Stephen McGill ผู้อำนวยการฝ่าย Xbox ของไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Xbox360Achivements ในหลายประเด็น แต่ที่เป็นข่าวคือความเห็นของเขาต่อ Blu-ray
ผู้สัมภาษณ์ถาม McGill ว่าข้อจำกัดของแผ่นดีวีดีมีผลกระทบต่อคุณภาพของเกมบน Xbox หรือไม่ เขาตอบว่าในช่วงแรกมีคนวิจารณ์ไมโครซอฟท์กันมากว่าไม่ยอมใส่หัวอ่านแผ่นแบบใหม่เข้ามา แต่ตอนนี้กาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าไมโครซอฟท์ตัดสินใจถูกต้อง การเลือกดีวีดีทำให้ตัวเครื่องมีราคาถูก
เขายังบอกว่าคนกำลังเมินแผ่น Blu-ray เพราะคนข้ามจากดีวีดีไปสู่การดาวน์โหลดและสตรีมมิ่งเลย และไมโครซอฟท์ก็มีบริการสตรีมหนัง 1080p คุณภาพเดียวกับ Blu-ray แล้ว ไม่มีใครต้องการแผ่น Blu-ray อีก
ที่มา - Xbox360Achievements, THINQ
Comments
ผมว่าจะจริง
คำตอบเดียวกับที่ Steve Jobs เคยตอบเมล์
นานๆ ทีจะเห็นตรงกัน
content เหล่านี้ไม่มีคุณค่าที่จะเก็บกันบ้างหรือ ผมหมายถึงเก็บในกล่องแล้วใส่ไว้ในตู้หน่ะ
ในมุมมองผมนะ ของพวกนี้ในต่างประเทศราคาถูก พอมันถูกก็เลยไม่รู้จะเก็บทำไม
ในบ้านเราก็คงคล้ายแผ่นก็อปมั้ง ก็ยังเคยเห็นมีคนเก็บใส่ตู้ไว้มีคุณค่า
ของบางอย่างเสื่อมค่าลงในวันพรุ่งนี้ อย่างการ์ตูนที่เคยเป็นสมบัติสำหรับเด็กชาย อาจถูกมองว่ารกบ้านตอนแก่ลง
แต่บางชุด ขายได้ราคามากกว่าหน้าปกหลายเท่าเลยนะครับ การ์ตูนที่คนหาๆ กันเช่น ไยบะ (ปกแรก) Super Dr.K (ปกขาว) และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
ไรท์แผ่นเก็บใส่กล่องเอง แล้วก็ไปวางในตู้.....
เอ๊ะ... ! ตอบเหมือนศาสดาเลย - -'
แต่ไม่โดนคนด่าเยอะเหมือนศาสดานะ
ผมยังอยากเก็บเป็นกล่องใส่ตู้นะ ไฟล์ในhd กับ แพกเกจสวยๆ คุณค่าทางจิตใจมันต่างกันนะ
หรือเรายังยึดติดอยู่
กลับกันเลยแฮะ สงสัยบ้านผมเล็ก มัวแต่เก็บแบบกล่องแล้วไม่ต้องได้อยู่อาศัยกันพอดี ^^"
ก็อยากจะเก็บเป็นคุณค่าทางจิตใจนะคะ แต่หันไปมองห้องตัวเองแล้ว ตู้เต็มไปด้วยแผ่นซีดีเพลง แผ่นหนัง และหนังสือ
ช่วงสามสี่ปีหลังมานี้ไม่ซื้อมาเพิ่มเลยค่ะ เก็บเป็นไฟล์อย่างเดียว เพราะมันไม่มีที่เก็บแล้ว
เป็นมุมมองของผู้ให้บริการหรือเปล่า ?
ผมว่าไม่ แผ่น blu ray write ได้ ราคาแผ่น ละไม่เกิน 20 มันจะฮิตแน่นอน
+100
ลองให้มันราคาเหลือเท่านี้ เครื่อง write เครื่องหละ พันเดียวอย่าง dvd ตอนนี้สิ
load file 10 20 G สำหรับนังเรื่องนึง ผม คงต้อง write เก็บหละ ขนาด ADSL ตอนนี้ผม load ได้ราว 10 Mb กว่าๆ load หนัง DVD 4 - 5 G บางทียังขี้เกียจเลย
Ton-Or
เห็นด้วยครับ ถ้าราคาลงมาในระดับนั้น ฮิตแน่นอน
ผมเริ่มซื้อเครื่อง dvd writer และแผ่น dvd-r ในช่วงระดับราคานั้นเหมือนกัน
อย่าลิมคำว่า .torrent ด้วยสิ ^^
อย่างน้อยที่สุด Blu-Ray ก็เจ๋งกว่า DVD อ่ะ และแน่นอน PS3 เจ๋งกว่า Xbox
เอาไรมาอ้าง ?
ที่นี่เมืองไทย
เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกที่เห็นตรงกัน เพียงแต่ว่าไม่ได้ออกมาพูดเท่านั้นเอง
เราจะเห็นแต่ศาสดามาแสดงจุดยืนให้วิพากย์วิจารณ์กันสนุกปาก
ใครที่มองเห็นอนาคตได้ชัดเจนกว่าก็ก้าวลำ้นำหน้าไปได้มากกว่า
ติดตามกันต่อไปว่า ปี 2015 แผ่น Blu-ray ยังแพร่หลายในวงกว้าง
หรือว่าวางขายกันเป็นของสะสมเท่านั้น
สตรีมมิ่ง นี่มันถือว่าเพ้อฝันเลยนะสำหรับบางประเทศ
ยิ่งมือถือบ้านเรานี่ ถ้าไม่มี wifi ก็อย่าได้หวัง ...มากเกินไป..
