ความคืบหน้าของคดีออราเคิล-กูเกิลครับ คราวนี้เป็นเรื่อง "ตัวเลขค่าเสียหาย" ที่ออราเคิลเรียกจากกูเกิล
ตัวเลขครั้งแรกสุดที่ออกมาคือ 6.1 พันล้านดอลลาร์ (ออราเคิลอาจเรียกค่าเสียหายจาก Android ได้สูงสุดถึง 6.1 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งศาลก็บอกว่าตัวเลขนี้สูงเกินจริง
คราวนี้ออราเคิลเสนอตัวเลขใหม่เข้ามา คือ 1.16 พันล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นค่าเสียหายจากสิทธิบัตร 202 ล้านดอลลาร์ และค่าเสียหายจากการละเมิดลิขสิทธิ์ 906 ล้านดอลลาร์
ออราเคิลยังบอกด้วยว่า "ข้ออ้าง" ของกูเกิลที่อ้างว่าออราเคิลเรียกค่าเสียหาย 2.2 พันล้านดอลลาร์นั้นไม่ตรงกับความเป็นจริง
ที่มา - Reuters
Comments
เจ็บแต่จบ
จ่ายแต่จบ
ก็ดีเหมือนกัน
มันไม่จบนะสิครับ มันต้องจ่ายต่อสำหรับทุกเครื่องที่ยังใช้ หรืออาจเป็นคู่ค้าที่จะต้องเข้ามาจ่ายตรงนี้ และเดิมคู่ค้าที่จะต้องจ่ายให้ Microsoft อีก
บานนนนนนนนนนนนนนนน
คิดผิดตั้งแต่ซื้อandroid ของAndy Rubin จอมก๊อบมาแล้ว
ผมว่าจ่ายแล้วจ่ายต่อก็ยังคุ้มอยู่ดี
SPICYDOG's Blog
แหม ใครจะไปประเสริฐเท่า หัวขโมยอย่างพระเจ้าจ๊อบล่ะครับ
Destination host unreachable!!!
กลับไปหาข้อมูลบ้างนะครับ
คอมเมนต์แบบนี้มีแทบทุกข่าว หัดอ่านข่าวกันให้มากๆหน่อยนะครับ
หรอครับ ^_^
ก๊อบตรงไหนเหรอครับ ขอข้อมูลหน่อย
ถ้าเอา Hamony เข้าร่วม JavaFx จะจปไม๊ครับ
Destination host unreachable!!!
1.16 พันล้านไม่เกินความสามารถที่กูเกิลจะจ่ายเลย แถมถ้าดเจรจาดีๆ เหลือหลักร้อยล้านแล้วจบ กูเกิลทำแอนดรอยด์ต่อได้ ถือว่ากูเกิลคุ้มนะ
ว่าแต่ทำไมมันไม่ license จากซันตั้งแต่แรก - -
lewcpe.com, @wasonliw
อยากลองของ?
