ข่าวนี้ต่อเนื่องจาก โนเกียขอให้ ITC แบนการนำเข้าสินค้าแอปเปิลทั้งหมด ฝั่งแอปเปิลได้ตอบโต้โนเกียทางกฎหมายในระดับเท่าเทียมกัน คือขอให้ ITC (หน่วยงานด้านการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ มีหน้าที่ปกป้องการค้าให้กับบริษัทสหรัฐ) สั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากโนเกียเข้ามาขายในประเทศ
โฆษกของโนเกียบอกว่า บริษัทจะรอเอกสารอย่างเป็นทางการ และหาวิธีตอบโต้ข้อกล่าวหาต่อไป อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาของแอปเปิลในครั้งนี้ ไม่ได้มีผลอะไรกับการละเมิดสิทธิบัตรของโนเกียใน iPhone อยู่ดี
ตามกฎของ ITC ทางหน่วยงานมีเวลา 15 เดือนในการสืบสวนเรื่องที่ได้รับการร้องขอ แต่ทาง ITC ยังไม่ได้ตอบรับว่าจะเข้าไปสืบสวนแอปเปิล ตามคำขอของโนเกียในข่าวก่อนหน้านี้หรือไม่ (เช่นเดียวกับคำขอของแอปเปิลในข่าวนี้)
ที่มา - Bloomberg
Comments
แรงจริงๆ ศึกนี้
งานนี้ผมว่า apple เสียเปรียบนะ
แค่คิดว่า mac ทั้งหมดขายไม่ใด้ใน usa ผมเชื่อว่า apple น่าจะหนาวแล้ว อีกอย่าง wifi, bluetooth หนีไม่ใด้ถ้าจะทำ notebook ส่วน gsm, g3 ก็หนีไม่ใด้ถ้าจะทำมือถือ
nokia ทำมือถือหลายรุ่น น่าจะมี product บางตัวที่หลุดรอดใด้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไร โดยเฉพาะ feature phone ส่วน smart phone ก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อหลีกเลี่ยงสิทธิบัตรของ apple ชึ่งแก้ไขใด้ไม่ยาก ... ส่วนที่แก้ไขใด้ยากเช่นพวกที่โดนตรง hardware แต่ก็มีเวลาตั้ง 15 เดือนที่จะปรับหนีใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
งง? อ่ะ แล้ว wifi bluetooth อะไรพวกนี้ยี่ห้ออื่นก็มีไม่ใช่หรอ ทำไมโดนแอปเปิ้ลเจ้าเดียว
โนเกียประสงค์จะฟ้องคู่แข่งแค่บางรายไงครับ ยังไง Bluetooth กับ Wifi ก็เป็นมาตราฐานกลางอยู่แล้วไปห้ามเขาก็คงไม่ได้
(ถ้าจำไม่ผิด Bluetooth ยกให้เป็นมาตราฐานเปิดไปแล้วสมัยอยู่กับ Ericsson)
เข้าทำสัญญาร่วมกัน แล้วก็จ่ายให้ NOKIA เห็นมีเขียนในข่าวเก่า
+1 ผมคิดว่าเพราะไม่ทำสัญญาอยู่เจ้าเดียวนี่แหละถึงได้โดน
ถ้าเฉพาะใน US ละก็ ยังไง Apple ก็เสียเปรียบ
ตลาดใหญ่สุดของ Apple คือ US นีี่แหละ
สำหรับ Nokia ตลาด US นี่ไม่ได้ทำกำไรมากมายอะไรเลย
ก็รอดูกัน อยากรู้เหมือนกันว่าใครจะอยู่ใครจะไป หรือจะจบนอกศาลเหมือนเดิม
แทนจะพัฒนาสินค้าดันมามาใช้มุขนี้กัดกัน
+100 F**k Nokia เข้าใจว่าคู่แข่งเริ่มแข็งแกร่ง แต่ตัวเองมีเทคโนโลยีที่สู้ไม่ได้อย่าง OS ใน mobile device เลยใช้วิธีนี้ ผมเค้าใจคนของ Nokia ดี
-1
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
-1
Nokia ต้องปกป้องสิทธิบัตรของตัวเอง ในเมื่อบริษัทอื่นเขายอมจ่ายค่าสิทธิบัตร แล้วทำไม Apple จ่ายไม่ได้
นี่คิดว่า Nokia เป็นบริษัทเล็กๆกระจอกๆ หรือไงเนี่ย
ไม่ใช่เกรียน patent นะครับ
เอาง่ายๆว่า ถ้าไม่มี Nokia ก็อาจจะไม่มี GSM ที่ใช้กันทุกวันนี้นะ
เค้าบุกเบิกด้าน cellular มานานมากแล้ว
-100
รู้จัก Meamo ไหมครับ..
