By: lew 
on 20 September 2011 - 01:53
Tags:
ระหว่างที่ไมโครซอฟท์กำลังเร่งให้นักพัฒนาช่วยกันสร้างแอพพลิเคชั่นบน Metro UI อย่างหนักเพื่อให้มีแอพพลิเคชั่นทันกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ก่อนที่จะเปิดตัว แต่ข่าวร้ายคือ แอพพลิเคชัั่นที่เป็น Metro UI นั้นจะไม่เปิดให้ผู้ซื้อนำไปติดตั้งกันได้เองแบบแอพพลิเคชั่นบนวินโดวส์เดิมๆ แล้ว แต่จะต้องเป็นนักพัฒนาหรือลูกค้าองค์กรเท่านั้นที่จะลงแอพพลิเคชั่นได้เอง ส่วนผู้ใช้ทั่วไปนั้นต้องติดตั้งผ่าน Windows Store ทั้งหมด
ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำมีความเป็นไปได้ว่าในบรรดาแท็บเล็ตที่ใช้ซีพียูสถาปัตยกรรม ARM นั้นจะมีเพียงแอนดรอยด์เท่านั้นที่รองรับการติดตั้งแอพพลิเคชั่นด้วยตัวเอง
และมันก็คงมีวันที่เราต้องรอข่าว Windows ถูก jailbreak
ที่มา - ArsTechnica, MSDN
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
แอพพลิเคชัั่นที่เป็น ั เกินมาครับ
อีกที่ครับ "ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้มีความเป็นไปได้..."
อิสระภาพ หรือ อิสรภาพ ครับ หรือว่ามีนัยยะแฝง?
blog.semicolon.in.th
Jailbreak Windows
มีวันนั้นจริงๆ หรือนี่???
งี้แผ่นผีพันติ๊ปก็ขายดีขึ้นอ่าดิ
ประชดหรืออะไรครับ 555
ตอนนี้ยังมีใครไปซื้อแผ่นผีที่พันทิพย์อีกหรือครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ฝรั่งได้มากรุงเทพฯ ก็ยังแอบไปขนแผ่นกลับประเทศเขาไปหลายคนครับ เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงข้ามทวีปกันเลยทีเดียวสำหรับที่นี่
SPICYDOG's Blog
น่าดีใจใหมเนี้ย
มีเยอะครับ ไม่ใช่ทุกคนจะรู้จักเว็บบิท
ที่สำคัญเวปบิทที่รู้จักก็โดนปิดไปหลายเวปแล้วด้วยครับ - -'
เยอะครับ
ถ้าไม่ใช่ geek สักหน่อยหรือเป็นคนเล่นบิท ยังไงก็ต้องไปซื้อแผ่น
น้องผมบางคนที่เรียนด้านคอมมา (แต่ไม่ค่อยมี sense เรื่องการ crack) โหลดบิทมาเสร็จยังให้ผม crack ให้อยู่บ่อยๆเลย - -
ก็น่าจะสะดวกดีนะครับ
That is the way things are.
ความสะดวกที่ต้องแลกมาด้วยเงิน..
คิดซะว่าเป็นการช่วยเหลือนักพัฒนาก็น่าจะดีนะครับ เป็นการแก้ปัญหาเรื่อง software เถือนไปในตัว แต่ถ้าในอนาคตมี jb windows ก็คงกลับมาเป็นเหมือนเดิม 555+
มันเป็นสิ่งที่สมควรจ่ายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ ?
อัลบัมรูปเล็กๆ ของผมครับ :: www.bank2u.net ::
+1
+1
+1
+1
"ความสะดวกที่ต้องแลกมาด้วยเงิน.."
ปล.ผมว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนะ หรือคุณจะบอกว่าไม่ต้องจ่าย..
+1 จะหาคอมเมนท์เรื่องนี้ แบบนี้ที่ไหนได้ นอกจากblognone
คิดว่าทุกอย่างต้องได้มาฟรีๆ ถ้าเป็นแบบนี้นักพัฒนาคงไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว..
จะใช้ของๆเค้าก็ซื้อสิครับ
{$user} was not an Imposter
การมี market ช่วยให้สะดวกขึ้นก็จริง แต่การห้ามลงแอพนอก market ไม่ได้ช่วยให้สะดวกขึ้นนะครับ
ก็เข้าระบบเดียวกันกับ iOS ที่ต้องซื้อผ่าน App Store อย่างเดียว หรือไม่ก็ต้อง sync กับ Zune client สินะครับ
ก็ดีครับสะดวกดี ทำอะไรผ่าน store หมด แต่ถ้าไม่มีเน็ตก็เน่าไปเลยนะนั่น
เดี๋ยว MBK ก็จะขึ้นป้าย รับลงแอพแท้ Windows 8 เหอๆ
ก่อเกิดอาชีพใหม่ในโลกแล้ว :)
เดี๋ยวก็ Hack เวอร์ชั่นบริษัทมาให้เล่นกัน
คนเขียนลืม MeeGo ไปแหงๆ เลย....เพราะมันก็สามารถลง app ด้วยตัวเองได้..เป็นไฟล์ rpm ธรรมดานี่เอง..