รากหญ้า บ้านเราคงไม่มาสตรีมด้วยหละครับ
กลุ่มนี้ใหญ่น๊า
งั้นรากหญ้าของคุณซื้อเครื่องอ่าน Blu-ray?
เออะ ต้องซื้อจอ HD อีก
May the Force Close be with you. || @nuttyi
มันยากตรงไหนอะ
นั่นสิครับ มันยากตรงไหนไอการ stream เนี่ย
อย่างนี้ครับ
ตาม ตจว เนี่ย คุณเข้ามเมืองเข้ากรุงเทพ มาซื้อเครื่องเล่นแล้วหิ้วกลับไปดูได้
แต่กับเน็ต ชุมสายบางที่ก็ไม่มี บางที่ได้1Mbps ก็บุญโข การดูหนังระดับ Full HD ผ่านการสตรีมมิ่งนี่มันฝันเฟื่องมากเลยครับสำหรับกรณีนี้ :)
ดังนั้นแล้วในบางส่วน (และคิดว่าคงมีมาก) การดูจากแผ่นยังคงง่ายกว่าการดูผ่านสตรีมมิ่งไปอีกนานครับ
มันก็จบเมื่อ 3G ครอบคลุมครับ
ส่วนจะอีกนานรึเปล่า
อยู่ที่ว่ารัฐบาลนี้จะโง่แค่ไหน และรัฐบาลหน้าจะเปลี่ยนเป็นมีวิสัยทัศน์มากกว่านี้หรือไม่ ละล่ะครับ
ส่วนตัวเห็นว่า ถ้าไม่ใช่พรรคที่เป็นแกนนำปัจจุบัน ก็คงจะไม่เกินแปดปีที่ 3G จะครอบทั้งประเทศ
แล้วมาว่ากันกับ 4G อีกที
ถ้า 3G ครอบคลุม ผมว่าก็ยังจะเจอปัญหาแย่งกันใช้จนความเร็วลงต่ำอยู่ดีครับ การโหลดหนังแบบ Full HD ก็ยังไม่สะดวกเช่นเดิม (แต่ถ้าเป็นหนังที่ความละเอียดต่ำกว่านั้น อาจจะระดับ DVD ธรรมดา คิดว่าคงมีการดาวน์โหลดมากขึ้นแน่นอน)
ถ้าบวก NumberPort ย้ายค่าย ผมว่าน่าจะช่วยได้มากขึ้น เมื่อผู้ใช้เริ่มรู้สึกว่า B/W เต็ม ก็เสี่ยงย้ายค่ายได้ง่ายๆ
รวมถึงการจัดโปรโมชั่น ดาวน์โหลดโดยเฉพาะ ตั้งโหลดเป็นช่วงเวลาพิเศษ
อันนี้ก็ต้องลองดู
ผมเชื่อว่า 3G น่าจะมีปัญหาด้านราคาครับ ขนาดราคา ADSL ปัจจุบันยังบ่นกันว่าแพงเลย
ใหญ่แต่ไม่มีตังซื้อ ไม่นับนะครับ
+1
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เขาเลยไปซื้อที่เขามีปัญญาไงครับ แล้วก็บ่นว่าของละเมินทำให้สูญเสีย เป็นพันล้าน
ถ้าของแท้ไม่มามองตลาดตรงนี้แล้วทำของออกมา ชนกับแผนผี แล้วจะออกมาบ่นอาราย
ไม่มีตังซื้อของจริงก็อย่าดู ? ถ้าเป็นแบบนี้ก็ให้แผ่นผีมันร่ำรวยกันต่อไปน่ะครับ
Ton-Or
+1 เหมือนเกมส์ StarCraft II มีตังค์ซื้อแผ่นแท้ แต่หาซื้อไม่ได้ เลยต้องสอยแผ่นผี เกลื่อนตลาดเลย
Sc2.
ซื้อ online ได้ครับ
เห็นแต่ละคนตอบแล้วก็เห็นด้วยกับคอมเมนต์นี้ ก็ถ้าคิดว่าเป็นกลุ่มใหญ่แต่ไม่มีตังค์ซื้อก็ไม่สนใจ แล้วมันจะไปกระทบให้เค้าสูญเสียอะไร? คนละตลาดอยู่แล้วนี่
ผิดประเด็นป่ะครับ
ประเด็นคือ
MS : แผ่น BD จะตาย สตรีมจะเกิด
boykeng : รากหญ้า บ้านเราคงไม่มาสตรีมด้วยหละครับ
ซึ่งผมแปลเอาเองว่า รากหญ้าบ้านเราคงไม่มีเน็ตแรงๆ มาสตรีมด้วย
งั้น BD จะต่างอะไร รากหญ้าของเราก็คงไม่มีเครื่องเล่น BD หรือจอ HD เช่นกัน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ลองไปดูคนที่เราบอกว่าตาชนบท หรือ รากหญ้านะครับ มีเครื่องเล่น DVD มี จอ40 นิ้วดูกัน คุณว่าคำพูดนี้ถ้าพูดเมื่อ 8 - 10 ปีทีแล้ว มันคงฟังดูไม่น่าจะเป็นไปได้ วันนี้ Blue Ray ก็เช่นกัน
ผมไม่ได้ดูถูกเค้านะครับ
คุณเริ่มก่อน
ผมแค่บอกว่า
ถ้ามีปัญญาซื้อ BD HDTV ก็มีปัญญาโหลดเหมือนกันแหละ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผมไม่ได้บอกว่าคุณดูถูกเขา
และผมไม่ได้เริ่มอะไรก่อนทั้งนั้นหละครับ
เรื่องเน็ทตามที่ iStyle พูดผมยังนึกไปไม่ถึงเลย
ผมคิดว่าผมไม่ได้ดูถูกใครทั้งนั้นด้วย
ผมเพียงแต่บอกว่าเขานิยมแบบแผ่น เขาไม่เข้าใจstream
ผมไม่อยากให้โพสนี้ ไปอยู่ในเวป ดราม่านะ
เอ่อ....
