หลังที่ผมเขียน ศึกจ้าว CMS เวลาผ่านไป CMS แต่ละตัวก็มีการปรับตัวเพื่อสู้ศึกในโลกของ CMS ที่มีการแข่งขันสูง ผมขอเสนอแนวทางการพัฒนาของ 4 CMS หลัก (เหตุผลที่เลือก 4 ตัวนี้กรุณาอ่านบทความตามลิงก์บทความเก่า)
Drupal - กล่าวได้ว่าเป็น CMS ตัวแรกที่ตัวเองเป็น framework และมีเอกสารประกอบยอดเยี่ยม ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักพัฒนามาเป็นเวลานาน และได้มีการทำโมเดลทางธุรกิจใหม่ โดยแยกส่วนพัฒนาส่วนที่ต้องจ่ายตังค์ ซึ่งคล้าย ๆ กับ Mambo สมัยก่อน เวลาเท่านั้นจะพิสูจน์ว่าโมเดลนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เวอร์ชันที่มีการปรับเปลี่ยนเยอะคือเวอร์ชันต่อไปคือ 7 เวอร์ชันปัจจุบันคือ 6.2
Joomla! - ในเวอร์ชัน 1.5 ตัว Joomla! ได้พัฒนาตัวเองเป็น framework ซึ่งสร้างความแตกต่างระหว่าง Mambo กับ Joomla! อย่างชัดเจน เวอร์ชันที่มีการปรับเปลี่ยนเยอะคือเวอร์ชัน 2.0 โดยเวอร์ชันต่อไปคือ 1.6 เวอร์ชันปัจจุบันคือ 1.5.3
Mambo - ทางทีมพัฒนาได้มีการนำ CakePHP ซึ่งเป็น php framework อันโด่งดังมาเป็นฐานในการพัฒนาในเวอร์ชัน 5.0 โดยมีแนวความคิดว่าจะทำให้ทีมพัฒนาสามารถพุ่งความสนใจในการพัฒนาความสามารถของส่วนหลัก ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเสียเวลาไปดูส่วน framework ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ดีมาก แต่คงต้องใช้เวลาอีกนานเพราะเวอร์ชันปัจจุบันคือ 4.6.4 เวอร์ชันถัดไปคือ 4.7 และ 4.8
Typo3 - ทั้ง ๆ ที่ตัว Typo3 เป็น framework ที่มีความสามารถสูงมากอยู่แล้ว แต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ทางทีมพัฒนาได้มีการแยกส่วนการพัฒนาเป็น 3 ส่วน คือพัฒนา Typo3 4, Typo3 5 และ Flow3 ซึ่งเป็น php framwork ซึ่งเป็นอิสระกับตัว Typo3 ซึ่งแนวความคิดนี้คล้าย ๆ Mambo แต่ทาง Mambo เลือก framework ที่มีความสามารถสูงที่มีอยู่แล้ว แต่ทาง Typo3 เลือกที่จะพัฒนาขึ้นมาเองใหม่ เพราะ framework ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังมีข้อจำกัดในการนำมาเขียนเป็น CMS หมู่เทพเลยเลือกที่จะเขียนใหม่มันซะเลย และข้อดีของมันที่คาดว่าจะได้อย่างชัดเจนคือทำให้การติดตั้งง่ายขึ้น (ซึ่งแค่นี้ก็พอแล้ว เพราะ Typo3 มีข้อเสียข้อเดียว คือใช้ยาก) ซึ่งเวอร์ชันที่มีการปรับเปลี่ยนคือเวอร์ชัน 5 โดยกำหนดเวลาออกคือ 8/10/2552 เวอร์ชันปัจจุบันคือ 4.2.1
จริง ๆ สิ่งที่ผมแจกแจงไปออกจะเป็นแนวความคิดของผู้พัฒนาไปสักหน่อย ซึ่งในโลกแห่งความจริงผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้สนใจหรอกครับ โดยทั่วไปสนใจเพียงความสามารถ ความง่ายในการใช้งาน ซึ่ง CMS แต่ละตัวก็มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกัน ก็ขอให้ทุกท่านค้นหา CMS ที่เหมาะกับตัวเองเจอนะครับ สวัสดี
ตอนเก่า
