ต่อจากข่าวก่อนหน้านี้ว่า กูเกิลออกอัพเดต Android 16 Beta ให้กับ Pixel 6 ที่ออกในปี 2021 ถือว่าเพิ่มจากสิ่งที่สัญญาไว้ว่าจะได้อัพเดต OS 3 รุ่นและแพตช์ความปลอดภัย 5 ปี

ล่าสุดมีคนพบว่าในหน้า Pixel Support กูเกิลได้ปรับแก้ข้อความใหม่ของสมาร์ทโฟนกลุ่ม Pixel 6, 6a, 7, 7a, Fold เป็น อัพเดต OS และความปลอดภัยนาน 5 ปี (เพิ่ม OS เป็น 5 ปีเท่าแพตช์ความปลอดภัย) เท่ากับว่า Pixel 6 ซึ่งเป็นมือถือที่เก่าที่สุดในชุดนี้ จะได้อัพเดต OS ไปจนถึงปี 2026 เลยทีเดียว

ข่าวดีเล็กๆ ของ Android 16 ออกรุ่น Developer Preview 1 คือ Google Pixel 6 ที่ออกในปี 2021 การันตีอัพเดตแพตช์ความปลอดภัย 5 ปี แต่อัพเกรดระบบปฏิบัติการให้ 3 รุ่น นั้นได้อัพเดตเป็น Android 16 DP1 ด้วย

ในหน้าเว็บของกูเกิล ระบุข้อมูลว่าการันตีอัพเกรดระบบปฏิบัติการให้จนถึงเดือนตุลาคม 2024 เป็นอย่างน้อย (ซึ่งผ่านมาแล้ว) และการันตีอัพเดตแพตช์ให้ถึงเดือนตุลาคม 2026

กูเกิลประกาศฟีเจอร์ใหม่ให้ Circle to Search ค้นหาสิ่งต่างๆ จากภาพบนหน้าจอ ให้รองรับการแปลภาษาด้วย

ปกติแล้วเราอาจใช้ Google Lens หรือฟีเจอร์กล้องใน Google Translate แปลภาษาสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในชีวิตจริงรอบตัว แต่หากเราต้องการแปลหน้าเว็บหรือรูปภาพที่แสดงผลบนหน้าจออาจทำได้ลำบาก (ต้องแคปหน้าจอก่อนแล้วค่อยเข้า Google Translate อีกที)

ฟีเจอร์ Circle to Search ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้ ตัวอย่างการใช้งานคือเข้าหน้าเว็บร้านอาหาร ที่มีภาพเมนูในภาษาต่างประเทศ สิ่งที่ต้องทำมีเพียงกดปุ่ม Home ค้างเพื่อเรียก Google to Search ขึ้นมา มีปุ่มแปลภาษาเข้ามาใหม่ด้านล่าง กดแล้วแปลสิ่งที่อยู่บนจอได้ทันที

ผู้ใช้โทรศัพท์ Pixel 6 ทั้งสามรุ่น คือ Pixel 6, Pixel 6a, และ Pixel 6 Pro รายงานปัญหาหลังอัพเกรดไปใช้ Android 14 แม้ช่วงแรกจะไม่มีปัญหาอะไรแต่พอผ่านไปประมาณสองสัปดาห์ หลับพบปัญหาสตอเรจเต็มตลอดเวลา ไม่สามารถถ่ายภาพ, ติดตั้งหรือถอดแอปพลิเคชั่น

ปัญหานี้ไม่ได้เกิดทันทีหลังอัพเดต แต่ต้องรอไประยะหนึ่ง หลายคนพบปัญหาหลังอัพเดตไป 2 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น

ล่าสุดกูเกิลถอดอัพเดต Android 14 ออกจาก Pixel 6 ไปแล้ว หากใครยังไม่ได้อัพเดตระบบจะแจ้งว่า Android 13 แพตช์เดือนกันยายนนั้นเป็นรุ่นล่าสุด

