จากภาคแรก กูเกิลเปิดประเด็นเรื่องสงครามสิทธิบัตร และ ไมโครซอฟท์ตอบโต้เรื่องสิทธิบัตร Novell
ภาคสองมาแล้วครับ ทั้งจากกูเกิลและไมโครซอฟท์กันอีกคนละหมัด
กูเกิล
David Drummond หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของกูเกิลคนเดิม ได้อัพเดตบล็อกของเขาว่า
"ไม่น่าแปลกใจที่ไมโครซอฟท์พยายามสร้างประเด็นอื่นมาเบียดบังประเด็นหลักของเรา ขอให้คุณลองคิดดู มันชัดเจนว่าทำไมเราถึงปฏิเสธข้อเสนอ [ซื้อสิทธิบัตร Novell] จากไมโครซอฟท์ จุดประสงค์ของไมโครซอฟท์คือไม่ให้กูเกิลและผู้ผลิตอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้สิทธิบัตรเหล่านี้ไป เพื่อป้องกันการโจมตีจากไมโครซอฟท์เอง การร่วมซื้อสิทธิบัตรจาก Novell กับไมโครซอฟท์จะทำให้สิทธิบัตรเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ในการคุ้มครองแอนดรอยด์จากการโจมตีของไมโครซอฟท์
ไมโครซอฟท์พยายามไม่ให้เราได้ครอบครองสิทธิบัตรเหล่านี้เพื่อปกป้องแอนดรอยด์ และบีบให้เราต้องจ่ายเงิน นี่คือยุทธศาสตร์ที่ไม่ฉลาดนักของไมโครซอฟท์ และเราไม่ตกหลุมพรางนี้
ตอนนี้กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้แล้ว โดยบีบให้ไมโครซอฟท์ขายสิทธิบัตรที่ซื้อมา และสั่งให้กลุ่มที่ชนะการประมูลซื้อสิทธิบัตร (ไมโครซอฟท์ ออราเคิล แอปเปิล EMC) ต้องมอบสิทธิการใช้งานแก่ชุมชนโอเพนซอร์ส ทางกระทรวงยุติธรรมให้เหตุผลว่า "เพื่อรักษาระดับการแข่งขันและนวัตกรรมในชุมชนโอเพนซอร์ส"
สิ่งนี้ยืนยันประเด็นของเราว่า คู่แข่งของเราเปิดสงครามสิทธิบัตรกับแอนดรอยด์ และรวมหัวกีดกันไม่ให้เราได้สิทธิบัตรไปสู้กับพวกเขา"
ที่มา - Official Google Blog
ไมโครซอฟท์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของไมโครซอฟท์คือ Frank Shaw ตอบโต้ผ่านทวิตเตอร์ ใจความรวมๆ คือ Shaw บอกว่ากูเกิลไม่โต้แย้งคำพูดของเรา ไมโครซอฟท์ชวนกูเกิลไปซื้อสิทธิบัตร Novell แต่พวกเขาตอบปฏิเสธ เหตุผลก็เพราะกูเกิลต้องการซื้อสิทธิบัตรที่สามารถใช้โจมตีผู้อื่นต่างหาก ฉะนั้น กูเกิลจึงไม่ต้องการซื้อสิทธิบัตรร่วมกับองค์กรอื่นๆ ทั้งที่มันสามารถลดการโจมตีระหว่างกันเรื่องสิทธิบัตรลงได้
ที่มา - Business Insider
Comments
To Be Continue...
ผมว่าที่เขียนถึง Microsoft มันน่าจะมีจุดผิดนะครับ...
อ่านดูแล้วงงๆ เหมือนไม่ใช่การตอบโต้แต่เป็นการสนับสนุนกูเกิลมากกว่า
ไม่กล้าฟังธงว่าใครผิดใครถูก แต่สงสัยว่าทำไม Drummond ไม่ยอมบอกข้อมูลให้ครบแต่แรก รึพึ่งไปถาม Kent Walker มาจริงๆ
หวังว่าคงไม่ยาวแบบเพชรพระอุมา
I need healing.
โอ้ววว อ่านเหมือนกันหรอครับเนี่ย ^ ^
ผมอ่าน ภาคแรกป.5 ภาค2 ป.6
*ขอโทษครับที่นอกเรื่อง อิอิ
เวลาดูสาวชอบดูสาวขาวๆ Sex Sex เวลาดู Notebook ชอบแบบ"ถึกๆดำๆ"
Twitter : @Zerntrino
G+ : Zerntrino Plus
ผมไม่ได้อ่านครับ แต่นึกถึงวรรณกรรมเรื่องราว ผมนึกถึงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก
จะบอกว่าแฮรี่ก็กลัวมันยาวกว่า
I need healing.
ผมไม่เคยอ่านแหะ แต่มีเรื่องอยากถาม/รู้
อาจารย์สอนภาษาไทยตอนม.ปลาย บอกว่า เพชรพระอุมา
ถ้ามองโดยรวมจะเห็นว่านั้น โครงเรื่องคือการผจญภัยเกิดขึ้น
บน "สัดส่วนของผู้หญิงจากบนลงล่าง" จริงป่าวครับ???
จริงเหรอคับเนี่ย ไม่ยักกะรู้ - -'
สงสัยเริ่มผจญภัยกันบนภูเขา แต่ไปจบกันในป่าดิบชื้นป่ะครับ 555+
ติดตามตอนต่อไป ด้วยใจระทึก :-D
อ่านแล้ว ก็ยัง งงๆ เหมือนกัน..
เห็นด้วยกับความเห็นของ Business Insider ว่าจริงๆ แล้ว MS ไม่มีความจำเป็นจะต้องมาชี้แจงใดๆ ในเมื่อชนะประมูลมาถูกหลักอยู่แล้ว และจริงๆ ก็ไม่เชื่อเช่นกันว่าหาก Google ชนะประมูลจะปล่อยไปเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย
อันนี้ผมเห็นด้วยนะครับ คือกฎหมายมันว่ายังงี้ และไมโครซอฟท์ก็ปฏิบัติตามกฎหมายถูกต้องทุกอย่าง
เรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับ Forbes ว่ากูเกิลควรสู้กับระบบสิทธิบัตรซอฟต์แวร์ทั้งระบบ มากกว่าจะมาเล่นเป็นประเด็นย่อยๆ ไป
โดย นิสัย กูเกิลเอง ไม่ชอบ หุ้นกับใคร พอโดนแบบนี้ มาทำโอดครวญ
งงๆแฮะ
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ซ้ำ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ms + apple ฟ้องค่ายมือถือด้วยสิทธิบัตรอื่นๆ/ประเด็นอื่นๆครับ ถ้าได้สิทธิบัตรมาแต่ฟ้องกลับไม่ได้(เช่นซื้อร่วมกัน) มันก็ไม่มีประโยชน์
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมเข้าใจว่า แม้กูเกิ้ลจะเข้าร่วมแก๊งกับไมโครซอฟต์และชนะการประมูล คนที่ใช้แอนดรอยด์ก็ยังซวยอยู่ดีครับ
เพราะปกติเวลาฟ้องเค้าไม่ได้ฟ้องกูเกิ้ล แต่เขาไปฟ้องพวกผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ครับ
เช่นข่าวนี้ >>>
ไมโครซอฟท์ระบุ "Android ละเมิดสิทธิบัตร", HTC ยอมจ่ายเป็นเจ้าแรก HTC จ่ายนะครับ ไม่ใช่กูเกิ้ลต้องจ่าย สรุปแล้วแม้กูเกิ้ลจะร่วมวงกับไมโครซอฟต์ ผลก็คือกูเกิ้ลจะได้รับเงินจากการฟ้องร้องผู้ผลิตด้วยครับ(เข้าใจว่าเป็นเจ้าของร่วม)
ผมเข้าใจแบบนี้มากกว่า
คือตอนนี้ Google มีปัญหาเรื่องโดนตอดด้านทรัพย์สินทางปัญญา เลยต้องการสิทธิบัตร Nortel ไว้คนเดียว เพื่อไว้เป็นข้อต่อรอง เวลา MS จะฟ้องในเรื่องอื่นๆ (ประมาณ เอ็งฟ้องข้า ข้าก็ฟ้องเอ็ง)
แต่กลับกัน ถ้า Google ยอมร่วมมือกับ MS สิทธิบัตร Nortel ที่ได้มาจะใช้ต่อรองอะไรกับ MS ไม่ได้เลย เพราะเป็นการร่วมกันซื้อ (คือมีสิทธิ์ทั้งคู่)
แต่ Google จริงๆ จะคิดไปไกลกว่านี้หรือเปล่า ผมไม่ทราบ
ผมว่า คนนี้ ตอบถูก
คำตอบ ของกูเกิล คือ MS ฟ้อง ผู้ผลิต แล้ว เราจะจ่ายทำไม (ไม่ได้ห่วงผู้ผลิตเลย)
แล้วถ้าเกิดว่าเป็นของร่วมกันจริงๆ (Android กับ MS) MS ยังสามารถฟ้องผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ได้หรือเปล่า? (ไม่รู้กฏหมายเลยค่ะ)
ต้นฉบับมันก็มางงๆ ครับ ผมสรุปใหม่ให้ดังนี้
ปรากฏว่ากูเกิลแพ้ -_-''
ถ้าสรุปแบบนี้ก็แสดงว่ากูเกิลอีเดียต !?