ไม่อยากได้ยินคำนี้เลย~~~~
Jailbreak Windows เนี่ย =_=)
มันคงรอไม่นานหรอก เพราะมันเป็นวินโดว์ ระบบปฏิบัติการที่คนค่อนโลกรอใช้(ของเถื่อน)
ก็คงเหมือนกับ OSX 10.7 Lion ของ Apple ที่ให้ติดตั้งผ่าน Mac App Store เมื่อไม่นานมานี้ แต่ในอนาคตอันใกล้ก็คงเป็นไปในทิศทางนี้กันหมด....และคิดว่าอนาคตอันใกล้นี้ OSX คงจะหลอมรวมกับ iOS เป็นหนึ่งเดียวซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นใน OSX 10.7 Lion ตัวล่าสุด และ Windows 8 ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นเหมือน OSX Lion เช่นเดียวกัน
อย่าน้อย Lion ก็ยังติดตั้งโปรแกรมทั่วๆ ไป โดยไม่ต้องผ่าน Appstore ก็ใช้งานได้ปกติครับ...
Dream high, work hard.
อันนี้ก็เฉพาะ App บน MetroUI ไม่ใช่เหรอครับ?
Jusci - Google Plus - Twitter
ผมว่า ในแง่ของนักพัฒนากลับสะดวกขึ้นอีก เพราะว่า Microsoft ทำหน้าร้านขายให้ด้วย ดีกว่าต้องมาตั้งร้าน noname เอง ไม่มีใครรู้จัก
เอาใจนักพัฒนาสุดๆ สินะ
ราคาของโปรแกรมในวินโดว์ทุกวันนี้ ผมคิดว่ามันแพงเกินไปนะครับ โดยผมเทียบกับราคา
ของโปรแกรมใน iOS ทำให้การตัดสินใจซื้อโปรแกรมใน iOS ง่ายกว่า
ไม่ต้องคิดอะไรมาก 30-300 บาทเอง (ส่วนตัวก็ซื้อไปพอสมควรแล้ว รวมถึงใน Cydia Store ด้วย)
โปรแกรมใน PC บางตัว ความสามารถหรือประสิทธิภาพก็พอ ๆ กับที่อยู่ใน App Store
แต่ราคาต่างกันหลายสิบเท่าเลย ก็เลยทำใจซื้อไม่ลงครับ หรือว่าการพัฒนาโปรแกรมใน PC
มันยากกว่าใน iOS หรือไงก็ไม่รู้
ถ้ากรณี Windows Store ราคาพอ ๆ กับใน App Store ของ Apple โปรแกรมต่าง ๆ ก็น่าจะขายดีขึ้นครับ
รู้สึกว่าใน Marketplace ของ WP7 ก็จะแพงกว่าของ iOS หลายตัวอยู่นะครับ T^T
ถ้ามีโปรแกรมที่ทำได้แค่แบบ บน iOS แล้วขายราคา iOS คนก็จะคิดว่ามันไม่ทำเต็มที่ไม่ซื้ออีกอยู่ดี ส่วนนึงที่ตลาดมือถือสามารถตั้งราคาแอปได้เองเป็นเพราะเค้าบุกเบิกตลาดด้วยตัวเองในจุดนี้ผมมองว่า demographic มันต่างกัน ความสามารถของแพลตฟอร์มต่างกันด้วย ดังนั้นจะเดินการตลาดแบบเดียวกันไม่ได้ เหมือนสมมุติว่าคุณซื้อหนังมาดูบนมือถือ 30 บาท พอมาซื้อบนคอม 30 บาทเท่าเดิม แต่ดูได้แค่จอเท่ามือถือคุณจะแฮปปี้เหรอ? น้ำเปล่าขวดเดียวถ้าเอาไปขายกลางทะเลทรายมันก็แพงได้ เรื่องราคามันต้องดูปัจจัยการตลาดด้วยละครับ
อิสระภาพ => อิสรภาพ
เฉพาะ Metro UI นิครับ
ทำไมต้อง jb
อย่างน้อยมันก็รับประกันได้ว่า "สามารถรันบน Metro UI ได้" อยากลงเองก็กลับมา หน้าต่างปรกติ
ทำไมต้อง app เถื่อน
ในเมื่อ Apps Store มี App ฟรี ของน้องดร๋อย ก็ App ฟรี Windows Store ก็น่าจะมี App ฟรีด้วย แล้วโปรแกรมฟรี ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันจะไม่มีสักรายเลยเหรอ ที่จะทำ Metro UI ส่งเข้า Windows Store
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
เพราะ W8 บน ARM ไม่มี Desktop ครับ
ครับ ขอบคุณครับ อ่านไม่ถ้วนเองครับ (ขออภัย) แต่ผมก็เชื่อนะว่า App ตัวอื่น ที่ใช้กันบนแพลตฟอร์มอื่น จะมาลงใน Windows Store (และมันจะต้องมี App ฟรี ดี ๆ ด้วย เหมือนแพลตฟอร์มอื่น)
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
jailbreak != ลงของเถื่อน