ครอบครัว (เล็ก) ผมกลับตจว. เพื่อไปพอกับครอบครัว (ใหญ่) ทีนึง ก็หอบของฝากไปเยอะอยู่
ส่วนใหญ่เป็นของกิน แต่นานๆ ทีจะมีของใช้ไปด้วย
จำได้ว่าครั้งล่าสุดนี้ ญาติๆ รวมเงินกันออกทีวีจอใหญ่ให้อาม่าครับ
แล้วก็ซื้อ DVD พร้อมแผ่นหนังจีนๆ, ออกกำลังกายไว้ให้แกดูครับ
อ่า แต่ตรงนั้นเน็ตยังไม่มีเลย อยากเล่นต้องเอา modem ไปต่อ 56k T^T
ขอบคุณ ผมกำลังจะบอกว่า แผ่นหน่ะ ยังไม่ตายง่ายๆหน่ะครับ มีตลาดรองรับอยู่ แต่เจ้าของลิขสิทธิ์จะได้ประโยชน์หรือไม่อันนี้ไม่แน่ใจ บางครั้งผมว่า stream ทำให้ละเมิดกันสะดวกเลยครับ คนปั๊บแผ่นก็นั่ง stream กันทั้งวัน อัดลงแผ่นๆๆๆ สะดวกดี
แผ่น blueray ไม่ได้แผ่นละ 5 บาทเหมือน dvd นะครับ
เครื่องเล่น blueray ก็ไม่ได้เครื่องละ 900 บาทเหมือน dvd ด้วย
วันนี้ไม่ใช่ 5 ปีไม่แน่
ผมเก็บแผ่นนะ
เำำพราะ Xbox และ Mac ไม่ได้ใช้ บลูเรย์ ถึงได้เอามาพูดได้ อิอิ
จริงตั้งกะมัน Jailbreak ได้เกม Blu-ray ลงทาง torrent เพียบเลย
มีทั้งเกม 1.5GB (ใช้คุ้มแผ่นชิหายเกม ex ด้วย) ยัน 40GB
พูดยากครับ แต่หลักๆคือมันแพงมากเกินไป ถ้าแผ่นถูกซะอย่าง (ไม่เกิน 400 บาท) ก็น่าจะดีกว่านี้ ถ้ายังแพงอย่างนี้ตายแน่ครับ
แผ่นมันจับได้ ได้ลูบๆคลำๆ ก็สุขใจละ เวลานานๆไป เราได้กลับมาหยิบมาจับ มันทำให้รู้สึกดี ย้อนกลับไปในช่วงเวลาหนึ่ง เพียงแค่อย่ามองให้เป็นบลูเรย์แผ่นหนึ่ง แต่มองให้มันเป็นสิ่งของในความทรงจำชิ้นหนึ่งดีกว่า
คนเล่นเกมจริงๆ ส่วนใหญ่เขาอยากได้ อะไรที่จับต้องได้นะ
+1
อย่างน้อยเกมส์ไหนที่เจ๋ง ๆ ระดับตำนาน ก็อยากเก็บไว้บ้าง เผื่ออยากระลึกความหลัง จะได้หยิบเอาออกมาเล่น
เก็บไว้นานๆ เพื่อเอาไปขายได้ไง
แบบตลับมาริโอ้ ฮาๆ
ไปซื้อหุ้นบ.ฮาร์ดดิสก์กัน
แผ่น blue-ray ผมว่ายังอยู่ไปอีกนานนนนน ....
ผมเทียบราคาแผ่น blu-ray กับ hd ที่ความจุเดียวกัน hd ถูกกว่าเยอะเลย
แต่ blu-ray drive มันดีตรงที่เปลี่ยนแผ่นได้
ยังไงผมก็ว่าน่าจะอยู่นานครับ คนที่ไม่ไฮเท็คในโลกนี้ยังมีอีกเยอะ
มันตายเพราะออกมาจาก Sony ที่ขายอะไรก็แพงไปหมด
ซึ่งการเก็บข้อมูลตอนนี้ผมว่าความจุของแผ่น Blu-ray ก็น้อยเกินไปแล้ว
ตอนนี้ถ้าซื้อคอมใหม่ HD ขั้นต่ำก็ 1TB กันแล้ว ต้องใช้แผ่น Blu-ray ถึง 40 แผ่นกว่าจะ backup หมด
windows ของผมก็ดาวน์โหลดมาครับ :-P
jobs อ่านขาด blueray มันเป็นเพียง container อีก 10 ปีก็อ่านกันไม่ได้แล้ว ดูอย่าง vdo,cd สิ ถ้าอีก 10 ปี เกิดอยากจะดูก็ยังหาโหลดได้มากมาย blueray ไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากเก็บหนัง ที่รอวันอ่านไม่ได้
จึงออกแบบให้ iPhone และอุปกรณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนแบต เพิ่มเม็มไม่ได้!?
