By: mk 
on 9 May 2022 - 07:42
Tags:
ไมโครซอฟท์เริ่มวางขาย Windows 11 แบบกล่องตามร้านค้าปลีกต่างๆ แล้ว โดยสินค้าข้างในเป็น USB Flash Drive ที่บรรจุไฟล์ติดตั้งของ Windows 11 Home ในราคา 139.99 ดอลลาร์ และ Windows 11 Pro ในราคา 199.99 ดอลลาร์ (ตัวอย่างลิงก์ Best Buy) ซึ่งเป็นราคาเดียวกับการซื้อไลเซนส์แบบดิจิทัล
ดีไซน์กล่อง Windows 11 รอบนี้มาแบบเรียบง่าย โดยใช้ภาพพื้นหลัง Bloom ที่เป็นดีฟอลต์ของ Windows 11 แต่แยกสีตามโหมด Light/Dark
ที่มา - OnMSFT
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
Comments
อ้าว ไม่ใช่ว่ามีมาซักพักแล้วเหรอครับ (เท่าที่จำได้ ก็น่าจะ 2 เดือนนนะ หรืออาจจะมากกว่านั้น ผมไม่ได้ติดตาม) เห็นขายในพวกเว็บขายสินค้าไอทีในไทย พวก A.. กับ J.. น่ะครับ
หรือตัว windows นี้มันต่างกันยังไงรึเปล่านะครับ?
ถ้าตัวที่ขายอยู่บน A/J ตอนนี้ คือ License แบบ OEM ครับ แต่ตัวที่ MS ประกาศในข่าวนี้คือ License แบบ FPP
ความต่างคือ OEM ย้ายเครื่องไม่ได้ และถ้า Mainboard พังก็เสียสิทธิ์ Windows ไปด้วย แต่ FPP อันนี้จะเป็น License ของเราตลอดชีพ (หรือจนกว่า MS จะเลิกใช้ระบบ Digital License ที่ใช้มาตั้งแต่ Windows 10) เครื่องพัง เมนบอร์ดพัง ก็ย้าย Windows ไปเครื่องใหม่ได้ตลอด แล้วข้อดีอีกอย่างของระบบ Digital License คือมันจะติดอยู่กับ Hotmail เราไปตลอด ต่อให้กล่องหาย PK หาย เราก็ยัง Activate Windows ได้ ตราบใดที่เราไม่ลืมรหัสเมลเราครับ
FPP นี่ถ้าเรามีหลายเครื่องมันทำงานยังไงนะครับ
ตามนี้เลยครับ https://www.blognone.com/node/117261
FPP ให้สิทธิ์แค่ย้ายเครื่องได้ แต่ 1 license 1 เครื่อง(ที่ใช้งานอยู่) อยู่ดี
พึ่งมาเห็น แต่ที่ A/J ขายตั้งแต่ตอนโน้นที่ผมโพสต์ก็มีทั้งแบบ OEM กับ FPP แล้วน่ะครับ
แถม windows 10 มาให้ลงด้วยดิ ไม่ชินกับ windows 11 เลยจริงๆ ฮาฮา
ผมควรจะรอ Windows 12 แล้วค่อยอัพเกรดปะครับ ?
