ถ้าต้นฉบับมา 32bit/192KHz ก็เหนื่อยหน่อยครับ (ฮา)

ไฟล์ 16bit/44.1KHz เนี่ย จะมี 44100 sample ต่อวินาที และ 1 sample มีขนาด 16bit ดังนั้นก็จะใช้แบนด์วิธ 705600 bit/s ต่อ 1 channel ปรกติเราฟังเพลงกันที่ 2 channel ก็คูณสองเข้าไป กลายเป็น 1,411,200b/s หรือคิดเป็นประมาณ 1.3Mb/s ครับ

เทียบแบบ Uncompressed นะครับ (ปกติไฟล์เพลงส่วนใหญ่จะมี Codec ช่วย Compressed ลงมาในระดับนึง ซึ่งบาง Codec สามารถลดขนาดได้โดยที่ยังสามารถคงความเป็น Lossless ได้อยู่)
- Hi-res Lossless แบบละเอียดสุด (32bit/384KHz) ก็ประมาณ 24Mbps ครับ
- Hi-res Lossless แบบที่เป็นที่นิยมกัน น่าจะไม่เกิน 24bit/192KHz (และเป็นความละเอียดที่ Oppo กล่าวถึงในบทความนี้) ก็ประมาณ 9Mbps ครับ
- Lossless ที่ไม่ Hi-Res (ขั้นต่ำสุดของการเป็นไฟล์ต้นฉบับ) ก็คือ 16bit/44.1KHz หรือประมาณ 1411kbps

ซึ่งตามเสปคของ Bluetooth 5.x ที่ bandwidth สูงสุด 2Mbps มันเพียงพอต่อ 16bit/44.1KHz Lossless แล้วก็จริง แต่น่าเสียดายที่ในการใช้งานจริง มันไม่ได้สูงสุดตลอดเวลา เพราะงั้นพวก Bluetooth Audio Codec ปัจจุบันที่เป็นที่นิยมมันก็เลยสูงสุดอยู่ที่ราวๆ 1Mbps (LDAC กับ aptx Lossless) และเวลาฟังจริงบางทีก็น้อยกว่านั้นด้วย (ผมฟัง LDAC 990kbps ในห้องบางทียังกระตุกเลย)

ส่วนตามเสปคของ Oppo ที่ว่า 12Mbps ก็ได้ถึง 24bit/192KHz Lossless เลย แต่ก็ต้องดูเรื่องความเสถียร การใช้พลังงาน ประสิทธิภาพของ Codec (ว่ามัน Lossless จริงไหม) และความเร็วในการ Encode/Decode (เรื่องดีเลย์) ด้วย

ปล. ผมไม่รู้ว่าไฟล์ Lossless ที่นิยมกันขายกันในตลาดตอนนี้ละเอียดแค่ไหนนะ แต่ผมฟังเพลง J-Pop ไฟล์ Hi-res ส่วนใหญ่ที่ขายกันก็อยู่ที่ 24bit/96KHz ครับ
ปล2. ที่โฆษณา Hi-res กันในปัจจุบันคือ Hi-res แต่ไม่ Lossless ครับ ก็ประมาณว่ามีการ upsample หรือเติมรายละเอียดด้วยอัลกอริทึมอะไรซักอย่างที่ปลายทางให้มันเป็น Hi-res แต่ไม่เหมือนต้นฉบับซะทีเดียว (ก็เลยไม่ Lossless) อย่าง Sony เองใน Walkman ก็มีฟีเจอร์ DSEE HX ที่ช่วยเติมรายละเอียดที่ว่านี่อยู่ ก็คงจะทำคล้ายๆกันใน LDAC ละมั้งครับ?
ปล3. มันมี Hi-res อีกประเภทที่เป็น DSD ด้วย แต่ผมไม่ค่อยรู้เท่าไหร่