พวกที่เพิ่ม mem เอง เพิ่มเป้น หรือต้องเพิ่มเองภายหลัง มันมีน้อยกว่าพวกไม่เป็นครับ ดังนั้นถ้าลด slot ได้ แล้วทำให้ device บางและโอกาสเสียน้อยลง ผมว่ามันก็คุ้ม
แต่โดยส่วนตัวรับไม่ได้จริงๆ กับการเปลี่ยนแบตด้วยตนเองไม่ได้ T-T
นึกถึง HD-DVD ถ้ามันยังอยู่ในตอนนี้ อาจจะขายถูกกว่าก็ได้นะ
ก็สมควรแล้วที่มันจะไม่เจริญ แม่งค่าเครื่องเล่นโค ตะระแพงแล้ว
แผ่นก็ดันโคตะระแพงอีก แล้วอยากได้ความนิยมเหรอ ถุย ??
ตอบได้ตรงใจ
จะบอกว่า ผมไม่ได้ใช้ DVD Writer มาเกือบ 2 ปีได้แล้วมั้ง ทุกอย่างอ่านจาก H/D เก็บใน H/D หมด
ตอนนี้ DVD มีประโยชน์ไว้แค่ Write Windows และ ไว้ติดตั้ง Windows ก็เท่านั้น เหอๆๆ
+1 แต่ผมไม่ได้ไรต์เลย เพราะว่าลงวินโดวใช้ usb เอา ไวกว่า
แต่ก็มีไร้ต์ hiren ไว้บ้างแค่นั้น
เหมือนกันเลย
รู้สึกเสียดาย DVD เปล่าอีก 20 กว่าแผ่น= ='
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ถ้าวันใด hd มันเจ๊งขึ้นมาแล้วจะรู้สึก
hd มันเป็นอุปกรณ์ที่เคลื่อนไหวได้ อย่าไว้ใจมันนัก
ถ้ารู้จักดูแล มันก็ไม่พังหรอกครับ ถ้าเป็น Ext. HDD 3.5" ก็เสียบปลั๊กผ่าน UPS ไว้
HDD. 1 ตัวอายุการใช้งานตลอด 24 hr. ของมัน ไม่เกิน 3-5 ปี ถ้ามีเงินก็ซื้อลูกใหม่มาเปลี่ยนแล้วของเก่าก็ไว้ทำ temp สำหรับโหลด bit มาเก็บชั่วคราวไว้ แค่นี้ข้อมูลก็ไม่สูญหายหรอกครับ
ผมทำแบบนี้มา 10 ปี เพิ่งเคยเคลม hdd. แค่ครั้งเดียว
ปล. ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ เปลี่ยนมาใช้ mouse, keyboard ไร้สายก็ช่วยได้นะครับ บางคนกระแสไฟฟ้าจากร่างกายแรง มันวิ่งตามสายไปเข้าคอมพ์ได้นะเออ.. ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ตอนผมเด็กๆ พี่ชายของผมซื้อเครื่องกับแผ่น LaserDisc มาเก็บ
เค้าก็นั่งลูบ นั่งคลำ นั่งเช็ด พอ มายุค DVD ก็เหมือนเดิม โอโห The Lord of the rings
แบบเป็น Set extended Version !! Star Wars1-6 !! ฯลฯ เต็มบ้าน
เดี๋ยวนี้ ไม่มองเลย...ฝุ่นเกาะหนาเตอะ รกบ้านจริงๆ จะทิ้งก็ไม่ได้
จะขายก็เสียดายราคา จะให้ ก็หวง แต่เจ้าตัวตอนนี้มี HD 1 TB อยู่ 2 ลูก มีหนังอยู่ในนั้น
ซัก 1 ลูกครึ่ง ได้มั้ง
สรุปว่าเห็นด้วยครับ ตายแหงมๆ
และผมคิดว่าพี่ผมคงไม่เล่นอ่ะ Blu-ray ผมด้วย..มันข้ามไปแล้วอ่ะ คงมิอาจย้อนคืน
เหมือนถ่ายรูปมั้ง เดี๋ยวนี้อยากดู ผมก็เปิดจากคอมฯ ไม่ไปล้างที่ร้านนานแล้ว
จินตนาการตาม ซื้อ LaserDisc เปิดดู นั่งลูบ นั่งคลำ
Laser Disc บ้านผมก็มี เครื่องเล่นของ Sony พังแหล่ไม่พังแหล่ เข้า0 เป็นสิบรอบ พี่แกซ่อมไม่หาย เลยไม่ค่อยได้แตะเลย เสียดาย แผ่นมีตั้งเยอะ 2-3 ร้อยแผ่น เวลาคุยกับใคร ไม่ค่อยมีใครรู้จัก Laser Disc ซักคน -"- แถมหาว่าเราโมมั่วๆอีก -"-
เก็บไว้เถอะครับ มันมีมูลค่าทางใจมาก
ตอนนี้ผมมีเครื่องเล่นวิดีโอเทปอยู่อันหนึ่งและก็ม้วนเทป เก็บไว้เป็นที่ระลึก
อย่างเครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่าๆ มีมูลค่าเยอะเหมือนกันนะ
ผมอยากได้ Blu-Ray มาเผาเก็บไฟล์ HD นี่แหละ...
