Tags:
Node Thumbnail

แอปเปิลเปลี่ยนหัวหน้าทีมทนายสิทธิบัตรจาก Richard Chip Lutton เป็น BJ Wastrous ซึ่งเคยอยู่ฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาของเอชพี

นักวิเคราะห์ด้านสิทธิบัตร Florian Mueller เชื่อว่าการเปลี่ยนตัวกระทันหันเช่นนี้เป็นเพราะความล้มเหลวในการสกัด Android โดยแม้แอปเปิลจะมีคดีความกับผู้ผลิตโทรศัพท์ Android จำนวนมากแต่กลับไม่สามารถหยุดการขายที่กำลังกินส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่องได้

หัวหน้าทีมกฏหมายใหม่ พร้อมกับอาวุธใหม่จาก Nortel ที่แอปเปิลร่วมประมูลมาได้ อาจจะทำให้คดีระหว่าง Android ที่ต้องสู้กับไมโครซอฟท์และแอปเปิลพร้อมๆ กันกลายเป็นคดีจำนวนมากในเร็วๆ นี้

ที่มา - PC Magazine

Get latest news from Blognone

Comments

By: 077023
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 13 July 2011 - 22:59 #310728
077023's picture

ความล้มเหลง...คับ


もういい

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 13 July 2011 - 23:03 #310731
PaPaSEK's picture

"โดยแม้แอปเปิลจะมีคดีความกับผู้ผลิตโทรศัพท์ Android จำนวนมากแต่กลับไม่สามารถหยุดการขายที่กำลังกินส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่องได้"

ถ้าข้อความนี้เป็นจริง เริ่มไม่ชอบแอปเปิลละ ตอนแรกนึกว่าปกป้องความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง

By: iheresss
ContributoriPhoneWindows PhoneWindows
on 13 July 2011 - 23:08 #310736 Reply to:310731
iheresss's picture

ยังไงมันก็คือธุรกิจครับ

By: xpress
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 14 July 2011 - 00:05 #310778 Reply to:310736

ผมว่าธุรกิจก็ต้องแข่งขันกันในเชิงธุรกิจซิครับ ไม่ใช่ไปแข่งขันกันในศาล

By: crusio
iPhone
on 14 July 2011 - 00:08 #310782 Reply to:310778

คุณยังรู้จักการทำธุรกิจ น้อยไปครับ

By: illusion
ContributorAndroid
on 14 July 2011 - 00:20 #310787 Reply to:310782
illusion's picture

เราก็มีสิทธิ์มองในมุมผู้บริโภคไม่ใช่หรือครับ แข่งขันกันในเชิงธุรกิจผู้บริโภคได้เปรียบ ส่วนแข่งขันกันในศาลผู้บริโภคไม่ได้อะไร

แน่นอนว่า ผู้บริโภคอยากให้แข่งขันกันในเชิงธุรกิจอยู่แล้ว จะออกโรงเชียร์หรือจะวิจารณ์ก็ไม่แปลก ส่วนการรู้จักการทำธุรกิจที่ว่ามานั้นผู้บริโภคอาจไม่จำเป็นต้องสนใจ เพราะสิ่งที่ผู้บริโภคอยากรับรู้ก็คือ ผู้บริโภคจะได้อะไร มากกว่า ธุรกิจทำยังไง ครับ

By: xpress
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 14 July 2011 - 01:48 #310810 Reply to:310782

คงน้อยไปจริงๆครับทำธุรกิจส่วนตัวมาเป็นสิบปีแล้ว คู่แข่งคู่ค้าที่เป็นเพื่อนกันก็เยอะไม่เคยมีประสบการณ์ห่วยๆอย่างนี้เลย

By: pines
Blackberry
on 14 July 2011 - 07:37 #310855 Reply to:310810

เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาหรือเปล่าครับ

By: mk
FounderAndroid
on 14 July 2011 - 08:25 #310866 Reply to:310782
mk's picture

บอกว่าคนอื่นรู้น้อย ก็ควรแสดงหลักฐานให้เห็นว่าตัวเองรู้เยอะกว่าด้วยนะครับ

By: crusio
iPhone
on 14 July 2011 - 10:35 #310916 Reply to:310866

ผมไม่มีหลักฐานเเสดงว่ารู้เยอะหรอกครับ แต่มุมมองผม มองว่า การทำธุรกิจยุคนี้มันน่ากลัว มันต้องสู้กันทุกทาง อาวุธต้องมีรอบตัว เขี้ยวเล็บก็ต้องคมกริบ และต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ผมต้องการสื่อว่า การทำธุรกิจในยุคนี้ มันไม่ได้สำเร็จรุปเหมือนในหนังสือเรียน ที่สู้กันโดยใช้ชั้นเชิงทางธุกรกิจเพียงอย่างเดียว