ทีมงาน Pixel เขียนบล็อกเล่าเบื้องหลังการออกแบบ "แถบกล้อง" (Camera Bar) ที่เริ่มใช้ใน Pixel 6 และกลายเป็นเอกลักษณ์ของมือถือตระกูล Pixel จนมาถึงปัจจุบัน

จุดเริ่มต้นมาจากเป้าหมายของ Pixel 6 ที่ต้องการยกระดับคุณภาพของกล้อง ซึ่งจำเป็นต้องใช้เลนส์ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ดีไซน์เดิมของ Pixel 5 จัดวางกล้องไว้ตรงมุมเดียวกัน จึงเป็นข้อจำกัดของการออกแบบ Pixel 6 ที่ต้องคิดใหม่ทำใหม่ หาวิธีจัดวางเลนส์ที่ใหญ่ขึ้น โดยเครื่องไม่ต้องใหญ่ขึ้นตาม สุดท้ายมาจบที่การวางกล้องเป็นแถบยาวๆ เพื่อรองรับกล้อง 3 ตัวของ Pixel 6 Pro ให้วางกระจายกัน การใช้แถบยาวเท่ากันหมดทำให้วางเครื่องแล้วไม่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง และเลือกใช้วัสดุเป็นกระจกสีดำ ทำให้ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเลนส์กล้อง สะอาด ไม่รก (visually clean)

มีผู้ใช้ Reddit จำนวนมากรายงานว่าใช้มือถือ Google Pixel รุ่นใหม่ๆ บางรุ่น เช่น Pixel 7/7 Pro, 6/6 Pro/6a เปิดคลิปตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Alien แบบ HDR แล้วเครื่องรีบูตทันที ทั้งนี้ผู้ใช้มือถือ Pixel รุ่นเก่าเช่น 5, 4a, 3, 3a กลับเปิดคลิปดังกล่าวได้ปกติ

ทั้งนี้การรีบูตจะเกิดขึ้นเมื่อดูคลิปทางแอพ YouTube เท่านั้น หากดูบนเบราว์เซอร์จะดูได้ปกติ

ส่วนตัวผู้เขียนใช้ Pixel 7 Pro ทดลองเปิดคลิปแล้วเครื่องรีบูตทันทีเช่นกัน แต่แปลกกว่าการรีบูตทั่วไปตรงที่เครื่องบูตเร็วมาก เพียงไม่กี่วินาทีก็กลับมาใช้งานได้

ขณะนี้ยังไม่มีคำตอบจากกูเกิลว่าเกิดจากอะไร

Sundar Pichai ซีอีโอของ Alphabet ตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าฮาร์ดแวร์ของกูเกิล ในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 4/2022 ว่าสมาร์ทโฟน Pixel 6a, 7, 7 Pro ทำยอดขายได้ดีมาก ดีที่สุดเท่าที่เคยออกสินค้าตระกูล Pixel มา โดยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ในทุกประเทศที่วางขายด้วย

ส่วน Ruth Porath ซีเอฟโอของ Alphabet ก็บอกว่าจะลงทุนกับสินค้าตระกูล Pixel มากขึ้น (sizable investment) โดยพยายามรักษาเรื่องต้นทุนให้ดีด้วยเช่นกัน

Marques Brownlee หรือ MKBHD ยูทูบเบอร์สายรีวิวมือถือชื่อดัง ลองทดสอบ blind test รูปถ่ายจากกล้องมือถือที่ออกขายในปี 2022 จำนวน 16 รุ่น โดยมีแฟนๆ ร่วมโหวตมากถึง 21 ล้านเสียง (หน้าเว็บโหวต)

ผลปรากฏว่าแชมป์กล้องของ MKBHD คือ Google Pixel 6a มือถือรุ่นราคาถูกของกูเกิล ที่สามารถเอาชนะมือถือรุ่นพี่ Pixel 7 Pro ที่ได้อันดับสองด้วย ส่วนอันดับสามก็เซอร์ไพร์สไม่น้อยเพราะเป็น ASUS Zenfone 9 มือถือที่ไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไรนัก

ส่วนมือถือที่ได้รับคะแนนน้อยที่สุดคือ Sony Xperia 1 IV มือถือจากบริษัทที่ผลิตเซ็นเซอร์กล้องให้มือถือจำนวนมากใช้งาน แต่มือถือของตัวเองได้อันดับบ๊วยในเรื่องกล้องนั่นเอง

กูเกิลยืนยันกับเว็บไซต์ PhoneArena ว่าจะอัพเกรดฟีเจอร์บางอย่างของ Pixel 7 กลับมาให้ Pixel 6 ด้วย ผ่านการอัพเดต Feature Drop ในอนาคต ซึ่งน่าจะเป็นรอบเดือนธันวาคม 2022

ฟีเจอร์ที่ระบุชื่อได้แก่

กูเกิลเพิ่งเริ่มวางขาย Pixel 6a ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ซื้อกลุ่มแรกๆ ที่ได้เครื่องแล้วพบปัญหาของตัวสแกนลายนิ้วมือกันมาก

Pixel 6a ใช้ตัวสแกนลายนิ้วมือแบบวางใต้จอ (under-display) ที่เว็บไซต์หลายสำนักชี้ตรงกันว่าไม่แม่นยำ สแกนยาก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือมีผู้ใช้หลายรายแจ้งปัญหาตามฟอรั่มต่างๆ ว่าสามารถปลดล็อค Pixel 6a ได้โดยใช้นิ้วอื่นที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้

เว็บไซต์ 9to5google ชี้ว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดกับผู้ใช้ทุกคน เพราะเครื่อง Pixel 6a ของทีมงานเองก็ไม่เจอปัญหานี้ และคาดว่าน่าจะเกิดจากข้อบกพร่องของฮาร์ดแวร์ และยังไม่ชัดเจนว่าสามารถแก้ปัญหาที่ระดับซอฟต์แวร์ได้หรือไม่

กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Pixel Feature Drop ประจำรอบเดือนมิถุนายน 2022 ให้มือถือกลุ่ม Pixel มีของสำคัญสำหรับชาวไทยคือฟีเจอร์ Live Translation แปลภาษาอัตโนมัติของ Pixel 6 รองรับภาษาไทยในการแชทแล้ว

ฟีเจอร์ Live Translation ของ Pixel 6 ใช้ประโยชน์จากชิป Google Tensor ทำให้สามารถประมวลผล AI ในเครื่องได้ อย่างไรก็ตาม Live Translation แยกการทำงานเป็น 3 ระดับคือ

กูเกิลเปิดตัว Pixel 6a ตามความคาดหมาย หน้าตาของ Pixel 6a เดินตามแนวทางของ Pixel 6 ที่มีแถบกล้อง (camera bar) เด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหลัง แถมใช้โทนสีชุดคล้ายกันคือ Chalk (ขาว), Charcoal (เทาเข้ม), Sage (เขียว)

จุดเด่นของ Pixel 6a ใช้ชิป Google Tensor ตัวเดียวกับ Pixel 6/6 Pro ส่วนสเปกด้านอื่นก็ลดหลั่นกันลงมาตามธรรมเนียม

Sundar Pichai ซีอีโอ Alphabet พูดถึงยอดขายของ Pixel 6 ในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 1/2022 ยืนยันว่า Pixel 6 เป็นซีรีส์ Pixel ที่ขายดีที่สุดเทียบกับระยะเวลา (the fastest selling Pixel ever) แม้ไม่ได้เปิดเผยยอดขายเป็นตัวเลขก็ตาม