:: DigiKin8 ::
ในอนาคตก็แน่นอนแต่จะช้าเร็วมากแค่ไหน แต่ผมก็ชอบโหลดมากกว่านะ อิอ
***ความเห็นนี้อาจไม่เกี่ยวกับ xbox แต่เกี่ยวกับ bluray ครับ
ผมเป็นคนบ้าดูหนัง + ชอบฟังเพลง
ตอนวัยเด็กถึงวัยสะรุ่น
สะสมเทป หลายร้อยตลับ รวมราคาก็หลายหมื่นอยู่
วีดิโอ VHS ก็พอประมาณ แพงๆก็ ET , moonwalker ม้วนนึงก็ราคาหลักพัน
(พันนึงค่าเงินสมัยนั้นแพงมาก)
ทั้งหมดนี้ไม่นานชำรุด ดูไม่ได้ ฟังกระตุก แล้วก็สูญสลายไป
========================================
วัยทำงาน
เนื่องจากเข็ดและราคามันแพงเกินเอื้อมคือ laser disk อันนี้ไม่ได้เก็บ+ไม่มีเครื่องเล่น
พอ cd เพลงมา ก็ซื้อเก็บอีก micheal jackson dangerous แผ่นก็เกือบพัน
จน vcd มาก็ซื้อเก็บนิดหน่อยเพราะภาพมันห่วยมาก รับไม่ได้ อาศัยไปเช่าดู
จวบจน dvd มาก็สะสม DVD ต่อ ก็ซื้อเก็บอีกเป็นร้อยๆเรื่อง กับไอ้เรื่องที่เคยซื้อไปแล้วสมัยเป็น VDO ก็ต้องเสียเงินซื้ออีกรอบ
แต่ปัจจุบัน dvd บางแผ่นก็ดูไม่ได้แล้ว cd ก็เช่นกัน
ตอนนี้ก็ทำการ rip จากแผ่นตัวเองทั้งหนังทั้งเพลงได้อยู่ไม่กี่แผ่น บางแผ่นเป็นรอยนิดนึงพอ rip มาดูก็สะดุด
คุณคิดดูว่าผมจะสะสมแผ่น bluray ต่อมั้ย ?????
ถ้ามีหนังขายแบบเป็น file ผมจะซื้อทันที (เพลงน่ะพอมีแค่ mp3 แต่ผมอยากได้ lossless หนังผมยังไม่เห็นมี ถ้าใครรู้วานบอกด้วย)
เพราะผมคิดว่าผมจะไปเสียเงิน เสียเวลาไปซื้อแผ่น bluray มา rip ทำไม
เพราะอีกไม่นานมันก็ต้องสูญสลายไปอยู่ดี
========================================
ปล1 ไม่ต้องบอกก็รู้นะครับ ว่าปัจจุบันผมดูหนัง ฟังเพลงจากไหน
ปล2 ความเห็นส่วนตัวครับ ใครว่าผมคิดผิดเชิญด่าได้
+1 หนังบางเรื่อง ที่ผมซื้อมาตอนช่วงเทคโนโลยี DVD มาใหม่ๆ (แท้) ตอนนี้เริ่มเปิดไม่ได้บ้างแล้วล่ะครับ Rip ก็ไม่ได้แล้วด้วยเพราะไม่ยอมอ่านแผ่น 1400-1600 ในสมัยที่มันมาใหม่ๆ ถือว่าแพงนะสำหรับผม (VCD แท้ของ CVD ราคาหน้ากล่อง 450 โดยประมาณในขณะนั้น)
เอ่อ สรุปว่า CD, DVD แผ่นแท้นี่ก็อยู่ได้แค่ระดับสิบปีเองเหรอครับ? เพิ่งจะทราบนี่แหละ
(โดยส่วนตัวไม่มีปัญญาซื้อแผ่นแท้ในยุคแรกๆ เพราะแพงมาก)
พอเป็น HD ล่ะรีบแจ้นอยากจะมี อเมริกันก็ชาตินิยมนะ
ผมไม่ชอบแผ่น vcd dvd (ไม่รู้ blu ray เป็นไหม) ที่โฆษณาเยอะมากกว่าจะได้ดูหนัง กด skip ก็ไม่ได้ แต่ steam หรือที่ load มา แห๋ม ทันใจ เข้าตัวหนังได้เลย
ตั้งแต่ผมหันมาดู DVD นี่ผมไม่เจอโฆษณาอีกเลย
DVD แบบถูกๆ ค่ายเล็กๆ มีโฆษณาครับ
ประมาณว่าห้าม skip
ลงทุนซื้อแผ่นแท้มาดูแล้วยังจะมีโคสะนามารังควานอีก
รู้สึกโชคดีที่ไม่เจอ :P
ผมว่ามันไม่ถึงกับตายหรอกนะครับ
มันน่าจะโตไปพร้อม ๆ กันมากกว่า แต่แน่นอนว่าดาวน์โหลดมันต้องมียอดสูงกว่าอยู่แล้ว
ส่วนพวกแผ่นก็จะโตในอัตราที่ลดลง
ส่วนตัวผมยังชอบเก็บเป็นแผ่นอยู่นะ ประมาณว่ากล่องมันสวยดี แล้วมันค่อนข้างมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าสิ่งที่จับต้องไม่ได้อย่างพวกไฟล์ในคอมพิวเตอร์ (เหมือนรูปถ่ายที่ล้างออกมาเป็นใบๆกับรูปถ่ายที่เป็นไฟล์ดิจิทัลนั่นแหละ)
นิสัยผมตอนนี้จะเป็นไปโหลดมาดู (ยังไม่เคยโหลดแบบถูกกฎหมาย แต่ถ้ามีแบบราคาถูกเหมือนเช่า ก็จะโหลดมาดูเหมือนกัน) ถ้าหนังดีก็ซื้อแผ่นแท้มาเก็บไว้อีกทีนึง
อีกอย่างกว่าจะโหลดได้เรื่องนึง เน็ตผมโหลด 6-7 ชั่วโมง พอกับเวลาขึ้นรถไปห้างแล้วเดินเลือกแผ่น ซึ่งผมว่าเวลาเดินเลือกดีวีดีนี่มันมีความสุขกว่าค้นหาแล้วกดโหลดเยอะเลย
+1
+1
twitter.com/exfictz
ทุกวันนี้ผมยังซื้อ CD Audio อยู่เลย (เฉพาะที่ชอบและมองว่าคุ้มในความคิดผมจริง ๆ)
น่าจะมีคนทำcloudขายหนังแบบ full HD แบบ
ไม่สนอุปกรณ์ อยากดูที่ไหนเมื่อไหร่ก็remoteมาดู เอาราคาถูกๆ
คงจะดีมากมายและคงช่วยลดโลกร้อนได้เยอะ อิๆๆ
ตอนนี้มีแบบขายพร้อม HDD. ครับ คิดว่าเป็น solution ที่ดีสำหรับพวกละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ต้องการช่วยโลก 555+
BD ในอนาคตจะตาย ... เพราะการมาของ BD XL มากกว่ากระมัง ??