Powerfull Os เลยนะครับ
ปล.สิทธิบัตรหลายอย่าง Nokia จดไว้ก่อนหน้านี้แล้วนะครับ แล้วขายให้กับผู้ผลิตมือถือเจ้าต่างๆ
(ซึ่งเจ้าอื่นๆเขาก็ซื้อกันไปแล้วผลิตสินค้าออกมาขายตามปกติ)
โดนฟ้องรวดทุกอย่างเลย แล้วจะพัฒนายังไงละครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
คือปกตินี่ Nokia ถือ Patent หลายอย่างมากครับ โดยปกติแล้วลักษณะนี้ Nokia จะเลือกบังคับให้จ่ายค่าใช้ Patent ตามที่ Nokia เห็นสมควร ว่าง่าย ๆ บริษัททั้งหลายที่ทำมือถือ GSM จะต้องจ่ายเงินค่าใช้ License Patent ต่าง ๆ ให้โนเกียเครื่องละ 3% ของราคาขาย ส่วนบริษัทมือถือเล็ก ๆ บางรายที่ทำมือถือ GSM เหมือนกันแต่ไม่ต้องจ่ายก็มี เพราะว่ามันเป็นสิทธิของเจ้าของ Patent เองว่าจะเลือกฟ้องร้องใคร ยินยอมให้ใครใช้โดยเสียเงิน หรือไม่เสียเงินก็ได้ คือถ้าบริษัทนั้นมันเล็ก ไม่สำคัญ Nokia อาจจะไม่เรียกเงินก็ได้ (แบรนด์จีน ๆ ทั้งหลายผมว่าไม่จ่าย Nokia หรอก ส่วน Nokia เองก็ can't be fucked)
ส่วนกรณีของแอปเปิลนั้น Nokia ก็จะเก็บ 3% ตามปกติ เพียงแต่ว่า Nokia พบว่าแอปเปิลมีรายได้จากส่วนแบ่งของผู้บริการเพิ่มอีก ว่าง่าย ๆ บริษัทเครือข่ายมือถือไหนต้องแบ่งรายได้กับแอปเปิลเพิ่ม โนเกียก็ขอเก็บตามนั้นอีก คือตอนแรกก็จะเก็บ 3% ของค่าเครื่องที่ขาย แต่ตอนหลัง Nokia เปลี่ยนใจมาขอเก็บ 3% ตามที่แอปเปิลได้ทั้งหมดครับ ทีนี้แอปเปิลก็กรี๊ดเลย เพราะว่าแอปเปิลอยากจ่ายเป็นจำนวน $ แต่ Nokia ต้องการเป็น % แทน
ส่วนเรื่องใครเจ็บกว่าหากสินค้าโดนแบนทั้งคู่ สรุปง่าย ๆ ว่าแอปเปิลครับ เพราะถ้าสินค้าแอปเปิลโดนแบนจริง ๆ ละก็สินค้าทุกตัวของแอปเปิลโดนแบนเกือบหมดในสหรัฐ นั่นคง 50% ของ Sales ทั้งบริษัทเลยมั้ง ในขณะที่ Nokia โดนแบนจริงก็ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก เพราะ Nokia ขายมือถือในสหรัฐน้อยมาก ๆ อยู่แล้ว
งานนี้ต้องรอดูอย่างเดียวว่าแอปเปิลจะยินยอมแบบไหน
แต่ถ้าต้องการหาคนผิดละก็งานนี้คงต้องโทษอายุของ Patent น่ะครับ แต่มันก็แล้วแต่คนนะ Nokia ใช้เงิน R&D ไปเยอะมากก็สมควรได้เงินอยู่แล้ว เป็นสิทธิของเขา แต่สำหรับหลาย ๆ คนเทคโนโลยีเบสิกแบบ GSM ก็น่าจะเป็นความรู้พื้นฐานไปแล้ว แอปเปิลโดนแม้กระทั่ง Patent ปุ่มกด Volume ด้านซ้ายเลย ที่ดูเหมือนเป็นปุ่มเดียวกันแต่กดเสียงขึ้นลงได้ = =
@TonsTweetings
