มีแหล่งข่าวบอกกับ Digitimes ว่า ไมโครซอฟท์วางแผนที่จะเรียกเก็บ royalty fee ในการใช้สิทธิบัตรอีเมล มัลติมีเดีย และฟังก์ชันอื่นๆ บน Android ที่ไมโครซอฟท์ถือครองอยู่ จากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จากไต้หวันคือ Acer และ ASUSTeK Computer เพื่อบีบบังคับไม่ให้ผู้ผลิตทั้งสองหันไปใช้ Android หรือ Chrome OS กับเน็ตบุ๊กและแท็บเล็ตของตน
ถึง Android จะเป็นแพลตฟอร์มที่ฟรี แต่ผู้ผลิตแต่ละรายก็ต้องเสียค่าไลเซนส์ไปกับสิทธิบัตรต่างๆ ราว 10-15 ดอลลาร์ (ราว 300-450 บาท) ต่อเครื่อง ซึ่งถือว่าถูกกว่าไลเซนส์ Windows 7 Starter ที่มีมูลค่าราว 30 ดอลลาร์ (ราว 900 บาท) เสียอีก
ไมโครซอฟท์ได้ใช้กลยุทธ์ดังกล่าวตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 ที่ไมโครซอฟท์เรียกเก็บค่าไลเซนส์ Windows ต่อเครื่องหากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ใช้ระบบปฏิบัติการอื่น ซึ่งท้ายที่สุดก็นำไปสู่ข้อหาการผูกขาดในที่สุด เทคนิคที่ใช้กับ Android นี้เป็นการรับประกันว่าไม่ว่าผู้ผลิตเหล่านั้นจะใช้แพลตฟอร์มอะไรก็ตามไมโครซอฟท์ก็จะยังสร้างผลกำไรได้อยู่ดี อีกทั้งเป็นการบังคับทางอ้อมให้ผู้ผลิตไม่หันไปใช้แพลตฟอร์มของกูเกิลอีกด้วย
ที่มา: Digitimes ผ่าน Electronista
Comments
หึ และแล้วก็ออกลาย
หึ ด้วยคนครับ.. เมื่อมวลมนุษย์เริ่มถวิลหา Opensource มากขึ้นเริ่มมีชุมชนเหล่านี้มากขึ้น เมื่อนัน้เจ้าจะหนาวกว่านี้นะพี่ ไมโครซอฟท์
ไปละเมิดของเค้าก็ต้องจ่ายนิครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
งั้นก็อย่าลง OS พร้อมขายซิครับ ให้ผู้ใช้ไปลงเอง อยากรู้จังถ้าทำแบบนั้นคนจะซื้อกี่คน
แต่้อันนี้มันโทรศัพท์มือถือ ส่วนตัวคิดว่าเครื่องเปล่าไม่มีซอฟท์แวร์น่าจะขายยากอยู่ แต่ถ้าขายจริงแล้วลดราคาได้อีกผมก็ชอบมาก เหมือน N/B ผมก็เลือกยี่ห้อที่ไม่มี Windows จะประหยัดได้อีกพอสมควรเลย
ซื้อยี่ห้อที่ไม่มีวินโดว์ แล้วเอามาลงวินโดว์ละเมิดลิขสิทธิ์ ?
ไม่คิดว่าเขาจะซื้อมาลง Ubuntu หรือครับ?
หรืออย่างโน้ตบุ็คบางเครื่องเล่นลง Ultimate หรือ Pro มาให้ โดนชาร์จไปกับค่าเครื่องเท่าไหร่แล้ว ถ้าความต้องการของเขาคือแค่ Home Premium หรือ Basic เขาจำเป็นต้องอยากได้เครื่องที่ขายพร้อมวินโดวส์หรือครับ?
อันนี้เป็นเรื่องแนวคิดที่เป็นไปได้ครับ แต่ในความเป็นจริงสถิติก็เห็นกันอยู่ว่าละเมิดลิขสิทธิ์กันแค่ไหน
ผมเองก็ใช้ Windows ของแท้แต่ก็ยังมีของอย่างอื่นอีกมากที่ละเมิดลิขสิทธิ์ในเครื่องผม
เอาง่าย ๆ ครับคุณ Illusion มีหนัง เพลง หนังสือ เอาไว้ในครอบครองโดยละเมิดลิขสิทธิ์ไหมครับ?