ผมซื้อ Cd audio/DVD/BD แผ่นแท้มาบูชา แต่ฟัง/ดู file flac/MKV/BDMV ผ่านคอมแล้วต่อAVRเอาครับ :P
ไม่ได้ซื้อทุกเรื่องที่ดูหรอก แต่พยายามซื้อเรื่องที่ถูกใจมากๆเท่าที่งบจะอำนวยโดยคิดว่าอย่างน้อยเราก็ต้องตอบสนองให้เงินมันไปถึงผู้ผลิตบ้างสักนิด เหมือนการตอบแทนที่ซื้อศิลปะดีๆน่ะครับ โดยส่วนตัวถ้าการสนับสนุนผู้ผลิตได้โดยที่ให้ความรู้สึกว่า ได้ของอะไรมาเก็บบ้างเป็นที่ระลึก ก็คงดีกว่าการเสียเงินแล้วโหลด file เพียวๆครับ แต่ก็ไม่แน่ถ้่ามันลดราคาลงได้อีกแบบโหลดเกมผ่าน steam ราคาถูกกว่าซื้อแบบกล่องอันนี้ก็น่าสน เรื่องความคงทนยังไงก็ต้องเปลี่ยนmedium ไปเรื่อยๆอยู่แล้ว แม้จะเก็บใน HDDเราก็คงไม่เก็บ file ในไว้ใน HDDเดิมอายุเกิน 5ปีหรอกจริงไหม เราก็ต้องย้ายไปตัวใหม่เรื่อยๆมันก็ไม่ต่างจากการเปลี่ยนสื่อบันทึกแบบอื่นหรอก
อ้อ ราคาแผ่นหนัง BD แท้ในเมการาคาถูกมากนะครับ เรื่องออกใหม่ราวๆ 600-700บาท เรื่องเก่าๆเหลือแค่ 300-400บาทถ้าเทียบค่าครองชีพแล้วนับว่าถูกกว่า VCD บ้านเราอีก เครื่องเล่นบ้านเราก็ถูกลงเยอะแล้ว เห็นของ philips ราคาสามพันนิดๆก็มี BD writer ไว้ต่อคอมก็ราคาสามพันปลายๆ แผ่น BD-R 25G ถูกสุดแผ่นละ 48บา่ืท ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนขึ้น รอกแต่ค่ายหนังบ้านเราจะลดกำไรลงขายพอๆกับราคาที่เมกาได้เสียทีนั่นแหละ
+1
'เหมือนการตอบแทนที่ซื้อศิลปะดีๆน่ะครับ'
twitter.com/exfictz
อย่าเพิ่งตายเลยครับ Bluray ถ้าไม่มีแล้วผมจะโหลดหนัง bluray rip จากไหนล่ะ :P
ทุกวันนี้ XRCD, SACD, + HDCD ที่ออกมานานแล้ว และไม่ได้รับการพูดถึงเท่า blu-ray ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ในนั้นมีคนที่ให้คุณค่ากับพวกมันอยู่
twitter.com/exfictz
Microsoft กับ Steve Jobs ออกมาพูดเรื่องเดียวกันแต่เนื้อหาของ Comment แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เห็นแล้วปลง
That is the way things are.
เพราะ apple บอกไม่จำเป็น ถ้าจะใช้ก็หาซื้อเองละกัน
ส่วน MS บอกไม่จำเป็น ถ้าไม่ใช้ก็ถอดออกเองละกัน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
MS บอกว่าอีกหน่อย Blu-ray จะตาย
Apple บอกว่า Blu-ray ไร้อนาคต
มันแตกต่างกันอย่างไรครับระหว่างจะตายกับไร้อนาคตนี่ ลองไปดู comment ทั้งหลายของข่าวนี้นะครับจะเห็นความแตกต่างจากข่าวนี้อย่างเห็นได้ชัด หลาย comment ในข่าวนั้นก็เน้นประเด็นที่ว่าถ้าไม่ซื้อ Blu-ray แล้วจะดูหนังความละเอียด Full HD แบบถูกกฎหมายได้จากที่ไหน ซึ่งก็เป็นประเด็นที่น่าสนใจ แต่ในข่าวนี้กลับไม่มีคนพูดถึงและแทบไม่มีคนพูดในเชิงขัดแย้งเลย
http://www.blognone.com/news/17094
ผมว่าความต่างนั้นมันจะเกิดจากอคติอย่างแรงของสังคมที่นี่ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกตินะครับที่คนจะมีอคติกัน แต่มันก็ทำให้ผมพึงระลึกไว้ด้วยว่าบางครั้งคนที่นี่ก็ไม่ได้เน้นคุยกันด้วยเหตุผลอย่างแท้จริง อคติต่างหากที่เป็นตัวกำหนด
That is the way things are.