รอครับ จะจบลูปดี 1 กาก 1 ของวินโดวส์พอดี
เธอวร้ายกับวินโดวส์อ่ะ
ตอนนี้ Windows มันพยายามกล่อมให้ผมอัพเกรดทุกวัน แต่จะพยายามเลี่ยงจนกว่าอย่างน้อยมี Service Pack ใหญ่ออกมาก่อน
..: เรื่อยไป
ผมใช้ Key ตั้งแต่ Windows 8 อัพเกรทฟรีลากยาวมายัน 11 เลยครับ
ผมรอตัวเต็มออกถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ ก็คงอาจจะมี win 12 (ไม่ก็อาจจะมุขเดียวกันกับ win 8 คือ win 11.1) 🤣🤣🤣
อันนี้เปิดกล่องมาจะมีแต่ key หรือว่าจะมีแผ่นสำหรับ install ด้วยเหรอครับ
แผ่นคงไม่มีแล้วครับ แต่น่าจะเป็น usb มาให้แบบ windows 10
ไทยผมไม่เคยเห็นแบบ usb
เลยครับถ้าไม่ใช่ของนำเข้า
หรือสต็อกแบบแผ่นมันเยอะหว่าาาาาา
ผมซื้อทุกทีก็ได้แต่ usb นะครับ(windows 10 home edition)
ซื้อมาหลายกล่องไม่เคยได้แบบแผ่นเลย USB ล้วน ๆ
ซื้อแบบ OEM มักเป็นแผ่น ถ้าซื้อ FPP จะเป็น USB ครับ
เท่าที่ผมเจอ แบบกล่องจะเป็น usb
แบบซองกระดาษ จะเป็นแผ่นครับ
จากที่เคยซื้อจาก J และ A จะมี key ใส่กระดาษให้และตัวติดตั้งใส่ flashdrive มาให้ แต่ build เก่ามาก น่าจะแล้วแต่ว่าผลิตมาตอนไหน สุดท้ายก็ไปโหลดตัวติดตั้งมาเองแล้วใช้แค่ key
download install image จากเว็บ Microsoft ดีกว่าครับ จะได้ไม่ต้องมา update ซ้ำอีก
แล้วมันจะต่างกันตรงไหน
install image จากเว็บมันจะเป็น build ล่าสุดเสมอไม่ต้อง update อีก
patch update ของ window บางครั้งมันจะมีปัญหา
ยิ่ง image เก่า update patch ยิ่งใหญ่จนบางที download version ล่าสุดมา install ยังเร็วกว่า
จากประสบการณ์ clean install Windows (w/out update) มีปัญหาน้อยสุด
Win 10 Pro แบบกล่อง ที่ผมซื้อเมื่อปี 2018 จากร้านคอมใหญ่อันดับต้น ๆ ของไทย ตัว USB มันเป็น Win 10 ภาษา EN UK ครับ ซึ่งเท่าที่ผมเข้าใจ มีอยู่ช่วงนึงที่มีคนเจอปัญหาคีย์บอร์ด 3 ภาษา (EN 2 อัน TH 1 อัน) น่าจะมาจากเรื่องนี้เพราะมันมี EN UK ฝังมาอย่างแนบแน่น มันเลยชอบเด้งกลับมา
ผมก็เลยไปโหลด+สร้างตัวลงใหม่จาก MS แล้วก็ลงจาก USB ที่สร้างเอง แล้วค่อยเอา key จากในกล่องที่ซื้อไปกรอก ใช้มาหลายปีอัพเดตตลอดก็ไม่เจอปัญหาคีย์บอร์ดแปลกปลอมเลย
ผมเพิ่งแก้ปัญหานี้ไป โดยการไปลบ keyboard UK ออก และต้องไปแก้ default user profile ให้เอา UK ออกเช่นกัน ไม่งั้นเดี๋ยวมันก็กลับมาอีก
ลายสวยดีนะ
ปล.รอ win12
ชอบลายกล่อง มินิมัลดี
คำถามเดียวทีผุดขึ้นมาหลังอ่านข่าวนี้จบคือเจ้า win 11 มันพร้อมแล้วหรือสำหรับการเป็นproduction ส่วนตัวยังเข้าใจว่ามันเป็นเบต้าเทสอยุ่เลยครับ
The Last Wizard Of Century.
