หลังจากที่ The New York Times ตีพิมพ์เรื่องของลูกค้าที่ซื้อแว่นตา Lafont ผ่านเว็บโดยการค้นหาข้อมูลด้วยกูเกิล และสรุปความว่ายิ่งลูกค้าด่ามากเท่าไหร่เว็บก็ยิ่งขายดีนั้น ทางกูเกิลก็ไม่นิ่งนอนใจ ได้ออกมาชี้แจงผ่านบลอกของกูเกิลว่า นี่เป็นปัญหาที่ไม่ควรเกิดขึ้นและตอนนี้กูเกิลก็ได้ตั้งทีมมาดูแลปัญหานี้โดยเฉพาะ รวมถึงปรับปรุงอัลกอริธึมใหม่ที่จะป้องกันปัญหานี้
โดยตอนนี้ระบบใหม่เริ่มใช้งานแล้ว แนวทางที่ใช้หลักๆ มีดังนี้
กูเกิลบอกว่าหลังใช้อัลกอริธึมใหม่นี้ก็พบเว็บที่มีลักษณะแบบในบทความหลายร้อยเว็บ ซึ่งเชื่อว่าหลังการปรับปรุงนี้ก็จะทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานดีขึ้น อย่างไรก็ตามกูเกิลยังไม่รับรองว่าจะไม่มีใครหาช่องโหว่ในการจัดลำดับใหม่นี้เจอ
ที่มา Official Google Blog
Comments
โอ้ววว จ้างคนไปคอมเมนต์ด่าบล็อกนั้นเยอะๆ อันดับผลลการค้นหาจะลดงั้นหรอ
แบบนี้ผมจะหาข้อมูลของรัฐบาลได้ยังไงเนี๊ย!!
ข้อมูลของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็คงหาไม่เจอเช่นกัน
ฮาครับ ทั้ง 2 เม้นเลย 555
มันปรับกันง่ายอย่างนั้นเลยหรือนี่ algorithm
That is the way things are.
น่าจะทำไว้แล้วแต่ยังไม่ปล่อยให้ใช้
Bug ระดับสูง .. ไม่ได้เกิดจาก Code แต่เป็นการประเมินผลหลังจากอัลกอริทึ่มเสร็จแล้ว นำผลของการประมวลไปเข้าอัลกอริทึ่มอีกชุดเพื่อแทนคีย์เวิร์ดสู่โหมดอารมณ์ .. อืม Server ทำงานหนักแฮะ -_-'
my blog
นั้นไม่ใช่ bug ครับ แต่เป็น logic error
ว้าววว เก่งอีกขั้นแล้ววววว
อืมม...ข้อมูลที่ดีก็ไม่ควรใช้อารมณ์เป็นตัวพาไป
แล้ว... ภาษาไทยละ????
อย่างไรก็ตามกูเกิลยังไม่รับรองว่าจะไม่มีใครหาช่องโหว่ในการจัดลำดับใหม่นี้เจอ
"จะพยามหาให้เจอ"
Bing ล่ะว่าไง อย่านิ่งนอนใจนะครับ Google นำไปแล้ว...