Pichai ยังบอกว่าการเติบโตของ Pixel 6 ช่วยให้ลูกค้าคอนซูเมอร์รู้จักแบรนด์ Pixel มากยิ่งขึ้น และกูเกิลเตรียมเปิดตัวฮาร์ดแวร์ตระกูล Pixel เพิ่มอีกในงาน Google I/O เดือนหน้า

ตอนนี้เราพอรู้คร่าวๆ ว่ากูเกิลจะเปิดตัวฮาร์ดแวร์อย่างน้อย 2 รุ่นคือ Pixel 6a และ Pixel Watch ในงาน Google I/O 2022

Droid Life รายงานพบข้อมูลสมาร์ทโฟนที่น่าจะเป็น Pixel 6a ในฐานข้อมูลของ FCC หรือ กสทช. สหรัฐ มีด้วยกัน 4 รุ่นย่อย

รหัสของสมาร์ทโฟนที่พบคือ GX7AS, GB17L, G1AZG, GB62Z โดยคาดว่า 3 รุ่นแรกเหมือนกันเกือบทุกอย่าง ส่วนรุ่น GB62Z เป็นรุ่นที่รองรับคลื่น 5G mmW ในสหรัฐ

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้าเทียบกับ Pixel รุ่นเล็กรุ่นก่อนๆ Pixel 4a เริ่มโผล่เข้ามาในฐานข้อมูล FCC ช่วงเดือนมิถุนายน, ส่วน Pixel 5a เริ่มโผล่ในเดือนกรกฎาคม กรณีของ Pixel 6a ที่มาในเดือนเมษายน จึงมีโอกาสสูงที่จะเปิดตัวในงาน Google I/O เดือนพฤษภาคม 2022

มีข่าวลือของ Pixel 6a สมาร์ทโฟนรุ่นราคาถูกของกูเกิลออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดมีข้อมูลในฐานข้อมูล Geekbench ทำให้เรารู้สเปกคร่าวๆ ของ Pixel 6a แล้ว

โค้ดเนมของ Pixel 6a คือ bluejay ตรงตามข่าวก่อนหน้านี้, หน่วยประมวลผลของมันคือชิป Tensor ตัวเดียวกับ Pixel 6 (ใช้คอร์ 2+2+4 ที่แปลกกว่า Soc ทั่วไป) และแรม 5.4GB ซึ่งน่าจะเป็นแรม 6GB (Pixel 6 รุ่นปกติได้แรม 8GB)

การที่ Pixel 6a รุ่นราคาถูกได้ใช้ชิป Tensor ตัวเดียวกับ Pixel 6 รุ่นท็อป อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก (กูเกิลลดจำนวนรุ่นชิป สั่งซื้อมากๆ จะได้ถูกลง) แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็น Pixel รุ่น a ใช้ชิประดับเรือธง

มือถือตระกูล Pixel มีสิ่งที่เรียกว่า Feature Drop เป็นการอัพเดตซอฟต์แวร์เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ แยกจากรอบการออก OS ปกติ หลายฟีเจอร์เป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ Pixel หรืออาจต้องรอหลายเดือนกว่าที่กูเกิลจะเปิดให้ Android รุ่นอื่นใช้งานในภายหลัง

วันนี้กูเกิลประกาศ Feature Drop รอบที่ 10 มีของใหม่ดังนี้

เว็บไซต์ Android Police อ้างแหล่งข่าวในบริษัทโทรคมนาคมของสหรัฐอเมริการายหนึ่ง ว่าตอนนี้มีข้อมูลสินค้าใหม่ของกูเกิลเข้ามาในฐานข้อมูลสต๊อกสินค้าของบริษัท

• "Rohan" โค้ดเนมของนาฬิกา Google Watch หรือ Pixel Watch ที่ลือกันมานาน เท่าที่มีข้อมูลคือมี 3 สี ดำ เทา ทอง และมีความจุ 32GB
• "Bluejay" โค้ดเนมของสมาร์ทโฟน Pixel 6a ที่เคยมีข่าวว่าใช้ดีไซน์คล้าย Pixel 6 มี 3 สีคือ ดำ ขาว เขียว ความจุ 128GB

ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า กูเกิลจะเปิดตัวสินค้าทั้ง 2 รุ่นพร้อมกันหรือไม่ ปกติแล้วกูเกิลมักเปิดตัวสินค้าในงาน Google I/O ช่วงเดือนพฤษภาคม

มีผู้ใช้มือถือ Pixel หลายรุ่นรายงานว่า กูเกิลเริ่มปล่อยฟีเจอร์ตรวจไวยากรณ์ (grammar check) ของคีย์บอร์ด Gboard ให้ใช้งานแล้ว หลังจำกัดฟีเจอร์นี้เฉพาะ Pixel 6 เพียงรุ่นเดียวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021

ฟีเจอร์ตรวจไวยากรณ์ของ Gboard จะขีดเส้นใต้สีฟ้าในกลุ่มคำที่ผิดไวยากรณ์ ซึ่งผู้ใช้สามารถกดเพื่อดูการแก้ไขได้ ตอนนี้ยังใช้งานได้เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น (ปิดได้ถ้าไม่ต้องการใช้งาน)

ที่มา - Reddit, 9to5google

เรียกได้ว่าใกล้บ้านเราเข้ามาอีกนิด กูเกิลวางขาย Pixel 6 และ Pixel 6 Pro ในหน้าเว็บ Google Store สิงคโปร์แล้ว โดย Pixel 6 ตั้งราคา 999 SGD (ประมาณ 24,000 บาท) และ Pixel 6 Pro ตั้งราคา 1,299 SGD (ประมาณ 31,250 บาท) ทั้งสองรุ่นมีให้เลือกความจุเดียวคือ 128GB

การวางจำหน่าย Pixel 6 ในสิงคโปร์ทำให้ตอนนี้กูเกิลมี Pixel 6 จำหน่ายเพิ่มเป็น 12 ประเทศ ก่อนหน้านี้กูเกิลเคยขาย Pixel 4a ในสิงคโปร์เมื่อปี 2020 แต่หลังจากนั้นก็ข้าม Pixel 5, 4a 5G, 5a ไปหมด

ที่มา - Google Store Singapore, 9to5google

ในที่สุด กูเกิลก็ออกแพตช์ประจำรอบเดือนมกราคม 2022 ให้ Pixel 6 แล้ว หลังมีปัญหากับแพตช์รอบเดือนธันวาคม 2021 จนต้องหยุดปล่อยแพตช์ และออกแพตช์เดือนมกราคมของ Pixel 6 ล่าช้ากว่า Pixel รุ่นเก่าๆ

การออกแพตช์ครั้งนี้เท่ากับว่า มือถือ Pixel 6 เครื่องที่ไม่ได้อัพเดตแพตช์เดือนธันวาคม จะอัพข้ามมาเป็นเดือนมกราคมทีเดียวเลย

รายการแก้บั๊กของแพตช์รอบเดือนมกราคม มีตั้งแต่บั๊กโทรเบอร์ฉุกเฉินไม่ได้ ถ้ามี Microsoft Teams ติดตั้งอยู่, ปัญหา Wi-Fi สัญญาณหลุด, ปัญหา UI หลายจุด เป็นต้น

ช่วงหลังเราเห็นข่าวปัญหาความไม่เสถียรของ Android 12 ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ปัญหาของ Pixel 6 จากแพตช์รอบเดือนธันวาคม 2021 ที่กูเกิลแก้ไขล่าช้า จนทำให้ Marques Brownlee หรือ MKBHD รีวิวเวอร์ชื่อดัง ต้องออกมาประกาศว่าเขาทนใช้ไม่ไหว ต้องถอดซิมออกเพื่อกลับไปใช้ Galaxy S21 Ultra ไปพลางๆ ก่อน