หืม.. ผมที่ใช้ Win11 มาตั้งแต่แรกๆ นี่ตกลงผมใช้ Beta อยู่เหรอเนี่ย
Production หรือ Beta อยู่ที่ผู้ผลิตกำหนดครับ เค้าว่าคือ production ก็คือ production จะมี bug มากมายหรือไม่ดีไม่พร้อมจนคนด่าคนแซวว่าเป็น Beta ยังไงมันก็คือ production ครับ
ผมไม่ได้ Clean Install นะ ใช้ AMD ด้วย แต่นอกจากเรื่อง UX แล้ว (ซึ่งไปหาลงโปรแกรมแก้เอา) ผมก็ไม่ได้เจอปัญหาอะไรที่รู้สึกแย่ไปกว่าใช้ Win 10 นะครับ (คือปัญหามันก็มีอยู่บ้างแหละ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ Win 10 ไม่เจอ)
แอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าคนที่เจอปัญหาหนักๆนี่เขาใช้เครื่องแบบไหนหรือลงแบบไหนกัน
ที่อยากจะสื่อก็คือ.. ถ้าใช้ตาม Recommended Requirement แล้วไม่มีปัญหาอะไร ผมก็ถือว่าเป็น Production ได้แหละครับ
ใช้ 11 เหมือนกัน ปัญหาหลักที่เจอคือเรื่อง UI/UX ที่คลิกขวาแล้วมันใช้ context menu ใหม่ แต่โปรแกรมที่ใช้ยังไม่รองรับเลยหงุดหงิดหน่อยๆ ส่วน settings ก็ใช้ได้ดีจนไม่ได้แตะ Control Panel มานานมากครับ
ส่วนตัวมองว่า 11 คือ Vista 2.0 แต่มันดีกว่า Vista ตรงที่มีแค่ UI/UX ที่เปลี่ยนไป กับความต้องการขั้นต่ำที่สูงไปหน่อยเท่านั้นครับ
คลิกที่ Show more option สิครับมันจะเรียกเมนูเดิมมาให้ ผมก็ใช้ประจำเพราะ 7Zip มันก็ไม่รองรับเมนูใหม่เหมือนกัน
มันน่ารำคานไงครับ ต้องกดสองทีกว่าจะเจอเมนูที่ต้องการ
แทบทุกรายต้องแก้ registry ให้กลับมาใช้้งานแบบเดิม
เคยลองแก้ให้มันกลับไปใช้ context menu แบบเก่าแล้วมีปัญหาว่าอะไรซักอย่างพัง (notification หรือไงนี่แหละ จำไม่ได้แล้ว) เลยต้องแก้กลับ แต่แทนที่จะแค่แก้ registry กลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว restart กลับต้องใช้ DISM แก้แทน แต่ดีหน่อยที่ระหว่างปล่อยมันทำงานไปก็ยังเล่นเกมได้ครับ
ไอ้ที่ต้องใช้มันดันอยู่ใน show more หมดเลยนี่สิครับ กดจนบางทีแค่จะ New Folder ยังติดไปกด show more ก่อน
new folder -> Ctrl+Shift+N ครับ แต่ผมอยากได้ shortcut new text file ด้วยแฮะ
แต่ผมยังแทบไม่เคยกด show more เลยแฮะ มีกดแค่เวลาจะเปลี่ยน theme ที่มันบั๊กอยู่แต่ก็น้าน นานที
ผมใช้งานไม่มีปัญหาอะไรนะ
แต่ผมเข้าใจนะที่บอกว่าเป็น beta น่าจะเป็นเพราะ feature นู้นนี่ที่ทยอยเพิ่มมาหรืเปล่า เลยมองว่ามันยังไม่เสร็จ
ผมมองว่ามันเป็น live service เหมือนเกมละกัน เพราะถ้าเราพูดถึง function การใช้งานงานของมันคือมันก็ทำงานได้นะ
คำถามผมคือทำไมคิดว่ามันเป็น beta test
ผมใช้คอมแบบพับหน้าจอแล้วพอเปิดกลับมาบางเมนูก็คลิกไม่ขึ้นครับ (เป็นอยู่เนี่ย หงุดหงิด)
จะอนุมานว่าเบต้าไหม? ผมคิดว่าใช่
ขอด้วย
งั้นอันนี้น่าจะ beta มาตั้งแต่ Windows 10 หงุดหงิดเหมือนกัน surface pro 4 ตื่นจาก sleep แล้วไม่ connect keyboard
