ก่อนหน้านี้ Meta และอีกหลายบริษัท Tech ได้ร่วมมือกันจัดตั้ง Metaverse Standards Forum เพื่อกำหนดมาตรฐานการพัฒนา metaverse ซึ่งไม่ปรากฏหลายบริษัทใหญ่ เช่น Apple, Alphabet หรือ Adobe
ในประเด็นนี้มีมุมมองที่ชัดเจนขึ้น โดย Meta จัดประชุมพนักงานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่ง The Verge ได้บันทึกการประชุมมา ซึ่งในช่วงถามตอบมีพนักงานถามว่าการที่แอปเปิลไม่เข้าร่วม Forum จะส่งผลอย่างไรบ้าง?
ซีอีโอ Mark Zuckerberg บอกเห็นได้ชัดว่าแอปเปิลกำลังจะแข่งขันโดยตรงกับเรา ไม่ใช่แค่การทำสินค้าแข่งกัน แต่รวมไปถึงปรัชญาแนวคิด ที่ Meta กำลังทำคือแนวทางสร้างระบบนิเวศแบบเปิด อุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้แบบ Android ส่วนท่าทีของแอปเปิลที่ไม่เข้าร่วมการทำมาตรฐานเปิดนั้น เขาไม่รู้แปลกใจแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาแอปเปิลก็นิยมทำระบบปิดอยู่แล้ว
เขายังยกตัวอย่างการแข่งขันของระบบเปิดและปิดสองสถานการณ์คือ Mac กับ PC และ Android กับ iPhone ซึ่งกรณีแรกเห็นชัดว่า Windows ครองส่วนแบ่งมหาศาล เป็นชัยชนะของระบบเปิด ส่วนกรณีสมาร์ทโฟนนั้น iPhone ที่ทำระบบปิด ก็ประสบความสำเร็จจนทำให้แอปเปิลเป็นบริษัทมูลค่าสูงสุดในโลก มองในกรณีของ Metaverse เขาบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการให้คนเข้ามาปฏิสัมพัทธ์กันมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งการสร้างระบบเปิดตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดีกว่า
ที่มา: The Verge
Comments
Facebook ต้องการข้อมูลผู้ใช้ ส่วนApple พยายามปกป้องข้อมูลผู้ใช้งาน
ผมทีม FB คิดว่าคนที่ขายข้อยมูลตัวเองชีวิตได้เปรียบกว่าคนที่หวง
ผมมองว่า Apple พยายามเก็บข้อมูลไว้เองมากกว่าปกป้องข้อมูลผู้ใช้
จริงๆใช้คำว่า Facebook ต้องการขายข้อมูลผู้ใช้น่าจะถูกกว่านะครับ
เพราะทุกบริษัทไม่ว่าจะ Facebook หรือ Apple ก็ต่างต้องการที่จะเก็บข้อมูลผู้ใช้ทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะเก็บแล้วเอาไปทำอะไรแค่นั้นเอง บ้างเอาไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวเอง บ้างเอาไปสร้างรายได้ต่อ
Apple เอง ถึงจะไม่มากเท่า Facebook แต่ก็มีเอาข้อมูลผู้ใช้ไปสร้างรายได้อย่างพวกบริการ ads เหมือนกันไม่มากก็น้อย ยังไม่รวมเก็บอื่นๆอย่างเรื่องที่พยายามแสกนรูปในเครื่องที่เคยเป็นประเด็นด้วย ถึงจะเป็นเพื่อกฎหมายก็เถอะ
ไม่ได้จะบอกว่า Facebook ดีกว่า Apple นะ แค่อยากจะบอกว่าอย่ายกยอ Apple นักเลยครับ Apple เน้นเรื่องทำเงินเป็นหลัก ส่วนปกป้องข้อมูลผู้ใช้เป็นแค่ผลพลอยได้ซะมากกว่า
แนะนำข่าวนี้ครับ Apple expanding App Store ads from search to ‘Today’ tab and more
อันที่จริงแล้ว จะระบบเปิดหรือระบบปิดไม่สำคัญหรอก สุดท้ายวัดกันที่ใครทำกำไรได้มากกว่า แมวสีไหนก็จับหนูได้ แมวสวยแต่จับหนูไม่ได้ก็ถือว่าเป็นแมวไม่ได้เรื่อง ดูแอปเปิลสิ คุกกระจกเห็นกันอยู่ชัด ๆ มีแต่คนอยากเข้า ขนาดตลาดขาลง ยังทำกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ไม่ใช่ปรัชญาอยู่ตรงข้ามกันหรอก แต่ทำอย่างแอปเปิลไม่ได้เท่านั้นเอง ก็เลยต้องไปเลือกเดินระบบเปิด ซึ่งเปิดในที่นี้คือทำตาม TikTok แบบเปิดเผยหรือเปล่า?
จริงมาก ทำตามเขาไม่ได้มากกว่า
แต่ผมไม่ได้เลี้ยงแมวไว้จับหนูนะ #อย่ายู่ยี่แมวสวย
Jusci - Google Plus - Twitter
หนูสีอะไรก็ได้ ขอให้ถูกแมวจับกินก็พอ
หวังว่าคงไม่ใช่ผลออกมาพลิกล็อก apple ออกมาประกาศว่า “ไม่มีแผนทำ metaverse“
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
มนุษยชาติยังคงติดคุกกับคำว่า ระบบเปิด/ระบบปิด
Apple ก็เป็นแบรนด์เนมไปแล้ว แล้วได้ผลซะด้วย
ประมาณพวกกระเป๋าแพงๆ เน้นโชว์มากกว่าใช้
เราข้ามยุค Mac vs PC มาเป็น iPhone vs Android จนกลายเป็น Meta vs Apple แล้วสินะ
ผมสงสัยครับประชุมพนักงานนี้ใคร ๆ ก็เข้าไปแจมได้ใช่ไหมครับ
หลังจากอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษทำให้ผมเข้าใจว่า ได้(ตัวเล่ม/กระดาษ)บันทึกการประชุม(จากคนภายในที่ประชุม) ไม่ได้พูดถึง กริยา บันทึก น่ะครับ
ขอบคุณครับ ทีแรกผมเข้าใจว่า
The Verge เป็นคนเข้าไปบันทึกเอง
ผมอ่านภาษาอังกฎษไม่ออก
จริง ๆ ผมอ่านแล้วก็สะดุดเหมือนกันตอนแรก ซึ่งก็ไม่ควรจะต้องกลับไปอ่านต้นฉบับอีกที ไม่งั้นก็อ่านข่าวต้นทางตั้งแต่แรกเลยนั่นแหละครับ
เขาไม่รู้แปลกใจแต่อย่างใด >> เขาไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด
Mac กับ PC >> Mac กับ Windows?
ไม่แปลกที่ Apple ไม่เข้าร่วมเพราะ Apple บอกไว้แต่แรกแล้วว่าจะโฟกัสไปที่ AR ไม่ใช่ VR
ถ้า Apple กับ Nintendo ไม่ลงมาจริงจังกับ VR ยังไงมันก็ไม่เกิด