ผมว่าที่คนแขวะลุงจ็อบส์ เพราะว่าพี่แกเคยไล่คนจะเอา BD ไปดูยูทูบแทนมั๊งครับ
ผมยอมรับครับว่าผมอคติ
แล้วอะไรหรอที่ทำให้ผมมีอคติ?
ทำไมผมไม่มีอคติกับ MS นะ?
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เพราะความชอบไม่ชอบส่วนบุคคล
เพราะความที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตรงกับใจตรงกับความคิดของตนเองมากกว่า
คำตอบน่าจะเป็นแนวนี้ครับ
That is the way things are.
ใช่ครับผมไม่ชอบ
ก็เหมือนกับ องคุลีมาล กลับใจแต่ก็ยังโดนหินขว้างอยู่นั่นแหละ
พระเหมือนกันทำไมถึงได้รับการปฏิบัติไม่เหมือนกัน?
คนเรามันก็สองมาตรฐานกันทั้งนั้นแหละครับ
เพียงแต่มันก็มีเหตุผลเหมือนกันว่าทำไมคนนึง ถึงได้รับการปฏิบัติด้วยที่แย่กว่าอีกคนนึง
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ลองอ่านข่าวเก่ากับข่าวใหม่เปรียบเทียบกันดีๆก็จะเข้าใจครับ
Microsoft พิสูจน์ด้วย X360 และ Netflix ที่ทำตลาดได้แล้วจริงๆ
คงเพราะมีหลักฐานน้ำหนักเลยต่างกันครับ
ผิดตั้งแต่ที่บอกว่าพูดเรื่องเดียวกันแล้วครับ
ช่วยอธิบายด้วยครับว่าต่างกันอย่างไรกับข่าวนี้
http://www.blognone.com/news/17094
ขอเน้นเรื่องวิสัยทัศน์ต่อ Blu-ray นะครับระหว่าง "จะตาย" กับ "ไร้อนาคต" ว่ามันต่างกันอย่างไร
That is the way things are.
แตกต่างกันที่ "ผลงาน" ครับ
ไมโครซอฟท์ไม่ยอมใช้ Blu-ray กับ Xbox 360 ผลก็คือขายดีกว่า PS3 ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงชัดเจน ตอนนี้พูดได้เต็มปาก
แอปเปิลไม่ยอมใช้ Blu-ray กับแมค มันหาคู่แข่งโดยตรงมาเทียบลำบาก ถ้าเทียบกับพีซีคู่แข่งอย่าง Dell เรื่องจำนวนก็ Dell ชนะอยู่ดี ต้องรอ Apple TV ขายชนะเครื่องเล่น Blu-ray ก่อนคงพูดได้เต็มปากบ้างมั้ง
ผมว่าเรื่องวิสัยทัศน์นี่มันไม่เกี่ยวกับผลงานโดยตรงนะครับ ในทางกลับกันคนที่สามารถมองเกมได้ขาดโดยไม่ต้องอาศัยการทดลองในตลาดจริงก่อนน่าจะดูเป็นคนที่เก่งกว่าด้วยซ้ำไม่ใช่หรือครับ?
ยิ่งไปกว่านั้นผมไม่เห็นความจำเป็นที่ Apple จะต้องหา Product อะไรสักอย่างของตัวเองที่สามารถเอาชนะ Blu-ray ได้มาเป็นข้อยืนยันเลยนะครับ เมื่อในความเป็นจริงก็มีตัวอย่าง Case Study อยู่แล้วนั่นก็คือการที่เครื่องเล่น Xbox 360 ขายดีกว่าเครื่องเล่น PS3 และแผ่น DVD เองก็ขายดีกว่าแผ่น Blu-ray มากมาย การอ้างเหตุที่ว่าตัวเองไม่มี Killing Product จึงไม่สามารถออกมาพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ผมว่าเป็นเรื่องตรรกะวิบัติครับ ถ้าคนเราจะวิเคราะห์อะไรสักอย่างแล้วต้องใช้ Product ของตัวเองเป็นตัวตัดสินตลอดแล้วอย่างนั้นเราจะเรียนรู้ที่จะวิเคราะห์ตลาดโดยใช้ข้อมูลของคนอื่นทำไมล่ะครับ? เราคงไม่ต้องศึกษา Case Study อื่น ๆ กันเลยพอดี
ยกตัวอย่างเช่น ร้านสะดวกซื้อเจ้าหลักของเมืองไทย สมัยก่อนเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วหลายคนมองอย่าไม่เชื่อว่าร้านสะดวกซื้อจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นอันขาดไม่ได้สำหรับสังคมไทย คงคิดกันว่ามีร้านโชว์ห่วยกันทั่วไปอยู่แล้วจะทำแบบมี Brand ทำไม หลายคนบอกว่าไม่มีอนาคต ทำไปก็คงจะเจ๊ง แต่ CEO ของร้านสะดวกซื้อนั้นก็ไม่เคยย่อท้อและทำให้ร้านสะดวกซื้อของตนประสบความสำเร็จจนมีสาขามากมายทั่วประเทศไทยอย่างทุกวันนี้ มากจนเสียกระทั่งว่าเด็กเกินมาต้องเคยเข้าร้านสะดวกซื้อก่อนขี่จักรยานเป็นด้วยซ้ำ นี่แหละครับคือสิ่งที่เรียกว่าวิสัยทัศน์
ดังนั้นผมคงต้องขอพูดว่าคำตอบของคุณมันไม่ตรงประเด็นครับ
พอคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่งโดยอาศัยข้อมูล ประสบการณ์ และความฉลาดที่ตัวเองมี หลายคนกลับแขวะและไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง พออีกคนหนึ่งออกมาพูดอย่างเดียวกันคนที่เคยแขวะไว้แต่ก่อนกลับไม่มีทีท่าที่จะไม่เห็นด้วยกับคนนี้เลยแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่ระยะเวลาที่ทั้ง 2 คนออกมาพูดห่างกันไม่นาน
สุดท้ายผมต้องบอกว่า MS และ Steve Jobs มีวิสัยทัศน์ไปในทิศทางเดียวกัน ("จะตาย" กับ "ไร้อนาคต") เกี่ยวกับ Blu-ray ครับ ผมยังเห็นว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังพูดเรื่องเดียวกันอยู่และไม่เห็นด้วยที่คุณบอกว่ามันเป็นคนละเรื่องครับ
That is the way things are.
ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีนะครับ เอาเป็นว่าคุณเองน่าจะลองไปทบทวนดีกว่าว่าทำไมคุณถึงคิดต่างจากคนหมู่มากในที่นี้ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะถูกเหมือนกับเจ้าของร้านสะดวกซื้อก็ได้ ผมเอาใจช่วยครับ
ขอบคุณอย่างยิ่งครับที่อำนวยพร
ปล. ผมเพิ่งเห็นคุณ mk คิดว่าเป็นคุณ lancaster ซะอีก อาจจะคุยคาบเกี่ยวไปเอา comment ของคุณ lancaster มาผสม ส่วนเรื่องที่ผมคิดต่างจากคนหมู่มากที่นี่ ผมเดาว่าเป็นเพราะที่นี่มีอคติกับ Apple อย่างรุนแรงครับจึงมักจะตัดสินอะไรก็ตามจากปาก Steve Jobs ว่าไม่ดีหรือผิดเอาไว้ก่อน
That is the way things are.
อ่านคอมเมนต์ดูทั้งสองข่าว ก็มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยกับการตายของ BD กับไม่เห็นด้วย พอๆกันนะครับ
แต่ข่าวนู้นจะอารมณ์รุนแรงกว่า เพราะที่ผมบอกไปสองรอบ นั่นคือคำตอบจากลุงจ็อบส์ ชวนให้หมั่นไส้กว่าของไมโครซอฟท์ไงครับ
แป่ว ผมกลายเป็นเจ้าของเว็บไปแล้ว 555555555
อย่างนั้นผมคงต้องยืนยันที่บอกไปข้างบนนั้น
Microsoft ไม่ได้ให้คำตอบน่าหมั่นไส้แบบลุงจ็อบส์ ที่ไล่ให้ไปนั่งดู Youtube ครับ
ผมหมั่นไส้ลุงจ็อบส์ก็เพราะที่แกไล่ให้ไปดูยูทูปแทนดูจากแผ่นบลูเรย์ีน่แหละ
ตอนที่ Xbox 360 ประกาศว่าดูได้แค่ DVD ก็โดนด่ากระจายเหมือนกันครับ ถ้าตอนนี้ยอดขายยังย่ำแย่คนก็คงด่าต่อว่า "เห็นไหม ไม่ยอมใส่ Blu-ray เข้ามา" เพียงแต่ตอนนี้ยอดขายดีพอสมควร จะพูดอะไรก็พูดได้
ผมมองว่า Steve Jobs มองในแง่การค้นหา Content ครับ เพราะที่บ้านผมก็เจอปัญหาประมาณนี้อยู่ คือ DVD เต็มบ้านแต่พออยากดูหนังเรื่องนี้เราหาไม่เจอ ขนาดว่า write ใส่ หลอดไว้แล้วนะ ที่เก็บก็ยังไม่ค่อยพอ
ปัจจุบันใช้ solution HDD. ปัญหาถัดมาคือการค้นหาไฟล์ (ผ่าน media player) ทำได้ยากอีก เซ็ง T-T
พอเห็น Jobs present ตอน show AppleTV ตัวใหม่เลยเข้าใจเลยว่าต่อไปมันคงต้องเป็น Streaming ถึงจะเหมาะสม เพราะค้นหาได้ง่าย ดูได้เร็ว (ถ้า internet บ้านเราเร็วพอ) และทำ digital right management ให้ดี ค่ายหนังจะได้เงินไปอีกเยอะครับ
แต่ยังไง AppleTV ตัวใหม่ ขายไม่ค่อยได้อีกแน่นอนในบ้านเรา
ตอนนี้ที่บ้านผม ใช้ Western Digital TV Live ต่อ USB wireless-N 150Mbps + Airport Extreme พ่วงด้วย usb hub และ ext. hdd. อีก 3 ลูกครับ (สามารถเพิ่มได้อีกตามจำนวน USB Hub Prot) share หนังในบ้าน มีความสุขดีกับหนังระดับ 720p แต่ถ้าจะเล่น 1080p แนะนำให้ใช้ USB N 300Mbps คิดว่าเอาอยู่ครับ และให้ดีที่สุดคือหนีไปวิ่งที่ ความถี่ 5GHz ครับ :)
+1