Bill Gates ให้สัมภาษณ์กับ Wired ในหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือเรื่องไมโครซอฟท์เจรจาซื้อ TikTok ที่เป็นประเด็นร้อนอยู่ในตอนนี้
ตอนนี้ สถานะของ Gates ไม่ได้เป็นบอร์ดของไมโครซอฟท์แล้ว (ลาออกเมื่อเดือนมีนาคม 2020) แต่ยังเหลือตำแหน่งที่ปรึกษาทางเทคโนโลยี (Technology Advisor) อยู่
Gates เตือนการซื้อ TikTok ว่าเปรียบเสมือน "ถ้วยยาพิษ" (poison chalice) เพราะการเป็นเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์คในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งมี Donald Trump เข้ามาเกี่ยวข้องทำให้การเจรจาครั้งนี้มีความแปลกประหลาด (strange) เป็นอย่างมาก ไมโครซอฟท์จำเป็นต้องตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย
ที่มา - Wired
ภาพจาก YouTube Bill Gates
Comments
"ดูยาพิษอื่นๆ ที่เอ็งเอามากินเล่นก่อนหน้านี้ด้วย" - Bill Gates ไม่ได้กล่าวไว้
[S]
เห็นด้วย...และรู้สึกว่ามันประหลาดๆอยู่ ใน blognone นี่แหละทีผมเคยโพสไว้ในประเด็นที่ว่าถ้า ms จะซื้อ สู้พัฒนาเองไม่ดีกว่าเหรอ? ส่วนหนึ่งของความเห็นนี้ ผมก็รู้นึกประหลาดๆชอบกลทีจะไปซื้อโซเชียลและเทคโนโลยีที่เราก็รู้อยู่แล้วว่าเราทำได้....ทำไมผมรู้สึกว่าฉาบฉวยชอบกล
ก็ทำไม่ได้ไงครับถึงอยากไปซื้อเค้ามา
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
ทำได้ แต่ทำได้ไม่ดี ตอนนี้โอกาสมา เลยคิดว่าจะซื้ออีกรอบ และเป็นการซื้อฐานลูกค้าขนาดใหญ่ มีแนวทางเติบโตดี ก็น่าจะคุ้มเสี่ยง
จริงๆ Microsoft เคยทำ social network ในชื่อ Windows Live Spaces ตัวเองมาก่อนที่โลกจะมี facebook เสียอีก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่รอด หรือซื้อ platform อย่าง Mixer มาตอน รุ่ง ๆ หลายตัวก็ไม่รอดอีก นี่ก็คิดว่า Tik Tok ซื้อมาแล้วจะรอดไหม กลัวจะไม่รอดอีกตัว
หรือนี่เป็นแผนว่าซื้อมาให้ไม่รอดหรือเปล่า ? (ซื้อมาทำลายทิ้ง)
ทางด้านธุรกิจเค้าไม่ได้ดูแค่ด้านเทคโนโลยีครับ เค้าซื้อฐานลูกค้า
เหมือนพวกที่ไปซื้อ startup ที่ประจบความสำเร็จแล้วทำไม ทั้ง ๆ ที่ทำเองก็ได้ แต่เพราะ startup นั้นมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว
เขาซื้อฐานลูกค้า และพฤติกรรมที่ลูกค้ามีอยู่แล้ว อันนี้ทำเองไม่ง่าย ใช้เวลานาน และเปลือง
แต่ประเด็นเรื่อง Trump นี่น่าคิดจริงๆ พอเป็นบริษัทใหญ่ การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงได้จากผู้นำประเทศด้วย
มันไม่ใช่แค่มีเทคโนโลยีแล้วคนจะใช้สิครับ ที่ซื้อนี่มันฐานลูกค้าและแบรนด์ TikTok ไง ชื่อมันติดกับหัวคนใช้ไปแล้ว
ผมไม่มี Account และไม่เคยใช้งาน TikTok แต่สงสัยว่า TikTok มีดีอะไรขนาดที่ MS และ Twitter อยากซื้อกิจการ เพราะถ้าบอกว่าอยากได้ฐานลูกค้า ก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกับที่บริษัทตัวเองมีอยู่แล้ว
ถ้าคุณอายุเกิน 25 ปี คือไม่ใช่ Gen Z คุณก็ไม่เข้าใจ Tiktok ครับ เหมือนผมที่ไม่เข้าใจ แต่เพิ่งารู้ว่ามันดังขนาดนี้ตอนมีข่าวนี่ละ
TikTok กับ Twitter มันคนละแอพกัน ไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มเดียวกัน พติกรรมการเล่นแอพ 2 ตัวนี้ไม่เหมือนกัน ที่มูลค่ามันแพงมันไม่ได้แพงค่าแรงโปรแกรมเมอร์ มันแพงเพราะงบโฆษณาที่ลงไปหลายปีกว่าจะได้ลูกค้าเท่านี้
