การเปิดตัว GPT-4 ของ OpenAI ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างไปจากที่เคย เพราะ OpenAI ให้ข้อมูลเฉพาะผลลัพธ์ของโมเดลว่าดีขึ้นเยอะแค่ไหน แต่แทบไม่เปิดเผยรายละเอียดของตัวโมเดล ไม่ว่าจะเป็นขนาดพารามิเตอร์ ข้อมูลที่ใช้เทรน ฮาร์ดแวร์ที่ใช้เทรน ฯลฯ
ในเอกสารเปเปอร์ทางเทคนิคของ GPT-4 ก็เขียนไว้ชัดเจนว่า OpenAI "ตั้งใจ" ไม่เปิดเผยรายละเอียดเหล่านี้ ด้วยเหตุผลเรื่องการแข่งขันทางธุรกิจ (competitive landscape) และความปลอดภัย (safety implication)
I think we can call it shut on 'Open' AI: the 98 page paper introducing GPT-4 proudly declares that they're disclosing *nothing* about the contents of their training set. pic.twitter.com/dyI4Vf0uL3
— Ben Schmidt / @benmschmidt@vis.social (@benmschmidt) March 14, 2023
แนวทางใหม่ของ OpenAI คราวนี้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ในชุมชนนักวิจัยด้าน AI อย่างมาก เพราะ OpenAI เคยประกาศภารกิจเมื่อครั้งที่ก่อตั้งองค์กร ว่าต้องการเป็นหน่วยงานไม่หวังผลกำไร วิจัยเรื่อง AI เพื่อเป็นสมบัติของมนุษยชาติ เปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้แทน นักวิจัยของ OpenAI จะเปิดเผยผลงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
OpenAI is a non-profit artificial intelligence research company. Our goal is to advance digital intelligence in the way that is most likely to benefit humanity as a whole, unconstrained by a need to generate financial return. Since our research is free from financial obligations, we can better focus on a positive human impact.
We believe AI should be an extension of individual human wills and, in the spirit of liberty, as broadly and evenly distributed as possible. The outcome of this venture is uncertain and the work is difficult, but we believe the goal and the structure are right. We hope this is what matters most to the best in the field.
Ilya Sutskever หัวหน้านักวิทยาศาสตร์และหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI (เป็นผู้ร่วมเขียนประกาศข้างต้น) ให้สัมภาษณ์กับ The Verge ในประเด็นนี้ ยอมรับว่าแนวทางเดิมของ OpenAI เป็นเรื่องผิดพลาด (We were wrong. Flat out, we were wrong.) การชูเรื่องโมเดลเปิดเป็นไอเดียที่ผิด และเขาเชื่อว่าในอีกไม่กี่ปี หน่วยงานอื่นๆ ที่เปิดซอร์ส AI จะค้นพบว่าไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสม
Sutskever บอกว่าการสร้าง GPT-4 เป็นเรื่องไม่ง่าย ต้องใช้พลังของ OpenAI ทุกภาคส่วนมาช่วยกันทำ ในขณะเดียวกันก็มีบริษัทอื่นๆ อีกมากอยากทำให้ได้แบบเดียวกัน การแข่งขันระหว่างผู้เล่นรายต่างๆ จึงสูงมาก ทางบริษัท OpenAI จึงเลือกไม่เปิดข้อมูลเหล่านี้ออกมา
ส่วนเหตุผลเรื่องความปลอดภัย อาจไม่ได้เป็นเหตุผลหลักเหมือนเรื่องธุรกิจ แต่ OpenAI เลือกไม่เปิดเผยข้อมูลเพื่อป้องกันไม่ให้คนแกะสูตรของ GPT-4 แล้วสร้างความเสียหายได้
