เอกสาร WikiLeaks ชุดล่าสุดที่เปิดเพิ่มขึ้นมาจำนวนมากก็เกิดประเด็นใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ ล่าสุดเอกสาร 06TUNIS2424 เป็นเอกสาร (ที่อ้างว่าเป็น) บันทึกการพูดคุยระหว่างทูตสหรัฐฯ กับผู้จัดการทั่วไปของไมโครซอฟท์ตูนิเซียถึงข้อตกลงกันเมื่อปี 2006
เอกสารระบุว่าในตอนนั้นรัฐบาลตูนิเซียดำเนินนโยบายโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ปี 2001 แต่ตกลงที่จะเริ่มเปลี่ยนนโยบาย โดยเริ่มจากการระบุให้อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้นต้องทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ได้ และใช้ซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องจากทางไมโครซอฟท์ด้วยการซื้อซอฟต์แวร์ชุดแรก 12,000 ชุด
เพื่อตอบแทนการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ ไมโครซอฟท์ตกลงจะตั้งศูนย์นวัตกรรมในตูนิเซียเพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ท้องถิ่นและให้บริการฝึกอบรมและให้คำปรึกษา, จัดฝึกอบรมคนพิการเพื่อให้คนเหล่านี้สามารถเข้าทำงานสายไอทีได้, ช่วยรัฐบาลในการอัพเกรดระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย, และจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์โดยไมโครซอฟท์จะเปิดซอร์สโค้ดเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาดู
เอกสารระบุว่าข้อตกลงนี้เป็นการเจรจาที่ยาวนานถึง 5 ปี (ตั้งแต่ตูนิเซียเริ่มนโยบายโอเพนซอร์ส) และผู้บันทึกแสดงความกังวลว่าจากการที่รัฐบาลตูนิเซียพยายามแทรกแซงอินเทอร์เน็ตตลอดมา การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยนั้นอาจจะหมายถึงการเพิ่มความสามารถของรัฐบาลที่จะเข้ามาแทรงแซงได้หรือไม่
ที่มา - WikiLeaks: 06TUNIS2424
Comments
ขอตัดคำเกิน/แก้คำผิดครับ: ชุดล่าสุดที่เปิดเพิ่มขึ้นมา[มี]จำนวนมาก, เกิดประเด็น[ให้]ใหม่, พูดคุย[ระหว้าง], ข้อตกลง[นาม]กัน, และ[ผุ้]บันทึก
เรื่องเล่าขำขำตอนสัมนา Open Source
สมัยที่ ทักกี้เปิดนโยบาย คอมพิวเตอร์เอื้ออาทร ตอนนั้นเป็นช่วง Open Source ของไทยกำลังเริ่มดัง ยุค Linux TLE Open office ปลาดาวออฟฟิศ กำลังมีกระแส
ทางกระทรวงใหญ่ๆเลยจับเอา OS รวมทั้ง Office เหล่านี้ไปติดตั้งให้คอมพิวเตอร์เอื้ออาทรซะ
แต่ยุคนั้น คอมพิวเตอร์เอื้ออาทรขายดีมาก ตามตัวเลขบอกว่า หลัก สองแสน(มั้ง)เครื่อง ทั้ง PC และโน๊ตบุค
แน่นอนว่า บ้านหนึงหลัง คนใช้มากกว่าหนึ่งคนแน่นนอน
ตามความรู้สึกของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ถ้าได้สัมผัสสิ่งใดเป็นสิ่งแรกเขาก็จะใช้สิ่งนั้นไปเรื่อยๆ
ทาง M$ เลยเล็งเห็นว่าไม่ได้การถ้า User ใช้ Linux เสียหมด โอกาศเกิด MS ก็จะยาก ทำยังไงก็ได้ให้ User ได้ใช้ MS
จึงมีการเจรจาว่าให้ทาง โครงการได้ติดตั้งผลิตภัณฑ์ ของ MS ไปด้วย คิดดู ว่าตัวเลขหลักแสนเครื่งไม่ใช่น้อยๆ ถ้า user รายใหม่ติดใจ linux
แต่ว่าโปรแกรม ของ MS แพงเอาเรื่อง แค่ windows + office ก้ปาไปหลักหมื่นแล้ว แต่ว่าคอมเอื้ออาทร ถ้าติดตั้งแค่ Linux จะทำให้มูลค่าเครื่อง แค่หมื่นกว่าๆ ซึ่งราคาถูก แต่ถ้าลง วินโดว ก้ปาไปสองหมื่นแน่ๆ
MS เลยออกไลเซ่นการใช้โปรแกรมใหม่เป็นแบบ starter edition หรือรุ่น studen แนวๆนี้ออกมา ราคาถูกมากๆ แต่ตัดฟชั่นกระจุย
ทำให้สามารเอามาติดตั้งได้โดยที่ราคาไม่แพง (แต่ก็ยังแพงกว่า linux หลายพัน) คอมพิวเตอร์เอื้ออาทรเลยมีแบบวินโดว
ถึงแม้ส่วนใหญ่ของ user จะซื้อไปลงวินโดวเถื่อนก็เถอะ
ต่อมาหลาย ประเทศ มีนโยบายประเภทเอื้ออาทร หรือคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนแบบนี้ ทำให้ ms เลยต้องมีไลเซ่นไว้เพื่อไม่ให้ลูกค้าหนีหายไปจากวินโดว
ข้อมมูลข้างต้นนี่ไม่รับประกันความถูกต้องของข้อมูลเพราะก็ฟังเขาเล่ามาต่ออีกที
แต่ก็พอจะสนับสนุน แนวคิดของ ms ที่จะต้องเข้าเจรจากับรัฐบาลบางอย่าง...
กำลังจะมารื้อฟื้นเรื่องนี้เหมือนกัน น่าจะมีความจริง อยากให้วิกิหลุดออกมา
อันนี้สำนักข่าวทั่วโลกตอนนั้นก็รายงานนะครับ ว่า Starter Edition นั้นมีจุดเริ่มต้นจากไทย
ถ้าจะมี leaks ออกมาก็คงเป็นคำพูด (ที่อ้างว่าเป็น) ของไมโครซอฟท์เอง เพราะไมโครซอฟท์ไม่เคยยอมรับเรื่องนี้ตรงๆ
lewcpe.com, @wasonliw
โห มีการสกัดขากันด้วย ขนาดโครงการของรัฐยังถูกแทรกแซง ถึงว่า Linux TLE ไม่ได้เกิด
OSS นะแค่จะเข็นให้ใช้กันก็ยากแล้ว นี่ยังจะเจาะยางกันอีกนะ M$
+100
ธุรกิจ+การเมือง มันซับซ้อนมากๆๆๆ
จบ...ด้วยแบ่งปันผลประโยชน์
bill gate เริ่มแสดงธาตุแท้ออกมาให้เห็นแล้ว
Bill gates ไม่เกี่ยวนานแล้วครับ = =
แก้ไข... อ้อ นี่สมัครมาเล่นไมโครซอฟท์ตรงๆ เลยนี่
ผมแค่ประชดเล่นๆ ครับ ไม่รู้จะประชดใครดี
ผมแค่ประชดเล่นๆ ครับ ไม่รู้จะประชดใครดี
ปัญหาหลักๆของคนไทยคือ Linux ไม่มี Microsoft Office ;-)
จะใจร้ายกับโอเพนซอร์สทำไมนักเนี่ย
รักนะคะคนดีของฉัน