The Information เว็บไซต์ข่าววงในของวงการไอทีสหรัฐ เผยข้อมูลว่า Mark Zuckerberg ต้องการแก้วิกฤตที่รุมเร้า Facebook โดยเฉพาะจากหน่วยงานภาครัฐบาล โดยพยายามดึงตัวผู้บริหารจากไมโครซอฟท์มาช่วยงานแต่ก็ไม่สำเร็จ
ผู้บริหารคนที่เป็นข่าวคือ Brad Smith ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัท (President) และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย (Chief Legal Officer) ของไมโครซอฟท์มายาวนาน และมีประสบการณ์โชกโชนในแง่การเชื่อมนโยบายกับหน่วยงานภาครัฐ (ข้อเสนอล่าสุดเรื่องนโยบาย Facial Recognition ของไมโครซอฟท์ ก็เขียนโดย Brad Smith)
ตามข่าวบอกว่า Zuckerberg ไปคุยกับ Smith โดยตรง แต่ Smith ปฏิเสธและบอกว่าเขายังมีความสุขกับไมโครซอฟท์ดี
ข่าวความพยายามดึงตัว Brad Smith ส่งผลให้เกิดคำถามว่า Zuckerberg ยังไว้ใจ Sheryl Sandberg ในฐานะเบอร์สองของบริษัทหรือไม่ หลังเธอถูกถล่มอย่างหนักจากกรณีจ้างบริษัท PR ใส่ร้ายป้ายสีขั้วตรงข้าม
โฆษกของ Facebook ยอมรับว่า Zuckerberg ติดต่อไปยัง Smith จริง แต่ไม่ใช่เป็นการดึงตัวไปทำงานด้วย เป็นแค่การขอคำปรึกษาเท่านั้น
ที่มา - Business Insider, ภาพจาก Microsoft
Comments
ส่วนตัวรู้สึกว่า ในบรรดาบริษัทไอทีใหญ่ๆ facebook ดูไม่เป็นมิตรต่อคนใช้และไม่น่าไว้ใจที่สุด
หลังๆ facebook ทำตัวน่าสงสัยที่สุด content สามารถเข้าชมก็ต่อเมื่อ login หรือไหนจะยืนยันตัวตนโดยใช้บัตรประชาชนอีก ตอนแรกไม่บังคับให้ใช้ชื่อจริงแต่พอมาหลังๆเริ่มบังคับให้ใช้ชื่อจริง ทั้งระบบรายงานชื่อปลอมอีก facebook ทำให้น่าสงสัยสุดๆ ข้อมูลหลายอย่างตอนแรกไม่ถูกจำกัด privacy อีกด้วย แถมหลังๆอิสระที่เพิ่มมากขึ้นแต่โดยรวมอิสระน้อยกว่าสื่ออย่างอื่นเยอะเลย
ก็เห็นใส่ใจกับข่าวปลอมดีนะครับ
ข่าวเกี่ยวกับเฟซบุ๊คเองที่อาจจะปลอมน่ะนะ
จอร์จ โซรอส รวยมากอยู่แล้ว และเป็นฝ่ายเดโมแครต ซึ่งเป็นไม่เบื่อไม้เมากับเฟสบุ้คตลอด
ทำไมเหรือ
เพราะเฟสบุ้ค คือสื่อที่นำเสนอข่าวที่มีคนอ่านมากเป็นอันดับต้น การมีเฟสบุ้คและอินเตอร์เนต ทำให้เกิด เพจข่าวราคาถูก ไร้จรรยาบรรณมากมาย โดยเฉพาะสื่อการเมืองเลือกข้าง ประเภทสื่อเสี้ยม บอกไม่หมด บิดเบือนเพื่อผลประโยคของตัวเอง ว่ากันว่า ฝั่งรีพับรีกัน ได้ประโยชน์จากเพจที่สร้างข่าวปลอมในเฟสบุ้คมากกว่า
Facebook นี่ Democrat เต็มขั้นเลยครับ โดยเฉพาะ Sheryl
ขาลงของ FB จริงๆสักวันคงจางหายไปคนใช้ลดลงเบื่อกันไปเอง
คิดว่าต่อไปคนคงไป ทวีตเตอร์กัน เพราะตอนนี้หลายๆเพจเริ่มมี ทวีตเตอร์และ
เมื่อก่อนคิดว่ามันคนละอย่างและทิศทางต่างกันชัดเจนมากจนใช้แทนกันไม่ได้ แต่พอทวิตเตอร์เริ่มพยายามใส่นู่นนี่พักหลังผมก็เริ่มไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ?
คิดว่าคงยากครับ ทวิตเตอร์ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เช่นจำนวนตัวอักษร หรือจำนวนรูปภาพ การจำกัดระยะเวลาของวีดีโอ
ตอนนี้กันมาใช้ ig, Twitter ซะมากกว่าแล้ว แต่ที่ยังใช้ fb ก็เพราะมันมีกลุ่ม และประกาศสำคัญของงานต่างๆ อยู่ในนั้น
ไม่ลองดึง elop ดูล่ะครับ น่าจะดึงง่ายกว่า
ตอนแรกนึกว่า Ballmer
ถ้าเลิกเผือก เลิกล้วง ข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน คนก็ยังใช้ครับ
แบบ NOKIA ใช่ไหม 555