ไม่ใช่ครับ เพราะ กูเกิลร่วมมือกับเจ้าอื่นๆซื้อไป ก็ไม่มีใครไปฟ้องกูเกิล แต่ไปฟ้องบริษัททำมือถือที่ทำ Android กูเกิลช่วยอะไรไม่ได้
แต่ถ้ากูเกิลได้ไป ก็เก็บไว้เฉยๆ เพื่อให้บริษัทที่ทำมือถือ ทำ Android ได้ ไม่โดนฟ้อง
ถ้า Google ซื้อคนเดียว บริษัทมือถือที่ผลิต Andriod ไม่โดนฟ้อง
แต่ Google ซื้อไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าซื้อแล้วฟ้อง M$ ไม่ได้
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
แค่เอาไปโฆษณาได้ว่าแอนดรอยฟรีจริงๆ เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ผลิต ก็พอแล้วมั้งครับ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
แค่บริษัทมือถือที่ผลิต Andriod ไม่โดนฟ้อง นั่นก็คือผลประโยชน์ที่กูเกิลต้องการแล้วครับ
สิทธิบัติ ไม่ได้ซื้อแล้วต้องฟ้องถึงจะมีประโยชน์นะครับ
^
^
that's just my two cents.
+99999
ดูแล้ว เข้าข้าง MS แฮะ, คือมีเตุผลว่า ไปช่วยกันซื้อซิ จะได้เอามาแบางกันใช้ แล้วในกลุ่มที่ซื้อ ก็จะไม่ต้องมาเสี่ยงฟ้องกันเองด้วย; แต่มุมมองกูเกิ้ลคือ ไปรวมกลุ่มกันซื้อนี่มันโกงอะ แล้วพอกลุ่มใหญ่ มีอำนาจ เดี๋ยวก็เอาไปไล่ฟ้องชาวบ้านอีก อย่างนี้ กูเกิ้ลรับไม่ได้ เลยไม่เข้าร่วมวงด้วย..
iPAtS
ผมมองว่า ที่ google ไม่เอาเพราะ เค้าไม่ได้ฟ้อง google ไง เค้าเอาไปฟ้องผู้ผลิต google ก็เลยไม่เอา ถ้า google รวมกันซื้อ ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะms หรือ apple ก็เอาไปฟ้องพวก HTC SUMSUNG อยู่ดี มั้ง
google โดนมองในแง่ดีตลอด
MS + Apple โดนมองแง่ร้ายตลอด
คิดกลับกันได้นะครับ จริงๆ Google อยากเอาไปฟ้องเองมั่ง มากกว่า
ผมยังไม่เคยเห็น google ไปฟ้องใครก่อนเลย...
เพราะที่ผ่านมามีแต่กูเกิ้ลไปละเมิดสิทธิ์คนอื่นจนถึงขั้นคุกคามธุรกิจเค้า หรือมูลค่าธุรกิจคุ้มค่ามากพอที่จะฟ้องไงครับ
ไว้มีคนมาละเมิดสิทธิ์ที่กูเกิ้ลครอบครองไว้เยอะๆ จนคุกคามธุรกิจของกูเกิ้ล ถึงเวลานั้นก็ต้องออกมาฟ้องปกป้องสิทธิ์ของตัวเองเหมือนกันกับเจ้าอื่นล่ะครับ
ถ้าgoogleไปร่วมประมูล มันก็เป็นการผูกขาดแน่นอน ต่อไปเทคโนโลยีทุกอย่างก็อยู่กับG A M เรียบร้อย
ผมมองในมุมผู้บริโภคครับ ถ้ากูเกิลได้ไปต้นทุนของผู้ผลิตมือถือที่ใช้ Android ก็ย่อมถูกลง ถ้าต้องจ่ายเครื่องละ 5USD เพื่อใช้ Android คิดว่าผู้ผลิตจะไม่ผลักภาระมาให้คนซื้อหรือครับ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ราคาเครื่องคงไม่ต่างหรอกครับ wp7 จ่ายเยอะกว่ายังถูกกว่า android หลายๆ รุ่นเลย ราคาเค้าไม่ได้ตั้งตามต้นทุนอย่างเดียว แต่เค้าตั้งตามความต้องการของลูกค้าหรือตั้งตามราคาที่ลูกค้ายอมจ่ายได้ด้วย รุ่นไหนคนอยากได้มากก็ตั้งราคาสูงได้ ขายได้น้อยก็ลดราคา
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เช่นโมโต xoom ใช่มั๊ยครับ
ไม่เกี่ยวว่าจะตั้งราคาเท่าไหร่ครับ Value คุณจะดันจะเข็นขนาดไหนก็ได้ให้ผู้ใช้คิดว่าคุ้มค่ายอมจ่าย แต่ต้นทุนคงที่มันมีอยู่แน่นอนผมบอกแล้วไม่มีผู้ผลิตรายไหนยอมแบกต้นทุนที่เพิ่มไว้แน่นอนครับเหมือน Vat ไงครับต้องผลักภาระมาให้ผู้บริโภค ราคามันจะสูงหรือต่ำ ผู้บริโภคก็ต้องรับภาระส่วนนี้ไปอยู่ดี
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ผมเชื่อในสิ่งที่เห็นครับ
เห็นอยู่กันจะๆว่าฝ่ายนึงชอบไปไล่ฟ้องชาวบ้าน จะให้พยายามคิดกลับกันมันยากครับบอกตรงๆ
+101
พยายามเป็นกลางไม่เข้าข้าง Google เกินไป ทำไม่ได้ก็เพราะแบบนี้แหละ
+1000
+1
ครับ เหมือนกับว่า ถ้ากูเกิลยอมร่วมประมูล แล้วการซื้อรวมกลุ่มทำให้ต้องไปฟ้องร้องค่ายผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ เช่น HTC, SAMSUNG ที่ใช้ระบบของ ANDROID อยู่แล้ว ในด้านทาง GOOGLE ที่เป็นสมาชิกกลุ่มสิทธิบัตร จะทำหน้ายังไงกับค่ายผู้ผลิตฮาร์ดแวร์(ของตัวเอง) ผมคิดว่ากูเกิลจึงเลือกที่จะไม่ร่วมวงประมูล เพราะผลกระทบจะเข้าตัว GOOGLE เอง
