Mark Zuckerberg โชว์ต้นแบบแว่น VR ที่เคยพัฒนาในห้องแล็บของบริษัท Meta จำนวนทั้งหมด 4 รุ่น โดยทั้ง 4 รุ่นไม่ใช่แว่นรุ่นที่จะวางขายจริง
- แว่นรุ่นแรกมีโค้ดเนมว่า Butterscoth เป็นแว่นความละเอียดสูงมากระดับ near retinal resolution
- แว่นรุ่นที่สอง Half Dome ทดสอบเรื่อง varifocal หรือ multifocal depth การโฟกัสกับวัตถุบนจอที่มีระยะ (ในโลกเสมือน) ใกล้ไกลต่างกัน แว่นตัวนี้ใช้เทคนิคการตรวจจับนัยน์ตา (eye tracking) เข้าช่วย
- แว่นรุ่นที่สาม ทดสอบเรื่อง HDR โดยมีความสว่างมากถึง 20,000 nits สูงกว่าทีวี HDR ในปัจจุบันถึง 10 เท่า
- แว่นรุ่นที่สี่ Holocake เป็นการนำเทคโนโลยี 3 อย่างข้างต้นมารวมกัน แล้วย่อขนาดแว่นให้เล็กลงในระดับที่สวมใส่ได้สะดวก

ที่มา - Road to VR
Comments
ว่าไป ใส่ของแบบนี้ มันไม่ทำตาเสียเหรอครับ , เหมือนเคยถูกสอนมาว่า อย่าดูทีวีในห้องมืดๆ เดี๋ยวตาจะเสีย
เป็นความเชื่อ จริง ๆ มันทำให้แค่ดวงตาอ่อนล้าแค่นั้น แต่อันนี้พูดถึงการใช้งานต่อเนื่องในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
แต่ถ้ามากกว่านั้นมาก ๆ ในระดับที่เกินมนุษย์มนา ก็มีกรณีที่ตาบอดจากการเล่นเกมต่อเนื่องมาแล้ว แต่ไม่ได้เกิดจากสายตาเสื่อม แต่เกิดอาการดวงตาล้าอย่างมากจนเลือดเดินไม่สะดวก และเกิดอาการเส้นเลือดในจอประสาทตาอุดตัน ทำให้เกิดอาการตาบอดถาวร
มีสถิติอะไรอ้างอิงไหมครับตอนมัธยมต้นผมปิดไฟเล่นเกม ปิดเทอมนอนวันละ 2 ชม.เล่นติดๆกันอยู่นาน จนตอนนี้ก็เกินเลข 3 แล้ว วัดสายตาก็ยังปกติดีคนที่เตือนๆผมใส่แว่นกันไปหมดแล้ว
ความเชื่อตั้งแต่เด็กคงไม่น่าจะมีใครมีสถติหรอกครับ ฮ่าๆ
เรื่องสายตาผมว่านี่กรรมพันธุ์เลยไหมครับ ผมทุกวันนี้ยังไม่ใส่แว่น แต่ที่บ้านใส่กันหมด ไม่รู้รอดมาได้ได้ ทำงานก็อยู่กับคอมจ้องจอเล็กๆ แต่จริงก็แอบสั้นแต่นิดหน่อยพอมองเห็น
อันนั้นไม่ค่อยจริงเท่าไหร่เรื่องนึงครับ
กับเวลาจอทีวีสว่าง ห้องมืด มันสว่างอยู่แค่นิดเดียว แว่น VR นี่พื้นที่สว่างมันเยอะมากนะครับเทียบกับหน้าจอทีวี
ดูทีวีห้องมืดๆแค่ทำให้ตาล้า
แต่การดูจอใกล้ๆนี่ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก (เป็นที่มาของกฏ 20:20:20 ที่บอกว่าจ้องคอม 20 นาทีให้หันไปมองสิ่งของที่อยู่ห่าง 20 ฟุตเป็นเวลา 20 วินาทีพวกนั้นเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา)
ผมเลยสงสัยว่าคนใช้ VR เนี่ยส่งผลให้ตาล้าเหมือนนั่งเล่น tablet มั้ยครับ เพราะจอมันใกล้มาก แต่ผมไม่รู้ว่าเวลาใช้งาน การที่ VR มันจำลองภาพให้อยู่ห่างออกไปส่งผลอย่างไรต่อการทำงานของตา ... มันจะเหมือนการมองภาพไกลๆมั้ย
