วันนี้ Tesla ได้จัดงานที่สำนักงานใหญ่ ณ เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเป็นการเปิดตัวสถานีชาร์จ Supercharger V3 หรือรุ่นที่ 3 ซึ่งมีกำลังไฟสูงสุดที่ 250 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาทีก็วิ่งต่อได้อีก 75 ไมล์ หรือราว 120 กิโลเมตร
สถานี Supercharger V3 สถานีแรกก็แน่นอนว่าอยู่ที่เมือง Fremont จะเปิดให้เจ้าของรถ Tesla กลุ่มเล็กๆ ที่เข้าร่วมโครงการ early access ได้ทดลองใช้ก่อน และจะเริ่มตั้งสถานีสาธารณะในเดือนเมษายน โดยเมื่อถึงเวลานั้น Tesla จะส่งอัพเดตไปที่รถ Tesla เพื่อให้รถรองรับการใช้งานสถานีชาร์จใหม่นี้ ซึ่งเริ่มจาก Model 3 ที่มีผู้ใช้มากที่สุดก่อน อีกทั้ง Model 3 เป็นรุ่นที่ใช้แบตเตอรี่แบบใหม่กว่า Model S และ X ทำให้ได้รับประโยชน์จาก Supercharger V3 อย่างเต็มที่ รวมถึงสถานี V2 ก็จะเพิ่มกำลังไฟจาก 120 เป็น 145 กิโลวัตต์ด้วย (ตัวสถานีรับได้สูงสุด 150 กิโลวัตต์)
ส่วน Tesla Model S และ X ก็จะได้รับอัพเดตเพื่อให้ชาร์จเร็วขึ้นเช่นกัน แต่ Tesla ไม่ได้ระบุว่าจะเร็วขึ้นแค่ไหน โดยขณะนี้กำลังไฟสูงสุดที่รถทั้งสองรุ่นรองรับคือ 120 กิโลวัตต์
นอกจากนี้ Supercharger V3 ยังไม่มีปัญหาการแชร์ไฟฟ้าระหว่างหัวชาร์จอีกด้วย โดยสถานีชาร์จปัจจุบันจะชาร์จช้าลงหากมีรถมาใช้บริการหลายคัน อีกทั้งจะเปลี่ยนไปใช้สายชาร์จแบบใหม่ที่เล็กลงและไม่แข็งเท่าแบบเดิม
สายชาร์จแบบใหม่ (ซ้าย) เทียบกับแบบปัจจุบัน (ขวา)
สุดท้าย รถยนต์ Tesla จะมีฟีเจอร์ On-Route Battery Warmup หรือการอุ่นแบตเตอรี่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับชาร์จด้วย โดยเมื่อผู้ขับขี่ตั้งระบบนำทางไปยังสถานี Supercharger รถจะอุ่นแบตเตอรี่รอไว้ระหว่างทางเพื่อให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชาร์จ ทำให้ชาร์จเร็วขึ้นเมื่ออากาศเย็น
สถานี Supercharger V3 จะเริ่มตั้งในสหรัฐอเมริกาก่อนในไตรมาส 2 และ 3 ปีนี้ ก่อนจะขยายไปยังยุโรปและเอเชียในไตรมาสที่ 4
Comments
เดินไปเข้าห้องน้ำ ได้มาสองร้อยโล -_-!
ตกลงชาทเร็วเพราะอุ่นหรือเพราะเย็น
เห็นเขาบอกว่าเพื่อยืดอายุแบตห้ามชาททันทีหลังจากจอดรถ
ต่างประเทศอุณหภูมิเขาคงหนาวอะครับ ถ้ามาไทยคงไม่ต้องwarm
อากาศต่างประเทศเย็น ทำให้แบตเตอรี่ไม่ร้อนพอ ชาร์จไม่เร็ว ถ้าขับไปสักพักจนแบตได้ใช้งาน ถึงจะได้ความเร็วที่ควรได้
จากที่เข้าใจคือพวกแบตจะมีoptimal temp ของมันถ้าร้อนเกินแบตจะเสื่อม ถ้าเย็นเกินจะเก็บประจุไม่อยู่ ในประเทศหนาวเลยจำเป็นต้องอุ่น
ไปห้องน้ำ 3 นาที เข้าเซเว่น ซื้อเอ็มร้อย กับ ซาลาเปา กลับมาที่ รถ ชาร์ตได้ 15นาที...
แต่เดี๋ยวก่อน...หัวชาร์ตเหลือถึงท่านหรือไม่ ^ ^''
ยิ่งชาร์จเร็ว อัตราการหมุนเวียนรถยิ่งเยอะ แน่นอน ยิ่งมีหัวเหลือเยอะ
สงสัยเรื่องสายชาร์จแบบเก่าที่บอกว่าแข็งว่ามันเป็นสายอลูมิเนียมหรือทองแดงผสมอลูมิเนียมรึเปล่า
วิศวกรเค้าคิดละเอียดไปทุกอณูจริงๆ
ชาร์จ250KW ใช้ไฟเยอะมาก
อนาคตมี 1 MW มาแน่ เน้นสายเร็วและแรง
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมว่า มันอาจจะเป็นฐานชาร์ตแบบชาร์ตไร้สายพวก Qi มากกว่า
แบบ ขับไปเข้าช่องที่กำหนด กดปุ่มเติม เดินไป7 กลับมาได้ไฟวิ่งเป็น100โล
ไร้สายมัน loss สูงมากนะครับ
ถ้ามันชาร์จแรงขนาดนั้น ไม่รู้สนามแม่เหล็กมันจะแรงขนาดไหนจะอันตรายหรือเปล่า
เอา แบบ magnet แปะดูด ก็ได้ แบบอัติโนมัติ
ไฟฟ้าที่บ้านขนาด 3 เฟส ไฟยังตกเลย ของเขาไป 250KW แล้ว
ซึ่งตอนนี้กำลังถอยปลี๊กอินใหม่ยังหนักใจเรื่องไฟฟ้าอยู่เลยเห้อออ
250KW P=IV กระแส I= P/V อเมริกา ไฟ 110 V ไม่จ่ายกันเป็น 2000 A เลยหรอครับ
ถ้าคิดตามสูตรนี้ หัวจ่ายน่าจะจ่ายกระแสที่ประมาณ 500A มั้งครับ เพราะใช้แรงดันที่ 480V รอผู้รู้มาแก้ข้อมูลครับ
ในสายที่เข้าไม่รู้กี่V แต่ไม่น่าใช่110Vแน่ๆเพราะแปลงมาจากสายส่งจะแปลงมาลงมาที่กี่ V ก็ได้อยู่ที่จะออกแบบ
ถ้าดูตามลิงค์ข้างล่างน่าจะเป็น 300-500 V DC
https://en.wikipedia.org/wiki/Charging_station