google อยากได้คนเดียว มากกว่า
น่าจะจริงครับ แผนสูง
+100 ^^
+1
แนะนำว่า .-
เหตุผลก็เพราะพวกเขาต้องการซื้อสิทธิบัตรที่สามารถใช้โจมตีผู้อื่นต่างหาก และกูเกิลไม่ต้องการร่วมซื้อสิทธิบัตรกับผู้อื่น เพื่อลดจำนวนการโจมตีด้วยทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างกัน
ควรเป็น
เหตุผลก็เพราะกูเกิลต้องการซื้อสิทธิบัตรที่สามารถใช้โจมตีผู้อื่นต่างหาก ฉะนั้น กูเกิลจึงไม่ต้องการซื้อสิทธิบัตรร่วมกับองค์กรอื่นๆ ทั้งที่มันสามารถลดการโจมตีระหว่างกันเรื่องสิทธิบัตรลงได้
เพราะประโยคแรก คือ
กูเกิลอยากฟ้องคนอื่น, เลยไม่ซื้อเพื่อลดการฟ้องกันเอง (ก่อนกับหลังคอมม่า มันขัดกันมากๆเลยหล่ะ)
แต่อย่างหลัง คือ
สิทธิบัตรที่ซื้อร่วมกันนั้นมันจะช่วยให้ไม่ต้องมานั่งฟ้องร้องกันเอง, แต่กูเกิ้ลไม่ซื้อร่วมเพราะมันอยากหาเรื่องฟ้องคนอื่น
google ต้อง
การซื้อสิทธิบัตรที่สามารถใช้ฟ้องกลับ ไอ้ที่โดนฟ้องมาแล้วต่างหาก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ใช่ จนป่านนี้ผมก็ยังไม่เห็น กูเกิ้ล จะฟ้องใครก่อน หากจะอยากมีไว้เพื่อป้องกันตัว จากพวกที่ไม่ต้องคิดจะทำอะไรแล้ววันๆ หาแต่เรื่องจับผิดคนอื่น ว่า "มันเข้าข่ายสิทธิบัตรของตรูหรือเปล่าฟร่ะ หากเข้าข่าย ตรูจะฟ้อง"
พฤติกรรมในอดีต ไม่สามารถรับรองพฤติกรรมในอนาคตได้ครับ อีกอย่าง Google ก็เป็นบริษัทที่เพิ่งอายุ 10 ปีเองครับ จะอ้างยั้งงั้นก็จะเข้าข้าง Google มากไปหน่อย
และ MS กับ Apple ก็ไม่ใช่พวกไม่ทำอะไร เอาแต่ไล่ฟ้องหรอกครับ
ในเวลา 1 ปีที่ผ่านมา MS สร้างสิทธิบัตรเยอะกว่าที่ Google จดมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทอีกครับ
เห็นด้วยอย่างหนึ่ง google ไม่ชอบจดสิทธิบัตร แต่ไม่ใช้ว่า google ไม่สร้างอะไร browser ui เล็กๆ หรือ nortification มาจาก idea ของ google
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
"เราไม่ใช่เจ้าแรก แต่เราดีที่สุด" 55555
หมายถึง คำแปลข้างบนหน่ะ ครับ มันอ่านแล้วสับสน เลยอยากให้แก้หน่อย
เห็นด้วยครับ แก้ตามนั้น
อ่านแล้วงง ที่ google มไ่ร่วมซื้อด้วย มันเพราะถึงซื้อไปมันก็ไม่ได้กันผู้ผลิตรายอื่นๆที่ผลิตแอนดรอยจากการถูกฟ้อง แบบที่ ms ทำอยู่ตอนนี้ ไม่ฟ้อง google แต่ไปฟ้อง htc ซัมซุง แล้วอีกหลายๆค้ายของแอนดรอย เพราะแบบนี้ google ซื้อไปก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร แถมทำให้ ms ได้ของใหม่ที่สามารถเอามาโจมตีในราคาถูกลงอีกด้วย ตัว google ณ ตอนนี้ยังไม่เคยมีไปฟ้องใคร ผมอยากให้อากู๋ได้มากกว่านะ เพื่อโลกโอเพนซอส
Apple สบาย ไม่ต้องออกมาตอบอะไร MS คลุกวงใน Google แทนแล้ว
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Drummond เขียนลงใน Official Google Blog
แต่การตอบโต้ทั้งสองครั้งของ Microsoft ทำผ่านหน้าทวิตเตอร์ส่วนตัว
สงสัยจะเกินไตรภาค :p
พอเถอะ นะ
"การร่วมซื้อสิทธิบัตรจาก Novell กับไมโครซอฟท์จะทำให้สิทธิบัตรเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ในการคุ้มครองแอนดรอยด์จากการโจมตีของไมโครซอฟท์"
แปลเป็นไทยว่า ถ้า google มี microsoft มี ก็ไม่มีประโยชน์เพราะ Google ก็เอาไว้ใช้ฟ้อง Microsoft ไม่ได้ เลยต้องการมีคนเดียว แต่ดันแพ้ประมูล
เลยออกมาวีนใส่ Microsoft ซะเลย
Evil ต่างกันตรงไหน ทำเป็นบอกทำเพื่อชุมชน android
พูดเหมือน นปช. ทำเพื่อประชาชน เดะ!
กับ
มันไม่เหมือนกันนะครับ
^
^
that's just my two cents.
มันต้องแปลความเป็นนิดนึง แล้วจะเข้าใจครับ อธิบายคร่าวๆให้ละกัน
แปลประโยคแรก การร่วมซื้อ ทำให้สิทธิบัตรไม่มีประโยชน์ในการคุ้มครอง android
แปลว่า ถ้าทั้ง Google มี และ microsoft มีทั้งคู่ มันไม่มีประโยชน์
ทีนี้ต้องอ่านลึกหน่อย ว่า ทำไม Google มีสิทธิบัตรคนเดียว แล้วจะมีประโยชน์??
