หลัง Google เปิดตัว Pixel 5a เมื่อคืน ก็ระบุเพิ่มเติมไว้ว่า Pixel 5a จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่แถมที่ชาร์จมาในกล่อง ส่วน Pixel 6 และ 6 Pro จะไม่มีที่ชาร์จแถม โดย Google ระบุว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ มีที่ชาร์จ USB-C อยู่แล้ว คงไม่จำเป็นต้องแถมมาอีกต่อไป
Apple เป็นผู้เริ่มต้นแนวทางนี้ โดยให้เหตุผลว่าช่วยลดการใช้ทรัพยากร ลดโลกร้อน หลังจากนั้น Samsung ที่จิกกัด Apple เรื่องไม่แถมที่ชาร์จอยู่สักพัก ก็ไม่แถมที่ชาร์จมากับ Galaxy S21 เช่นกัน จนต้องลบโพสต์ที่เคยแซว Apple ออก
ส่วน Xiaomi ก็เกือบไม่แถมที่ชาร์จมากับ Mi 11 แต่สุดท้ายก็ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะรับที่ชาร์จหรือไม่ในราคาเท่ากัน ซึ่งดูน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ แต่ก็ยังแถมที่ชาร์จแบบชาร์จเร็วอยู่ในรุ่นต่อๆ มา เช่น Mi 11 Ultra เหมือนเดิม
ที่มา - The Verge
Comments
เรื่องดีๆ ล่ะตามกันจัง
ข้อเสียของกลยุทธ์ไม่แถมที่ชาร์จคือลูกค้าไม่รู้ว่าตัวเองประหยัดไปเท่าไหร่เลยคิดว่าตัวเองเสียเปรียบ เพราะว่าพอไม่แถมที่ชาร์จมันก็ประหยัดเรื่องกล่องด้วยที่สามารถทำให้เล็กลงได้
เอาไปขายมือสองไม่ได้สิเนี่ย ร้านไม่รับแน่ๆ เพราะไม่มีที่ชาร์จ
กลายเป็น Phone กากไปกันหมดละ ฮ่าาๆๆ
ช่วงโควิดเซฟอะไรได้ก็เซฟสินะ แหม กลายเป็นกรรมผู้บริโภค
ต้องย้ายค่ายไปใช้โทรศัพท์บ้านละ
จะไม่ว่าเลยถ้าไม่แถมแล้วลดราคาลง
มันจะเขินๆหน่อยถ้าเคยทำโฆษณาไปแซะเขาไว้ แล้วทำเสียเอง
พวกไม่ให้ที่ชาท
ถ้าเขาซื้อที่ชาทถูกๆ มาชาทแล้วโทรศัพท์เสีย ซ่อมฟรีใช่ไหม?
ทำไม Apple นำ แล้วเจ้าอื่นๆก็ต้องขานรับตามทุกที
เปลี่ยนแบตไม่ได้ —— ตาม
ถอดช่องหูฟังออก —— ตาม
รอยบาก —— ตาม
เลิกบ้าความละเอียดกล้อง —— ตาม
เดาว่าคิดแล้วว่ากลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มเดียวกับ iPhone แล้วพอ Apple ทำแล้วรอด ตลาดไม่แคร์ ทำแล้วประหยัดต้นทุนได้หลายส่วน ทำไมจะไม่ทำล่ะ 555
เอาจริงๆผมก็ไม่เจอ iPhone user คนไหนย้ายไปใช้ Android เพราะ Apple ไม่แถมที่ชาร์จเลยสักคนครับ เอาจริงๆคนใช้ไอโฟนส่วนใหญ่เฉยๆด้วยซ้ำ คนที่จิกกัดส่วนใหญ่เป็นฝั่ง Android เนี่ยแหล่ะครับ
อันนี้จริง
ที่บ่นทุกปีคือ เมื่อไรจะ USB type-C ซักที แต่เหมือน port charge จะโดนตัดอีกในไม่ช้า เผลอๆ ปีนี้ด้วย เลิกหวังแล้ว (และก็จะโดนด่าอีก วน loop ไปเรื่อยๆ วัฏจักรสินค้า Apple)