ในอีกด้าน เราเห็นปัญหาเรื่องการอัพเดตรอม Android 12 ของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนค่ายอื่นๆ เช่น ซัมซุงที่ต้องเลื่อนอัพเดต One UI 4.0 กับมือถือบางรุ่น หรือกรณีของ OnePlus ที่เจอปัญหาเรื่องคุณภาพรอม (แม้ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยรวมโค้ดเข้ากับ ColorOS ด้วยก็ตาม)

วันนี้กูเกิลปล่อยแพตช์ความปลอดภัยเดือนมกราคม 2022 ให้ Pixel ทุกรุ่นแล้ว ยกเว้น Pixel 6 และ 6 Pro ที่โดนดีเลย์อีกครั้ง (ตอนเดือนธันวาคม 2021 ก็ได้ช้ากว่ารุ่นอื่น) โดยนอกจากอุดช่องโหว่ความปลอดภัยแล้วยังมีการแก้บั๊กหน้าล็อก, บั๊กโทรหาเบอร์ฉุกเฉินไม่ได้ (ที่มีประเด็นกับแอพ Microsoft Teams), บั๊กแสดงตัวเลขการใช้งานดาต้า ฯลฯ

ส่วนสาเหตุที่ Pixel 6 ยังไม่ได้รับอัพเดตก็คงเป็นเพราะกูเกิลยังแก้บั๊กของแพตช์เดือนธันวาคมไม่เสร็จ โดยระบุว่าจะแก้ไขเสร็จภายในปลายเดือนมกราคมเลย

โทรศัพท์ Pixel รุ่นที่ได้รับอัพเดตคือ 5a, 5, 4a 5G, 4a, 4 XL, 4, 3a XL และ 3a

หลังจากดูซบเซาและไร้เสน่ห์มาหลายรุ่น ตอนนี้ Google Pixel กลับมาแล้วด้วย Pixel 6 และ Pixel 6 Pro เพราะคิดใหม่ทำใหม่ อัพเกรดฮาร์ดแวร์ขึ้นในทุกด้านจากรุ่นที่แล้ว พร้อมชิป Tensor ที่กูเกิลออกแบบเอง กล้องอัพเกรดใหม่หมด เสริมด้วย Computational Photography ที่สร้างชื่อมายาวนาน พ่วง AI เข้ามาอยู่ในทุกจุดของการใช้งาน

ก่อนหน้านี้ผู้ใช้ Pixel 6 ในยุโรปรายงานปัญหามือถือไม่จับสัญญาณ ทำให้เกิดอาการสายหลุด ล่าสุด Google ได้ยืนยันแล้วว่าปัญหานี้เกิดจากอัพเดตรอบเดือนธันวาคม โดยอาการนี้กระทบทั้ง Pixel 6 และ Pixel 6 Pro ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทสั่งหยุดปล่อยอัพเดตนี้ชั่วคราวแล้ว โดยอัพเดตใหม่เพื่อแก้ปัญหานี้จะมาในเดือนมกราคมปีหน้า

ผู้ใช้ Pixel 6 ในยุโรป กำลังพบปัญหาเชื่อมต่อกับเครือข่ายเป็นวงกว้าง โดยมีผู้ใช้งานพบปัญหาออกมาโพสต์ทั้งบน Reddit ฟอรั่มของ Google และบน Pixel Phone Help ของ Google

ปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือการเชื่อมต่อกับเครือข่ายมือถือขาดๆ หายๆ และต้องรีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้มีสัญญาณอีกครั้ง โดย 9to5Google คนสงสัยว่าอาจเป็นปัญหาซอฟต์แวร์ เพราะอาการสัญญาณหายเพิ่งเกิดหลังอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยเดือนธันวาคม แต่ล่าสุดทีมงาน Google ยืนยันกับเว็บไซต์ 9to5Google แล้ว ว่าปัญหาไม่ได้มาจากซอฟต์แวร์อัพเดต และกำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุของปัญหาว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่