By: pines
Blackberry
on 14 July 2011 - 10:39 #310917 Reply to:310916

+1

By: xpress
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 14 July 2011 - 11:36 #310940 Reply to:310916

แนวคิดอย่างนี้ละครับถึงได้มีข่าวฆ่ากันตายเพราะเหตุผลทางธุรกิจขึ้นข่าวหน้าหนึ่งบ้านเราอยู่บ่อยๆ
ผมเรียกขี้โกงครับ สำหรับอย่างนี้ไม่ใช่ธุรกิจแล้วละครับคุณจะเรียกอะไรก็แล้วแต่เถอะ
เหมือนขายของสู้คู่แข่งไม่ได้ ก็เลยแอบไปดักตีหัวเขาทำให้มาขายของไม่ได้ แบบนี้เรียกนักธุรกิจหรืออันธพาลดีละครับ

By: crusio
iPhone
on 15 July 2011 - 04:20 #311217 Reply to:310940

ครับ!! อิๆ มองความเป็นจริงครับ แนวคิดที่ผมยกมามันมีจริงๆ เราปฎิเสธไม่ได้ครับ (คุณก็รู้)

By: xpress
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 15 July 2011 - 10:28 #311254 Reply to:311217

ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ผมว่าอย่างนี้มันล้ำเส้นเรื่องธุรกิจไปแล้ว
!!! ผมไม่เข้าใจคนสมัยนี้มองพฤติกรรมห่วยๆอย่างนี้ เป็นชั้นเชิงทางธุรกิจได้ยังไง

By: enormityboy
iPhone
on 14 July 2011 - 00:18 #310789 Reply to:310778
enormityboy's picture

คนถือหุ้นเค้าไม่ได้คิดแบบนั้นไงครับ ค้าขายมันไม่เหมือนในหนังจีน ๕๕

By: pines
Blackberry
on 14 July 2011 - 00:23 #310790 Reply to:310778

ลองอ่านหมายเหตุประกอบงบการเงิน เกี่ยวกับนโยบายการบริหารความเสี่ยงดูครับ

By: errin on 13 July 2011 - 23:29 #310753 Reply to:310731

อย่าลืมว่าแค่นักวิเคราะห์เค้าวิเคราะห์กันนะครับ แต่ถ้าเป็นจริงผมก็เชียร์ด๋อยนะ

By: crusio
iPhone
on 14 July 2011 - 00:07 #310780 Reply to:310731

ประเด็นในข่าวคือ Apple เปลี่ยนหัวหน้าทีมทนายสิทธิบัตรครับ ที่เหลือนักข่าวเขียนเพื่อเร้าอารมณ์คนอ่าน

By: lew
FounderJusci's WriterMEconomicsAndroid
on 14 July 2011 - 00:30 #310793 Reply to:310780
lew's picture

ความเห็นผมมันเร้าอารมณ์อะไรหรือครับ???


lewcpe.com, @wasonliw

By: crusio
iPhone
on 14 July 2011 - 10:49 #310918 Reply to:310793

เปล่าครับ เเต่ข่าวนี้ประเด็นมีแค่นี้จริงๆ ที่เหลือคือความคิดเห็นของนักข่าว(ต้นฉบับ) เขียนเพื่อเร้าอารมณ์คนอ่านอย่างเราๆ ที่เกลียด ให้รัก ให้มีอารมณ์กับแบรนด์ในข่าว ดังที่เห็นกันจาก คอมเมนต์ต่างๆเหล่านี้ ที่ยาวเป็นหางว่าว ที่เกิดขึ้นกับผู้รับสาร(ซึ่งแต่ละคน จะมีชุดข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ต่างๆ อยู่เเล้ว) ข่าวเลยต่อยอด(กระตุ้น)อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆให้กับผู้รับสาร

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 July 2011 - 11:02 #310926 Reply to:310918
PaPaSEK's picture

คุณผิดแล้วครับ

คนที่มีอารมณ์น่ะคือตัวของพวกเราเองครับ ไม่เกี่ยวกับใครเลย

By: crusio
iPhone
on 15 July 2011 - 04:28 #311214 Reply to:310926

เนื้อหาข่าว สามารถชี้นำได้นะตัวเธอ ถึงไม่มากก็เถอะ เเต่สามารถนำไปรวมกับชุดความคิดเดิมของผู้รับสารก่อให้เกิดการสิ่งที่เราๆเห็นการ มาม่าได้จ๊ะ