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ลิงก์แต่ละอันนี่ใส่ครั้งแรกครั้งเดียวก็พอครับ แล้วแก้เรื่อง tag ด้วย คำอธิบายมีอยู่ใต้ช่อง tag
Plone เงียบเลยวุ้ย
หา host รันไม่ได้อ่า อยากใช้ใจจะขาด ไปตั้งเครื่องเองก็ไม่ไหว
เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ก็ไม่ไหว
สำหรับผมนิยม Drupal / Typo3 / Joomla ตามลำดับ
่
jack in a box
มีใครเล่น e107 หรือยังครับ
ลิงค์ผิดครับ
PoomK
อันที่จริง Wordpress ใช้ไห้เป็นเฟรมเวิร์ค มันก็เวิร์คได้นะ
ขอสรรเสริญ Wordpress ด้วยครับ เคยกล่าวสรรเสริญไว้แล้วที่ iMenn's Blog: เวิร์ดเพรส - โค้ดดั่งบทกวี (กล่าวจาบจ้วง Drupal ไว้พอประมาณ ใครเป็นสาวกขอเชิญไปก่นด่ากันได้ครับ :D)
มันเป็นอะไรที่เลือกยากสำหรับผู้ใช้ ถ้าเป็นเซียน หรือเทพ คงไม่เลือก CMS เพราะ CMS โดยความตั้งใจผมคิดว่าทำมาเพื่อคนที่ไม่รู้ Code ใช้ ส่วนปัจจุบันระบบก็เปิดสำหรับผู้ที่เขียนcode เป็นมาทำเพิ่มได้ ดังนั้นผมขอแบ่งผู้ใช้เป็นระดับแบบนี้ ตามประสบการณ์ที่เจอ
ผู้ใช้ที่ไม่เป็นอะไรเลย Cms ตัวไหนก็ได้ที่ใช้ง่ายทำได้แค่นำเนื้อหากับรูปขึ้นได้ พอใจแล้ว กลุ่มคนกลุ่มนี้จะประสบความสำเร็จได้ง่าย ในแง่ที่ว่า ไม่เรื่องมาก และอาจพัฒนาไปเป็นคนที่เข้าใจการใช้ cms อย่างดีได้ในอนาคต
ผู้ใช้ที่คิดว่าตัวเองเป็น(ย้ำคิดว่า) Cms ต้องเจ๋ง(ฟังคนอื่นมา) แล้วพอใช้ก็อาจจะใช้ไม่ถูกหรือไม่เป็นแล้วก็บอกว่า cms ตัวนั้นยาก ไม่เหมือนตัวนั้น ไม่เหมือนตัวนี้ หรืออีกกรณีนึงคือ คิดว่าเป็น แต่แค่ code Html ง่ายๆ ยังไม่เข้าใจ เช่น iframe แต่อยากได้แบบนั้นแบบนี้ หา Cms ที่จะต้องทำได้แบบอัตโนมัติ บางอย่าง cms ไม่มีให้ แต่คุณอยากได้ต้องเขียนเอง พอแบบนี้ก็บ่นบอกว่ามันไม่ดี กลุ่มคนเหล่านี้จะประสบความสำเร็จในหารทำเว็บยาก เพราะห่วงว่าจะไม่มีสคริปเทพๆ แทนที่จะห่วงเรื่องเนื้อหา และพัฒนายากเพราะมั่วแต่ตามกระแส
ผู้ใช้ที่เขียน code ได้ ในที่นี้หมายถึง ไม่เข้าใจระบบ Cms นั้นๆ แต่ พอ cms ทำไม่ได้ ก็ แก้ core ไฟล์ ตัวอย่าง เช่น แมมโบ้ กับ จูมล่า สามารถปรับการแสดงผล คอลัมพ์ ได้จากเมนู เพียงใส่ตัวเลข 2 ก็ 2 คอลัมพ์ ถ้า 1 ก็ 1 คอลัมพ์ แต่บางคนเขียนcode เป็นก็ไปแก้ที่ไฟล์หลักเลย ซึ่งทำให้เวลา cms ออกเวอร์ชั่นใหม่ออกมา ก็ไม่สามารถอัพเดตได้ หรืออัพเดตก็ต้ิองมาแก้ code อีก
ผู้ใช้ที่เข้าใจ การทำงานของ cms กลุ่มคนเหล่านี้จะไม่มีปัญหาการใช้งาน cms เลย เพราะเข้าใจข้อจำกัด และความสามารถของ cms นั้นๆ อันไหนไม่มีก็เขียนเพิ่ม
แล้วคุณล่ะเป็นกลุ่มไหน ? CMS ทุกตัวมีข้อดีแตกต่างกันไป ข้อเสียผมว่าไม่มี นอกเสียจากว่า สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นข้อเสียมันคือความสามารถที่ไม่เท่ากัน
อยากให้มองว่าเป้าหมายสำคัญของการทำเว็บว่า คืออะไร ?
จุดตะเกียงดีกว่า สาปแช่งความมืด
ลายไทยทีม สร้างสรรค์ CMS เพื่อคนไทย
เว็บคนรักนิคอน