By: lew 
on 23 August 2020 - 09:16
Tags:
Topics:
Digital Content Next (DCN) กลุ่มสื่อที่รวมเอาสื่อรายใหญ่ เช่น The Washington Post, The New York Times, Financial Times ตั้งคำถามต่อแอปเปิลว่าองค์กรต่างๆ ต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถลดค่าธรรมเนียมการจ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์มที่แอปเปิลเก็บค่าธรรมเนียมถึง 30%
บทความของ DCN ในเว็บระบุว่าแอปเปิลอ้างว่านโยบายค่าธรรมเนียมนั้น "ไม่สามารถต่อรองได้" (non-negotiable) แต่ในความเป็นจริงแอปเปิลกลับลดค่าธรรมเนียมให้ผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Amazon Prime Video นั้นคิดค่าธรรมเนียมเพียง 15% แถมหากผู้ใช้เป็นลูกค้าเดิมของ Prime Video มาก่อนก็ไม่คิดค่าธรรมเนียมเลย
กลุ่มสื่อ DCN นับเป็นกลุ่มล่าสุดที่ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อค่าธรรมเนียมของแอปเปิล หลังจาก Epic, Spotify, WordPress, กลุ่มสตาร์ตอัพเกาหลี ออกมาเรียกร้องกันก่อนหน้านี้แล้ว
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
แอปเปล -> แอปเปิล
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ตอนแรกไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่โดนขุดมาแฉแบบนี้ก็ชักเริ่มสนุกล่ะ
ในกลุ่มสื่อในข่าวมี นสพ.Washington Postที่ Jeff Bezos เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เหมือนกับ Amazon
ในเมื่อมีผู้ถือหุ้นใหญ่คนเดียวกับAmazon ก็ถามผ่านJeff Bezosซิครับ ฮี่ๆ
เริ่มบันเทิงขึ้นเรื่อยๆละ ถึงผมใช้แอปเปิ้ล แต่รอบนี้(ไม่นับ Epic) ก็เกินไปจริงๆในเรื่องแย่ๆที่ผุดมาไม่หยุด
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เหมือนเคยมีคนบอกว่า 30% แค่ปีแรกนี่ครับ ปีถัด ๆ มาจะลดลง
แอปเปิลเขาลงทุนตั้งหลายพันล้านทำระบบ มีต้นทุนค่าดูแลอะไรงี้เยอะแยะ กฎก็มีประกาศไว้ชัด ถ้าไม่พอใจก็ไปขายที่อื่น
คอมเมนต์ใน Blognone ว่าเอาไว้
มันก้ป็น fct นะตอนนั้นบวกกับข้อมูลที่มี ณ ตอนนั้นครับ
ผมพยายามจะเข้าใจทั้งคุณและคอมเม้นที่คุณกล่าว
ยิ่งเห็นข่าวแบบนี้ รู้สึกดีที่ตัวเองตัดสินใจอยู่กับ Windows / Android แล้วแฮะ
เอาจริงๆ ค่ายฝั่งนี้ก็มีเรื่องให้น่าหงุดหงิดคนละแบบครับ ฮ่าๆ
มันก็มีเรื่องน่าหงุดหงิดแหละครับ คือทุกฝ่ายมันมีทั้งด้านแย่และด้านดี อย่าง MS ก็มีเรื่อง AppGet กับ WinGet มั้งถ้าผมจำไม่ผิด หุ่นเขียวผมก็ยังมีเรื่องผู้ให้กำเนิดลวนลามทางเพศอีก
แต่ถ้าต้องเลือกผมคงอยู่ Win + And ครับด้วยเหตุผลหลาย ๆอย่างเช่นกัน
แต่ถ้า Win กับ And แย่มากแล้ว Apple ดูดีขึ้น ผมก็ย้ายความเห็นครับ
ผมแค่รู้สึกแย่กับ Apple ตั้งแต่ 2016 แล้ว และก็หลาย ๆ เรื่องเลยรู้สึกว่าดีที่ไม่เข้า Eco นั้น
แต่ก็นั่นแหละครับ ใจคนมันเปลี่ยนได้ ตอนนี้ชอบฝั่งนี้ตอนหน้าอาจจะเปลี่ยนก็ได้
ปล. ผมเห็นด้วยกับการเก็บส่วนแบ่งของ Apple กับ Google แต่ว่าจำนวนเปอร์เซนต์อาจจะมากไปจริง ๆ แต่ผมไม่ชอบสิ่งที่ Apple ทำกับพูดไม่เหมือนกันว่า ไม่สามารถต่อรองได้ครับ แล้วก็เรื่องบังคับ WordPress แบบนี้ด้วยถึงข่าวล่าสุดจะยกเลิกไปแล้ว ถ้าไม่โดนต่อว่าจะยกเลิกให้หรือเปล่าด้วยนะครับ
ยังกะPlay Store ของแอนดรอยไม่มีระบบ 30%
ณ จุดนี้รู้สึกเหมือนเลือกสิ่งที่ตัวเองคิดว่าเป็น Lesser Evil
หมายถึง รู้สึกดีที่ตัดสินใจทำแอพบน Windows/Android ใช่มั้ยครับ
เลือกสนับสนุนและใช้งานในชีวิตประจำวันครับ ส่วนงานที่ผมทำผมใช้ Ubuntu
เอ หน้าเว็ปมันก็เขียนบอกอยู่นะว่าถ้าเป็น subscription ปีแรก 30% ปีที่สอง 15%
แต่อันนี้ถึงขั้นไร้ค่าธรรมเนียมด้วยนะครับ ถ้าเป็นลูกค้ามาก่อน
ถ้าเป็นลูกค้า epic มาก่อน ก็ต้องเว้นธรรมเนียมให้หรือเปล่าครับ
คำว่าไร้ค่าธรรมเนียมอันนี้หมายถึงเคยไป subscription ที่เว็ปอื่นแล้วให้ต่ออัตโนมัติโดยไม่ผ่านระบบชำระเงินทาง app store หรือเปล่าครับ ถ้าแบบนี้ก็ปรกตินะ
ถ้าแบบนี้ก็แปลกๆนะไม่เท่าเทียบกันเลยถ้าเก็บเท่า่กันหมดก็จะเฉยๆหรอกนะ
กลายเป็นเรื่องใหญ่ ขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ไม่รีบต่อรอง มีแค่ 2 ขั้ว ถ้ามี 3 ตอนนี่้ต้องแย่งกันลดส่วนแบ่งแล้ว(รึเปล่า?)
อยากให้ hms เกิดไวๆ
บันเทิงเลยงานนี้ ^^