โครงการ CentOS ประกาศเตรียมหยุดซัพพอร์ต CentOS 8 สิ้นปี 2021 จากเดิมที่ CentOS แต่ละเวอร์ชั่นจะซัพพอร์ตล้อไปกับ RHEL ยาวนานถึงเวอร์ชั่นละสิบปี ทำให้ CentOS 8 ควรได้ซัพพอร์ตถึง 2029
หลังจาก CentOS 8 หยุดพัฒนาแล้วทาง CentOS แนะนำให้ผู้ใช้ CentOS 8 ย้ายไปใช้งาน CentOS Stream 8 ที่กำลังเป็นดิสโทรรุ่นพัฒนาเวอร์ชั่นต่อๆ ไปของ RHEL
ก่อนหน้านี้ CentOS เคยวางตัวเป็นดิสโทรทดแทน (drop-in replacement) สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจ่ายเงินค่าไลเซนส์ให้กับ RHEL แต่เมื่อปี 2014 ทาง Red Hat ก็ดึงทีมงาน CentOS ทั้งหมดเข้าไปอยู่ในบริษัท และค่อยๆ ปรับโครงการให้กลายเป็นโครงการต้นน้ำของ RHEL คั่นกลาง Fedora ไว้อีกชั้นหนึ่ง
ธุรกิจของ Red Hat นั้นเน้นการขายซัพพอร์ตจากรุ่นเสถียรของซอฟต์แวร์เนื่องจากองค์กรจำนวนมากต้องการเพียงแค่แพตช์ความปลอดภัยโดยไม่ต้องการอัพเกรดฟีเจอร์ใดๆ แม้ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ของ Red Hat จะเปิดให้ใช้ฟรี เช่น OpenShift ที่มีโครงการ OKD หรือ Ansible Tower ที่มี AWX เป็นโครงการต้นน้ำ แต่โครงการต้นน้ำจะเน้นการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เป็นหลัก มีอายุการซัพพอร์ตแต่ละเวอร์ชั่นเพียงเวลาสั้นๆ การที่ CentOS ถูกปรับแนวทางกลายเป็นโครงการพัฒนาของ RHEL น่าจะทำให้องค์กรที่เคยอาศัยความเสถียรของ CentOS ต้องเลือกจ่ายเงินซื้อ RHEL หรือเปลี่ยนไปใช้โครงการอื่น
ที่มา - CentOS
ภาพหน้าจอ CentOS 8.1
Comments
มีอะไรพอทดแทน CentOS 8 ได้ไหมครับ T_T
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
Oracle Linux?
linux สายฟรี นี่ปวดหัวจริงๆ ครับ
ตอนนี้มี ubuntu ก็รอบ lts สั้นเกิน (สำหรับผมนะ)
ส่วน debian รุ่น stable ก็แพคเกจเก่าเกิน
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยรู้สึกว่า package เก่าเป็นปัญหาแล้วนะครับ เอาแอพไปรันใน container พวก version มันก็จะแยกกันไปเลย ใช้ Debian oldstable จะรัน Python 3.9 ก็ทำได้
ปัญหาใหญ่ๆ น่าจะอยู่แค่ Kernel อย่าง Kubernetes bug cpu quota จะแก้ต้องใช้ Kernel 5 กว่าๆ ใช้ Debian นี่ใช้ kernel มาตรฐานไม่ได้เลย
CentOS เดิมก็ kernel เก่า ถ้าเปลี่ยนไปใช้ CentOS Stream น่าจะมี kernel ใหม่มาเร็วกว่าเดิม ส่วนความเสถียรของแอพใน container ก็เลือกเวอร์ชั่นเเองได้ไม่น่าจะเป็นปัญหา
ubuntu ยอมจ่าย essential เครื่องละ 225 ดอลลาร์ต่อปี ก็ได้ ESM รวมระยะเวลา 8 ปีก็ไม่แย่นะครับ (ซื้อตอนหมด mainstream support ก็น่าจะได้ด้วย)
lewcpe.com, @wasonliw
CentOS Stream ต่างจาก Fedora ยังไง
CENTOS = RHEL+
FEDORA = RHEL++
น่าจะประมาณนี้
แหล่งซอฟต์แวร์ --> เข้า Fedora --> เลือกเฉพาะแพ็คเกจที่ Redhat มีนโยบายจะให้บริการซัพพอร์ต เข้า CentOS Stream ก่อนโดยยังไม่มีบริการซัพพอร์ต --> แล้วจึงเข้า RHEL พร้อมบริการซัพพอร์ต
ยังไม่ทันได้อัพไปใช้ 8 เลย ไปซะแล้ว ไหนว่าตอนแรกบอกจะอยู่ถึง 2029 ตัดจบกันงี้เลย
ทำธุรกิจเขาก็อยากมีรายได้กับแหละครับ