ไมโครซอฟท์ยื่นเอกสารต่อ CMA หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของสหราชอาณาจักร ในประเด็นเรื่อง Activision Blizzard ที่แกนกลางคือการเป็นเอ็กซ์คลูซีฟหรือไม่ของเกม Call of Duty
ประเด็นที่น่าสนใจคือไมโครซอฟท์อธิบายวิธีคิดของตัวเอง (พร้อมแผนภาพ) ว่าเกมแบบใดควรเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ และเกมแบบใดควรลงแพลตฟอร์มคู่แข่งด้วย
วิธีคิดของไมโครซอฟท์แบ่งเกมเป็น 3 ระดับ ได้แก่
ไมโครซอฟท์บอกว่าเกมกลุ่มที่ 1 และ 3 เหมาะแก่การลงทุกแพลตฟอร์ม เพราะมีคุณค่าของการเป็นเอ็กซ์คลูซีฟน้อย (low exclusive value) ส่วนเกมกลุ่มที่ 2 เหมาะกับการเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ
เกมของค่าย Bethesda ที่ไมโครซอฟท์ประกาศเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ ได้แก่ Redfall, Starfield, The Elder Scrolls 6 ในขณะที่เกม Minecraft ที่ลงทุกแพลตฟอร์มมาตั้งแต่แรก ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ หลังถูกไมโครซอฟท์ซื้อกิจการมา
ที่มา - Kotaku
Comments
มันน่ากลัวตรงที่ Microsoft ครอบครอง หรือกำลังจะครอบครอง เกมที่แฟรนไชส์มีขนาดใหญ่มากจนทำให้สามารถมองเกมระดับ The Elder Scrolls 6 ให้กลายเป็นเกมขนาดกลางได้
เอาจริงๆ The Elder Scrolls ก็ไม่ใช่เกมฟอร์มใหญ่อยู่แล้วหนิครับ แค่เป็นกระแสเพราะ Skyrim บางคนเล่น Skyrim แต่ยังไม่รู้จัก The Elder Scrolls ก็มีเลยครับ
เกมฟอร์มใหญ่เช่นเกมอะไรครับ
อันนี้ผมว่า มันจริงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นครับ (โดยเฉพาะผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่เคยเล่นเกมอื่น ๆ ในซีรีส์นี้มาก่อน เช่น Morrowind หรือ Oblivion)
แต่เอาจริง ๆ มันมีหลายคนที่รู้จักซีรีส์ TES เยอะนะครับ ไม่ใช่แฟรนไชส์เล็ก ๆ เลย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมก็เล่นตั้งแต่ Arena ครับ
ซีรีส์จนถึง Morrowind ยังเป็นแค่เกมเฉพาะกลุ่มอยู่เลยครับในสมัยนั้น มา Oblivion เริ่มดังขึ้นมาเพราะภาพดีมากสมัยนั้น แต่เอาจริงๆคนส่วนมากรู้จังจริงๆก็จาก Skyrim บางคนยังรอ Skyrim 6 อยู่เลยครับ
ครอบครองแฟรนไชส์จะใหญ่แค่ไหน แต่ก็ได้เล่นทุกแพลตฟอร์มเหมือนเดิมมันมีอะไรผิดปกติ หรือจะกลัวเรื่องอำนาจต่อลอง ไม่ต้องกลัวมีทุกบริษัทอยู่แล้วครับ แล้วผมว่าคอนเท้นต์เอ็กมีแน่นอนมันเป็นสัจจะธรรม
ที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่การเอ็กแต่เป็นการผูกขาดที่ว่า "ตัวเองทำได้คนอื่นทำไม่ได้ ต้องโวยวาย" มากกว่า
ผูกขาดสิครับงี้
ตอบได้แบบมาก ๆ แต่ถ้าเป็นแบบนี้จริง ข้อเสียจะเพิ่มสำหรับคนไทยไปอีก เกมขนาดกลางเอ็กซ์คลูซีฟ XBox คนไทยอดเล่นเพราะ Microsoft ไม่นำเครื่องเล่นเกม XBox เข้ามาขายในไทยอย่างเป็นทางการสักที (อย่าไปนับนำเข้ากับ Xbox Game Pass)
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