ลองศึกษาทฤษฎีการสื่อสารดูนะฮร้าฟฟ จุ๊บๆ

By: LuvStry
ContributorAndroid
on 15 July 2011 - 21:43 #311395 Reply to:311214
LuvStry's picture

ผมว่า เพราะการแสดงความคิดเห็นแบบ Troll style มากกว่าครับที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง

ที่มักจะพบบ่อยๆก็คือการถูกสติปัญญาคนอื่นครับ


Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ

By: LuvStry
ContributorAndroid
on 15 July 2011 - 21:46 #311396 Reply to:310780
LuvStry's picture

ใช่ครับนั่นคือประเด็นแต่นอกจากนั้น ผมเรียกว่ารายละเอียดครับ ผมคงรำคาญแย่ถ้าจะต้องได้อ่านข่าวแค่บรรทัดเดียวไม่มีรายละเอียดอะไรเลย


Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ

By: AMp
In Love
on 13 July 2011 - 23:04 #310732

5 .... 4 ... 3 .. 2 . 1

By: joomla
iPhoneUbuntu
on 14 July 2011 - 00:38 #310800 Reply to:310732
joomla's picture

เห่ะๆ

By: I3assy on 14 July 2011 - 10:16 #310896 Reply to:310732
I3assy's picture

ไม่มีใครสู้กับทัพเขียวตัวต่อตัวไหวแน่ๆ (ขนาดออฟติมัสที่ว่าเทพแล้วยังแขนขาดได้55) โคลนออกมาเยอะเกิ๊นน (ประมาณว่า พันธมิตรสร้างหุ่นกระป๋องมาแล้วมาให้ลูกพี่ใหญ่ใส่พลังสีเขียวลงไปในนั้น กลายเปนหุ่นดรอย... ออกทะเลแล้ว)

By: rattananen
AndroidWindows
on 13 July 2011 - 23:11 #310739

MS บอก: มาใช้ Windows phone สิจ๊ะ

By: devilblaze
iPhoneAndroidWindows
on 13 July 2011 - 23:20 #310746
devilblaze's picture

ทุ่มเงินไปซื้อสิทธิบัตรมา เพื่อเอาไปตัดขาคู่แข่ง เหอๆ ดำมืดลงทุกทีๆ

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 13 July 2011 - 23:21 #310747
By: Jonathan_Job
WriteriPhoneUbuntuWindows
on 14 July 2011 - 04:52 #310846 Reply to:310747
Jonathan_Job's picture

+1

By: pines
Blackberry
on 13 July 2011 - 23:31 #310755

ทำไปทำมาเหมือนดูละครเลย

By: LEVY
AndroidSymbianWindowsIn Love
on 13 July 2011 - 23:36 #310758
LEVY's picture

ถ้าไม่ พลาดล้มก็คงดี

By: makeithard
iPhoneAndroid
on 13 July 2011 - 23:54 #310771

รู้สึกเหมือนจะเปิดสงครามกันยังไงไม่รู้

By: illusion
ContributorAndroid
on 14 July 2011 - 00:31 #310792
illusion's picture

ผมว่าถึงเวลา ผู้ผลิตขายแค่เครื่องเปล่า (หรือเปิดเครื่องมาเจอแต่ ROM ที่แค่โทรเข้า-โทรออกได้) แล้วปล่อยให้ลง android เองกันได้แล้วมั้ง

ไม่ต้องห่วงว่ามันจะ geek ไปรึเปล่า เพราะสุดท้าย ไม่มีคนขายที่ไหนปล่อยเกาะลูกค้าตัวเองหรอก ก่อนวางขายเดี๋ยวพวก Dealer หรือ Operator ก็ลง android พร้อมใช้ก่อนถึงลูกค้าเองนั่นแหละ มองแบบนี้มันก็เหมือนผลักภาระไปที่ Dealer/Operator แต่จริงๆ มันคงไล่บี้ยากกว่ากันแบบในตอนนี้เยอะเลย

ถ้าทำแบบนี้ รับรองแอปเปิลเอ๋อรับประทาน เพราะไม่รู้จะไล่ฟ้องกับใคร

By: makeithard
iPhoneAndroid
on 14 July 2011 - 00:32 #310794 Reply to:310792

ถ้าเป็นงั้นจริง อีกหน่อย MBK คงมีบริการรับลง OS สำหรับมือถือ แอปเปิ้ล หุ่นเขียว หน้าต่างมือถือ ฯลฯ

