ในขณะที่ Facebook ถูกเพ่งเล็งเรื่องปัญหาการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล และยังถูกบางฝ่ายมองว่ามีอำนาจผูกขาดในตลาดโฆษณาดิจิทัล นำมาสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของ Facebook ที่ Mark Zuckerberg ตอบคำถามวุฒิสภาเรื่องข้อมูลหลุด 1,2 ในวันที่ 10-11 เมษายนที่ผ่านมา
คำถามคือ Facebook เป็นบริษัทไอทีรายเดียวที่ถือข้อมูลผู้ใช้ไว้ในมือหรือไม่
คำตอบก็คือ ไม่ใช่อย่างแน่นอน บริษัทอื่น ยกตัวอย่างเช่น Google มีมูลค่าโฆษณาดิจิทัลอาจจะมากกว่า Facebook ถึง 2 เท่า และมีผลิตภัณฑ์ถึง 7 ตัว เช่น Gmail, YouTube และแสดงโฆษณาโดยอาศัยข้อมูลของผู้ใช้หรือความสนใจของผู้ใช้ Amazon เองก็ใช้กลยุทธ์โฆษณาเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยใช้ข้อมูลประวัติการซื้อสินค้า และยังมีความกังวลจากผู้ใช้เรื่องลำโพงอัจฉริยะที่มีไมโครโฟนในอุปกรณ์ที่ตั้งอยู่ในบ้านเลย
Jason Kint ผู้บริหารระดับสูงของ Digital Content Next ตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่ Facebook มีประเด็นฉาวข้อมูลหลุดขึ้นมา ทั้ง Twitter และ Google ก็พยายามทำตัวเงียบมาตลอด
The New York Times ระบุว่าก่อนวันที่ Zuckerberg ต้องเข้าตอบข้อสงสัยของวุฒิสภา Charles Grassley ประธานคณะกรรมการตุลาการวุฒิสภาได้ส่งจดหมายถึง Sundar Pichai แห่ง Google และ Jack Dorsey จาก Twitter ด้วย เป็นจดหมายถามคำถาม 14 ข้อ ถามถึงการจัดการข้อมูลและการตรวจสอบความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ทั้งสองบริษัทจะตอบกลับจดหมายของ Grassley ในวันที่ 25 เมษายนนี้
มีคำถามเกี่ยวกับการติดตามผู้ใช้ที่ล็อกออกจากบัญชีของ Facebook ด้วยในวันที่ื Zuckerberg เข้าชี้แจงต่อวุฒิสภา เขาตอบว่า Google และบริษัทอื่นก็ใช้แนวทางเดียวกันนี้
อย่างไรก็ตาม Dean Garfield หัวหน้ากลุ่ม Technology Industry Council ที่ถือเป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่บอกว่า ไม่ช้าก็เร็ว บริษัทไอทีอื่นก็จะถูกเพ่งเล็งเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน
ที่มา - The New York Times
Comments
แต่ google คงไม่โอนข้อมูลให้บริษัทอื่นเอาไปใช้แบบ 50 ล้านคนแบบนี้ดอกมั่ง
เวลาใช้มือถือ andorid เข้าเวบแล้วเจอพวก แบนเนอร์หลอกลวงสารพัดรวย,รักษาโรคครอบจักรวาล
หรือเด้งขึ้นหน้าใหม่รัวๆหาว่ามือถือเสี่ยงต้องลงแอป
ทุกวันนี้ยังสงสัยว่ากูเกิ้ลปล่อยมาได้ไง
มันอาจจะต่างกันตรงที่ คอนเท้นส่วนใหญ่ของ Google เป็นคอนเท้นที่เปิดสาธารณะอยู่แล้ว (เว็บและวีดีโอใน Youtube) และข้อมูลส่วนใหญ่พวกนี้ก็เป็น Commercial อยู่แล้ว คือเว็บไซต์ หรือ Youtube มันเป็นของที่ไม่รู้สึกว่าเป็นส่วนตัว อาจจะใช้ทำธุรกิจหรืออะไรก็ว่าไป ในขณะที่เฟสบุ๊คนั้นคนส่วนใหญ่ใช้กับเรื่องส่วนตัวก็จะมีผลต่อความรู้สึกมากกว่า
ถ้าตามอ่านอย่างละเอียดจะรู้ว่าไม่ใช่ความผิดมาร์คหรือความผิด facebook เลยครับ แต่มันเป็นเรื่องของความสกปรกในวงการข้อมูลของ Cambridge Analytica และผู้ให้ข้อมูลนี้กับ CA ต่างหาก แต่ที่เขาสอบมาร์คก่อนเพราะถือเป็นการให้เกียรติผู้เสียหายและถูกกล่าวหา เอาจริงๆมาร์คเสียเปรียบด้วยซ้ำกับการพูดก่อนที่ CA จะออกมาพูด เพราะตอนนั้น CA คงคิดคำที่จะแถไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็นะ ด้วยความชัดเจนและจริงใจของมาร์คทำให้เขารอดพ้นวิกฤติขั้นแรกมาได้ ดูราคาหุ้นสิคุณ
ด้วยในวันที่
หาร => การ
ผูใช้ => ผู้ใช้