VR มันใช้เลนส์ปรับโฟกัสครับ เลนส์ตาเราโฟกัสเหมือนของอยู่ไกลไม่ได้โฟกัสแบบของอยู่ใกล้
ระยะจอแว่น vr เมื่อมองผ่านเลนส์มันประมาณ 1 ฟุตจากตา ระยะอ่านหนังสือนี่แหล่ะ เขาหมาถึงต้องถอดแว่น vr ออกทุก 20 นาที เพื่อมองไปนอกหน้าต่างหลายๆ ระยะ 2 เมตร 6 เมตร ให้ตาได้เปลี่ยนระยะโฟกัส
ผมไปค้นดูเห็นเค้าบอกทั้ง HTC และ Oculus ใช้ระยะ 1.2-2 เมตรนี่ครับ? (นั่นก็ยังใกล้แหละ แต่ก็ดีกว่า 1 ฟุตเยอะเลยครับ)
ผมไม่เชื่อครับว่า 2 เมตรจริงครับ ในทางทฤษฎีเขาต้องทำให้ได้ระยะที่ใกล้ที่สุดที่ตาจะโฟกัสได้ การใช้เลนส์นูนปรับระยะให้ไปไกลมากๆ เลนส์จะต้องหนามากเหมือนคนสาตายาวมากๆ ใส่แว่นเลนส์หนาเตอะมองภาพได้แย่กว่าแว่นที่เลนส์หนาน้อย ส่วนเรื่องมองระยะเดียวเกิน 20 นาทีทำให้สายเสีย จะมองระยะ 2 เมอตรเกิน 20 นาทีก็ทำให้สายตาเสียเหมือนกัน เกิน 20 นาทีต้องมองระยะอื่นบ้างตามธรรมชาติของตาคน ตาจะได้ไม่ทำงานหนักเสื่อมไว
อยากรู้ว่าสมัยนี้แว่น VR มันมี Field of view กว้างแค่ไหนแล้ว ใกล้เคียงกับตามากน้อยแค่ไหน (ประมาณว่ากลอกตาซ้ายขวาบนล่างเห็นขอบดำมากน้อยแค่ไหน)
ส่วนตัวผมมองว่าในแง่ความ Immersive เรื่องนี้สำคัญกว่าความละเอียดเสียอีก
ก็คือลองดูว่าไปสุดทางได้แค่ไหน แล้ว realistic ไปได้เท่าไหร่
20knits นี่ จะร้อนแค่ไหนนะ
ไม่มีตัวไหนพูดเรื่อง สีเหมือนจริง, framerate
มีพูดถึงแค่ ความละเอียดสูง, dept of view, HDR
สีเหมือนจริง, framerate น่าจะเป็นเรื่องที่ทำง่ายสุดละมั้งครับ
ราคาเท่านั้นละที่จะทำให้แพร่หลายได้
โฟกัสวัตถุตามการ track ของสายตา แสดงภาพให้เบลอหรือชัดแล้วแต่ระยะที่สายตามอง
ว้าวววววววววววววว
ปกติอันนี้ตาเราก็ทำเองเป็นธรรมชาติอยู่แล้วปล่าวครับเวลาเรามองโฟกัสอะไร การมีระบบเสมือนมันซ้อนอีกทีน่าจะปวดหัวตอนใช้คล้ายๆกับพวก motion blur
ภาพ 3d แต่จอในแว่นเป็นจอ 2d ครับ จอห่างจากตาระยะเดียวตลอด
ตามเราปรับโฟกัสเอง ก็ต่อเมื่อเรามองวัตถุที่อยู่คนละระยะกันครับ
แต่ระยะห่างระหว่างจอกับตาเรามันเท่าเดิมตลอด (เพราะมันเป็นระนาบ 2D) เพราะงั้นระยะโฟกัสของสายตาเราจึงคงที่ตลอดเวลาที่เรามองจอครับ
ด้วยเหตุนั้น ภาพในจอจึงเป็นการฟิกโฟกัสไว้ที่จุดใดจุดหนึ่ง (เช่น จุดที่ตัวละครในเกมมอง) หรือไม่ก็ชัดทั้งฉากเลยครับ ไม่ได้ตอบสนองตามตาของเราแต่อย่างใด
จากที่เคยใช้ oculus quest 2 ผมนี่กำตังรอรุ่นหน้าเลย