ผมเคยอ่านที่ไหนไม่รู้ (ต้องขออภัยจริงๆ ที่ไม่สามารถ cite ได้) เค้าบอกว่าคดีนี้หลักๆ ออราเคิล focus ที่การขอการชดใช้ความเสียหายจากอดีตเท่านั้น แปลว่าต้องให้จ่ายแล้ว ไม่ได้แปลว่ากูเกิลจะใช้ Android ต่อได้
สิ่งที่ออราเคิล "น่าจะ" ต้องการจากอนาคตแอนดรอยด์คือ
1. ให้ Android กลายเป็น Java Compatible ซึ่งแปลว่าจะต้องจ่าย licensing fee ให้กับ Oracle ไปอีกเรื่อยๆ และการที่ต้องให้แอปในแพลตฟอร์ม Java มารันได้แบบ write once, run anywhere (รวมถึงจาก Android ไปรัน Java อื่นๆ)
2. ทำ Android ออกจากแพลตฟอร์ม Java ไปเลย ซึ่งกูเกิลจะต้องลงทุนอีกพอสมควรให้การ transition นี้ และทำให้ซอฟต์แวร์เก่าของ Android obsolete ไปหมดเลย
ซึ่งไม่ว่าจะข้อไหน ผมก็รู้สึกว่ากูเกิลก็คงต้องพยายามสู้พอสมควรเพราะสองข้อนี้ยังไงก็แย่กับกูเกิลทั้งนั้น
ในแง่ motivate ของอออราเคิลแล้ว ออราเคิลต้องการค่า license แน่นอนครับ นักวิเคราะห์จำนวนมากคงวิเคราะห์กันแนวทางนี้เป็นเรื่องปรกติ เพราะสร้าง revenue stream ใหม่ให้บริษัท
ผมเองเชื่อว่าจุดที่เจรจากันไม่ได้ก็คงเป็นจุดนี้ด้วย
ผมไม่คิดว่าการทำ J2ME compatible จะเป็นแนวทางที่ออราเคิลอยากได้จริงๆ โครงสร้างพื้นฐานนั้นต่างกันมาก ยกเว้นว่าออราเคิลจะอยาก merge เทคโนโลยีบางส่วน (เช่น Intents) กลับเข้า Java ซึ่งท่านั้นทำให้กูเกิลมีข้อต่อรอง (มี patents???) ก็ยอมไม่ได้อีก
มาถึงจุดนี้แล้วการย้ายออกจาก Java ไม่น่าจะมีผลอะไรกับข้อเรียกร้อง licensing ออราเคิลนั้นฟ้องเรื่องของ class file มาแล้ว ต่อให้ใช้ byte code แบบอื่นๆ ก็หนีไปไม่พ้น เพราะสิทธิบัตรพวกนี้มันพื้นฐานมาก
ผลสุดท้ายที่ผมคิดออกมีสองแบบคือจ่ายเงินก้อนแล้วออราเคิิลไปเรียกเก็บกับผู้ผลิตเป็นรายเครื่อง (แบบเดียวกับไมโครซอฟท์) จนกว่าสิทธิบัตรจะหมดอายุ แบบนี้ดีกับออราเคิลที่สุด กินยาวไปอีกหลายปี อีกแบบหนึ่งคือจ่ายแล้วจบ มากน้อยว่ากันไป แบบนี้ดีกับแอนดรอยด์ที่สุด
lewcpe.com, @wasonliw
อายุสิทธิบัตรกี่ปีครับ เท่าที่เคยได้ยินมาคือ 50 ปี Java เพิ่งเข้ามาประมาณ 10 ปี เหลือเวลาเก็บเกี่ยวอีกยาวนาน
นั่นมัน "ลิขสิทธิ์" ครับ ส่วน "สิทธิบัตร" มีอายุประมาณ 15-20 ปีแล้วแต่ประเทศ (สหรัฐฯ 20)
lewcpe.com, @wasonliw
ลิขสิทธิ์มีอายุตลอดทั้งชีวติผู้สร้าง+หลังจากตายไปแล้วอีก 50 ปี
ถ้ามันพื้นฐานขนาดที่เลี่ยงไม่ได้ การที่ Google จะฟ้องศาลให้ยกเลิกสิทธิบัตรนั้นก็เป็นไปได้ใช่มั้ยครับ
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