เอ็กซ์ครูซีฟของ MS นี่น่าจะรวม Xbox และ Windows นะครับ
เครื่อง Xbox ไม่มาตอนนี้อ้างไม่ได้แล้วว่าจะอดเล่นเกมของ Xbox เพราะเขาทำตลาด PC Game Pass ในไทยแล้วครับ เกมของค่ายลงให้เล่นหมดแน่นอน
Strategy ของ Xbox (หรือ Microsoft Gaming) ตอนนี้คือ คอนโซล, พีซี, คลาวด์ และอุปกรณ์พกพา ครับ ทั้งหมดมีตัวดัน growth กลางคือ Game Pass (ควบคู่กับการขายแบบดั้งเดิม ทั้ง Microsoft Store และ Steam)
แปลว่า ถ้าเกมไหนมาจาก 1st party สิ่งที่คาดหวังได้หลัก ๆ คือ จะลงทั้งคอนโซล, พีซี และคลาวด์ รวมถึงไม่ได้บังคับว่าจะลงแค่ใน Game Pass อย่างเดียว (พูดง่าย ๆ คือ ใครอยากซื้อ ก็ซื้อได้ ส่วนถ้าไม่สะดวกที่จะซื้อ ก็มี Game Pass รองรับอยู่)
อีกอย่าง PC Game Pass มาไทยแล้วนะครับ ส่วนคอนโซล ยังไม่แน่นอน แต่เห็นหลายคนบอกว่าในไทยจะเน้นที่พีซีและคลาวด์เป็นหลัก (ส่วนตัวคิดว่า ถ้ามาก็คงมาครบแหละ แล้วเขาน่าจะมองคอนโซลน่าจะเป็นผลพลอยได้เฉย ๆ จากการบุกตลาดไทย)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ส่วนตัวผม ถ้าคอนโซลยังไม่มาถือว่า XBox ยังไม่มานะครับ ภาพจำของคนทั่วไป XBox คือ คอนโซลเล่นเกมคู่แข่ง PS
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
แต่เกมมันก็มีขายในไทยครับ (บนพีซี) นั่นก็แปลว่า คนไทยก็ยังได้เล่น ซึ่งมัน contradicted กับคำพูดที่คุณพูดนะครับที่ว่า
จากตรงนี้ ผมสามารถสรุปได้ว่า คนไทยไม่ได้อดเล่นเกม 1st party จาก XGS หรือ Bethesda นะครับ ยังมีให้เล่นเหมือนเดิม (ต่างแค่ไม่ได้เล่นบนคอนโซล ซึ่งถ้าคุณมองแบบนั้นก็แล้วแต่นะครับ แต่ส่วนตัวผมและหลายคนก็ไม่ได้มองแบบที่คุณมองนะครับ)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ภาพจำย้อนยุคไปไกลเลยครับ
MS เค้ามองเครื่องเกมเป็นแค่ 1 ช่องในการเล่นเกม ภาพใหญ่ที่ MS วาดไว้คือ สามารถเล่นเกมของเค้าได้ในทุกๆที่ที่มีจอ
ตรรกะเข้าข้างตัวเอง
เห็นด้วยนะ MS เอาอะไรมาตัดสินแบ่งกลุ่มเกมว่าอันไหนเป็นเฉพาะกลุ่ม อันไหนเป็นเกมฟอร์มใหญ่ มันไม่ได้มีค่ากลางอะไรมาวัดได้ขนาดนั้น
ห๊ะ เข้าข้างตัวเองแล้วมันแปลกเหรอครับ มันเป็นการจัดเซกเม้นโปรดักส์ในบริษัทเขานี่ครับ
Markdown น่าจะผิดหรือเปล่าครับตรงนี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Pokemon ภาคหลักผูกขาดครับปู่ ช่วยเอามาลงแพลตฟอร์มอื่นบ้างนะครับ 555
นึกสภาพ Pokemon ภาคล่าสุดไปลง PS5 โดยไม่ปรับกราฟิคอะไรเลย
ก็จะได้ 60fps นิ่งๆไงครับ
ถ้าไม่ปรับอะไรน่าจะได้เต็มที่แค่ 30fps ครับ ไม่งั้นต้องแก้ frame time ใหม่
ผมเข้ามาเสริมให้ เพราะเกมในซีรีส์โปเกมอนบนคอนโซลทำ frame time มาแค่ 30fps
เกม exclusive ควรเป็นเกมที่คนอยากเล่น จนต้องยอมซื้อเครื่องเล่น เพื่อที่จะเล่นเกมส์เหล่านั้น
เกม exclusive ควรใช้ประโยชน์จากเอกลักษณ์ของตัวแพลตฟอร์ม
แต่ MS ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยนอกจากเรื่องราคา ก็เลยไม่รู้จะ exclusive ทำไม
