆ

ประกาศอย่างเป็นทางการจาก TweetDeck เอง ว่าฟีเจอร์ Facebook integration ที่สามารถใช้โพสต์ขึ้น Facebook ผ่าน TweetDeck ได้นั้น จะถูกปิดการให้บริการวันที่ 7 พ.ค. นี้ นอกจากนี้ TweetDeck AIR, TweetDeck for Android และ TweetDeck for iPhone ก็จะถูกลบออกจากการให้ดาวน์โหลดในวันเดียวกัน

ที่มา - TweetDeck Blog

สำหรับ Facebook 6.0 สำหรับ iPad และ iPhone นี้ จะมีการปรับเปลี่ยนหน้าดีไซน์ แต่สิ่งที่เป็นฟีเจอร์ที่เปลี่ยนแปลงหลักๆ คือ Facebook Messenger คือจะมี chat heads (แต่จะไม่ได้อยู่ในทุกที่ทุกเวลาเหมือน Android เนื่องด้วยข้อจำกัดของ iOS) และที่สำคัญคือสามารถส่งสติ๊กเกอร์หากันได้ด้วย! (ดูภาพประกอบได้จากที่มา)

ทั้งนี้ Facebook ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า แอพจะอัพเดตภายในวันนี้

ที่มา - The Verge, Facebook News Room

จาก ข่าวเก่า ที่บอกว่า Facebook Home ถูกปล่อยขึ้น Google Play และให้ผู้ใช้ในสหรัฐสามารถดาวน์โหลดได้เท่านั้น มาตอนนี้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถดาวน์โหลด Facebook Home มาใช้ได้แล้ว และ Facebook Home เวอร์ชั่นอัพเดตจะตามมาในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมนี้

ที่มา - The Verge

ความสามารถใหม่ของแอพ Messenger ก็คือสามารถคุยกับเพื่อนได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะใช้แอพไหน (Facebook เรียกว่า chat head) โดยเมื่อจะคุยกับเพื่อนก็กดที่ chat head เพื่อตอบกลับ หรือถ้าอยากกดปิดก็กดลากลงมายาวๆ ได้

นอกจากนี้ก็มีการปรับปรุงให้แอพมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ใครอยากอัพเดตก็เข้าไปดูที่ Play Store ได้

ที่มา - TechCrunch

จาก ข่าวเก่า ในเรื่องของ Twitter เตรียมทำแอพฟังเพลงเป็นของตัวเองนั้น ดูท่าจะเป็นความจริงมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่า บริการค้นหาเพลงฟังอย่าง wearehunted.com ขึ้นข้อความในหน้าเว็บว่าตอนนี้ถูก Twitter ซื้อกิจการ และเตรียมไปรวมตัวกันเพื่อทำแอพที่เอาไว้แชร์หรือค้นหาเพลงและอัลบั้มในทุกๆ วัน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าแอพฟังเพลงดังกล่าวอาจจะเปิดตัวในวันศุกร์ที่ 12 นี้

หลังจากที่เครือข่ายสังคมอื่นๆ มีระบบเมนชันกันมาช้านาน ก็ถึงคราวที่ LinkedIn จะสามารถเมนชันหาบุคคลหรือบริษัทได้แล้ว วิธีเมนชันก็แค่พิมพ์ชื่อที่ต้องการ ระบบจะเดารายชื่อบุคคลและบริษัทมาให้เราเลือกเมนชันได้เอง โดยบุคคลหรือบริษัทก็จะได้รับการแจ้งเตือนว่ามีคนเมนชันหาอยู่นะ ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องอะไรก็กดเข้าไปดูและร่วมสนทนากันได้

ฟีเจอร์นี้ถูกเปิดให้ผู้ใช้ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ลองเมนชันแล้ว และจะเปิดให้สมาชิกใช้ฟีเจอร์เมนชันกันถ้วนทั่วในเร็ววันนี้

ที่มา - LinkedIn Blog

จากนี้ถ้าเข้าไปดูรูปใน Google+ และต้องการดูว่าแต่ละคนมีอารมณ์แบบไหน ก็สามารถกดไอคอนหน้ายิ้มเพื่อดูอารมณ์ของคนในภาพได้ ซึ่งอารมณ์ในภาพก็จะมีหลายแบบเช่น ยิ้ม แลบลิ้น อ้าปากเหวอ หรือไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เลย

เป็นฟีเจอร์ที่น่ารักดี ใครอยากลองก็เข้าไปดูได้ในหน้า Google+ Photos ได้

ที่มา - +Erik Murphy-Chutorian

ฟีเจอร์เล็กๆ ที่อาจจะทำให้หลายๆ คนสนุกก็คือ Google+ อนุญาตให้ใช้ภาพเคลื่อนไหว (ไฟล์สกุล .gif) เป็นรูปโปรไฟล์ได้แล้ว โดยรูปจะเคลื่อนไหวทั้งในหน้าโปรไฟล์บนจอคอมพิวเตอร์และบนโทรศัพท์มือถือ

Matt Steiner ที่เป็นเจ้าของโพสต์ แถมท้ายติดตลกไว้นิดหนึ่งว่า การใส่ภาพเคลื่อนไหวเป็นรูปโปรไฟล์ได้นั้น ก็เปรียบเสมือนหนังสือพิมพ์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ นั่นเอง

ที่มา - +Matt Steiner

Google+ อัพเดตแอพทั้ง iOS และ Android ใจความตามนี้

มีผู้ใช้บางกลุ่มพบว่าในหน้าอีเวนต์และหน้าโลเคชันของ Facebook มีข้อมูลที่ระบุสภาพอากาศ ณ เวลานั้นเอาไว้ด้วย (เข้าใจเอาเองว่าถ้าเป็นเวลาในอนาคต สภาพอากาศก็คงจะมาจากพยากรณ์อากาศ แต่ถ้าเป็นในหน้าโลเคชันเวลาคนเช็กอิน สภาพอากาศที่ระบุคงเป็นสภาพอากาศปัจจุบัน) โดยในหน้าสร้างอีเวนต์ก็จะมีสภาพอากาศระบุเอาไว้เลยเช่นกัน นัยว่าจะได้ทำนายฟ้าฝนล่วงหน้า ถ้าอากาศไม่ดีอาจจะเลื่อนจัดงานเป็นวันอื่นก็ว่ากันไป

ในขณะที่ Hangout กันอยู่ ก็อาจจะมีบางทีที่เกิดความครึ้มใจอยากจับภาพ ณ ขณะนั้นเอาไว้ Google ก็จัดให้ด้วยฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติม ก็คือถ้าต้องการจะจับภาพขณะ Hangout ก็สามารถใช้แอพและกดปุ่มกล้องเพื่อจับภาพได้ทันที โดยภาพจะถูกบันทึกไว้ในอัลบั้มที่ผู้เข้าร่วม Hangout สามารถมองเห็นได้ และในขณะที่ Hangout อยู่ ก็สามารถดูรูปที่ถูกจับภาพเอาไว้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วม Hangout จะรู้เสมอถ้ามีการเปิดแอพนี้ขึ้น

ที่มา - +Jeremy Ng