Sutskever ยังตอบคำถามในมุมเรื่องกฎหมาย ที่ข้อมูลใช้เทรนโมเดล AI อาจละเมิดลิขสิทธิ์ (เหมือนกรณีของ Stability AI โดน Getty Images ฟ้องร้อง) ว่าในมุมของเขา ข้อมูลที่ใช้เทรนคือเทคโนโลยี และเลือกไม่เปิดเผยเรื่องข้อมูลที่ใช้เทรนด้วยเหตุผลเดียวกับข้างต้น เขาปฏิเสธไม่แสดงความเห็นว่าข้อมูลที่ใช้เทรน GPT-4 ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยหรือไม่
ที่มา - The Verge
Comments
เงินมันหอมหวานอ่ะน้าาาา
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
เมื่ออุดมการณ์ต้องเป๋ไปด้วยอำนาจเงิน เงินซื้อได้ทุกอย่างถ้ามันมากพอ
เดี๋ยวจะตามมาด้วย lawsuit แหล่ะ แล้วสักพักคงเปิดเอง
แล้วแบบนี้ชื่อบริษัทว่า OpenAI จะมีความหมายอะไร
ฮ่าๆ นั่นสิเนอะ คำว่า Open สมัยนี้กลายเป็น common term ไปแล้วว่าใช้กับโครงการ Opensource ซึ่งถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ตอนแรก OpenAI ก็จัดตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เป็น non-profit เพียงแต่ต้องเปลี่ยนในภายหลังด้วยเม็ดเงินจากผู้สนับสนุน มันเลยทำให้คนส่วนใหญ่มองในแง่ไม่ดีกับองค์กร
..: เรื่อยไป
เดี๋ยวคงเปลี่ยนใหม่ครับเป็น OpenedAI
😏 สวัสดี closeAI
-- ^_^ --
+1
เพราะเงิน และ MS ลงทุนไปเยอะ MS คงบอกอะไรซักอย่าง
Open ที่ไม่ Open
น่าจะอยู่ในสัญญาร่วมทุนกับ MS แหละ ถ้าเปิดเผยไปมันอาจเป็นได้ว่าจะมี Conflict of Interest
อยากเห็นแหล่งข้อมูล เอามาฝึก
เป็นอะไรที่เข้าใจได้ เข้าใจตรงกัน
บิล เกต และ MS อกหัก และรอเวลาที่จะเป็นผู้นำนวัตกรรมบ้างมานับสิบๆ ปี
WE ARE THE 99%
ไม่ดีเลย
อย่างน้อยก็ย้ายออกไปทำตัวใหม่กันแทนมั้ยถ้าแบบนั้น
OpenAI กลายเป็น CloseAI แล้ว
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
คืนเงิน MS เขาไปให้หมด แล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิมดีกว่า
จะพ่อพระไปหรือเปล่า
แหม ปรกติมันต้องมีโมเดลแบบ community edition
กับ enterprises edtion สิ
เปิดเอไอ แต่ไม่เปิด
แล้ว Founder ก่อนหน้านี้หลายคนเขาจะลาออกไปเพื่ออะไร..
แล้วยิ่งรับเงิน MS ในยุคที่พยายามจะกินรวบตลาดอีก ตลาดเกมส์ก็ทำให้เห็นแล้ว
Sony ก็กินรวบอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ตอนแรกก็เปิดเพื่อให้คนอื่นช่วยๆ ทำ พออยู่ตัวขายได้ก็ปิดละดีกว่า งี้ปะน้าาาา
The Dream hacker..
อันนี้น่ากลัวนะ
ต่อไปถ้าคนเชื่อ AI มากขึ้น
ถ้าเจ้าของ AI ต้องการชี้นำสังคม ก็เทรนให้ AI ตอบตามที่ตัวเองต้องการ
คนในสังคมก็จะเชื่อตามไปง่ายๆเลย
ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ อุดมการณ์กินไม่ได้
กรณีที่ไม่ตอบ ก็คือคำตอบในทีอยู่แล้ว ว่าข้อมูลที่ใช้เทรนอาจจะละเมิดลิขสิทธิ์ไม่มากก็น้อย
ไมโครซอฟท์ก็แบบนี้
ถ้าผมเป็นคนก่อตั้ง ผมอาจจะทำแบบเดียวกัน
ยอมโดนด่าแลกกับได้เงินจำนวนมหาศาลที่ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายถึงชาติหน้า
"ในมุมของเขา ข้อมูลที่ใช้เทรนคือเทคโนโลยี" แอบน่ากลัว
ไม่เคยเปิดซอร์สแบบจริงจังอยู่แล้วนี่นา ปกติก็เปิดพอหอมปากหอมคอ เปลี่ยนชื่อมั้ยท่าน
ผมเชื่อว่าเดี๋ยวมันจะมีหนังออกมาเหมือน Facebook กับ Tetris
อีกไม่นานคงโดนซื้อแบบจริงจัง
เปลี่ยนชื่อก็จบ แต่ผมเห็นด้วยนะว่าแบบปิดเพื่อทำธุรกิจน่าจะดีกว่า เงินคือเหตุผลในการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ เสมอ
That is the way things are.