จากที่ผมไปหัดเล่นมาละสรุปง่ายๆ มันเหมือนกับ Instagram อะครับ แต่เป็นเวอร์ชั่น Video
ละ user มันมากมาย น่าจะฟีลเดียวกับ FB ซื้อ Instagram
มันมีฟิวเตอร์ให้เลือกได้มากมายนะ ฮาๆตลกๆ
ผมว่าคนละกลุ่มเลยนะ แบบคนละโยชน์เลย
ไม่เคยใช้เหมือนกันครับ
แต่ไปกินข้าวกับเพื่อนล่าสุด หลานหลานวัยประถม เปิดดูติดกันงอมแงม
และเด็กเด็กกลุ่มนี้ก็จะเติบโตไปเป็นวันรุ่น และวัยทำงานต่อไป
ซึ่งก็น่าจะเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกับพวกที่ยังเกิดทัน Hi5
เป็นคนอายุเกิน 25 ปี และก็ชอบไถดูอะไรใน TikTok ด้วย ประเด็นมันคงคล้ายๆ กับ Twitter คือเป็นอะไรสั้นๆ Twitter เป็นข้อความสั้นๆ TikTok ก็เป็นคลิปอะไรสั้นๆ มีทั้งแบบเอาฮา, สาระ เช่น สอนใช้มือถือถ่ายวีดีโอโดยมีมุมกล้องสวยๆ แปลกๆ , เล่นสนุกกับคลิปคนอื่นโดยเอาเสียงของคลิปนั้นมาเล่นหรือจะ duet กับคลิปคนอื่น , บางคนก็มีถ่ายวีดีโอที่เที่ยวสวยๆ ก็มี มันก็เลยไถดูอะไรเพลินๆ ไปได้เรื่อยๆ
หรือจะมีแบบพวกส่องสาวก็มี อันนี้บอกไว้เผื่อใครมีลูกแล้วชอบเล่น TikTok
ถ้าจะลองดูอะไรมีสาระลองดูพวกนี้ดูครับ
#เรียนบุคลิกภาพ
aaa_tsushi_ < คนนี้มีสอนวิธีถ่ายวีดีโอมุมกล้องสวยๆ
neruya < คนนี้มีสอนถ่ายรูปสวยๆ , สอนใช้แอพแต่งรูป
หรือสำนักข่าวในไทยก็มีลองไปทำคลิปข่าวใน TikTok ก็มี
ejan , ห้องสืบสวน , TNN
Workpoint ก็มีไป TikTok มั่งแล้ว Work Point
อันนี้ก็ฮาๆ nutped
ดู Mixer ครับ พัฒนาเองเป็นไงละ 55555 ต่อให้ระบบเอื้อเฟื้อต่อผู้ใช้ขนาดไหนแต่ไม่มีผู้ใช้ก็จบ MS เค้าคงเรียนรู้แล้วละ ฐานผู้ใช้สำคัญที่สุดถึงสนใจ TikTok
Mixer ไมโครซอฟท์ก็ไปซื้อมานะครับ ?
MS ไม่ได้ซื้อเทคโนโลยีครับ MS ซื้อเวลา และ Network Effect (อาจรวมถึงบุคลากรด้วย)
แทนที่จะต้องเอาเวลาไปพัฒนาแอปและสร้างฐานลูกค้าที่ไม่รู้ว่าจะได้รึเปล่า สู้ใช้เงินซื้อยังประหยัดและแน่นอนกว่า
ส่วนมาก MS พัฒนาเองมักจะไม่เสร็จ WP ยังลาโลก
เอ่อ ทำได้อยู่แล้ว ทำได้เหมือนกัน และทำได้ดีกว่าด้วย แต่ไม่มีคนเล่นครับ
คนเล่นไม่ย้ายตามมาด้วยง่ายๆ เพราะไม่อยากเปลี่ยนอะไรที่มันโอเคอยู่แล้ว (ถึงจะไม่ดีที่สุดก็ตาม) มีให้เห็นเยอะแยะ Search Engine, Web browser, Social Network ต่างๆ ขนาด Operating System หรือ Hardware Architecture ก็มีปัญหาเดียวกัน
มูลค่าของ tiktok อยู่ที่ user
ซึ่งสร้างกันยาก และ m$ คงไม่อยากเจ็บตัวเหมือนตอน mixer ที่ลงทุนดูด content creator มา แต่ user ไม่ตามมาเสียอย่างนั้น
ไมโครซอฟท์จำเป็นตะหนักถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย >> ไมโครซอฟท์จำเป็นตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย
จ่าย 100 บาทเพื่อสร้าง จ่ายอีก 100 บาทเพื่อหาลูกค้า
กับจ่ายทีเดียว 200 บาท ประหยัดเวลา ได้ของ ได้ลูกค้า
คงชั่งน้ำหนักกันมาบ้างแล้วครับ
สัมภาษณ์จริงๆสั้นนิดเดียว แต่ Bill Gates ก็พูดได้ให้คิดจริง ๆ แต่ส่วนใหญ่มันก็คือปัญหาทางการเมืองทั้งการซื้อ (ที่มี Donald Trump เข้ามาเกี่ยว) กับการจัดการ social media ที่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของรัฐ...