lewcpe.com, @wasonliw
Windows Phone 7 ผมไม่ได้ unlock (jailbreak) ก็ยังใช้ได้มีความสุขดี :)
ส่วนใหญ่ใช้แอพฟรี ตัวไหนอยากได้มากจริงๆ ก็ซื้อ ตัวไหนที่อยากได้แต่ไม่จำเป็นและไม่ฟรีก็ไม่ต้องเสียตังค์ ไม่ต้องใช้มัน
ผม Unlock ครับ (Dev unlock ครับ ไม่เจล) แต่ก็ไม่มีแอพอื่นใดเลยนอกจากฟรีกับซื้อลงเช่นกัน แล้วก็ที่ลองเขียนเล่นบางส่วน
เดียวก็ต้องมี Developer Enabler มาแน่นอน
ใครๆก็ลงได้ละทีนี้ แบบ Android ที่แค่ติกเลือก Allow Unknown Source ก็จบ
@fb.me/frozenology@
ถ้าให้มองระยะไกลๆเลย ผมว่างานนี้ Windows จะมี Application ที่ป้อนลง Desktop น้อยลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงไม่กี่สิบเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน
ต่อไปโปรแกรมอรรถประโยชน์จะมีอะไรให้ใช้บ้างน้อ ซึ่งผมคิดว่าต่อไปก็คงจะเหลือโปรแกรมที่ต้องยุ่งกับ Desktop แน่ๆคือ Mirosoft Office Full Mode, Game Offline/Online ทั้งหลายที่ใช้พื้นที่ Harddisk, RAM, การ์ดจอระดับสูง, โปรแกรมสำหรับ Programmer เป็นต้น
ส่วนเกมที่ใช้ทรัพยากรเครื่องไม่มากอย่างพวกเกมลับสมอง, เกมฆ่าเวลา, เกมที่กินกราฟิกระดับกลาง, โปรแกรมอรรถประโยชน์ทั้งด้านถ่ายรูป/สตูดิโอ/เพลง, ทวิตเตอร์, Facebook, Messenger ฯลฯ คงไม่ค่อยเห็นที่ Desktop แล้วล่ะ และแน่นอนวามันจะไปกองที่ Metro UI แน่นอน
สิ่งที่ผมไม่ชอบเลยเวลากับ Application/Extension/Add-on ที่ไม่สามารถโหลดมาเก็บเป็นไฟล์ได้ นั่นก็คือการติดตั้ง Windows ใหม่ ซึ่งการติดตั้งสิ่งเหล่านี้จะลำบากมากเวลา เนื่องจากต้องทำธุรกรรมทาง Internet อย่างเดียว แล้วยิ่งถ้ามีคนที่ลง App ไว้เป็นร้อยๆ App ขึ้นไป ผมคิดว่าตายหยังเขียด ถ้าต้องให้ดาวน์โหลดทั้ง 100 App+ นั้นมาติดตั้งอีกครั้งจาก Virus ที่โจมตีอย่างหนักหน่วง และนี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงชอบใช้ Firefox มากกว่า Chrome ทั้งๆที่ Chrome เร็วกว่า นั่นก็เพราะว่า Firefox สามารถดาวน์โหลด Extension เป็น .xpi มาเก็บไว้บนเครื่องได้ ซึ่งเวลาที่ลง Firefox ครั้งต่อไปก็สามารดึง Extension พวกนี้มาติดตั้งได้ทันที
ผมคิดว่า Microsoft ต้องทำการบ้านให้ดีแล้วล่ะ เพราะ Windows ไม่เหมือน iOS ที่ iOS มันไม่แฮงค์บ่อย ทำให้อยู่ไปได้นานมากกว่าจะได้ลงใหม่ แต่ Windows นั้น ถ้าเจอ Virus เล่นงานจน Windows พัง นั่นก็เท่ากับว่า App หลากหลายตัวที่ติดตั้ง ต้องมลายหายไปแล้วต้องมาตามโหลดใหม่ทั้งหมด และหากไม่มีระบบจดจำ App ว่าเราได้ซื้ออะไรไปบ้างแล้ว และมีบริการโหลทั้งหมดนั้นมาติดตั้งกลับคือ หรือมีระบบเก็บเป็น Package ไฟล์ไว้ติดตั้งกรณี Windows มีปัญหา จะรู้สึกแย่ขนาดไหน . . .
ไม่อยากคิดเรื่องกรณีพวกวนี้เล้ย
เอ่อ รู้จัก chrome sync มั๊ยครับ แค่มี gmail ก็สามารถ sync extension ได้ครับ(จะไปกดร้อยทีเพราะเน็ตช้าก็ไม่ว่ากัน)
ส่วน Windows เนี่ยน่าจะเป็น live account แหละนะ เสียครั้งเดียวก็จบ ใช่ว่าฟอร์แมตแล้วต้องเสียเงินทุกครั้งคงไม่ใช่แล้วล่ะ
Windows 8: Life within Walls.
อ่านคอมเมนท์แล้วรู้สีกว่าสำหรับ Dev แล้วเหมือน "ได้รับการคุ้มครอง" มากกว่า "สิ้นอิสรภาพ" แฮะ