Facebook เริ่มรุกหนักกับคู่แข่งมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่มีการปรับปรุง Friend Lists เพื่อชนกับ Google+ ล่าสุดได้เปิดตัวปุ่ม Subscribe เพื่อชนกับ Twitter เพิ่มอีกหนึ่ง
การทำงานของปุ่ม Subscribe มีสองส่วน ส่วนแรกคือการเลือกระดับการแสดงผลในหน้า News Feed โดยเข้าไปแก้ไขที่ปุ่ม Subscribe ในหน้า Profile ของเพื่อนคนนั้นๆ ว่าต้องการเห็นอัพเดททุกอัน หรือแค่อัพเดทล่าสุด (แบบที่ใช้ในปัจจุบัน) หรือให้แสดงแค่อันที่สำคัญมากเท่านั้น นอกจากนี้ยังเลือกให้แสดงประเภทของอัพเดทได้ด้วย เช่น ไม่ต้องการให้แสดงอัพเดทเกี่ยวกับเกม หรืออื่นๆ ทั้งนี้ถ้าเราไม่ตั้งค่าใดๆ สำหรับเพื่อนคนนั้น กระบวนการเลือกแสดงใน News Feed จะยังคงเหมือนเดิม
อีกส่วนคือการไปขอ Subscribe คนที่เราสนใจแต่ไม่ได้เป็นเพื่อนด้วยเพื่อขอติดตามอัพเดทใดๆ ก็ตามที่ถูกตั้งค่าเป็น Public โดย Facebook อธิบายแนวคิดนี้ว่าจะช่วยให้เราติดตามศิลปิน ผู้สื่อข่าว หรือนักการเมืองได้สะดวกขึ้น โดยที่ฝั่งเขาเหล่านั้นก็ไม่จำเป็นต้องรับเราเป็นเพื่อน ส่วนการเลือกระดับการแสดงผลใน News Feed ก็ทำเหมือนกับที่เลือกในหน้าของเพื่อน
ทั้งนี้หากเราต้องการให้คนมา Subscribe อัพเดทของเราได้ เราต้องตั้งค่าอนุญาตที่ Subscriptions Page ก่อน ก็จะมีแถบ Subscriptions และ Subscribers ปรากฏในหน้า Profile ของเรา และเมื่อใดที่เราอัพเดทในระดับ Public ก็จะทำให้ Subscibers สามารถเห็นอัพเดทนั้นได้
พูดได้ว่าชน Twitter กันเต็มๆ
ที่มา: The Facebook Blog
Comments
เหล่าเซเลบหรือแบรนด์ต่างๆ ที่เปิดหน้าเป็น Profile เอาไว้ (ไม่ได้เปิดเป็น Page) ก็อาจจะไม่ต้องหาทางเปลี่ยนไปเป็น Pages แล้วสิ ใช้หน้า Profile แต่ Share to public ก็ได้แล้ว.. หรือเปล่า
เอ.. มีหน้าที่นับจำนวน Subscribers เปล่าน้อ
[edited]
โอ้วๆ เพิ่งไปเปิดดู เขามีเทียบ Profile with Subscribe กับ Page ไว้ด้วยแฮะ https://www.facebook.com/publicfigures
ทำให้งงกว่าเ้ดิมป่าวเนี่ย -*- ไปทำ Pages ให้ดีๆ ไม่ดีกว่าเหรอ ?
ผมว่าแบบนี้ดีกว่านะ เพราะใครไม่มี pages เราก็ติดตามได้
รู้สึกว่าฟังก์ชั่นมันซ้ำซ้อน/ซ้อนทับกับ Pages นะ
Facebook คงกำลังแก้ concept ตาม Google+ มั้งครับ แต่ก็ยังทิ้งของเดิมๆ ทันทีไม่ได้ เลยต้องปล่อยให้อะไรๆ มันซ้ำซ้อนไปก่อน
คิดในประเด็นเดียวกัน ว่า น่าจะเป็นเพราะ Google+ มากกว่า ไม่ใช่ Twitter. สิ่งที่ Facebook กลัว คือ Google+ เลยพยายามพัฒนาบีบหลายทาง เช่น การดึง Contact ที่ทำให้ Google หาทางมาตอบโต้เรื่อง Policy ในการดึง Contact จากทาง Google แล้วก็ยังมีเรื่อง Message ที่แปลงร่างกลายเป็น Email @facebook.com , พัฒนา Asymmetric relationship ตาม ตอนนี้ก็คงพยายามกันทาง Google ไว้ เพื่อให้ตอนเข้าตลาดหุ้นจริงๆ จะได้มี IPO ดีๆ หละ.
ประเด็นคือ Google มีกองคนจำนวนมากที่ใช้ Email อยู่แล้ว จะดึงเข้ามา Google+ ก็ไม่ยาก ผิดกับ Facebook ที่ไม่ได้มี E-Mail Webbase มาก่อน ส่วน Twitter น่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ Facebook แต่คนละกลุ่มตลาดกันอยู่ในตอนนี้ ที่น่าสนใจคือ Twitter ยังไม่มีแผนจะปรับโมเดลอะไรเพิ่มเติม ซึ่งก็ดี ไม่เกร่อ ไม่งั้นสุดท้ายแล้ว ทุกที่ก็คงให้บริการที่คล้ายๆกันหมด.
Warun.in.th
ติดตามคนที่เราแอบชอบ แต่ไม่กล้ากด add friend
แล้วคนที่โดนเรากด follow เนี่ย เค้าจะรู้รึเปล่า ว่ามีใคร follow มั่ง
ว่าแต่จะมีสักกี่คนที่อัพ status เป็น public เนี่ย
ผมครับ ปกติ default จะเป็น friends except ที่บ้าน แต่บางอันไม่เป็นความลับ ก็กดให้มันเป็น public เลย
แต่พอมาระบบใหม่ ดันไม่มีค่า default ซะงั้น(default เป็นแบบเดียวกับครั้งล่าสุด) เล่นเอาลำบากทีเดียว มานั่งกด except ทีละคน = ='
May the Force Close be with you. || @nuttyi
Facebook ปรับทัพได้เร็วมาก ชนกับ Google+ ได้จังๆ เลย ^ ^
อยากได้นานละแบบนี้