ก็เพราะว่า ถ้า Google มีคนเดียว พอ microsoft ฟ้อง android มา Google ก็เอาสิทธิบัตรที่มีคนเดียว ฟ้อง windows mobile กลับได้
สุดท้ายก็ต้องเจรจายอมความกันไปตามสูตร
ปรองดองๆ
gg ต้องการสิทธิบัตรแค่มาต่อรอง ไม่ได้ต้องการร่วมกับคนอื่นเพราะว่ามันต่อรองอะไรไม่ได้
ค่าย a ละเมิด gg ก็ทำให้ gg ละเมิด a ได้ด้วยมันก็แค่นั้น
แต่ถ้า a กับ gg ได้สิทธิ์ร่วมกัน gg ก็ยังละเมิด a ใบอื่นอยู่ดี
ตรรกของ gg คือถ้าใครละเมิดเรา เราก็ละเมิดเขาได้
แต่ปัญหาอยู่ที่ในเมือต้องการมาป้องกันตัวเองทำไมไม่สู้ราคา
ไมโครซอฟท์พยายามไม่ให้เราได้ครอบครองสิทธิบัตรเหล่านี้เพื่อปกป้องแอนดรอยด์ และบีบให้เราต้องจ่ายเงิน เวลาซื้อของไม่ต้องจ่ายเงิน? แปลกดี
ความหมายคือ
ms : ggจงร่วมมือกับเราซะ ไม่งั้นเจ้าจะโดนฟ้อง
นี้น่าจะเป้นความยหมายลึกๆในเมลที่ ms ส่งให้ gg หล่ะมั้ง ฮาาาาา
อย่าเข้าข้าง google มากไปเลยครับ คนอื่นเค้าก็ไม่ได้ไล่ฟ้องดะไปหมดทุกอย่าง
ผมว่าถ้า Apple จดสิทธิบัตรวิธีการ scroll หน้าจอแบบเอานิ้วปัดๆน่ะก็จดได้
และมือถือ touch screen ทั้งโลก ก็ตายหมดล่ะครับ ถ้า Apple จะฟ้อง
ส่วนตัวผมมองเองว่า idea นี้ของ apple มันเปลี่ยนโลกเลย
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า Google อยากมีไว้ปกป้อง android และผู้ผลิตโทรศัพท์ android จริงๆ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ยอมจ่ายเงินเป็นค่าใช้งานตามมูลค่าจริงๆ เพราะศาลก็ไม่ได้เออออบังคับให้จ่ายเกินเว่อร์อยู่แล้ว จะเห็นได้จากกรณี android กับ Oracle (SUN) ตอนแรก SUN ก็ไม่ได้เรียกร้องมากเกินไปเลย แต่ Google เลือกที่จะไม่จ่ายเลย
ผมจึงคิดว่า ที่ Google จะไม่ยอมจ่ายอะไรเลย เพราะต้องการทำให้รู้สึกว่า Android มันฟรี ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้ฟรี ($0) ไม่มี cost อย่างที่ Google พยายามทำให้บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์หรือผู้บริโภคเข้าใจ การที่ Google สร้างภาพแบบนี้ มันก็อาจจะมองได้ว่า เป็นความดันทุรันจะครองโลกก็ได้ เพราะถ้าพิจารณาดีๆ จะพบว่า ใน Android มันไม่ใช่สิ่งที่ใหม่ 100% อยู่แล้ว มันมีอะไรๆ ที่เคยมีอยู่ในระบบอื่นๆ มาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าคนอื่นจดสิทธิบัตรได้แล้ว ก็จำเป็นต้องจ่ายแหละครับ จนกว่าจะแก้กฏหมาย เพราะการแข่งขันต้องอยู่บันพื้นฐานเดียวกัน ก็คือ บริษัทอื่นๆ ก็ต้องจ่ายเหมือนกัน ถ้าไปละเมิดสิทธิบัตรคนอื่น
ปล. มันเหมือนโรบินฮู๊ดที่ไปปล้นคนรวยช่วยคนจนเลย มองว่าดีก็ดี มองว่าไม่ดีก็ไม่ดี
GG โฆษณาหาเสียง ไปก่อน ให้มันติดตลาดก่อน ทั้งที่จริงมันไม่ใช่ ทำไม่ได้ ไม่ได้ฟรี
แถม ยังปากแข็งอีก เดียวก้ออ้าง มีผู้ใช้จำนวนมาก
เอ Concept นี้มันคุ้นๆ เหมือนบ้านเราเลย
กระทืบ Like ให่ 20ทีเลย XD
Open source ไม่ได้หมายความว่ามันฟรีไปเสียหมดนะครับ
แล้วผมก็คิดว่าที่ Android ติดตลาดมันไม่ใช่แค่ลมปากของกูเกิลแน่นอนครับ ผู้ใช้เองก็ไม่ได้ไร้ปัญญาเสียจนไม่รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดีครับผมคิดว่างั้นนะ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
Open source ก็ไม่ได้ฟรีทั้งหมดแต่กูเกิลเลือกเองที่จะไม่ทำตามกฎกติกา รู้ว่าผิดแต่ไม่ยอมจ่าย
ถึง ANDROID จะไม่ได้ดังเพราะลมปากจาก Google เอง แต่เพราะ กูเกิลวางการตลาดให้
ค่ายผู้ผลิตเป็นคนผลักดันมากกว่า และผู้ใช้ก็ไม่ได้ไร้ปัญญา แต่ความหลากหลายและ
มากมายของตัวมือถือที่เป็น ANDROID ต่างหากที่ทำให้ผู้ใช้สับสน และเลือกที่จะซื้อมัน
ถ้าให้สรุปจากที่กล่าวมา Andriod ดังได้เพราะ
มันแปลกๆครับ สรุป Android ไม่เจ๋งจริง แต่คนใช้มึนไปซื้อเอง
ผมเข้าใจผิดไปก็ขออภัยครับ รบกวนชี้แจงด้วยหากผมเข้าใจผิด
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ครับ ส่วนตัวมองว่า GG ฉลาดมากและพยายามดึงผู้ผลิตรายอื่นให้เข้ามาเล่นเกมในสนามของ GG ซึ่งได้ประโยชน์จากการที่ผู้ผลิตนำเครื่องมือโฆษณาติดตัวทุกที่ทุกเวลาไปใช้ ดังนั้นโจทย์เดียวที่ GG ต้องทำคือทำยังไงให้ผู้ผลิตไว้วางใจได้ว่าการเลือกใช้ Android เป็นทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำที่สุด
หึหึ พวกคุณก็น่าจะรู้ว่า google เข้าเจ๋งแค่ไหน หากินกับคำว่า Open Open Free Free มานานแล้ว
เขาไม่ยอมลงทุนจ่ายเงินแน่ครับ เรื่องเอาของ Open มายำๆรวมกันแล้วออกหากินเป็นของถนัดมานานแล้ว
แต่ปัจจุบัน google ใหญ่เกินกว่าที่จะทำตัวแบบเด็กๆแล้ว ให้ลองจิตนาการดูซิครับเมื่อตอนที่เรายังเป็นเด็ก เราไม่ต้อง
คิดเรื่องกฎหมายให้หนักหัว ไม่ต้องจำวันเสียภาษี ไม่ต้องคอยเก็บเอกสารบางชิ้นที่คิดว่าอาจจำสำคัญในอนาคต
ในกรณีนี้ google ทำตัวเหมือนเด็กมากมาย หวังแต่จะพึ่งพลังมวลชน
google ไม่เหมือนคนจนครับในกรณีนี้ แต่เขาคือคนรวยที่ฉลาดแกมโกง
และที่สำคัญใช้ชุมนุม Open Souce เป็นเครื่องมืออีกแล้ว
เวอร์ไปไหมอ่ะ ?
ไม่มีของอะไร ที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนหรอกฮะ
ถ้ากูเกิ้ลฟรีหมด บริการเค้าจะดีอย่างนี้ และจะมาถึงเราได้หรอ ?
อย่างดีก็แค่เสิร์ชเอนจิ้นตัวหนึ่ง ที่ดังมาแป๊ป แล้วก็จากไปนั่นแหละ
แต่นี่เค้าฟรี และสร้างประโยชน์ แบบฟรีๆก็มากมายจริงๆ
ปล ฉันไม่ใช่เสื้อแดงน้าาาาา~~~
ปล ชอบลายเซ็นคุณมากเลย
เอาไปเลย
+84000
ฮะ
เห็นมั้ยครับ แม้แต่ท่านยังคิดได้ว่าทุกอย่างต้องใช้ต้นทุน แล้วทำไมเขาไม่ลงทุนล่ะ ถ้าโดนกีดกันเรื่องต้องแดงอยู่แล้ว
หรือว่า google ประเมิน android ผิดคิดว่าจะไปไม่รอดเลยไม่ลงทุน ?