That is the way things are.
+๑ มันเป็นแค่แนวคิดที่เป็นไปได้จริงๆ ครับ ไม่ว่าร้านไหนๆ ส่วนมากก็จับยัด Windows เถื่อน + สารพัดโปรแกรมผิดลิขสิทธิ์มาให้อีกเพียบ ประเด็นอยู่ที่มันเอื้อต่อการละเมิดลิขสิทธิ์มากกว่านะครับ
ทำไมจะไม่มีเล่า :P
ประเด็นที่ผมอยากบอกคุณข้างบน reply นั้นของผมคือ อย่าพึ่งมองคนอื่นแง่ร้ายก่อนในเบื้องต้นครับ เขาอาจจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ ไว้เขาเขียนว่าลงเถื่อนก็ค่อยว่ากันไป อย่างที่เขียนไปข้างบนก็คือ ถ้าเกิดเขาใช้แบบที่ผมว่าขึ้นมาจริงๆ เข้าล่ะ? โดนสบประมาทไปฟรีๆ เลยนะนั่น
คนซื้อแบบนี้ก็คงมีครับ แต่คนที่จะไม่ซื้อเพราะเป็นแบบนี้มีเยอะกว่ามากมาย
That is the way things are.
แล้วคิดว่าผู้ใช้ทั่วไปจะลงเองได้เหรอครับ
"แพตฟอร์ม" -> "แพลตฟอร์ม"
"Asustek" -> "ASUSTeK"
แก้แล้วครับ Asustek นี่ผิดตามต้นฉบับ เหอะๆ
ผมเพิ่งโดน mk สั่งแก้มาเมื่อวาน 555
มีพิมพ์ ไมโครซอฟต์ แบบนี้อีกที่นึงครับ ตัวแรกสุดเลย (ไม่นับ headline นะ)
เอาเข้าไป
หึหึ เดี๋ยวได้โดนฟ้องผูกขาดอีกรอบแน่
รอดูเหมือนกัน
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
ไม่น่านะครับ สิทธิ์ของเค้าที่จะเก็บเงินนะผมว่า
Be evil Be control ฮ่า ฮ่า ฮ่าาาา
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
มองได้สองแง่นั่นแหละ แสดงว่าเมื่อก่อนใช้ของเขาฟรีมาตลอด
(ต้องดูว่าสิทธิบัตรที่ว่ามันเข้าท่าไหม ไม่ใช่พวกประเภทจดไว้กันท่าแบบนี้ไม่น่าสนับสนุน)
แต่การเอาเรื่องพวกนี้มาเป็นเครื่องมือในการพยายามควบคุมตลาด
ดูไม่ดี แล้วอาจจจะมีปัญหาทีหลังได้
evil เข้าขั้นละ
Microsoft ก็ทำแบบนี้มานานแล้วนะครับ ในทางธุรกิจผมว่ามันก็เป็นเรื่องปกติเพราะมันมีต้นทุนในการพัฒนาทั้งนั้น
มันถึงได้มีอันนี้
http://blognone.com/node/11853
ผมว่าเป็นเรื่องปกตินะ แต่เพราะนี่เป็น MS ที่เรียกเก็บ เลยอาจจะมีกระแสต่อต้านแรงหน่อย
ยกเลิกสิทธิบัตรซอฟท์แวร์ซะทีเห้ออ
ผมก็ว่างั้น
เกลียดตัวกินไข่ซะงั้น เค้ารักษาสิทธิ์เค้าก็กลายเป้นเรื่องผิดไปซะงั้น ไม่ว่าจะเก็บเพราะกันคู่แข่งหรือเก็บเพราะอยากจะได้เงิน ผมก็ยังมองว่ามันเป้นสิทธิ์ของเค้า
สรุปคือเพราะเป็นอย่างนี้มานานแล้ว + รักษาสิทธิ์
ไม่มี บ. ไหนเป็น Evil แล้วล่ะ
ใช้เเมค ใช้ไอโฟน จบไหม
แร๊งงงส์ !
ผมคิดว่า Royalty ที่พูดถึงนี้คือ Loyalty Fee หรือเปล่าคับ?
Loyalty N. ความซื่อสัตย์
Royalty N. ค่าลิขสิทธิ์