By: pines
Blackberry
on 14 July 2011 - 00:37 #310799 Reply to:310792

ผมว่าทำอย่างนั้นก็เข้าทาง Apple กับ MS เลยนะนั่น นึกถึงการซื้อมือถือรุ่น Flagship ร้านบอกจะลงรอมอีกครึ่งชม. ค่อยมารับ 55

By: Bluetus
iPhone
on 14 July 2011 - 00:33 #310795
Bluetus's picture

สงสัยพลาดเป้าบ่อยไป 555

By: lancaster
Contributor
on 14 July 2011 - 02:07 #310815

ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไม user "บางคน" ถึงเชียร์ให้ฟ้องเรื่องสิทธิบัตรกันจัง ถ้าคุณไม่ได้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทที่ฟ้องแล้วล่ะก็ยังไงก็ขาดทุนครับ

By: mk
FounderAndroid
on 14 July 2011 - 08:26 #310867 Reply to:310815
mk's picture

ในทางรัฐศาสตร์เขามีคำเรียกว่า ultra royalist น่ะครับ รักบริษัทมากกว่าเจ้าของบริษัทเสียอีก

By: toandthen
WriterMEconomics
on 14 July 2011 - 10:17 #310906 Reply to:310867
toandthen's picture
By: rattananen
AndroidWindows
on 14 July 2011 - 11:07 #310929 Reply to:310867

lol

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 July 2011 - 12:26 #310960 Reply to:310867
PaPaSEK's picture

ฮ่า ฮ่า ภาษาบ้านๆ เรียกว่า Zealot นั่นเอง

ปล. Loyalist มั้งครับ

By: Thaina
Windows
on 14 July 2011 - 18:40 #311066 Reply to:310960

royalist นี่แหละครับถูกแล้ว แปลไทยก็คือ คลั่งเจ้า

ในทางรัฐศาสตร์คือพวก........แบบคนไทยนี่แหละ ห้ามวิจารณ์ ห้ามแตะต้อง ยกย่องเชิดชูได้เท่านั้น ใครไม่เห็นด้วยมันต้องตาย ห้ามอยู่บนแผ่นดินเดียวกัน

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 July 2011 - 19:04 #311077 Reply to:311066
PaPaSEK's picture

ไปกูเกิลมาละ

Ultra Loyalist คือขั้นสุดของ Loyalist

Ultra Royalist คือขั้นสุดของ Ultra Loyalist อีกที

ชีวิตมันซับซ้อนนะ

By: nook735
Android
on 15 July 2011 - 23:05 #311426 Reply to:311066
nook735's picture

เห็นด้วยท่านมากมายครับ... !!!

By: PATalentino
iPhone
on 14 July 2011 - 02:27 #310824

คดีทางแพ่ง ผลลัพธ์ที่ได้ อาจจะเป็นการตัดกำไรส่วนนึงจากอีกเจ้านึงเพื่อมาเข้ากระเป๋าตัวเอง ผ่านการฟ้องร้องโดยเอาสิทธิบัตรของตัวเองมาอ้าง
ผมมองว่าการแข่งขันแบบนี้มันเป็นธุรกิจมากเกินไป จนตอนนี้มีแต่คนเล่นมุขนี้จนเลยเถิดและดูไม่สร้างสรรค์ไปแล้ว

ซึ่งผลดีอาจจะมากกว่าผลเสียก็ตาม แต่ถ้าวันไหนเกิดออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมแล้วแป้กเพราะมัวแต่ฟ้องร้อง หรือมีปัญหาจนลูกค้าโยนทิ้ง+เผาสาปส่ง... ก็พลอยจะมีแต่คนรอสมน้ำหน้ากันทั้งโลก

By: jane
AndroidUbuntu
on 14 July 2011 - 07:15 #310852
jane's picture

ความกลัวทำให้เสื่อม

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 14 July 2011 - 11:03 #310927 Reply to:310852
PaPaSEK's picture

สมรรถภาพ ...

By: Ishmael
iPhoneAndroidWindows
on 14 July 2011 - 16:00 #311032 Reply to:310852

+1

By: vutchangj
iPhoneAndroidUbuntu
on 16 July 2011 - 02:11 #311475

อ่านข่าวที่เป็นแนวนี้มาเยอะก็เห็นอยู่แล้วว่า Apple พยายามกีดกันคู่แข่ง
ยิ่งมาเจอข้อความ -> ไม่สามารถหยุดการขายที่กำลังกินส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่องได้

"สุดแสนจะทุเรศศศศศ"