ส่วน bing ผมก็ชอบนะครับ Wallpaper สวยดี
แหมงี้พวกรับจ้างทำ SEO ก็ต้องมานคอยนั่งลบคอมเม้นด่าในเวบด้วยล่ะสิเนี่ย
ปวดใจเลยนะเนีย seo จะทำยังไงก็ต่อไปดี
Best SEO is Contents จำไม่ได้ว่าใครพูดแต่ผมเชื่ออย่างนั้น
email ฉบับต่อไป
บริษัท !@#%^ ass ver thai ชิ่ง จำกัด
ต้องการคนจำนวนมาก
ทำงานบนอินเตอร์เน็ตง่าย ๆ ทำที่บ้านก็ได้
เพียงแค่เข้าไปเม้นในเว็บเท่านั้น
ข้อแรกบอก บล็อก ไหนบอกไม่ปิดกั้นไง google
คนมันดังทำอะไรก็ผิดครับ ก็ต้องมีบ้าง :P
อืม อยากรู้ว่าจะฉลาดแค่ไหน
ไม่ใช่ต่อไปมีรับจ้างโพสด่าคู่แข่งอีกนะ
กลายเป็นว่าทุกวันนี้ ผลการค้นหาจะต้องตรงใจผู้ใช้ และเป็นสิ่งที่คนส่วนมากคิดว่าดีงั้นสินะ
น่าจะทำเป็น notice ไว้ท้ายผลลัพธ์น่าจะดีนะ
ประเด็นคือมีคนพยายามโกงอัลกอริธึมของกูเกิล จริงๆ ก็มีมาอยู่ตลอด เพียงแต่วิธีของเว็บนี้มันคือด้านที่คาดไม่ถึง และดันได้ผล
การหาสูตรที่ตายตัวทำได้ยาก แม้จะพยายามปรับมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะมีคนโกงได้อยู่เรื่อย
แต่ปัญหานี้กลับไม่ค่อยจะพบในเว็บที่มีความเป็น Social Rating อย่าง eBay, Amazon หรือ Youtube ที่คนมีส่วนร่วมในการให้คะแนนมากกว่าคอมพิวเตอร์ (Facebook ก็ใช่ เพียงแต่ยังมีแค่ like ไม่มี dislike)
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เรื่องแบบนี้ก็มีมานาน แต่มันจะเกิดการแก้ปัญหาขึ้นก็ต่อเมื่อคนที่เสียหายมาออกสื่อ ให้ผู้เกี่ยวข้องรับรู้
ระบบยิ่งใหญ่ก็ยิ่งพังได้ง่ายจากสิ่งเล็กๆตามทฤษฎีไร้ระเบียบ
กระทบเป็นลูกโซ่ไปหลายวงการเลยแฮะ
ใช้การวิเคราะห์ทางอารมณ์ (sentiment analysis) โดยพิจารณาจากความเห็นว่าเป็นเชิงบวกหรือลบ ดูอารมณ์ของคำศัพท์ที่ใช้แสดงความเห็น
^
^
^
ชอบจริงๆ ออปชั่นนี้
โอ้ ....
"ใช้การวิเคราะห์ทางอารมณ์ (sentiment analysis)" โอ้ววว อีกไม่นานก็จะเห็นหุ่นยนต์ที่แสดงความรู้สึกได้ออกมาเต็มบ้านเต็มเมืองแน่ๆ
ภาษาไทยก็ยังคงต้องทนกันต่อไป อิอิ
ที่อธิบายใน bullet ไม่ใช่วิธีแก้นะครับ
แค่ แนวทางที่เป็นไปได้เฉยๆ
"Consider the obvious responses we could have tried to fix the problem"
แปลว่าให้ลองพิจารณาวิธีแก้ปัญหา(ตอบกลับ) ซึ่งเราสามารถจะทำได้
แล้วปัญหาจริงๆ Google ก็อธิบายว่าไม่ได้เกิดจาก GetSatisfaction อย่างที่ NYT อ้าง แต่เป็นเว็บอย่าง NYT และ Bloomberg เองต่างหากที่ทำให้ DecorMyEyes มีอันดับที่สูงขึ้น เพราะมีข่าว การฟ้องร้องลงเว็บดังกล่าวในเว็บข่าว
ส่วนวิธีการแก้ปัญหาจริงๆ คือ Algorithm ใหม่จะตรวจจับพ่อค้า (merchant) ตามความเห็นของ Google เอง (in our opinion) ที่มีทำไม่ดีกับลูกค้า (extremely poor user experience) ที่ปรากฎในบทความจากเว็บ the Times ให้หายไปจากผลค้นหา(มั้ง)
Sentimental Analysis มารวมกับ search engine นี่ไม่น่าจะใช่เรื่องง่าย คงอีกสักพักใหญ่ๆ อย่างความเห็นแรกๆ บอก ถ้าเราด่าเว็บไหน เว็บนั้นก็หายไปจากผลการค้นหาเลยสิ
อีกอย่าง Sentimental Analysis ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้จะเป็นประเด็นร้อนทางด้านงานวิจัย แต่ algorithm ที่มีอยู่ก็ยังไม่ได้ทำงานได้ดีขนาดนั้น ปัญหายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้ เช่น sarcasm (การประชด) ยังตรวจสอบไม่ได้เลย
ถ้า social ก็มีแบบรับจ้างกด like อีกนั่นแหละ