Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลใน Power On ว่าหลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว Apple Vision Pro ในงาน WWDC 2023 ที่ผ่านมา เริ่มมีการให้พนักงานภายในบริษัททดสอบตัวแว่น ซึ่งปัญหาที่พบคือในเรื่องของน้ำหนักที่มากเกินไป ทาง Gurman คาดว่า Apple ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะแถมมาในกล่องด้วยไหม ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้อาจจะต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อสายคาดด้านบนของเครื่อง Apple Vision Pro เอง
วัสดุที่นำมาใช้ทำ Apple Vision Pro ประกอบด้วย อะลูมิเนียมและกระจก จึงทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนัก ทาง Apple จึงแก้ปัญหาโดยการเพิ่มสายคาดด้านบนเพื่อช่วยลดแรงกดทับของตัวเครื่อง
ในส่วนของราคาเครื่อง Apple Vision Pro ที่ประกาศในงาน WWDC มีราคาเริ่มต้นที่ $3499 จึงคาดว่าต้องมีการจ่ายเพิ่มสำหรับอุปกรณ์เสริมเช่น เลนส์เสริม Zeiss สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตา และอาจจะรวมไปถึงสายคาดด้านบนเพื่อช่วยพยุงน้ำหนักด้วย
Gurman ยังรายงานว่าตอนนี้ Apple กำลังจะขยายกลุ่มทดสอบ Apple Vision Pro เพิ่มมากขึ้นในเดือนนี้ รวมไปถึงซอฟต์แวร์ของระบบ และ Apple Vision Pro รุ่นที่สองที่อาจจะราคาถูกลง จึงต้องติดตามกันไปว่า การเปิดขาย Vision Pro รุ่นแรกในปีหน้าจะมีแถมสายคาดด้านบนมาให้หรือต้องจ่ายเงินเพิ่มตามข่าวลือ
ที่มา: 9to5mac
Comments
จัดไปสายคาด $499 Apple pro strap
บวกที่ล็อคสาย Pro lock 99$
เพิ่มด้วย airtag กันสายหายอีก 199$
เหมาะสมครับสำหรับผู้นำแห่ง น วั ต ก ร ร ม
ทายราคาเส้นคาดหัวไว้ที่ 29,000-30,000
แทนที่จะเอามาคิดว่า ถ้าเชาขายแพง ทำไมยังขายได้
ใจเย็นนิดนึงครับ พอดียังไม่ได้วางขายเลยครับ ขายปีหน้า ไว้เดี๋ยววางขายก่อนค่อยอวยดีกว่าครับ @_@
BoboVR ยิ้้มแล้ว
คิดว่าผลไม้ไม่ใจร้ายขนาดนั้น คงแถมมาแหละ แต่ถ้าจะเอาสีอื่นหรือฟีเจอร์ที่ดีกว่า เช่น นวดหัวไปด้วยระหว่างสวมใส่ ก็จ่ายเงินซื้อเอา ทำนองเดียวกับฟองน้ำบุหูฟังใน AirPods Max
ตอน iPhone Classic ออกมา ราคาแพงกว่าขาวบ้าน แถมฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็ยังเป็นรองแต่ขายดี ต่อมาแอปเปิลเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ทำโทรศัพท์ราคาแตะ $1,000 สุดท้ายกลายเป็นมาตรฐานยี่ห้ออื่นทำตาม เรื่องแว่นตานี่มันพูดยากว่าราคาขนาดนี้ จะปังหรือพัง
คือ iPhone Classic ออกมาผมว่ามันเป็นนวัตกรรมเลยนะครับ Capacitive Touch นี่คือล้ำมาก ๆ ณ ตอนนั้น ราคาก็ดีด้วย ผมจำได้ว่าซื้อมา 18000 เอง Smart Phone สมัยนั้นก็มี HTC Touch ก็เริ่มที่ 20000 แล้ว เข้าเวบแบบ Full desktop ยังไม่ได้เลย ฝั่งโนเกียมี Nokia N93i ราคา3หมื่นกว่าบาท นอกนั้นก็เป็นฟีเจอร์โฟนเน้นวัสดุสวยงามอยู่เลย LG Prada, Samsung U600, Sony Ericsson K810i, Motorola RAZR2 V8 ถ้าความล้ำตอนนั้นผมว่าไม่มีใครสู้ iPhone ได้นะ อย่างเดียวที่สู้ไม่ได้คือๆไม่มี 3G แต่เจ้าอื่นมี 3G แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้เหมือนกัน
iPhone รุ่นแรกตอนออกตอนแรกแพงกว่าคนอื่นเยอะครับ มีปรับลด 200 usd รอบนึง แล้วก็ปลดล็อคเอา เลยได้เครื่องเปล่าในราคาเครื่องผูกสัญญา ถ้าเทียบตอนเปิดตัวจริงๆ น่าจะ 599 usd แบบติดสัญญา ในขณะที่ Moto Razr ติดสัญญาแจกฟรี
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ของมันขายได้แหละ เดี่ยวก็มีคนรอเหมือนเดิม ไม่กระทบหรอก