+1 คิดว่าพอร์ทชาร์จก็คงจะตัดเร็วๆนี้แหละ ไม่ต้องรอ type-c กันแล้ว ตัดทิ้งไปเลย ส่วนตัวผมไม่เห็นความจำเป็นอะไรกับพอร์ทชาร์จแล้วนะ นอกจจากจะมีไว้ชาร์จไฟเนี้ยะ เพราะพี่ท่านชาร์จแปะเอาก็ได้ ส่วน connection อื่นๆก็ผ่าน airdrop บลูทูธกันหมดแม้แต่หูฟัง
ผู้ใช้ Android ผู้หวังดี และ(คิดว่า)ตัวเองคือผู้ตาสว่าง มองโลกเจนกว่าใครๆ
สังเกตได้จากผู้ใช้คุณภาพตามเพจดังสีแดงหรือสีน้ำเงิน
ผมไม่เห็นด้วยครับที่บอกว่า Android เลิกบ้าความละเอียดกล้อง จากการเช็คข้อมูลล่าสุด ระดับ flagship ของ Android เกือบทุกตัวมีอย่างน้อยหนึ่งเลนส์ที่มีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 48 ล้านพิกเซล เช่น Huawei P50 Pro, Xiaomi Mi 11 Ultra, Asus Snapdragon Insiders, Oppo Find X3 Pro, Vivo X50 Pro+, Samsung Galaxy S21 Ultra 5G, Honor Magic3 Pro+, หรือแม้แต่สเปคหลุดของ Pixel 6 ที่ใช้เลนส์ Samsung GN1 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
มันจะมีช่วงนึงที่พยายามผลักไป 100 กว่าพิกเซล แล้วก็กลับมาประมาณ 48-50 และตัวซัมซุงรุ่นกลางที่ออกใหม่ไม่นานเองผมเห็นมีรุ่นนึง 12+12+12 ด้วย ก็ไม่ได่จะบอกว่ามันตามนะ แต่การตลาดพิกเซลมันเริ่มล้นไปแล้วอะจนผู้บริโภคเขาก็เริ่มคิดกันเองได้ว่ามันไม่ได้การันตีคุณภาพ แถมกินพื้นที่โคตร ซึ่งก็คิดว่าส่วนดีมันก็มีคือการ bining อันนี้ฟังขึ้น แต่ไอโฟนก็ใช้ Deep fusion ทดแทน Pixel 5 เอง ก็ 12.2 ล้านเองนะครับ
เจ้าอื่นทำ => โดนด่า => หนีไปใช้ยี่ห้ออื่น
Apple ทำ => โดนด่า => หนีไปไหนไม่ได้ => ใช้จนชิน(หรือจำใจ?) => ยี่ห้ออื่นทำตามก็ไม่โดนด่าเท่าแล้ว
ที่ผมคิดแบบนั้นเพราะหลายอย่างที่ว่ามา Apple ไม่ได้ทำเจ้าแรก แต่เจ้าอื่นที่ทำก่อนแป๊กแทบทั้งนั้นเลย
ผมก็คิดแบบนี้แหละ ลูกค้าไม่ชอบแล้วไง ? จะหนีไปไหนได้
ผมว่ากลับกันอิผลไม้นี่แหละทำไรโดนด่าหมดครับ ตั้งแต่ตัดรูหูฟัง ไม่แถมหัวชาร์จ ไม่เชื่อไปอ่านเพจแดงๆ ดิ พอเป็นเจ้าอื่นทำไมเงียบกันเฉย ทั้งๆที่ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องดีเลยนะ แต่ผมมองว่าแบรนด์อื่นเอาแบบอย่างผลไม้ในการประหยัดหรือเอาเปรียบได้ เพราะยังไงก็โดนประแสแย่ๆ จากผลไม้กลบหมด ตั้งแต่ราคาเพดานมือถือที่ตอนนี้ล่อไป 40k+ ตั้งแต่ iphone x ถ้าผลไม้มันไม่ตั้งโหดแบบนี้รุ่นอื่นๆ ก็ไม่กล้าตั้ง 30k
เอาง่ายๆ คือสายแทงก์และกระสอบทรายแห่งวงการ