งั้นถ้า ..
ข่าว 1
ลุงตู้ บอกว่าแบน FB แล้วฐาวร ให้ CP ซื้อ FB ก่อนแล้วย้าย database มาไว้ที่พระราม9 เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
ข่าว 2
เจ้าสัว เตือนการซื้อ FB ว่าเปรียบเสมือนถ้วยยาพิษ เพราะการเป็นเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์คในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
Trump มีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วอีกสามเดือน Trump จะอยู่หรือลงก็ยังไม่แน่ตัวแปรความเสี่ยงมันมากเกินไป
อยากรู้ว่าการที่ Microsoft อยากซื้อ แต่บริษัทที่ดูแล TikTok ไม่อยากขาย สามารถทำได้ไหม
ไม่แน่ใจว่า MS เห็นโอกาสในการทำกำไรจาก Tiktok ตรงๆเลยหรือว่าอยากได้ฐานลูกค้ามาสร้างโอกาสใหม่ๆ แต่การไปทำอะไรที่ไม่ถนัด MS ก็เจ็บตัวมาหลายรอบละเนอะ ที่สำคัญมันดันไปเกี่ยวข้องกับการเมืองระดับประเทศอีกด้วย ก็ไม่แปลกที่ลุงบิลเกตส์แกจะออกมาเตือน
..: เรื่อยไป
Satya น่าจะมีแนวคิดในใจอยู่แล้วว่าจะเอามาทำอะไร สิ่งที่ TicTok มีคือ ฐานลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น ซึ่งถ้าดูจากยุทธศาสตร์ปัจจุบันของ Microsoft อาจงงๆ หน่อย แต่ถ้ามองไปอีกกรอบนึง คือ Microsoft คิดจะบุกตลาด Consumer ที่เป็นจุดอ่อนอีกครั้ง โดยเอาลูกค้ากลุ่มนี้ไปเชื่อมกับบริการที่มีฐานลูกค้าใกล้เคียงอย่าง xCloud ก็น่าคิด เพราะจริงแล้ว Satya ก็เคยเปิดเกมส์ตลาดนี้ไว้บ้างแล้ว และตอนนั้น Bill Gate ก็ไม่ได้เห็นด้วยในการซื้อ Minecraft แต่สุดท้ายผลงานก็พิสูจน์มาแล้วว่า Staya คิดถูก (ที่มาจากหนังสือ ประวัติ Satya)
+1 มีเหตุมีผล
ลองนึกถึงวันที่ไม่มี Tiktok แล้ว การแข่งขันจะกลับมาดุเดือดเพื่อแย่งกันเป็นเบอร์ 1 กันอีกรอบซึ่ง MS ก็เหมือนเดิมตามเขาไม่ทัน แต่โอกาศมาแล้วจะไปแข่งกับคนอื่นทำไม เราก็กลายเป็นเบอร์ 1 จากการซื้อ Tiktok ไปเลยง่ายกว่า
ผมยังกลัวว่าคนจะมองภาพลักษณ์ติดลบที่ไปเล่นอะไรแบบนี้ด้วยกับทรัมป์ แต่ถ้ามีแผนดีๆ ก็คงพอจัดการได้กระมัง
ปัญหามันมาอยู่ตรงทรัมป์ดันสั่งบังคับขายนี่แหละ มันเลยเป็นเรื่องที่มันอาจจะย้อนกลับมาทำร้าย MS โดยเฉพาะในจีนครับ
ใช่ครับ เลยคิดว่าต้องมีแผนรับมือไว้ดีมากๆ ถ้าจะเล่นจริง
ซื้อแอพที่หลายๆประเทศเริ่มแบนเนี่ยนะ ?
The Last Wizard Of Century.
สนข.ต่างประเทศเค้าวิจัยมาและวิเคราะห์แล้วว่า แบรนด์ Microsoft "ไม่ cool" สำหรับคนวัยต่ำกว่า 30 มาพักใหญ่แล้ว และแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ ทิ้งห่าง Apple หลายขุม หรือแม้แต่คอนโซลที่เคยเชิดหน้าชูตาในผู้ใช้วัยนี้ก็โดนโซนี่ทิ้งห่างไปไกล การเดินเกมเอา app ที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นคนวัยต่ำกว่า 25 มาครอบครอง ถือว่าไม่ใช่เรื่องใร้สาระ และ TikTok ไม่ใช้แอปไก่กา เป็นหนึ่งใน private company (ที่รัฐไม่ได้ถือหุ้น) ที่มูลค่าสูงสุดของจีนในตอนนี้
+1 โอ้...ความเห็นดี
ผมเห็นเด็กแว๊น เด็กสก๊อยเล่นเยอะ เลยไม่คิดจะเล่นเลยครับ