Kindle Fire ยังไม่ทันวางขายแต่ทาง Amazon ก็โดนฟ้องเข้าแล้ว เมื่อบริษัท Acacia Research Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่รวบรวมและสะสมสิทธิบัตร ยื่นฟ้อง Kindle Fire ข้อหาละเมิดสิทธิบัตรเรียบร้อย (Kindle Fire โดน 4 ชิ้น ส่วน Kindle 3G + Wi-Fi โดน 1 ชิ้น
Acacia Research เคยยื่นฟ้องแอปเปิลและ RIM มาก่อนแล้ว (patent troll ตัวจริง?) ส่วนสิทธิบัตรที่ฟ้อง Kindle Fire คือสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับการแตะสัมผัสไอคอนเพื่อให้อุปกรณ์ทำงานต่างๆ และสิทธิบัตรที่เกี่ยวกับการใช้ปฏิทินหลายอันบนอุปกรณ์เครื่องเดียว
เดิมทีเราเห็นแต่ข่าวบริษัทไอทีฟ้องกันเอง แต่ช่วงนี้ก็เริ่มเห็นบริษัทด้านสิทธิบัตรมาไล่ฟ้องกันมากขึ้น ตัวอย่างก่อนหน้านี้คือ Intellectual Ventures ฟ้อง Motorola Mobility
ที่มา - paidContent
Comments
อ่านข่าวนี้ละนึกถึงพวกจับลิขสิทธ์ตามร้านเน็ทบ้านเรา
ถ้าเปรียบเป็นนางร้ายในละครไทย
เวลาไปเดินตลาดคงโดนทุเรียนปาหัวแน่ๆ
^
^
that's just my two cents.
สิทธิบัตรที่เกี่ยวกับการแตะสัมผัสไอคอนเพื่อให้อุปกรณ์ทำงานต่างๆ << ของพวกนี้มันไม่น่าจะให้จดกันได้เลยนะ ... อ่านแล้วอนาถใจ
AGREE
แบบนี้ก็โดนกันหมดที่เป็น Touch screen ถ้าไม่สัมผัสเพื่อรันอะไรซักอย่างแล้วจะสัมผัสทำไม แปลกดี
ผมว่าต้องดูรายละเอียด/ช่วงเวลาที่จดก่อนนะครับว่าเป็นอย่างไร มีข้อมูลแค่นี้มันตัดสินไม่ได้หรอก
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
เห็นด้วยครับ แต่อยากเสริมว่า ก็ต้องดูด้วยว่า จดในช่วงเวลาไหน ถ้าย้อนกลับซัก 5-7 ปี ของพื้นๆ บางอย่างที่มีในบัจจุบัน มันก็ถือว่า แปลกใหม่ในช่วงเวลาที่ขอจดนะครับ คนรับจดอาจจะจินตนาการไม่ออกก็ได้ ไม่งั้นต้องเปลี่ยน condition การจดให้จำกัดรูปแบบการ implement ด้วย คนอื่นๆ จะได้ทำด้วยวิธีอื่นๆ ได้
+1000
FREE FOR ALL
ผมไม่โทษตัวบริษัทหรอกนะครับถ้าช่องโหว่มันทำให้หากินได้ขนาดนี้ แต่อยากให้ระบบมันแก้ไขไว ๆ มากกว่า
+1
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ต้องออกแบบระบบเกือบจะสัมผัสแทน คือไม่ทันจะสัมผัส อีกนิดเดียวก็จะสัมผัสแล้วแต่ยังไม่สัมผัส... แบบนี้มันคงฟ้องไม่ได้ละ
^
^
อาจจะมีคนไปจดแล้วก็ได้นะ 555+
แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบสิทธิบัตรอย่างแท้จริง
แทนที่จะเป็นระบบที่ทำให้ เกิดการคิดค้นใหม่ๆ
กลายเป็นระบบที่ขัดขวางกระบวนการซะเอง
จะบอกว่าล้มเหลวมันก็ไม่ถูกนะผมว่า อันที่จริงควรจะเรียกว่าผลประโยชน์มันไปไม่ได้กับระบบสิทธิบัตรมากกว่า เพราะจริงๆแล้วระบบสิทธิบัตรมันต้องการให้คนคิดค้นเค้าหากำไรได้แต่เพียงผู้เดียวในช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วยซ้ำไปนะครับ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
อยากรู้รายละเอียดของสิทธิบัตรที่ฟ้องมากกว่านี้อะครับ มันดูเหมือนจะมีอะไรมากกว่านี้นะ
ในต้นทางมีหมายเลขสิทธิบัตรอยู่ครับ แล้วเอาไปค้นได้ในเว็บของ สนง. สิทธิบัตรสหรัฐ (USPTO) ได้
ผมน่ามันน่าจะลดอายุสิทธิบัตร ไม่ถึงขั้นหมดไปเลย แต่แบบว่าที่นานยิ่งได้ % ลดลงไม่งั้นตาย
เมื่อก่อนวิทยาการเราก้าวหน้าเร็วเพราะสงครามเย็น ไม่ต้องกังวลเรื่องสิทธิบัตร ลอกกันไปลอกกันมา เพื่อนเพิ่มประสิทธิภาพการรบ แข่งกันว่าใครจะมีอาวุตหนักกว่ากัน ผมว่าแบบนั้นดีกว่านะ แต่เปลี่ยนเป็นสงคราม IT แทนไม่ถึงกะให้ลอกกันแต่ขอเป็นเจรจากันสลับสิทธิบัตรแลกกันน่าจะดีกว่า แล้วดูสิว่าที่เรามีอยู่ใครจะทำได้เจ๋งกว่ากัน
แบบว่าคิดได้ยื่นส่งเข้าองกรณ์กลางอะไรซักอย่างเพื่อขอเงินค่าคิด แล้วกลายเป็นของสาธารณไป(ถ้ากลัวความคิดรั่วก็อย่าส่งไปเอาเงิน แต่จะฟ้องไม่ได้เพราะถ้าคุณไม่บอกว่าทำไง แต่มีคนไปเลียนแบบได้เองตามความคิดเค้า ก็เรื่องของคนอื่น)
จะดีมั๊ยหว่า
อ่านแล้วบอกได้คำเดียวว่า "กูเซง"
อาการเดียวกับหมานำจับเลยแฮะ
Destination host unreachable!!!
โดนสกัดดาวรุ่งอีกละ
ไม่ชอบบริษัทแบบนี้เลย ขัดขวางนวัตกรรม
มีสิทธิบัตรไว้ ก็ไม่เห็นศึกษาวิจัยพัฒนาอะไร เอาไว้เป็นเครื่องมือทางกฏหมายเท่านั้น
ไม่คิดจะสร้างสรรค์อะไรให้โลกจดจำบ้างเลยหรือไง ตายไปเขาจะได้ยกย่อง ได้จดจำในทางที่ดีบ้าง