ส่วนเรื่องฟรีผมซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งเลยครับ แต่เรื่องที่กำลังถกกันไม่ใช่เรื่องนี้นะครับ แต่เป็นเรื่องสิทธิบัตร ที่กำลังถูกพิจารณาเพื่อให้เป็นของ Open Souce น่ะครับ ผมสงสารผู้ที่อาจจะเสียผลประโยชน์ แล้วแบบนี้ใครมันจะมีกำลังใจทำ
ถ้ามัน Open ออกมาจริงๆ ใครๆก็ได้สิทธิ์นี่ครับ มันจะเสียผลประโยชน์ยังไงครับ คุณก็ทำได้ ผมก็ทำได้ ผมกับคุณแข่งกัน ผลประโยชน์ก็ตกกับผู้บริโภค
ส่วนใช้คำว่าหากินกับ Open source นั้นมันฟังดูแปลกๆนะครับ ในเมื่อทำธุรกิจมันก็ต้องมีกลุ่มเป้าหมายของตัวเองอยู่แล้วนี่ครับ จะหากับกลุ่มไหนมันผิดตรงไหนครับนี่
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ของฟรีไม่มีในโลก เราใช้ฟรี คนผลิตได้รายได้จากบริการย่อยๆ ผมว่า win กันทั้งคู่ แต่มันจะไม่ win สำหรับคู่แข็งรายอื่นๆ เลยต่องพยายามหันขาเก้าอี้อากู๋กัน
ขอแย้งประเด็นเดียวครับ ว่า "โอเพนซอร์ส" ไม่ได้แปลว่าฟรีแบบให้เปล่านะครับ และสัญญาอนุญาต GPL นั้นก็ส่งเสริมให้นำซอฟต์แวร์เปิดไปสร้างรายได้ด้วย (คือ "เปิด" กับ "หารายได้" นั้นอยู่ด้วยกันได้)
ก็ถ้าผมผู้บริโภคเต็มใจใช่ มันจะไปมีปัญหาอะไร พัฒนาแข่ง กันให้ผู้่บริโภคเป็นคนเลือก
แต่ยุคนี้ผู้ผลิตโจมตีกันด้วยสิทธิบัตรเอาเงินซื้อความถูกต้อง ใครมีเงินมากกว่าก็ชนะ
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ เหดียวเขาก็ตัดสินเอง
ผมว่าพวกสิทธิบัตรที่เป็น Open Souce มันไม่น่าที่จะซื้อขายกันเพื่อเอาไว้โจมตีกันเลยนะครับ
อยากอ่านภาค 3 อยากเห็นกุ๊กเกิ้ลเสียหน้ากว่านี้ 555
ถ้า google ซื้อร่วมกับ MS ถึง google อยากจะทำให้ใช้ฟรีก็ฟรีไม่ได้ ส่วน Android นี่ฟรีจริงถ้าตัด app google บางตัวออกก็ฟรีไม่มี5$ ที่เหมือนจะเคยเห็นถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะ Android tablet Creative รุ่นหนึ่งที่ไม่มี Market
อยากรู้จริงๆ เลยครับว่าที่ ms เรียกค่าใช้สิทธิบัตรจากผู้ผลิต android นี่ มันเป็นสิทธิบัตรเรื่องอะไรกันแน่ feature หรือ look & feel อ่านมานานๆ แล้วยังงงไม่หาย มีการเปิดเผยไปรึยังครับ
ส่วนเรื่องสิทธิบัตรในอเมริกาเนี่ย ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่น่าจะสร้างให้เกิดความหน่วงของการพัฒนาได้พอสมควรนะ แต่อย่างว่าแหละผู้คิดค้นควรจะได้รับผลตอบแทนเช่นกัน สมดุลนี้ควรอยู่ตรงไหนกันนะ
แต่ผมเชื่อ gg นะเพราะที่ผ่านมายังไม่ฟ้องใคร ที่ไม่ถูกกระทำ
ไม่เคยฟ้องใครก็ไม่ได้แปลว่า จะไม่ถูกใครฟ้องถ้าผู้อื่นฟ้องได้...ตลาดเดียวกัน ภายใต้กฏหมายเดียวกัน
ปล. ต้องแก้กฏหมายต่างหาก ไม่ใช่ไม่ยอมรับมัน
แต่ผมเชื่อ gg นะเพราะที่ผ่านมายังไม่ฟ้องใคร ที่ไม่ถูกกระทำ
แปลกใจจริงๆ งงจังเลย
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
คิดง่ายๆ
การร่วมทุนซื้อมีประโยชน์แค่ 2 อย่าง
เอาไว้ฟ้องกีดกัน/หาเงินจากคนอื่น
เอาไว้ต่อรองหรือฟ้องกลับ เวลาที่ตัวเอง(หรือพาร์ทเนอร์)โดนคนอื่นฟ้อง
แล้วไอ้บริษัทที่ฟ้องมันดันอยู่ในกลุ่มที่ร่วมทุนด้วย ร่วมทุนไปมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับถ้าไม่ได้ต้องการทำข้อ 1.
ติ๊กต็อก Tick-Tock
แต่ละเมนท์ ทำเอาอ่อนใจ แต่ละคนเข้าใจเจตนาของ google "เกินไป" หรือเปล่า ผมไปอ่านที่แหล่งที่มาแล้ว หลักๆ ที่ google ชี้แจงคือ
ไม่ร่วมกลุ่มประมูลเพราะ ต่อให้ประมูลได้ google ก็ไม่สามารถปกป้องผู้ผลิตได้อยู่ดี เป็นลูกไม้ง่ายๆ ที่ google มองออก
จะทุ่มเงินเพื่อให้ได้ไว้เองก็ไม่ได้ เพราะถ้าใช้เงินเยอะมาก ก็ลำบากคนที่ใช้ๆ อยู่ดีที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น ตัวเลือกของเขาก็น้อยลง (เข้าใจว่าถ้า google ทุ่มเงินซื้อมา ก็ต้องมาเก็บค่าสิทธิบัตรเองจากผู้ผลิตอยู่ดี)
google กล่าวหาว่า การใช้สิทธิบัตรเพื่อฟ้องร้องกัน แบบนี้ ทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม google อ้างว่า ก๊วนที่ประมูลได้ อยากต้นทุนของอุปกรณ์คู่แข่งเพิ่มขึ้น ราว 15$
ไม่น่าเชื่อ ว่าในมือถือ smartphone จะมี patent ที่เกี่ยวข้องถึง 250,000 อย่าง ซึ่ง google ก็บอกว่า คู่แข่งตั้งใจจะทำให้มือถือ android มีต้นทุนแพงกว่าอย่างอื่น
สรุปง่ายๆ คนอื่นอยากสกัดดาวรุ่ง เพราะ android ถูกใจทั้งคนซื้อและคนขาย
ตอนนี้ก็มีหน่วยงานภาครัฐมาจัดการแล้ว รอดูภาคต่อไป
+1 สรุปได้เข้าใจง่ายดีครับ
ผมละอยากให้มีคนเจาะลึกข่าวนี้จริงๆ เชื่อว่าหลายคนยังเข้าใจเหตุการณ์นี้ผิดๆอยู่มาก และเชื่องโยงเรื่องต่างๆนาๆ
ข้อ 1 กับ ข้อ 2 มันขัดแย้งกันนะครับ คุ้มครองนั้นหมายความว่า ซื้อมาแล้วไม่ฟ้องเรื่องสิทธิบัตรหรือเรียกเก็บค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นต้นทุนก็ยังคงเท่าเดิม แต่ถ้าเรียกเก็บอีกนั้นก็ไม่ต่างจาก MS และ Apple ที่เป็นอยู่ตอนนี้