ของแอปเปิล โดนด่ามากแค่ไหนก็ยังมีคนซื้อครับ คนด่าเองยังต้องซื้อเลย
ของเจ้าอื่นนี่ โดนด่าเมื่อไหร่โอกาสย้ายค่ายสูง
ไอ้ที่ทำก่อนแล้วแป๊กหลายกรณีนี่เพราะคุณภาพมันไม่ได้เองแหละครับ อย่างกรณีที่ตะบี้ตะบันใส่กล้องใต้จอกันอยู่ ก็แป๊กแล้วแป๊กอีก คิดว่าคงต้องรอให้แอปเปิลทำจนได้คุณภาพที่สูงจนได้มาตรฐานแอปเปิลนั่นแหละครับถึงจะกลายเป็น mainstream ซึ่งก็คงจะถูกครหาว่าลอกเหมือนเดิม
ของเอเปิลก็บ่นกันนะ แต่บ่นแล้วไง ก้ต้องซื้ออยุ่ดีถ้าอยากใช้ระบบนี้ ไม่ว่าทำอะไรแปลกๆมาผุ้ใช้ก็ต้องซื้อตาม
แต่ฝั่งดรอยถ้าทำอะไรแปลกๆมันไมได้นะสิ ตัวเลือกในตลาดมันเยอะ
พอเอเปิลทำแล้วรุ่ง ก็ทำตามมันสะเลย ตลาดไปทางนี้แล้ว
ความเป็นแอปเปิ้ลมันยิ่งใหญ่ค้ำโลกจริงๆ
ดีไม่ดีไม่รู้ ขอแค่เปิ้นทำ ดรอยด์ก็พร้อมตาม
เวลาโดนด่าจะได้แสบหูน้อยหน่อย ถถถถถ
แอปเปิ้ลคือ เจ้าโลก
ตัวอย่างเลว ๆ นี่ก็ช่างจะเลียนแบบ
ใช่เลย เรื่องเลวๆ ยังทำตาม มันช่างเลวทรามจริงเชียว
อยากตัดออกก็เชิญ แต่ช่วยลดราคาลงด้วย
ตัดออกแล้วน่าจะผลิตได้เยอะขึ้น ช่วยมาขายไทยด้วยครับบ
+1
ตัดออกได้และควรประกาศว่าราคาจะปรับลงด้วย CPU ก็ลด Cost ไปละ เอาของกากมาเปลี่ยนชื่อ จะเอากำไรเท่าไรหรอ 50%?
ภาวนาอย่างเดียว
Apple คงจะไม่มีการออก Supscription ระบบ iOS นะ
ถ้ามีนี่น่าจะต้องเป็นคนวัยทำงานจริงๆละที่ใช้
ก็ดีแล้ว ลดขยะ ที่บ้านก็มีที่ชาร์ทอยู่สามสี่หัว
เป็น usb-c หมดเลยเหรอครับ? ผมนี่ไม่มีที่ชาร์จหัว usb-c เลยซักอันเลย 55+
ผมมีที่ชาร์จ USB-C เต็มไปหมดเลยแต่ไม่ค่อยได้ใช้ครับ มันชาร์จเร็วไป
คนที่ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา ใช้มือถือกันกี่ปีเหรอครับ ทำไมถึงมีที่ชาร์จเยอะแยะ ผมใช้เครื่องนึงอย่างต่ำ 2 ปี (เคยใช้ถึง 4 ปั) ที่ชาร์จมันเก่าจนผมไม่ไว้ใจมันนะ ซื้อใหม่ก็อยากได้อันใหม่อยู่ (ทั้งสาย ทั้งหม้อแปลง)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
นอกจากอันที่แถมมากับมือถือแล้วมันจะมีอแดปเตอร์ที่มากับอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้เป็นจุดชาร์จได้ ในบ้านผมนี่เรียกว่ามีที่ให้ชาร์จมือถือได้ไม่ต่ำกว่า 6 จุด ซึ่งคิดว่าหลายคนก็น่าจะเป็นประมาณนี้เลยไม่รู้สึกว่าการที่ไม่แถมไปสักอันก็อาจจะไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไร
อ๋อ ขอบคุณครับ ผมลืมนึกถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ไปเลย
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!