คนเมืองนอกที่เค้าซื้อเกมในเรทราคาบ้านเค้า เรื่องเกมถูกไม่ใช่ข้อได้เปรียบนะ
เค้าถึงพยามสร้างจุดขายโดยหารถมเกมพาส ถมเข้าไปเยอะๆ
ผมหมายถึง gamepass นี่ล่ะครับ
ไม่ว่าจะอ่านยังไงก็บิดเบือนให้เข้ากับกลยุทธ์ของตัวเองแต่แรก bethesda พวกเกมAAA ยังไงก็คือเกมใหญ่ตั้งแต่สมัยPCละ คนทั่วไปคงมองว่ามีแค่เกมใหญ่-เล็ก แต่microsoft เพิ่มขนาดกลางขึ้นมาเพราะมันมีความขัดแย้งที่จะให้สัญญาว่าเกมใหญ่อย่างCODจะเป็นมัลติแพลตฟอร์ม แต่เกมใหญ่ของBethesda จะเป็น EX
ก็น่าจะเป็นตามกลยุทธของบริษัทนี่ครับ อย่างที่ว่ามา bethesda เป็นของ AAA ของ PC แต่ถ้าไปในโซน console (PS) นี่แทบเป็นเกมที่คนรู้จักน้อย ๆ หรือคนเล่นน้อย และถ้าทำผลกำไรได้น้อย ก็ไม่ควรจะเพิ่มคนเพื่อไปทำลงใน platform อื่น (PS นั่นแหละครับ) ทางเค้าทำลงแค่ PC/Xbox ลงทุนน้อยกว่า ได้ผลกำไรมากกว่า ก็ถูกแล้วนะครับ
ด้วยความที่ Microsoft เป็นเจ้าของ จึงสามารถที่จะกำหนดอะไรแบบนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องสนตลาด นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าอำนาจเหนือตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองในประเด็นผูกขาด
ประเด็นก็คือนี่ไม่ใช่ครั้งแรกในวงการเกมที่มีการซื้อบริษัทเกมและกำหนดเรื่องความเป็น Exclusive ด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะดีลเล็กดีลใหญ่ก็ทำกันปกติโดยไม่มีอะไรขวาง (และ Sony ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน เพราะงั้นอย่าไปฟัง Sony นักเลย) ก็ต้องรอดูว่าเคสนี้จะตัดสินยังไง และหลังจากนี้ทิศทางเรื่องการซื้อบริษัทเกมจะเป็นยังไง
ปล. ถ้าพูดถึงประเด็นผูกขาดในวงการเกม ผมคิดว่า Epic น่าจับตามากกว่าอีก ไม่ใช่เรื่องซื้อสิทธิ Exclusive เกมนะ แต่เป็นเรื่องที่ Epic มีทั้งตลาดขายเกม (EGS) และโปรแกรมพัฒนาเกม (Unreal Engine) อีกทั้งยังไล่ซื้อโปรแกรมช่วยพัฒนาเกมต่างๆอีกมากมายเลย ถ้าวันดีคืนดี Epic เปลี่ยนเงื่อนไขกีดกันเจ้าอื่นนี่วงการเกมอาจจะซวยกันหมดเลยทีเดียว
ผมมองว่าเค้ามองที่ กลุ่มเป้าหมาย และความแน่นอนก่อน
ถ้าเกมไหนไม่ชัวร์ว่าจะขายได้ อาจจะเพราะเป็น IP ใหม่ ให้ลง exclusive ไปก่อน เพราะถ้าเจ็บตัวจะได้ไม่บาดเจ็บหนัก (cross-platform ใช้งบสูงกว่าการออก platform เดียวเยอะมาก โดยเฉพาะฝั่ง QA)
ส่วนเกมที่กลุ่มเป้าหมายเล็ก ถ้าไปจำกัดด้วยแพลตฟอร์มแล้ว มันจะเล็กลงไปอีก ดังนั้นทำ cross-platform ไปจะดึงลูกค้าเข้ามาได้มากขึ้น
ส่วนเกมประเภทตีหัวมาเล่นเกมตูทีเถอะ ก็ต้องเน้นทำให้เข้าถึงให้ได้มากที่สุด จะไปทำให้เล่นบนเครื่องตรวจครรภ์ หรือบนวิทยุรถยนต์ก็ทำไป หาคนเข้ามาให้ได้เยอะที่สุด ถ้าลากอวนแล้วจับปลาวาฬได้สักพันตัวก็รวยเละเทะแล้ว อะไรแบบนี้ครับ
ผมกลับคิดว่า กลุ่ม2 ก็ควรกระจายลงทุก platform
เพื่อให้ IP ใหม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างนะ