By: sunnywalker 
on 25 August 2021 - 15:09
Tags:
คณะกรรมการรัฐสภาเกาหลีใต้ ลงมติเสนอแก้ไขกฎหมายในพระราชบัญญัติธุรกิจโทรคมนาคม ห้าม Google และ Apple จากการบังคับเก็บค่าคอมมิชชั่นนักพัฒนาจากการซื้อในแอป ขั้นตอนต่อไปคือ การลงคะแนนเสียงขั้นสุดท้ายในรัฐสภา
Google และ Apple กำลังเผชิญการวิจารร์และความกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ จากการบังคับนักพัฒนาซอฟต์แวร์มาใช้ระบบจ่ายเงินของตัวเอง และคิดค่าคอมมิชชั่น 30% สหรัฐเองก็เล็งออกกฎลดอำนาจทั้งสองจากการควบคุมตลาดแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ทั้งสองบริษัทยังมีคดีความคั่งค้างกับ Epic รวมถึงอัยการสหรัฐฯรวมตัวฟ้อง Google ข้อหาผูกขาดด้วย
ต่อมา Google ประกาศลดค่าธรรมเนียมนักพัฒนาบน Play Store เหลือ 15% สำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 เป็นต้นไป
ด้าน Apple ออกแถลงการณ์ต่อความเคลื่อนไหวของเกาหลีว่า ตัวกฎหมายกระทบความปลอดภัยในการซื้อสินค้าดิจิทัล อาจเกิดเหตุฉ้อโกง และกระทบความเป็นส่วนตัว
ภาพจาก @ProtonMail ในการเปิดตัว CAF
ที่มา - Strait Times
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
Comments
เหมือนเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเท่าไร ถ้าบอกว่ามันมีค่าดำเนินการ หรืออะไรต่าง ๆ ก็ว่าไป แล้วบอกว่ามันมีความจำเป็นอย่างโน้นอย่างนี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เกินไปหน่อย เพราะอย่างอื่นก็มีการคิดค่าลงขายเหมือนกันหมด งี้ไม่ออกกฎหมาย ขายของในห้างไม่มีสิทธิ์เก็บค่าเช่าไปเลยหล่ะ
แค่เอาแบบเป็นธรรมมากขึ้นก็พอ
มันไม่เหมือนกันซะทีเดียว
ห้างทำให้ผู้ขายเช่าเป็นรายได้หลัก
คิดค่าเช่าร้านเป็นรายเดือนขายมากก็ได้มาก
ผู้บริโภคเข้าไปเดินฟรีหรือจ่ายบ้างในบางงาน
แต่ iPhone เราจ่ายเงินซืัอเครื่องในราคาเต็ม
แต่ยังมาแบ่งรายได้เป็นการขายต่อครั้งอีกมันเอาเปรียบเกินไป
แอปไหนแข่งกับตัวเองก็แบนมันซะ TOS อยากเปลี่ยนยังไงก็ได้
มันเป็นการกีดกันผู้พัฒนารายเล็กรายน้อยเพราะมีอำนาจเหนือตลาดจนเกินไป
แล้ว Google ล่ะครับ ทำไมโดนด้วย?
ในความเห็นผมสมควรโดนทั้งคู่
พอพูดถึงความเป็นส่วนตัวในปัจจุบัน
คนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นความสำคัญมองแค่ว่า
ไม่ทำผิดไม่ต้องกลัวหรือทำให้ได้ใช้ฟรีก็พอแล้ว
dev ยังต้องเสียเงินค่าสมาชิกรายปี อีกนะ
อันนี้ผมว่าสุดโต่งไปหน่อย ถ้าใช้บริการจ่ายเงินในแอปของ Google กับ Apple เองผมว่ามันก็มีเหตุพอจะเก็บได้ โดยอ้างว่าเป็นค่าบริการระบบจ่ายเงินก็ว่ากันไป
ถ้าจะแก้ ควรแก้เรื่องการบังคับหรือจำกัดให้ใช้การจ่ายเงินในแอปผ่านบริการขอตัวเองมากกว่า ให้แต่ละแอปสามารถเลือกช่องทางจ่ายเงินได้อิสระไปเลย
เพิ่มเติม: ไปอ่านต้นทางมาแล้ว เหมือนทางเกาหลีเขาห้าม "การบังคับเก็บค่าคอม" นะครับ (การบังคับค่าคอมในปัจจุบันใช้วิธีการเก็บค่าคอมจากระบบจ่ายเงิน + บังคับให้ใช้ระบบจ่ายเงิน) ซึ่งก็ไม่ได้เจาะจงวิธีการว่าต้องยกเลิกค่าคอมของระบบจ่ายเงินอย่างที่หัวข้อข่าวแปลซะทีเดียว
ขอบคุณค่ะ
แอปเปิลอ้างความปลอดภัยอีกแล้ว
จริงๆ น่าจะลดลงสักหน่อยก็ยังดีนะ
เพื่อความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัย
ที่อย่างที่แอปเปิ้ลทำก็เพื่อความปลอดภัย
นึกหาข้ออ้างอะไรไม่ออกล่ะ นึกถึงรัฐบาลแถวนี้อ้างเพื่อความมั่นคงเลย
Corporate greed vs Chaebol-backed
แสบทั้งคู่ รอดูผล
แบบนี้แอปโหลดฟรีทดลองใช้วันเดียวแล้วกดซื้อตัวเต็มในแอป ทาง Store ก็จะไม่ได้ค่าส่วนแบ่ง?
แล้วเวลา refund ก็อย่าไปขอ apple,google ล่ะ
ไปไฟต์คนทำแอปเอา
มันก็ต้องมีกฎหมายแล้วให้ทางการบังคับใช้ ง่ายๆ ชีวิตเราไม่ควรจะต้องพึ่งความเมตตาบริษัทครับ แต่มีกฎหมายที่เป็นธรรมก็พอ บังคับใช้โดยรัฐบาล(ซึ่งรัฐบาลก็ต้องมีระบบที่ดี)
อย่างประเทศยุโรปหลายๆ ประเทศซื้อของอิเล็กโทรนิกส์จากไหนก็ได้ประกันสองปีขั้นต่ำ ไปเอาจากร้านที่ซื้อได้เลย เช่นซื้อมือถือซัมซุงจากโลตัส เจ๊งเร็วไปหน่อยก็เคลมกับโลตัส ให้โลตัสไปเคลมกับซัมซุง ไปไฝว้กันเอง
ไม่ต้องมาพึ่งความเมตตาจากซัมซุงปกเกล้าผู้บริโภคอะไรแบบนั้น
เพราะกฎหมายที่ดีเพื่อประชาชนครับ อยู่บนพื้นฐานที่แฟร์ ไม่ใช่สนามที่ไม่มีความแฟร์ต้องลุ้นให้บริษัทมีเมตตาธรรมเป็นพิเศษส่วนตัว มันต้องให้ความเแฟร์เป็นมาตรฐานครับ