เห็นด้วยครับ
ไหนใครว่าระบบ patent ไม่ใช่ปัญหา - -
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ผมว่ามันควรมีการแบ่งว่าอายุ Patent ลักษณะ Gadgets น่าจะถูกแยกออกจาก Patent ยาน่ะครับ
ไม่ใช่เหมารวมว่า Intellectual Property ทั้งหมดควรมีอายุยาวแบบนี้
@TonsTweetings
Patent พวกนี้หลายๆ ตัวไม่ใช่ Gadget นะครับ อย่างไอ้ปุ่มลดเสียงนี่ก็เห็นด้วย แต่อย่าง GSM นั้นเทคโนโลยีหลายตัวต้องยอมรับว่าเขาลงทุนไปหนักมาก ความเสี่ยงสูง คู่แข่งก็ก็สู้กันมาแทบกระอัก (CDMA ของ Qualcomm เองก็ไม่ได้เกิดไปทีแล้ว)
ผมเห็นด้วยว่าระบบทรัพย์สินทางปัญญาตอนนี้มีการคุ้มครองที่หนาแน่นเกินไป แต่จะลดลงแค่ไหนนี่ยังคิดไม่ออกแฮะ
lewcpe.com, @wasonliw
ถูกต้องตรงประเด็นครับ ตอนนี้ปัญหาคือวิธีแก้มันไม่มี = =
@TonsTweetings
GSM ก็เป็นมาตราฐานกลางโนเกียแทบไม่มีส่วนในการพัฒนานะครับ ช่วงแรก Ericsson ก็เป็นต้นเรื่องในการพัฒนาและสนุบสนุน (ถ้าจำไม่ผิดเสา GSM ตัวแรกก็ของ Ericsson ดูแล) ถ้าจะจดแค่ส่วนประกอบเพิ่มเติมบางส่วนแล้วมาบังคับคนอื่นห้ามใช้ก็เกินไป (ผมว่าอะไรที่มันเพิ่มเข้ามาไม่สมควรจดสิทธิบัตรได้ด้วยซ้ำ เดี๋ยวก็อาการเดียวกับ MS Office ที่ติดปัญหาเรื่อง XML )
อ่านคอมเมนท์ต้นๆ ข่าว กับอ่านข้างล่างนี้มัน.. ตกลงเรื่องเดียวกันใช่ไหม
ถึงขนาดกีดกันห้ามขายเลยที่เดียว
โอ้ยยย ดราม่าไม่สิ้นสุด Apple ถ้าพลาดนี่ซวยหมากาฬเลย
แต่ถ้า Nokia พลาดนิดก็จิ๊บๆ - -''
ตกลงจะเปนไงหว่า
นอกศาล ?
ปล่อยไปสักพัก คงมีทางออกที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ก็ติดตามเรื่องราวเพื่อความตื่นเต้นไปก่อน บริษัทใหญ่ขนาดนี้คงไม่ปล่อยปัญหาแค่นี้ ทำบริษัทมีปัญหาขนาดขาดทุนเจ๊งไปเลยหรอก ดู GM กับ AIG เจ๊งสุด ๆ ขนาดนั้นยังอยู่ได้เลย
เขาทะเลาะกันเพื่อผลประโยชน์ ดังนั้นไม่มีทางที่จะสู้กันจนขาดทุนล้มละลายหรอก ยังไงผู้ถือหุ้นก็ไม่ยอม ที่สู้กันนี่ก็แค่ขู่กันเท่านั้นแหละ เพียงแต่ขู่แบบแรงๆ
อ่านข่าวแล้วก็อย่าไป"อิน"กับมันมากนัก เพราะตอนจบอย่างไรมันก็ไม่ดรามานักหรอก
ผมว่า Nokia หาเรื่องอยากขายมือถือ Mutitouch ใน US โดยไม่เสียค่าสิทธิบัตร
เพราะปีนี้ (2010) Symbian กับ Maemo จะรองรับ Mutitouch แล้ว
ยังไงก็เชียร์พี่โนจ้า
เอาล่ะ มาดูบริษัทในอเมริกาโดนถล่มบ้าง หลังจากที่ถล่มคนอื่นมาตลอด