อันนี้ต้องแยกกันครับ เรื่องพื้นฐานมากหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับการยกเลิกได้ไม่ได้ ปัญหาอย่างหนึ่งคือโลกไอที (ที่เราเห็นกันแบบทุกวันนี้) มันเพิ่งเกิดมาเร็วๆ นี้เอง อายุสิทธิบัตร 20 ปีนี่ใบแรกๆ ที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่จะย้อนกลับไปได้ถึงกำเนิดพีซีกันเลยทีเดียว
สมัยที่ยื่นขอสิทธิบัตร อาจจะเป็นเรื่องใหม่จริง เช่นเรื่อง VoIP ที่ 20 ปีก่อนการส่งข้อมูลต้องการ "สาย" เฉพาะสำหรับแต่ละคู่สื่อสารเสมอ (circuit switch) ยุค packet switch นี่เกิดมาไม่นาน หรือซีพียูยุคต้นๆ ก็โหลดข้อมูลทีละตัวเป็นเรื่องปรกติ VIA ก็มีสิทธิบัตรที่ซีพียูโหลดข้อมูลทีละสองตัวได้ ก็นับเป็นนวัตกรรม ก็ต้องให้เขาไป
ส่วนว่าจะฟ้องยกเลิก เช่นว่า สิทธิบัตรบางตัว ไม่ได้เป็นนวัตกรรมจริง ไปซ้ำกับนวัตกรรมอื่นๆ ที่เกิดขึ้นไปก่อนแล้ว เช่นกูเกิลกำลังไล่ฟ้องสิทธิบัตรหลายตัวของออราเคิลว่าไปซ้ำซ้อนกับงานวิจัยยุคต้นๆ และข้ออ้างที่อ้างในสิทธิบัตรนั้นไม่ได้เป็นของใหม่จริง อย่างนี้ก็จะโดนฟ้องยกเลิกได้ครับ
lewcpe.com, @wasonliw
สิทธิบัตร 20 ปี แล้วมันต่ออายุได้อีกไหมครับ?
เข้าใจแล้ว ขอบคุณครับ
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
ถ้าตอนที่คิดกับจดมันยังไม่พื้นฐาน แต่ปัจจุบันมาละเมิดกันจะเป็นเรื่องปกติอาจจะไม่ได้ครับ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
สมัยนั้นอาศัยความเป็นพันธมิตรกันครับ
อาจเป็นเพราะความประมาทโดยไม่เจตนาหรือเปล่า เพราะใครจะไปรู้ว่าต่อมาซันจะโดนซื้อ
รู้สึกว่า Oracle จะ Mad จริงๆ ซื้อ Sun มาราคา 7 พันกว่าล้าน จะฟ้อง Google 6 พันกว่าล้าน เกือบเท่ากับว่าได้ Sun มาฟรีๆ เลยสินะ
เงินมันหอมหวลครับ
ลองว่าสลับตำแหน่ง Market Share แล้วก็ความนิยมกันระหว่าง Android กับ Meego
รับรองว่า Oracle ไม่คิดแม้แต่จะเรียกเก็บเงินอะไรแน่ๆครับ
ถ้าคิดเล่น ๆ Oracle ซื้อ Sun มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะครับ (ไม่งั้นจะซื้อบริษัทที่มีปัญหาอยู่ทำไม 55) แน่นอนว่าอันนี้ผมล้อเล่นนะ
เป็นไปได้รึเปล่าว่า Larry (Ora) กะฟันเยอะ ถ้าฟ้องแล้วชนะ ซื้อ google ต่อจาก Larry (goo) เลย
เชียร Oracle ครับเพราะว่า Google รู้แต่ก่อนทำแล้วว่าละเมิดยังดึงดันจะทำต่อ ถ้า Google ยอมจ่าย Sun ทุกวันนี้คงยังเห็น Sun ยังคงอยู่
ปล.ไม่ชอบ ทำไปก่อนค่อยเจรจาทีหลังแบบนี้เลย
อ่านข่าวบ้างก็ดีนะครับ
ก่อนที่ sun จะโดน oracle ซื้อกิจการ CEO คนเดิมของ sun เค้าสนับสนุน android เต็มที่ครับ
จับภาษา java ให้เป็น ISO เหมือนกับ C Standard ดีไหม (แต่คงยาก)
ตัวภาษาไม่ใช่ปัญหานะครับ รู้สึกว่าสิทธิบัตรจะเกี่ยวกับตัว VM มากกว่า
คุ้นๆ ว่าตัว Java เองตอนนี้เป็น GPL ไปเกือบหมดแล้วด้วย
ไม่จบซะที
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com