คนใช้ Windows 10 นี่เค้าให้สิทธ์อัพเป็น Windows 11 ได้ตลอดเลยไหม หรือมีกำหนดอยู่ว่าถ้าตอนนั้นไม่อัพก็ต้องซื้อไปอัพเองครับ
ผมว่าน่าจะ up ฟรีได้ยาวๆครับ ทาง ms คงไม่อยากให้ลูกค้าเก่าหนีไปหาระบบนิเวศอื่นแน่ๆ
Linux Mint มาแรง ผมกำลังหันไปมอง ... มองมาสักพักใหญ่ ๆ ละ
ถ้าจำไม่ผิด คือ อัปฟรี 1 ปี
ผมว่าไม่ค่อยมีใคร upgrade ข้ามเวอรชันกันได้เยอะขนาดนั้นนะ เพราะตัว Windows ที่ต่ำกว่า 10 ส่วนมากฮาร์ดแวร์จะไม่ผ่านสเปก เลยยังหาคนที่ตอบคำถามนี้ไม่ได้
ผมครับ เพราะเอามาลงคอมเครื่องใหม่ด้วย key เดิมเลย
อัปเกรดได้ฟรีตลอดจนกว่า Windows 10 หมดอายุขัยครับ (2025) แต่ระยะเวลาการันตีแน่ ๆ คือ 22 ตุลาคมปีนี้ครับ
จำได้ว่าตอน Win 7/8.1 ไป 10 ก็มีกำหนดอยู่นะครับ
แต่นโยบายของ Microsoft ยุคนี้เปลี่ยนไปแล้ว คิดว่าก็คงจะมีได้เรื่อยๆไม่มีกำหนดไปซักพักนั่นแหละ และ Win 7/8.1 ไป 10 ที่ว่าหมดเขตแล้วแต่เอาจริงๆก็เห็นคนว่ายังอัพได้อยู่นะครับ
ในเชิงเทคนิค Windows 10 และ Windows 11 มันคือ SKU เดียวกันครับ
ดังนั้น Product Key ของ Windows 10 ย่อมจะใช้ได้กับ Windows 11 เสมอ และในทางตรงกันข้าม Product Key ของ Windows 11 ก็ควรจะใช้ได้บน Windows 10 เช่นกัน (โดยที่ edition ต้องตรงกัน เช่น W10 Pro กับ W11 Pro)
ฉะนั้นคำตอบคือ ในเชิงเทคนิคแล้ว Windows 10 ควรจะอัพเป็น Windows 11 ได้ตลอดไป (หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยน SKU ของ Windows 11)
ผมใช้คีย์ตั้งแค่ของ Windows 7 Ultimate --> Windows 8 Pro --> Windows 8.1 Pro --> Windows 10 Pro --> Windows 11 Pro
ของคุณไม่ใช่เป็นการใช้ PK เดิมของ 7 มาติดตั้งบน OS ใหม่ครับ แต่เป็นการ upgrade ฟรีของแต่ละ OS ซึ่งทุกครั้งของการ upgrade (7->8 และ 8>8.1) เครื่องคุณจะได้รับ PK ใหม่มา ซึ่งทั้ง 3 PK นั้นเป็นคนละ PK กัน ส่วนตอนอัพเป็น 10 และ 11 มันจะใช้ Digital License แทน (ไม่มีการให้ PK ใหม่มาแต่ระบบจะใช้วิธีจำเครื่องแทน)
ที่ผมพูดถึงคือ การเอา PK ของ 10 มาติดตั้งบน 11 โดยตรง (และในทางตรงกันข้าม)
ผมก็ทำแบบคุณ makeithard น่ะ
product key ตั้งแต่ Windows 7 ใช้จน Windows 10
เปลี่ยนมาประมาณ 4 เครื่องแล้ว
ตั้งแต่ Win7 ยัน Win10 ก็ยังใช้ product key เดิม activate ได้อยู่
(ผม deactivate key เครื่องเก่าก่อนทุกครั้ง) product key ก็ไม่ได้เปลี่ยนแต่อย่างใด
ผมซื้อคีย์แบบ FPP มาประมาณ 7,xxx บาท จำราคาไม่ค่อยได้ละ รู้สึกคุ้มสุดๆไปเลยครับ
คิดว่าเป็นตามที่คุณ Jonathan_Job บอกมาครับ เพราะว่าตอนที่อัปเกรดจาก 7->8 มันต้องใส่คีย์ของ 7 ก่อน แต่หลังๆมันไม่ต้องใส่คีย์ของ 7 แล้ว แค่ใส่อีเมลก็ Activate ได้เลย
อ๋อ แสดงว่าผมใช้วิธี old school ไปหน่อย
คือมันน่าจะเอา key ไป bind กับ online account น่ะ
แต่เวลา install ใหม่ผมจะ disable online account ใช้ local account แทนแล้วค่อย activate
สวยงาม เหมาะกับการสะสม (แต่ไม่เหมาะกับใช้เท่าไหร่)