ซื้อมาในราคาถูกๆก็ไม่ได้หรอกครับ บริษัทอื่นๆเค้าก็อยากได้นะ ไม่ใช่ Google คนเดียวที่อยากได้ และประเด็นหลักก็ไม่ใช่เพื่อมาฟ้อง Android โดยเฉพาะ ค่ายอื่นๆเค้าก็จะโดนปัญหาสิทธิบัตรเหมือน Android เหมือนกัน เค้าก็แค่ปกป้องเหมือนกับ Google
ส่วนข้อ 3 ผมมองว่า Google ไม่เป็นธรรม ใช้ความคิดของคนอื่นมาทำเป็น open source แถมไม่จ่ายค่าสิทธิบัตรอีก
4. ถ้าเกี่ยวโยงถึง 250,000 นั้นยิ่งตอกย้ำว่ามันไม่ใช่ innovation ฉะนั้น google ไม่ควรอ้างเรื่อง innovation เลย
ต้นทุนสูงใช่ว่าราคาเครื่องจะสูง ของแบบนี้ต้องดูที่กำลังซื้อของผู้บริโภคด้วยครับ ถ้าราคาต้นทุนสูงขึ้นกำไรจาก Android น่าจะลดลง ไม่คุ้มแถมยังโดนฟ้องอีก ผู้ผลิคอาจจะหันไปผลิต OS อื่นแทน ผมว่า Google น่าจะกังวลเรื่องนี้มากกว่า ขอฟังธงว่าราคาไม่ขึ้นแน่นอน ณ ปัจจุบันราคายังพอๆกับ OS อื่นๆเลย
สรุปง่ายๆ ต้นเหตุเกิดจาก Android มันเป็น open source ที่ไม่มีใครมาคุ้มครองผู้ผลิตได้ เพราะนับว่าผู้ผลิตเป็นเจ้าของ OS และหาผลกำไรแต่เพียงผู้เดียวเจ้าของความคิดไม่ได้ผลประโยชน์เลย ถึง Google จะร่วมประมูลก็รอดแค่คนเเดียว และถ้า meego ดังระเบิดเหมือน Android ก็อาจจะโดนกรณีนี้เช่นกัน
1 กับ 2 ไม่ขัดกันครับ
ประเด็นคือ ค่าสิทธิบัตรที่กูเกิล "จ่ายไหว" คือถ้าจ่ายแล้วจะอยู่ในระดับที่เปิดฟรีได้หมดเหมือนปัจจุบัน ก็มีมูลค่าสูงสุดจนจะชนะประมูลได้แล้ว
แต่พอคนแพ้ไปรวมเงินกันแล้วเอามาซื้อ เงินตรงนี้มันก็พุ่งขึ้นในระดับที่กูเกิล "จ่ายไม่ไหว" คือถ้าต้องเพิ่มเงินสู้อีก ก็คงต้องมาเก็บเงินกับคนที่ผลิตมือถือ Android (และกูเกิลก็ยอมแพ้ เพราะขัดกับแนวทางธุรกิจตัวเอง)
และข้อ 3/4 ประเด็นมันก็อยู่ที่ สิทธิบัตรบางตัวที่จดกันไปนั้น คนอื่นก็คิดได้แต่ไม่ได้จดบ้าง ไม่มีเงินจดบ้าง ไม่มีปัญญาจดบ้าง
จดไว้ตั้งเป็นล้าน ต้องใช้ตั้งสองแสน ใครจะไปนั่งเช็ค ต้องใช้คนกี่คน กรณีนี้มันไม่ใช่แค่เรื่อง JVM นะครับ
บางทีสิ่งที่เราคิดว่า เราคิดได้เอง เรามี innovation กลายเป็นสิทธิบัตรไปแล้วเราไม่รู้ เราจะยังนับว่าเราคิดได้เองอยู่รึเปล่า?
ผมอ่านเฉพาะที่ google ออกมาชี้แจงนะครับ
ข้อ 1 คห. ล่างๆ ชี้แจงชัดแล้ว คือไว้เพื่อปกป้องผู้ผลิต
เรื่องไม่ยอมจ่ายค่าสิทธิบัตร ไม่ใช่หรอกครับ ราคาตั้งคน 1 พันล้าน $ แต่พวกรวมกันมาจัดหนักไป 4.5 พันล้าน $ ถามว่าใครจะสู้ครับ เค้าก็ต้องจ่ายในราคาที่รับได้ด้วย สุดท้ายคือให้หน่วยงานภาครัฐส่งเรื่องเข้าศาล สั่งบังคับขาย ก็ดูผลอีกที
เรื่องที่ google กังวล ก็เห็นด้วยครับ ตอนนี้ผู้ผลิตยังไม่ต้องจ่ายราคายังเท่าเดิม แต่เมื่อถึงวันที่ต้องจ่ายปุ๊ป ไม่แปลกที่ค่า OS ของ android จะแพงกว่าของ windows หรือ อื่นๆ เราก็จะได้กลับมาใช้ windows phone กันอีกทีนึง โนเกียกลับไปใช้ซิมเบียน ทีนี้ก็จะมีอะไรเก่าๆ กลับมาให้เล่นอีกที
ส่วนที่เก่งๆ ก็จะได้ root เครื่องลง android เถื่อนกันต่อไป
ไม่ชอบที่บางคนเอา Google ไปเทียบกับเสื้อแดงเฉยเลย
บางคนก็ Addict พอๆกับละครหลังข่าวนะครับ พูดอะไรก็โยงได้ไปหมด
พวกนี้เวลาคุยด้วยแล้วผมก็นึกขำในใจ ทำกันไปโดยอัตโนมัติแบบไม่รู้ตัว
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าถ้ากูเกิ้ลได้สิทธิบัตรไปจะปกป้องแอนดรอยยังไง เมื่อ MS กับแอปเปิ้ลฟ้องผู้ผลิตมือถือไม่ใช่กูเกิ้ล กูเกิ้ลจะเข้ามาเจรจากับ MS และแอปเปิ้ลยังไงถ้าไม่ "ฟ้องเค้าก่อน"
ก็กูเกิลเป็นเจ้าของ Android นี่ครับ ผู้ผลิตที่โดนฟ้องก็เรื่อง Android ไงครับ
ถ้ากูเกิลเป็นเจ้าของสิทธิ การให้สิทธิ ก็ไม่ผิด
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ถังสิทธิบัตรที่ซื้อมาเยอะๆ มันต้องมีสักหลายตัวที่ไปชนกับสินค้าของ MS ไงครับ
ถ้า MS จะฟ้องผู้ผลิตแอนดรอยด์ กูเกิลก็เอาสิทธิบัตรที่มีไปต่อรองว่าถ้าเอ็งไม่ถอนฟ้อง ข้าก็จะฟ้องบ้าง
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ก็สรุปคือป้องกันโดยฟ้องเค้าก่อนนั่นแหละครับ
ฟ้องก่อน กับ ฟ้องกลับ นี่มันความหมายเดียวกัน?
อ่านภาษาไทยแตกมั้ยครับ?
+1 นานๆทีจะเห็นด้วยกับคุณ :P
ผมมีความรู้สึกเหมือน Google แพ้แล้วพาลนะกรณีนี้อะ
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
---------------ซ้ำ
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ทำไมถึงคิดว่ากูเกิ้ลได้ไปแล้วจะไม่เอาไว้ฟ้องคนอื่น?
ผมคิดว่าสถานะปัจจุบันกูเกิ้ลได้เปรียบทางธุรกิจมากกว่าคนอื่น แต่เมื่อวันใดกูเกิ้ลเริ่มพ่ายให้กับคู่แข่งจนย่ำแย่ ตอนนั้นไม่แน่อาจจะเห็นการไล่ฟ้องจากกูเกิ้ลก็เป็นได้ เรื่องอนาคตยังมาไม่ถึง คนที่เชียร์ ms อาจถูกมองเป็นผู้ร้าย
ผมเชียร์ไมโครซอฟท์ ..... เพราะว่าได้มาอย่างถูกต้อง
เพราะกูเกิลไม่เคยฟ้องใครให้เห็น ส่วน MS ฟ้องกระจาย ก็แค่นั้นแหละครับ ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย
ส่วนถ้าอนาคตกูเกิลฟ้องกระจายบ้างก็ค่อยว่ากันอีกที
MS ฟ้องกระจาย เช่น.. ?
ผมเห็นแต่ MS เรียกเก็บค่า License เทคโนโลยีอะไรซักอย่างจากผู้ผลิต Android เท่านั้นหน่ะครับ (ถ้าเป็นเจ้าของเทคโนโลยีเอง เช่น Cleartype, Exchange แบบนี้ไม่น่าจะผิดอะไรหรือเปล่าครับ)
ส่วน Apple เอง อันนี้ผมเห็นฟ้องมาหลายเรื่องแล้ว
การสะสมอาวุธ แค่มีไว้เฉยๆก็เอาไว้กันไม่ให้โดนอาวุธคนอื่นได้เหมือนกันครับถ้าจำนวนมันเยอะพอ แต่สมมติว่าถ้าถังแตกแล้วเอาอาวุธไปปล้นชาวบ้านนี่ก็คงโดนสวนเหมือนกันครับเพราะมีอาวุธทั้งคู่ เพราะฉะนั้น เรื่องที่กลัวว่า Google ได้คลังอาวุธชุดนี้ไปแล้วจะเอาไปปล้นคนอื่นตอนหลังนี่คงไม่ครับ อย่างน้อยก็กับบ.ใหญ่ๆล่ะเพราะต่างก็สะสมอาวุธกันระดับนิวเคลียร์ทั้งนั้น
สรุปว่างานนี้ยอมรับครับว่า Google แพ้ แต่ก็ยังเชียร์อยู่เหมือนเดิม
ผมว่าเราลืมใครไปหรือเปล่าครับ ไม่เห็นมีใครพูดถึง apple ในเรื่องนี้เลย
สำหรับประเด็นนี้ผมเห็นว่าเราควรวิเคราะห์ก่อนครับว่าใครได้ประโยชน์ใครเสียประโยชน์หากได้สิทธิบัตรไป
เริ่มแรกเลยเรามีผู้เล่น 5 รายที่ผลิต mobile os หลัก คือ apple, microsoft, google, nokia, RIM
แต่ nokia และ RIM ไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้ และทีนี้มาคิดกันต่อว่าถ้าผู้เล่นรายใดได้สิทธิบัตรนี้ไปเป็นของตัวเองคนเดียวจะเกิดอะไรขึ้น
apple บริษัทนี้จะได้ผลประโยชน์มากที่สุด เพราะเป็นผู้ผลิต hardware และ os เองทั้งหมด และสิทธิบัตรที่ได้มายังสามารถขายให้กับรายอื่นได้อีก
ทำให้ได้รายได้เข้าบริษัทได้อีกเยอะ
microsoft สำหรับบริษัทนี้นำสิทธิบัตรที่ได้ ไปพัฒนา os และขาย license ผ่านทาง windows phone ซึ่งน่าจะครอบคลุมการนำสิทธิบัตรไปใช้ด้วยของผู้ผลิต hardware และยังทำกำไรจากการขายสิทธิบัตรใด้อีก
google มีลักษณะคล้าย microsoft แต่จะไม่เก็บค่า license ของตัว os โดยจะแจกให้ใช้ฟรี
จะเห็นว่าผู้เล่นที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือ apple แต่แล้วทำไม apple เองไม่คิดเหมือน google ที่จะต้องซื้อเก็บไว้คนเดียวละเพื่อไว้ปัองกันการฟ้องจากคนอื่นได้
และ apple เป็นบริษัทที่รวยกว่า google หลายหมื่นล้านอีกต่างหากสามารถที่จะจ่ายราคานี้ได้สบาย ผมเองไม่รู้สาเหตุจริงๆที่ apple เลือกที่จะซื้อรวมแต่ถ้าให้เดาน่าจะเป็นว่า
apple มองแล้วว่าการเข้าไปซื้อเดียวๆมีโอกาสที่จะไม่ได้สิทธิบัตรนี้มา เพราะจะต้องเจอการรวมกลุ่มกันซื้อทำให้ราคาพุ่งสูง และเริ่มไม่คุ้มกับที่บริษัทตัวเองจะจ่ายแพงขนาดนั้น
ดังนั้นทางออกคือก็เป็นผู้เข้าไปซื้อร่วมมันซะเลยเพราะยังไงก็ได้ประโยชน์ในการนำไปใช้กับ hardware และ os
กลับมาว่าต่อเรื่องของ google ทำไมไม่คิดเหมือน apple ซึ่งเหตุที่ไม่เข้าร่วมเพราะตัวเองไม่สามารถที่ใช้ไปปกป้อง android ให้กับผู้ผลิตได้ "แล้วทำไม google ต้องปกป้องด้วยละ"
ก็เพราะ android มีการละเมิดสิทธิบัตรนะซิ google เลยต้องหาวิธีปกป้อง แต่วิธีนั้นก็คือการเอาสิทธิบัตรตัวอื่นมาขู่
แต่ถ้าคิดให้ดีคือเท่ากับว่า google เองรู้แก่ใจว่าผิดแต่ไม่ยอมรับผิด เพราะหากยอมรับผิดผู้ผลิต hardware ก็จะต้องจ่ายค่าสิทธิบัตร ซึ่งก็จะเกิดประเด็นว่า android ไม่ฟรี และก็จะเริ่มลดจุดแข็งของ android เอง
หรือหาก google บอกว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองก็ไม่เข้าท่าเพราะ android มีปริมณการใช้ที่เยอะมากซึ่งจะเป็นรายจ่ายที่ค่อนข้างสูงและต่อเนื่อง
สรุปคือ google ต้องการเปลี่่ยนธุระกิจที่มีรายจ่าย ไปให้ไม่มีรายจ่าย แม้ว่าจะละเมิดสิทธิบัตรก็ตาม
และการที่บอกว่า google เขาไม่เอาสิทธิบัตรไปฟ้องใครหรอก ผมเองก็ยังไม่เห็น google บอกเลยว่าจะไม่ฟ้องและจะทำเป็น open source แต่เห็นมีบอกว่าเอามาปกป้อง android เท่านั้น
เกมสิทธิบัตร คุณมี ผมมี คุณไม่จ่าย ผมไม่จ่าย Win-Win ทั้งคู่ มันเรื่องปกติครับใครๆก็ทำกัน
สิทธิบัตรมันเกิดมาจากธุรกิจ ตกลงกันได้ก็จบ อันนี้ไม่ถือเป็นการโกง
สิทธิบัตรเป็นล้าน แต่ละคนละเมิดกันทั้งนั้น และจะจ่ายเมื่อมีคนฟ้อง เพราะไม่มีใครว่างพอจะไปนั่งเช็ค คนที่อยากได้ก็ติดต่อมาเอง
ถ้าเรียกราคาแพงเกินจ่ายไม่ไหว ก็มีวิธีไปดีลกัน ให้ผลประโยชน์ด้านอื่น การเอาสิทธิบัตรในมือมายันกันก็เป็นผลประโยชน์อย่างนึงเหมือนกัน
ถูกต้องเลยครับการที่ทุกบริษัทต้องมีสิทธิบัตรเอาไว้กันการฟ้องร้องซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นเหตุให้ google เลือกที่จะเข้าประมูลคนเดียว แต่ถ้าคิดต่อไป google รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าการประมูลครั้งนี้มีการรวมตัวกันเข้าประมูลด้วย
เพราะ google เองได้รับคำเชิญจาก microsoft ซึ่งเท่ากับว่ารู้อยู่เต็มอกว่าประมูลแพ้แน่
ทีนี้พอตัวเองแพ้แน่ๆแล้ว ก็มาบอกว่า apple กับ microsoft ต้องการสกัดดาวรุ่ง android ของตัวเอง แต่ประเด็นจริงๆมันอยู่ที่ว่าการแพ้ประมูลเท่ากับว่า google ยังละเมิดสิทธิบัตรโดยที่ไม่สามารถหาวิธีป้องกันตัวเอง และ ผู้ผลิต hardware
ได้เลยต่างหากละครับ จะเห็นว่า google พยายามเบียงประเด็นนี้โดยโยนบาปให้ apple กับ microsoft
การกระทำของ google มันถูกต้องแล้วหรือครับ
apple และ microsoft ได้รายได้หลักจากการขาย os แต่ google ไม่ใช่เลยพยายามหาวิธีลดต้นทุนด้วยการเอาเปรียบคนอื่น
ก็ต้องถามว่า แล้วที่กูเกิลพูดมาไม่ถูกเหรอครับ?
กูเกิลไม่ได้ต้องการซื้อสิทธิบัตรไปเล่นงานใครอยู่แล้ว แต่ต้องซื้อก็เพื่อไม่ให้คนอื่นได้สิทธิบัตรนี้ไปฟ้องคนที่ทำแอนดรอยด์ ฉะนั้นกูเกิลเข้าร่วมกับกลุ่ม MS Apple ก็ไม่มีประโยชน์
ในทางกลับกันคือกลุ่ม MS ก็รู้อยู่แล้วว่ากูเกิลต้องการอะไร ที่ไปชวนนี่ MS ก็รู้ว่ากูเกิลไม่เอา แค่ชวนเพื่อเล่นเกมการเมืองแบบนี้ก็เท่านั้น
ประเด็นอยู่ตรงนี้ต่างหากว่า MS และ Apple รู้อยู่แล้ว และนี่คือธุรกิจที่จะตัดขาแอนดรอยด์อย่างได้ผล การทำแบบนี้นับเป็นการฮั้วกันรึเปล่า?
Apple และ Microsoft ได้รายได้หลักจากการขาย OS แต่ Google ไม่ใช่ MS และ Apple เลยต้องเพิ่มกำไรด้วยการร่วมมือกันกำจัดคู่แข่ง แง่มุมนี้คุณกลับไม่พูดถึง
แล้ว Google ไปเอาเปรียบคนอื่นยังไง ในเมื่อการประมูลหนึ่งต่อหนึ่งกูเกิลก็ชนะ ต้องมารุมกันถึงจะแพ้ แค่กติกาก็แปลกแล้ว
ต้องถามก่อนเลยครับว่าตรงไหนที่ผมบอกว่า google พูดผิด
สิ่งที่ผมพูดถึงคือสถาพการณ์ปัจจุบันที่ google เป็นฝ่ายแพ้ครับ
นโยบายของ google คือทำให้มันฟรี แต่เอาเข้าจริงมันทำไม่ได้ไงครับ เพราะตัวเองแพ้การประมูล และหาก google
เองยอมรับว่า android มันไม่ได้ฟรีอย่างที่บอก และบอกให้ผู้ผลิต hardware ไปจ่ายค่าสิทธิบัตรซะ ไม่เห็นต้องออกมาโวยวาย
ประเด็นเรื่องการกำจัดคู่แข่ง หาก google เองไม่ไปละเมิดสิทธิบัตรก็มีที่ยืนอยู่ได้สบาย แต่เมื่อละเมิดแล้วทำไมไม่ทำให้ถูกละครับ ถามว่าทั้ง apple และ microsoft ไม่ได้มีต้นทุนในการสร้างหรือซื้อสิทธิบัตรมาหรือครับ ซึ่งมันก็มีอยู่แล้ว แต่กลับกัน google ทำ android แต่ไม่ได้สร้างหรือซื้ออย่างคนอื่นเขา แล้วพอตัวเองแพ้ก็หาว่ามาสกัดดาวรุ่ง อย่างนี้ไม่เรียกว่าเอาเปรียบแล้วเรียกว่าอะไรครับ
เห็นด้วย +1111 เพราะตอนนี้ Microsoft มีสิทธิบัตรในมือเป็นหมื่นๆ และยิ่งซื้อเพิ่มก็ยิ่งทำให้สถานะของบริษัทมั่นคงมากขึ้น โดยเฉพาะสิทธิบัตรจาก Nortel สำหรับอนาคต Window Phone ยิ่ง Nokia ประกาศร่วมมือเอา WP ไปใช้ยิ่งมั่นคง เพราะ 2 บริษัทมี Portfolio ของสิทธิบัตรมากมาย แทบไม่ต้องกลัวใครฟ้องเลย
หันมาดู Apple ที่มีเงินสดในมือมหาศาล ทุกวันนี้ธุรกิจ Apple คือขายอุปกรณ์ Post-PC Devices หลากหลายลำพังสิทธิบัตรเดิมๆที่มีอยู่ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จนถึงทุกวันนี้โดยมากก็อยู่ในกลุ่มของคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่สิทธิบัตรเทคโนโลยีสื่อสาร การที่ไปร่วมประมูลสิทธิบัตร Nortel เพราะเห็นว่าจำเป็นที่บริษัทต้องมีสิทธิบัตรเหล่านี้ สำหรับอนาคตของบริษัท เพราะทำทั้ง Hardware และ Software นอกเหนือจากที่ต้องจดสิทธิบัตรใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ดังนั้น Apple จึงยอมจ่าย 58% ของ 4.5 พันล้านเหรียญสำหรับสิทธิบัตร Nortel สองพันกว่าล้านเหรียญไม่น้อย.....กรณีโนเกียฟ้อง Apple ก็จ่ายกันไปตามระเบียบ เพราะจะทำโทรศัพท์ 3G ยังงัยก็ต้องไม่พ้นละเมิดสิทธิบัตรชาวบ้าน เพราะ Apple มีได้ถือสิทธิบัตรเหล่านั้นไว้กับมือ
กูเกิ้ลที่เพิ่งเป็นน้องใหม่ในอุตสาหกรรม มีสิทธิบัตรในมือไม่เยอะ จำเป็นที่บริษัทจะต้องมีสิทธิบัตรในมือให้มากขึ้น เพื่อช่วยทำให้ธุรกิจมั่นคงและต่อรองกับยักษ์ใหญ่อื่นๆในอุตสาหกรรมได้ แต่ก็กลับไปแพ้การประมูล ซึ่งถือว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แต่กลับมาโวยวาย และผู้ผลิต Android ต้องจ่ายค่าสิทธิบัตรเช่น HTC จ่าย Microsoft หรือ อาจจะต้องจ่าย Apple อีกในอนาคต ทำให้ค่าใช้จ่ายในทำโทรศัพท์โดยรวมสูงขึ้น ถ้าสิ่งที่ Google ทำไม่ละเมิดสิทธิบัตรของใครเลย อนาคตของ Android คงจะสดใสกว่านี้ ผู้ผลิตไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังว่าจะมี เจ้าของสิทธิบัตรมาไล่ฟ้อง เพราะโทรศัพท์ขายได้ดีมาก เรื่องนี้คงต้องติดตาม เพราะการที่ Apple รวมกับ Microsoft และรายอื่นๆ รวม 6 เจ้า เข้าซื้อสิทธิบัตร Nortel ก็เพื่อให้ธุรกิจของตนเองมั่นคงทั้งนั้น เพราะรู้ว่า 6000 กว่าสิทธิบัตรมีความจำเป็นต่ออนาคตของบริษัท เพื่อปกป้องธุรกิจของตนเอง ส่วนกูเกิ้ลคงต้องคิดใหม่ว่าสิทธิบัตรในมือมีความสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องเริ่มสะสมสิทธิบัตรมากขึ้นแล้วสำหรับธุรกิจในอนาคต อย่าบอกว่า เป็น open source แล้วจึงไปละเมิดสิทธิบัตรรายอื่นๆได้ จะปกป้อง Android ต้องใจถึงและจริงใจกับผู้ผลิตจริงๆ ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้ผลิตไปแก้ไขปัญหาเอาเอง
เรื่องนี้ผมเชียร์กูเกิล
ถ้า MS กับ APPLE อยากแข่งขันจริงๆ จะทำเครื่องมาใช้ OS Android บ้างก็ได้ไม่มีใครห้าม
แต่ประเด็นคือ MS ขาย OS และตั้งแต่มีแอนดรอย์ออกมา อำนาจการต่อรองกับผู้ผลิตมือถือคงลดลงแบบเห็นได้ชัด
ถ้ามองในมุมผู้ใช้ ผมก็เชียร์แอนดรอย์อยู่ดี ใช้แล้วถูกใจที่สุด